ความคิดเห็นที่ 1 Bookmark.... จากคุณ : คนพิการ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 02:37:54

ความคิดเห็นที่ 2 ค่ะ เราว่าประเด็นแรก ธนาคารทำถูกแล้วค่ะ หากฝากไม่ครบในกำหนดเวลาที่ตกลงไว้ตอนแรก ยังไงดอกเบี้ยที่เคยได้รับมากว่า 4 ปี ธนาคารต้องยึดไปอยู่แล้วค่ะ ** แต่เราว่าน่าจะได้เป็นเรทอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์แทนนะคะ(อันนี้ไม่แน่ใจ) ** ส่วนประเด็นหลัง เราไม่มีความเห็นค่ะ จากคุณ : โอเลี้ยงใส่นม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 02:52:40

ความคิดเห็นที่ 3 สาขานี้เขาคงฝึกพนักงานเป็นหุ่นยนต์น่ะ คงไปโกรธหุ่นยนต์ไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : นายไทยไฝ่รู้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 03:05:58

ความคิดเห็นที่ 4 สัญญาแบบใหม่เหรอครับ ผมเคยฝากแต่แบบถอนไม่ครบเวลาจะคิดดอกเป็นออมทรัพย์ ฝาก550,000ถอนก่อนเวลาเหลือ450,000กินเงินต้นด้วยเหรอครับ จากคุณ : โชคดีร่ำรวย เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 05:11:10

ความคิดเห็นที่ 5 High return มันก็มี High risk แบบนี้ละท่านเอ๋ย เพราะการที่ธนาคารเสนอให้ดอกเบี้ยมากกว่าที่อื่น ก็แลกมาซึ่งการเสียสิทธิ์บางอย่าง เช่น ห้ามถอน หรือถอนได้แต่ต้องคืนดอกที่ได้ไป ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา คือ คุณแม่คุณจขกท.ตกลงเล่นเกมส์นี้กับธนาคารเอง ก็ต้องทำตามกฏ นั่นคือ ห้ามถอนจนกว่่าจะเดือนพย. ซึ่งธนาคารจะคืนเงินให้หมดพร้อมดอกเบี้ยสูงลิ่ว แต่ก็อย่างว่า ถ้าพูดกันในเชิงศีลธรรม จริยธรรม น้ำจิตน้ำใจ ก็เห็นด้วยที่ธนาคารดูจะโหดร้ายไปหน่อย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 05:36:02

ความคิดเห็นที่ 6 ศึกษาเงื่อนไขดี ๆ ก่อนที่จะฝากหรือว่าทำอะไรสักอย่าง ถ้าพลาดแล้วเราเป็นรองธนาคารอยู่แล้วไม่มีทางชนะเขาหรอก ผมคิดว่าคุณกับน้องสามารถหาเงินจากที่อื่นมาใช้จ่ายก่อนน่าจะได้นะ จากคุณ : นักมายากลเงา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 06:28:08

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่า จขกท. ลองไปถามข้อเท็จจริงจาก ผจก. สาขาก่อนดีกว่ามั้ยครับ อยากให้ใจเย็น ๆ แล้วตั้งสติก่อนจะดีกว่า ผมทราบดีว่า คุณแม่ของใคร ๆ ก็รัก และจะต้องเจ็บแทนเมื่อมีความรู้สึกว่า คุณแม่เราถุกรังแก การที่เรายังฟังฟังข้อเท็จจริงไม่ครบทุกด้าน แล้วด่วนสรุป โดยเฉพาะการด่วนตั้งกระทู้ในทำนองประนามมันค่อนข้างจะแรงไป หากข้อเท็จจริงมันมีมากกว่าที่เรารับฟังมา แล้วเราจะมาเสียใจที่ด่วนสรุปไป ผมคงไม่ล้วงลึกลงไปในเรื่องดังกล่าวหรอกครับ เพราะไม่อยากจะใช้สิ่งที่ผมคิดเองเองมาสรุปตัดสินใจ ไว้ให้ท่าน จขกท. ไปรวบรวมข้อเท็จจริงมาให้ครบก่อน แล้วตัวท่านเองคงจะตัดสินใจได้ดีกว่านี้ ขอให้สติปัญญาจงบังเกิดแด่ จขกท. ในการไตร่ตรอง และตัดสินใจด้วยครับ (เพราะดูท่าทางกำลังมีอารมณ์มาก อันนี้ผมคิดเอาเองนะ) ปล. ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะผมเพิ่งเข้าไปร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ธนาคารทหารไทย เมื่อวานนี้เอง กลัวเดี๋ยวเจอข่าวนี้ แล้วผมจะติดดอยน่ะครับ จากคุณ : เด็กลาดพร้าว (zombie99) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 06:36:33

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่อ่าน เงินต้นมันไม่ได้ลดลงอย่างที่ จขกท เข้าใจ เพียงแต่โปรโมชั่นนี้มันจ่ายดอกเรื่อยๆ เมื่อถอนก่อนกำหนด ก็ต้องคืนดอกเขาไป จากคุณ : ridermao เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 07:06:37

ความคิดเห็นที่ 9 วันก่อนไปฝากเงิน 300 บาท ที่ TMB ตอนยื่นเงินให้พนักงาน ทั่นตาเขียวใส่ ไอ้เราไม่สนใจ เชอะ! ฉันรวย แต่ฉันอยากฝากเงินแบงค์ทั่นแค่ 300 บาท มี'ไรมะ?? แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 07:10:16 จากคุณ : บางแสน คลาสสิค เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 07:09:42

