PANTIP.COM : I9595000 CPN กะ CPALL [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 7

แม้จะเป็นค้าๆ ขายๆ กับมวลชนเหมือนกัน business model และ sector ต่างกันคือ CPN คืออสังหาให้เช่้าทำห้่าง กำไรจากการเช่าพื้นที่เป็นหลัก ขยายได้ช้า แต่ขยายแต่ละครั้งเป็นก้อนยักษ์ ความยั่งยืนอยู่ที่การเลือกทำเลเป้าหมาย และการทำสัญญาเช่ากับคนที่มาขาย ส่วน CPALL เป็นค้าปลีกโชว์ห่วยติดแอร์ที่ขยายแขนขาได้เร็ว เป็นกิจการ Franchise สำเร็จรูป กำรจากการค้าปลีก ยิ่งทำให้สาขาขยาย ก็ยิ่งโต
ความจริงเปรียบเทียบตรงๆ กันยาก
แต่ถ้าในแง่ภาพกว้าง ธรรมชาติของราคาหุ้น ถ้าไม่มองการปั่นต่างๆ เป็นดังนี้

ราคาหุ้นจะเป็นราคา บวกบวก
- "ผลประกอบการ" องค์ประกอบหลัก
- ตัวเร่งสำคัญ "กิจกรรมการลงทุน" และการขยายกิจการ ที่จะสร้างความหวังให้กับนักลงทุน เพราะการลงทุน คือการหวังผลกำไรในอนาคต
- การจัดการกับข่าวต่างๆ ที่สร้างผลกระทบในทางลบต่อกิจการ และประชาสัมพันธ์ข่าวในทางบวก
- ความโปร่งใส ที่ทำให้คนมั่นใจจะไปลงทุน
- มีปันผลบ้างพอควรแบ่งปันผลกำไรให้นักลงทุนได้เอามีเงินใช้จ่ายบ้าง ระหว่างที่ทุนของตัวเองกำลังไปสร้างความเติบโตให้กิจการที่บมจ.ระดมทุนไป

ราคาหุ้นจะเป็นราคาลบลบ
- ภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศ
- วิกฤติการณ์ชาติ ที่กระทบโดยตรงกับผลกำไรของกิจการ
- panic ตามกัน เรื่องเล็ก คนรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่
ในกิจการอื่นๆ
- การปล่อยปละละเลยข่าวต่างๆ ที่สร้างผลกระทบในทางลบต่อกิจการ รวมถึงไม่ค่อยทำ PR ต่อสาธารณชนและนักลงทุน ในการประชาสัมพันธ์ข่าวในทางบวก
- น่าสงสัยในธรรมาภิบาล
- ไม่ค่อยมีปันผล ทั้งที่กิจการกำไรดี
หรือปันผลถ้ามากเกินไปให้น่าสงสัย ว่าออกปันผลมากๆ เพื่อไซฟ่อนเงิน
และยังน่าคิด ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปขยายกิจการ (ทั้งสองกรณี เกิดขึ้นจริงในบมจ.ของไทย ไม่ขอเอ่ยนาม ไปค้นดูกันเอง)

CPN เจอเหตุกาณ์ลบลบ ที่ใครๆก็รู้กันทั้งประเทศ เมื่อหักลบกับบวกบวก การเติบโตจึงถูกลดทอนลงไปชั่วคราว
การเติบโตของราคาหุ้น จึงถูกถ่วง เพราะความลังเล ล่าสุดขนาดผลกำไรช้าลง และยังขาดความชัดเจนเรื่องเงินประกัน แต่ก็ยังไม่ถึงกับหยุด

แต่สังเกตว่าเจ้าของ-ผู้บริหาร ก็สร้างกิจกรรมการลงทุน ที่สร้างอนาคตได้ และรับมือกับข่าวร้ายต่างๆ
CPN ทำได้ขนาดนี้ถือว่้ายอดเยี่ยมแล้ว พิสูจน์ฝีมือได้ดี ถ้าจัดการไม่เป็น ปล่อยให้ข่้าวต่างๆ หรือปล่อยให้ตลาดเป็นคนพาไป อาจติดลบหรือหุ้นเป็นขาลงไปนานแล้ว

จากคุณ : Ii'8N

เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 09:22:57