ความคิดเห็นที่ 10 เอาดอกออกมาใช้แล้วไช่ไหมละ เหลือแต่ต้น ซึ่งถ้าถอน ดอกจะถูกเรียกคืน มันก็ถูกแล้ว เงินต้นไม่ลด แต่ดอกที่ได้มาต้องคืน แค่นั้น แต่เรื่องกู้ น่าจะยอมกันมั่ง คนเป็นลูกค้ากัน โหดจริง แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 07:24:38 จากคุณ : เอ็มฐ์พล เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 07:23:35

ความคิดเห็นที่ 11 this is business kub. จากคุณ : thrill เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 07:24:36

ความคิดเห็นที่ 12 มองในแง่ธุรกิจ แบงค์ไม่ผิด สักนิด มองในแง่ศีลธรรม ก็คงตะหงิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่เท่าไร มองในแง่การบริหารเงิน ผมเชื่อว่าคุณกับน้องเจียดเงินในการทำธุรกิจมาช่วยตรงนี้่ได้ จากคุณ : Shinemon คุง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 07:49:56

ความคิดเห็นที่ 13 1 คุณ บอกว่าแม่คุณไม่รู้เรื่องดดกเบี้ย แล้วคุณไม่บอกแม่แทนละ ว่าเงินฝากประจำแบบนี้มีข้อตกลงอย่างไร แม่คุณจะได้เข้าใจ(ธนาคารเข้าให้ถอนเงินได้ไม่ได้ใจร้าย แต่ต้องหักดอกตามตกลงก่อนจะฝากประจำ) 2 การขอยื่นกู้ ธนาคาร ก็ต้องดูลูกค้าด้วยพิจรณาด้านการเงินโดยดูจากเงินในบัญชี(บัญชีไม่เดิน) งานการที่ทำ(ไม่มีงานประจำ) และหลักทรัพย์(ร้านขายของที่ดินแล้วแต่)(คนที่บอกให้แม่คุณไปกู้เงินนั้นแหละน่าโดน...ที่สุด) 3 เรื่องแบบนี้คุณก็รู้ว่าแม่ไม่เป็นงาน ทำมัยคุณและน้องสาวคุณที่ติดต่อกับแบงค์ใหญ่ๆของไทยมาแล้ว ไม่ไปกับแม่คุณด้วยตอนไปติดต่อ TMB ถ้าคุณไปกับแม่ด้วยผมว่าการตัดสินใจแก้ปัญหาน่าจะจบดีกว่านี้นะ ป.ล. มีสติใช้สติ มีปัญญาใช้ปัญญา มีความสามารถก็ใช้ความสามารถ แต่ถ้ามีทั้งสามอย่างที่ว่ามาแล้วยังใช้กำลังอยู่ก็..........แล้วแต่ จากคุณ : แล้วแต่ดวง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:02:39

ความคิดเห็นที่ 14 บางครั้งพนักงาน เขาพูดเอง เออเอง ไม่เกี่ยวกับแบงค์ ครับ พิจารณาเป็น รายบุคคลไปครับ จากคุณ : alpha_sss เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:06:02

ความคิดเห็นที่ 15 ใจเย็นๆ ลองไปคุยก่อนดีกว่าครับ ว่าแต่ตอนคุณแม่ จขกท. ฝากเงินผมว่าไม่น่าที่จะฝากแบบ Up and Up ตามในรูปที่ จขกท. โพสไว้นะครับ เดี๋ยวจะทำให้ท่านอื่นเข้าใจผิด แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 08:07:07 จากคุณ : Metalloids เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:06:55

ความคิดเห็นที่ 16 ที่โดนหักน่าจะเป็นดอกเบี้ยที่ได้รับมานะครับ ฝากมาอีก3เดือนจะครบ5ปี = 57 เดือน 57*1700 = 96900 บาท เกือบ1แสนตามที่ จขกท. พูดไว้เป๊ะเลย แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 08:10:26 จากคุณ : Metalloids เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:10:13

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าฟังไม่ได้ สรรพ จับไปกระเดียดนะครับ ถามจขกทตรงๆเลย   ฝาก  550000   ถอนก่อนครบกำหนด  แบงค์บอกจะถูกหักดอกเบี้ยที่จะได้รับ  100000  แล้วทำไมคุณบอกได้เงิน  450000  บาท แบงค์ให้ตัวเลขนี้มาเลยเหรอว่าได้  450000  บาท ความเป็นจริง   แบงค์  ก็บอกแล้ว  ว่า  หักดอกเบี้ยที่จะได้   แต่ยอดที่คุณว่ามันหักเงินต้นแล้วนะคุณ เอาข้อมูลให้ชัดๆก่อนที่จะโวยวายนะครับ คุณอาจจะบอกว่าไม่โวยวาย  แต่หัวข้อกระทู้มันฟ้องนะครับ หากคุณเข้าใจผิด  แบงค์แค่หักดอกเบี้ย  ไม่ได้หักเงินต้น  คุณจะตั้งกระทู้  ขอโทษแบงค์มั้ย   ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายครับ แก้ใขพิมพ์ตกหล่นครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 08:33:37 จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:31:14

ความคิดเห็นที่ 18 กู้แบบเงินฝากค้ำไม่ได้จริงเหรอ ลองเปลี่ยนคนคุยใหม่ครับ ถ้าคุยไม่รู้เรื่องขอคุยกับหัวหน้าสาขาเลยครับ พนง.อาจอยากรักษายอดเงินฝากของตัวเองเลยไม่ให้ถอน จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:48:24

ความคิดเห็นที่ 19 1. เงื่อนไขของการฝากบัญชีนี้ คุณก็รับรู้ตั้งแต่ต้น...เรื่องสภาพคล่องตัดทิ้งได้เลย แลกกับผลตอบแทนที่สูงไงครับ 2. คุณต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ฝากถอนได้ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้คุณเห็นแล้วล่ะว่ามันสำคัญกว่าดอกเบี้ยเป็นไหนๆ 3. คุณยังมีทางออกคือพี่ๆน้องๆช่วยกันได้ไงครับ ผมมองว่า ธนาคารไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข แล้วทำไมจะต้องประณามกันซะขนาดนี้ เหมือนกับคุณมั่นใจว่าถ้าเป็นธนาคารอื่นเค้าจะยอมทำตามที่คุณต้องการ จะรอฟังความคืบหน้านะครับ จากคุณ : จิงนะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:50:15

ความคิดเห็นที่ 20 จับประเด็นสั้นๆ คุณแม่ไปธนาคาร และได้รับคำตอบว่า "ไม่ได้ ไม่ให้ถอนตามสัญญา ถ้าจะถอนคุณป้าต้องโดนหักดอกทั้งหมดที่คุณป้าได้ไป เป็นเงิน  ประมาณ 100,000 บาท " อ่านแล้วไม่มีคำไหนบอกว่าหักเงินต้น...แล้วตัวเลข  450000  เอามาจากไหนแล้วมาโวยวาย แม่ในความเป็นจริงจากรูป   ดอกเข้าทุก  3  เดือน  ควรถูกหัก  แค่  2  หรือ  1  งวดสุดท้าย คุณก็บอกว่าคุณแม่ไม่เข้าใจเรืองดอกเบี้ย   คุณฟังข้างเดียวแล้วสรุป   ลองไปที่ธนาคารคุณจะได้ความกระจ่างและ  เป็นธรรมตามสัญญาเงินฝาก   ได้ความจริงแล้วอย่าลืมมา post  ขอโทษแบงค์  และด่าตัวเอง ณ.ที่นี้ด้วยครับ จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:50:19

ความคิดเห็นที่ 21 นึกว่า ต่อว่า หุ้น TMB  ที่วิ่งกระฉูด ตกรถ ขายหมู กันเป็นแถว จากคุณ : สลัก ลูกสูบ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 09:15:30

ความคิดเห็นที่ 22 โทษ TMB ไม่ได้ ฝากประจำเป็นเหมือนกันทุกธนาคาร จากคุณ : บ้านหกสิบสาม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 09:15:54

ความคิดเห็นที่ 23 ฟังความข้างเดียว ผมเลยไม่อยากว่าบแงค์ซะทีเดียว แต่คุณเป็นลูกค้าถ้าได้รับบริการไม่ดีแนะนำเมื่อครบกำหนดย้ายแบงค์โลด จากคุณ : Bobby_GN เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 09:23:22

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเคยกู้เงินระดับหลักล้าน น่าจะพอเข้าใจระบบ ระเบียบต่างๆดีกว่านี้นะครับ จากคุณ : cb4449401 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 10:04:02

ความคิดเห็นที่ 25 ผมชอบตรงนี้ครับ คิดว่าน่าจะเปนเหตุผลหลักที่บอกลา TMB ได้เลย "และหนำซ้ำคุณยังมาทำร้ายจิตใจเจ้าของเงินที่ส่งเสียพวกผมมาอีก" จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 10:13:10

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ชอบแบ๊งค์นี้เหมือนกัน เคยไปฝากเงิน 30000 แล้ว ทวนนับใหม่ตรงหน้า counter พนักงานทำหน้าหงิกใส่บอก ทำไมไม่นับให้เรียบร้อยก่อน -*- จริงๆ นับแล้วนะ แค่เพื่อความมั่นใจนับต่อหน้า Teller มันผิดนักหรือไง จากคุณ : คุณแม่น้องเซ็น เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 10:20:49

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่น่าจะเป็นฝากแบบในรูปที่เจ้าของลงนะคะ TMB up&up เพราะเราฝากแบบนี้แล้วไปถอนก่อนเพราะอยากเอาเงินมาทำอย่างอื่น ก็ไม่เสียดอกที่ได้มาค่ะ แต่ถ้าแบบอื่นเราก็ไม่ทราบค่ะ จากคุณ : เดาสะดอก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 10:38:54

ความคิดเห็นที่ 28 กรณี จขกท เราว่าแบ็งค์ไม่ผิดค่ะ แต่ส่วนตัวเราก็ไม่ชอบแบ็งค์นี้เหมือนกัน บริการช้าอย่างแรง ไม่สนใจคนยืนคอยเป็นหางว่าว ผู้จัดการสาขาก็เดินชิวล์ๆ ไม่กระตือรือร้นเข้ามาช่วยจัดการบ้างเลย ช่างแตกต่างกับ แบ็งค์กรุงเทพ กับ SCB ราวหน้ามือหลังมือ เราเล่นกองทุนของ TMBAM อยู่ แต่กว่าจะไปฝากเงินเข้าบัญชีเพื่อเอาไปซื้อกองทุนที เหนื่อยใจ เลยว่าจะขายให้หมดออกมาพึ่ง SCBAM แทนแล้ว จากคุณ : hiroko เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 10:53:11

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ ทุกความเห็นครับ 1.คุณพ่อสบายดีครับ รักษาตัวด้วยเงินลูกๆนะครับ ค่ารักษาไม่เท่าไร กับการผ่าตัด กระดูกขาที่หักครับ 2.ผมขอชี้แจงว่า ตอนที่แม่ผมไปฝาก แม่ไม่ได้บอกพวกผมไม่ได้ไปด้วย ไม่รู้เรื่อง รวมทั้งไม่รู้เรื่องเงินเก็บ ของแม่เลยครับ ท่านคงเห็นว่าไม่อยากรบกวนลูกๆ และท่านก็ไม่ได้ใช้อะไร 3.พนักงานธนาคารเป็นคนชวนให้คุณแม่ฝากครับ 4.ผมก็พูดย้ำอีกครั้ง ผมไม่โกรธหรือตำหนิเลยที่แบงค์ต้อง เรียกคืนดอกเบี้ยที่จ่ายมาแล้วร่วมๆแสนเพราะ นั่นคือเกมส์ที่คุณแม่ตกลงไว้ แต่ที่อยากถามว่า ในเมื่อเงินก็ก็มีเป็นเงินสดค้ำประกัน ทำไม่เจ้าของเงินจะไม่มสามารถกู้เงินโดยใช้เงินฝากตรงนั้นประกัน ได้ บอกมาซิครับให้กู้ได้ 50%. หรือ 70% ของเงินค้ำ ดีกว่าจะมาบอกว่า ป้ากู้ไม่ได้นะ ป้าไม่เดินบัญชี ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดผมก็ขอโทษทาง TMB แต่ตรงนี้ผมเชื่อว่า คุณทำไม่ถูกแน่ๆและที่สำคัญ คนที่มาบอกว่ากู้ไม่ได้ไม่ใช่พนักงานคนเดียว มาจากกลุ่มคนครับ สำหรับคนทำธุรกิจ เงินห้าแสนมันคงไม่มากมายอะไร ถ้าเราขาดมือ เราแลกเช็คเรตหมื่นล่ะแปดบาทต่อวันได้ง่ายๆ แต่สำหรับคนแก่บางคนที่มีเงินเก็บมาทั้งชีวิต คุณควรใส่ใจจิตใจและความจำเป็นเขาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่กำไร และหาลูกค้าอย่างเดียว ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 11:02:13

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเป็นลูกค้าผมคงมีสิทธิ์สงสัยใบยริการนะครับ ผมก็โพสข้อความที่ตั้งกระทู้นี้ให้ทางธนาคารแล้วครับ หวังว่า คงไม่ได้เป็นการต่อว่าข้างเดียว และหวังว่า ทางธนาคารคงมีคำตอบดีๆภายใน  48 ชั่วโมงดังที่แจ้งไว้ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 11:08:00

ความคิดเห็นที่ 31 เอาสัญญาที่มีนำมาอ่านอีกรอบครับ เรื่องมันก็ร่วม 5 ปีแล้ว เอาไปอ่านที่แบงค์เลยครับ สรุปว่ามันยังงัย มันมีด้วยเหรอหักเงินฝากเนี่ย ผมก็ซื้อหุ้นกู้ของ TMB อยู่เมื่อต้นปีนี้เอง จากคุณ : JoeRazz เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 11:24:16

ความคิดเห็นที่ 32 หักดอกเบี้ยคืน ไม่ได้หักเงินต้นครับ ไปหา ผจก สาขา ก่อน ไปคุยด้วยตัวเองให้รู้เรื่องก่อนนะครับ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 11:52:43

ความคิดเห็นที่ 33 คุณกับน้องคุณก็ใหญ่โต มีเงินตั้งเยอะแยะ ยังไม่ยอมให้เงินแม่คุณก่อนเลย แล้วจะมาเรียกร้องมนุษยธรรมอะไรกับธนาคาร คิดถึงใจเขาใจเราเยอะๆ แล้วปัญหามันจะไม่เกิด จากคุณ : wutipon_c เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 12:15:46

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ต้องอ่านสัญญาไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น  และไม่ว่าแบงค์ด้วย ผิดเต็มๆที่  จขกท.  มาตั้งกระทู้  ผมถามกลับไป  2  กระทู้ไม่เห็นตอบเลย   ว่า  ฝาก  550000   ถอนก่อนครบสัญญา  แต่  แบงค์  ว่าจะถูกหักดอกเบี้ย ประเด็นที่จขกท.พูดก็คือ   ฝาก  550000  พอถอน  ได้เงินคืน  แค่  450000  อันนี้มันหักเงินต้นแล้วครับ   ฟังความข้างเดียว  ฟังไม่ได้ สรรพ  จับไปกระเดียด ท่านอื่นละเห็นว่าเป็นไปได้มั้ยที่แบงค์จะหักเงินต้น   คุยกันให้ตรงประเด้นที่  จขกท.ออกมาโวยวาย แต่ที่หลายท่านตอบล้าวเรื่องถูกหักดอกเบี้ยทั้งนั้น   ไม่ตรงประเด็นคำถาม จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 12:39:00

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ถ้า  หากพอฝากปุ๊บ  แบงค์ให้ดกอมาใช้ล่วงหน้าก่อนเลย  เป็นอีกประเด็น  หนึ่งที่  เมื่อไม่ครบสัญญา  แบงค์สามารถหักเงินดอกที่จ่ายไปแล้วจากเงินต้นคืนได้   ประเด็นนี้หากมี  คนฝากก็ได้เงินครบเท่าเดิม งานนี้  พอรู้ผลจะได้ทราบว่าประนามแบงค์  หรือประนาม.....ดี แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 12:51:11 จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 12:42:22

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไม่ได้ดูรายละเอียดของ Product นี้ของ TMB โดยละเอียดนะ แต่การที่เขาให้ดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ พูดง่าย ๆ ว่าสูงกว่าเจ้าอื่นในตลาด เวลาเขาทำ Macro Hedge เพื่อที่จะบริหาร NIM ของเขา มันก็ต้องมี penalty ในลักษณะนี้ล่ะครับ ไม่งั้นถ้าให้นึกจะถอนก็ถอนโดยไม่มีเบี้ยปรับ เขาก็บริหาร NIM ของเขาไม่ได้ตามเป้า แต่กรณี Product นี้ ส่วนตัวคิดว่าลูกค้าน่าจะต้องทราบเงื่อนไขก่อน ไม่อย่างนั้น ลูกค้าก็น่าจะนำไปฟ้องคดีผู้บริโภคได้ จากคุณ : French Vanilla เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 13:23:47

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่เคยฝากประจำ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันมีฝากประจำแบบ 5 ปีถึงจะได้ดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันแบบนี้ด้วย รอกันนานยังกับสลากออมสินเลยนิ จากคุณ : silver seraph เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 13:36:39

ความคิดเห็นที่ 38 ท่านเจ้าของกระทู้ไม่ต้องไปขอโทษธนาคารหรอกครับ เอาหุ่นยนต์มาบริหารก็เงิ้ย สมองเท่าเม็ดถั่ว บริหารงานแบบเป็ด ถึงไม่ไปไหนซักที มนุษยธรรมซักนิดยังไม่มี ถ้าเรื่องมันเกิด กับพวกมันเองมีเหรอเรื่องแค่นี้จะช่วยไม่ได้ มันอยู่ที่ดุลพินิจของความเป็นคนไม่ใช่กฏเกณฑ์ที่ ชอบอ้างกันเรื่อยเปื่อย แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 13:58:14 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 13:46:51

ความคิดเห็นที่ 39 ด้วยความเคารพ และ ขอบคุณทุกความเห็น เรียนคุณ  ชื่อนี้ไม่เหมาะสม ผมไม่ได้อ่านทุกกระทู้ครับ พอดี วันทำงาน และถ้าอ่านที่ผมบ่นๆ ผมไม่ว่า หรือตำหนิธนาคารเลย ที่ ฝากเงินต้น 550,000 บาท แล้วทางธนาคาร ให้ดอกเบี้ยมาใช้ ทุกๆเดือน เดือนล่ะ 1700 ซึ่งได้รับมาแล้ว และใช้ไปแล้วครับ เป็นเงิน เก้าหมื่นกว่า ดังนั้น ถ้าเราจะถอนเงินก่อนกำหนด เราก็ผิดกฏิกา และต้องเอาเงินที่เราควักมาใช้แล้ว คืนให้เขา ซึ่งเราจะถอนออกมาได้เพียง สี่แสนกว่า เพราะลบดอกเบี้ยที่เขาให้เรามาใช้แล้ว แต่ ที่ผมอยากถามคือ ในเมื่อลูกค้ามีเงินฝากประจำอยู่แบบนี้แล้ว ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นก็คงไม่ขอถอนออกมาก่อน แต่ในเมื่อมันจำเป็นจริงๆ ก็ขอกู้เพื่อมารักษาพยาบาล ซึ่งธนาคารอาจจะคิดดอกเบี้ยมา ว่าระยะเวลาสามเดือนที่ยังเหลือจะคิดเท่าไร ยังไง ไม่ใช่ตัดรอนแบบนี้ เพราะอีกสามเดือน เงินตรงนี้ ก็เอาออกมาใช้ได้อยู่แล้ว และมันก็เป็นหลักประกัน ที่สามารถ เอามาทดแทนกันได้ทันที เรียนคุณ wutipon_c ทางเราไม่ได้ปล่อยประละเลยครับ พี่ๆน้องได้ชำระเงินค่ารักษาไปเรียบร้อยแล้ว และคุณแม่ก็มีเงินอีกสองสามแสนและเพียงพอแก่ค่ารักษา และค่าใช้จ่ายตามอัตรภาพของท่าน แต่ที่น่าแปลกคือ ผมอยากจะถามว่า เวลาลูกหนี้ เบี้ยวหนี้ ไม่จ่าย ค้างจนเป้นปัญหา ขึ้นโรงขึ้นศาล ธนาคาร มีอำนาจลดดอก ลดยอดเงินเพื่อได้เงินสดเข้ามา จะได้จบๆเคสไป แต่นี่ลูกค้าชั้นดีแท้ๆ มีเงินมาฝากให้แบงค์ไปปล่อยกู้แท้ๆ เขาเดือดร้อน แทนที่จะช่วยหาทางออก กลับเอาสัญญามายัน และกระต่ายขาเดียวว่าถ้าจะเอา ก็หักดอกที่ฝากมาตั้งแต่สี่ปีก่อน บอกมาซิครับว่า คุณป้าต้องเสียดอกเรตบัตรเครดิตนะ หรือ คุณป้าทำบัตรเครดิตนะเอาเงินฝากค้ำประกัน แล้วให้วงเงินคุณป้าซักสองแสน ถ้าคุณป้าใช้เงินก็กดออกไป ดอก 20% ต่อปี ก็น่าจะเป็นทางออกและพอเป็นไปได้ ผมคิดว่า พยามช่วยเหลือลูกค้า กับ พยายามรักษาผลประโยชน์ขององค์กร มันสวนทางกันนะครับ พยามช่วยเหลือลูกค้า คุณน่าจะได้มิตรเพิ่มและ องค์กรก็น่าจะได้รับคำชมในเรื่องการใส่ใจลูกค้า พยายามรักษาผลประโยชน์ขององค์กร ผมว่าคุณก็แค่ไม่โดนตำหนิแต่องค์กรก็เสียโอกาสทางการค้าไปหลายราย ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:06:57

ความคิดเห็นที่ 40 เรียน คุณ ชื่อนี้ไม่เหมาะสม rep35 แบงค์ให้เงินมาใช้เลยครับ โอนเข้าบัญชีมาเลย ถอนออกได้ใช้ทุกเดือนครับ ถ้าคุณคิดว่า แบงค์ทำถูกแล้ว กฏคือกฏ สัญญาคือสัญญา หรือ คุณรุ้สึกเจ็บแค้นแทน TMB ผมต้องขอโทษและ จะประนาม ID:Dr.Jeab ได้ครับ ไม่มีปัญหา ไม่ว่ากัน ผมแค่อยากแชร์ความรู้สึก ที่ได้รับ และหวังว่าสักวันถ้าบังเอิญคุณไปเจอเตุการณ์แบบนี้ คุณจะได้ศึกษาไว้ว่า ครั้งหนึ่งเคยมีคนเจอเคสแบบนี้เช่นกัน แต่ถ้าให้ดี ขออย่าให้คุณเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้เลยนะครับ บุญรักษาครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:14:56

ความคิดเห็นที่ 41 สงสัยว่าฝากมาตั้งห้าปี  ถ้าถอนก่อนสามเดือน โดนหักดอกเบี้ยหมดเลยเหรอคะ สี่ปีกว่าๆนั้นธนาคารได้เอาเงินไปปล่อยกู้ฟรีเหรอคะ น่าจะให้ดอกเบี้ยเป็นเเบบออมทรัพย์ธรรมดาไปนะคะ คือเรียกเฉพาะส่วนต่างดอกเบี้ยพิเศษคืน ปล.  เราก็ไม่เคยฝากอะไรเเบบนี้ไปนะคะ เลยไม่รู้ว่ากฎเป็นเเบบไหน เเต่ถ้าฝากเกือบห้าปี ถอนก่อนเเล้วจะไม่ได้อะไรเเม้เเต่บาทเดียว เงินฝากเเบบนี้ก็น่ากลัวนะคะ จากคุณ : RoseTiara เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:20:45

ความคิดเห็นที่ 42 " เขาขอกู้ก็ได้เพื่อเอาเงินมาใช้ ก่อนที่แม่ผมจะไปเขาเป็นเจ้าหนี้ธนาคารคุณทางกฏหมาย เขาไปสองครั้งเพื่อจะขอเป็นลูกหนี้คุณ เพราะคุณไม่คืนเงินเขาแท้ๆ คุณยังไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์อยู่เลย "  >>>  คุณป้าเค้าไปขอกู้โดยเอาเงินในบัญชีเงินฝากประจำของตัวเองค้ำประกันนี่คะ   ทำไมให้กู้ไม่ได้หล่ะ ??  เค้าก็ยอมรับในกฏิกาของดอกเบี้ยเงินฝากแล้วนี่คะ เค้าก็ไม่ได้ไปเรียกร้องขอถอนเงินคืนก่อนซะหน่อย แค่ขอกู้ในจำนวนเงินที่เค้ามีฝากอยู่ ทางธนาคารก็คิดดอกเบี้ยไปตามอัตราเงินกู้สิ่คะ พอครบกำหนดถ้าุคุณป้าไม่มีเงินไปชำระกับทางธนาคาร ธนาคารก็แค่ยึดเงินในบัญชีที่คุณป้าเค้าเอาไปค้ำประกันไว้ก็แค่นั้น จากคุณ : Sissy (Pandora19) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:30:37

ความคิดเห็นที่ 43 แบ้งค์นี้ในตัวอำเภอ ชาวบ้านถอนปิดบัญชีมากันเกือบหมดล่ะ เมื่อตอนต้นปี ก้โพสฟ้องประชาสัมพันธ์ในเน็ตนี่ล่ะค่ะ  เงียบสนิทไร้การตอบรับใดๆ บัญชีมีการเคลื่อนไหว แต่โดนหักค่าบัญชีไปเป็นพันบาท ไม่รู้ค่าอะไรมั่ง จากคุณ : เจ้า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:31:18

ความคิดเห็นที่ 44 ก่อนฝากเงินควรศึกษาเงื่อนไขให้เข้าใจก่อน อย่าดูแต่ว่าได้ดอกเบี้ยเยอะเท่านั้น และควรกันเงินออกมาส่วนหนึ่งเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วย จากคุณ : Mr.Nimit เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:51:25

ความคิดเห็นที่ 45 เอาละครับเป็นอันเข้าใจ  เพราะกระทู้บอกว่า  ทำไมเงินฝาก 550000  แต่พอถอน  เหลือ  450000   ผมขอพูดเพิ่มเฉพาะประเด็นนี้นะครับ   ความหมายนั้นคือ  เงินต้นถูกหักเหลือ  450000  และคุณก็ออกอาการประนาม  แบงค์ แต่ที่คุณเพิ่มเติมเข้ามากลายเป็นว่า  รับดอกเบี้ยเขามาแล้ว  และเขาหักดอกเบี้ย  ที่จายมาแล้ว   สรุปว่าเงิน  ไม่ได้หายไปไหน  รับมาแล้ว  ประมาณ  100000   ถอนได้อีก  450000  ประเด็นนี้ถือว่าเงินต้นได้ครบ  จบประเด็น ไม่ได้เจ็บแค้นแทนธนาคาร  แต่ผมนิยมความถูกต้องครับ ขอพูดประเด็นใหม่  เรื่องดอกเบี้ย  หากสามเดือนกว่า  และแบงค์  คิดเงิน  รอบสามเดือน  ควรหักดอกเบี้ยคืนแค่  สองรอบ  คือ  6  เดือน  ตามรูปที่คุณแนบมา  คือสามารถถอนได้ตลอดเวลา จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 14:57:09

ความคิดเห็นที่ 46 กฏเกณฑ์เรื่องเงินฝากผมเองทราบก็ทราบดี แต่เค้ามาเรียกร้องความเป็น มนุษย์กับธนาคารอยู่ครับ ถ้าเจ้าหน้าที่ธนาคารเป็นวัว เป็นค.... ผมจะไม่สนใจเลย เพิ่งรู้ว่ากฏเกณฑ์อยู่เหนือชีวิตคน นับวันจิตใจคนเราเข้าใกล้ความเป็นสัตว์ มากขึ้นทุกที เรื่องบางเรื่องถ้าไม่เกิดกับตัวเองจะไม่รู้สึก แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 15:08:11 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 15:06:54 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:05:54

ความคิดเห็นที่ 47 ผมอ่านแล้ว เข้าใจว่า เงิน 550,000 บาท ยังอยู่ครบและถอนคืนได้ ไม่โดนหักแต่อย่างใด แต่ 100,000 บาท ที่โดนหัก น่าจะหมายถึง ดอกเบี้ยที่สะสมมาตั้งแต่เปิดบัญชี นั่นหมายถึง คุณแม่ของ จขกท. มีดอกเบี้ยสะสม 100,000 บาท ซึ่งถ้าคุณแม่ถอน ณ วันนี้ ดอกเบี้ยมูลค่า 100,000 บาท จะหายไปในพริบตา ตามระเบียบที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น อยู่ที่คุณแม่ของ จขกท. ตัดสินใจครับว่าวันนี้จะเอา 550,000 บาท แต่ถ้ารออีก 3 เดือน ได้มาอีก 100,000 เป็น 650,000 บาท จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:09:14

ความคิดเห็นที่ 48 จขกท ครับผมว่ามีอะไรสับสนแน่ๆ อย่างน้อยเงินต้นต้องไม่หาย เพียงแต่ถอนก่อนแล้วดอกจะไม่ได้รึเปล่า ถ้าใช่ธนาคารก็ไม่ผิด เพียงแต่เขาไม่อยากให้คุณแม่คุณเสียสิทธิ์ แต่ถ้าคุณแม่จะถอนจริงๆคงได้แน่นอน ส่วนเงินกู้อันนั้นผมไม่ทราบนะครับ แต่เข้าใจว่าการมีเงินฝากในธนาคารมันมาค้ำไม่ได้ เพราะเงินฝากคุณ ถ้าจะถอนธนาคารทำอะไรไม่ได้ หมายความว่าคุณถอนวันไหนก็ไม่มีอะไรไว้ค้ำแบงค์แล้ว เงินฝากคงเป็นสินทรัพย์ประกอบการพิจารณาปล่อยกู้มากกว่า จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:31:06

ความคิดเห็นที่ 49 เรียน REP45 จากข้อความต้นกระทู้ ย่อหน้าที่สาม คุณแม่ไปธนาคาร และได้รับคำตอบว่า "ไม่ได้ ไม่ให้ถอนตามสัญญา ถ้าจะถอนคุณป้าต้องโดนหักดอกทั้งหมดที่คุณป้าได้ไป เป็นเงิน  ประมาณ 100,000 บาท " แจ้งไว้ชัดเจนครับ ไม่ได้มามั่วแล้วมาเพิ่มเติมทีหลัง ข้อความก็ไม่มีการแก้ไข เราเข้าใจดีกรุณาอย่าคิดว่า ผมโวยวายแล้ว ตอนหลังมาเพิ่มเติม กรุณาอ่านดีๆครับ และจริงๆแล้วผมตั้งคำถามคือ ย่อหน้าที่เจ็ดที่ว่า "เขาขอกู้ก็ได้เพื่อเอาเงินมาใช้ ก่อนที่แม่ผมจะไปเขาเป็นเจ้าหนี้ธนาคารคุณทางกฏหมาย เขาไปสองครั้งเพื่อจะขอเป็นลูกหนี้คุณ เพราะคุณไม่คืนเงินเขาแท้ๆ คุณยังไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์อยู่เลย" ผมขอแสดงความรุ้สึก ตรงประเด็นนี้ครับ ผมเข้าใจความถูกต้องครับ และยอมรับกฎิกา แต่ความถูกต้องที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ ในเมื่อแม่ผมเอาเงินไปให้เขาใช้ แม่ผมเป็นลูกค้า ดังนั้นลูกค้าก็มิสิทธิ์ประนามการกระทำแบบนี้ ไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:36:47

ความคิดเห็นที่ 50 ฝากประจำ 5 ปี ดบ.ตอนนั้นคงได้ซัก 3-4% กว่าๆนะฮะ .. ว่ากันตามจริง แบ๊งค์ไม่ผิดนะฮะ ที่ต้องหักเงินไว้ เค้ามีเงื่อนไขแบบนี้จริงๆ .. เจ้านหน้าที่จะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะเค้าต้องชดเงิน .. ถ้าถอนก่อนก็คงได้ ดบ.ออมทรัพย์ ซึ่งไม่ถึง 1% เลย เวลา 4 ปีกว่าๆได้ไม่เท่าไหร่ .. ส่วนที่บอกว่าจนท. หรือแบ๊งค์ ว่าไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์ ผมว่าพี่แรงไปฮะ .. จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:45:06

ความคิดเห็นที่ 51 พนักงานทำไม่ถูกค่ะ แต่คุณเองก็ไปว่าเขาไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดค่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:54:32

ความคิดเห็นที่ 52 เราก็เข้าใจตามคุณ จอมโจรแมวเหมียวคะ     ขอให้คุณพ่อหายไวๆนะคะ  หมดเหตุการณ์นี้แล้วอยากจะแนะนำให้คุณ จขกท ซื้อประกัน ให้คุณพ่อ คุณแม่ ไว้บ้างนะคะ คืออย่างน้อยต้องเตรียมสวัสดิการบ้าง  จะได้ไม่ฉุกละหุก เราเข้าใจว่า ที่โพสคือ เป็นการเสียความรู้สึก แต่เราไม่เข้าใจอยู่นิดคือ  ถ้าคุณแม่ไม่ได้เดินบัญชีที่ TMB  แล้วคุณแม่เดินเข้าไปฝากประจำที่ TMB ได้อย่างไรคะ คนจะเดินเข้าแบงค์ก็มี สองกรณี คือ ไปฝากเงิน และไปกู้เงิน ..........ซึ่งทั้งสองอย่าง คือต้องเป็นลูกค้าอยู่แล้ว มันค่อนข้างแปลกค่ะ  การที่พนักงานจะชักชวน อย่างน้อยต้องรู้เงินเก็บลูกค้า ต้องรู้จัก ต้องมีการทำธุรกรรมด้วยกันจนถึงขั้นพูดชักชวนได้ เราจึงไม่เข้าใจว่า ทำไม แบงค์ถึงปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าไม่ได้เดินบัญชี จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:55:30

ความคิดเห็นที่ 53 มีเงินฝากประจำ กินดอกเค้ามาแล้วจะถอนก่อน ? โวยวาย มีเงินฝากประจำ จะขอกู้เค้าไม่ให้กู้ ? โวยวาย น่าตลกดีแท้ สิทธิ์การให้กู้หรือไม่ให้กู้ก็ขึ้นกับการพิจารณาของ bank ไม่ชอบใจก็มาประนามโวยวาย บ้านนี้เมืองนี้ คนเป็น Dr. ถ้ายังคิดได้แค่นี้ แล้วตาสีตาสา จะขนาดไหน เฮ้ออออออออออ พักนี้ใครไม่พอใจ bank เพราะไม่ทำตามใจก็มาด่าตาม web ง่ายดี จากคุณ : ผมปล่าวนา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 16:05:35

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่ได้จะมาว่า หรือเข้าข้างใคร เพราะจริง ๆ แล้ว จขกท.ก็ฟังความจากแม่ฝ่ายเดียว จริง ๆ แล้ว ตอนแม่คุณไปคุยกับพนักงานอาจจะมีรายละเอียดที่มากกว่าที่กลับมาเล่าให้ฟัง แต่พนักงานอาจจะยังไม่ได้พูดประเด็นนั้น หรือพูดแต่แม่คุณอาจจะไม่เข้าใจ ถ้าผมจำไม่ผิด TMB ออกโปรสำหรับเงินฝากมาหลายตัวที่เป็นลักษณะว่า เงินฝากประจำจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ถ้าถอนก่อนกำหนดเมื่อไหร่ จะถือว่าไม่ได้รับดอกเบี้ยหรืออาจจะรับในอัตราของออมทรัพย์ ดังนั้นแบงค์จึงต้องหักเงินต้นตามจำนวนที่จ่ายดอกเบี้ยไปแล้ว ทางที่ดีคุณลองไปค้นหาเงื่อนไข หรือไปคุยกับพนักงานแบงค์สอบถามเงื่อนไขให้ดีก่อน ส่วนเรื่องการปล่อยกู้โดยการที่จะให้ใช้บัญชีนั้นค้ำประกัน ผมเข้าใจว่า จริง ๆ แล้วพนักงานอาจจะมองว่า อีกไม่กี่เดือนบัญชีเงินฝากของแม่คุณก็จะครบแล้ว ก็ถอนออกไปใช้ได้ เพราะผมคิดว่าแม่คุณก็ไม่ได้บอกว่า จะกู้ไปทำอะไร มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องคุณธรรมอะไรเลย แบงค์ทำธุรกิจ เค้าไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก แต่ประเด็นคือ แม่คุณได้บอกกับพนักงานไหมว่าจะกู้ไปทำอะไร แล้วได้สอบถามกับพนักงานไหมว่า มีแนวทางอื่นไหมที่จะทำให้ได้เงินมาโดยยังไม่ต้องถอนก่อนกำหนด พนักงานอาจจะไม่ทราบเหตุผลและความต้องการ ก็อาจจะคิดเอาเองว่า ไม่อยากให้ลูกค้าเสียโอกาสที่จะต้องถูกหักเงินต้นเท่ากับจำนวนดอกเบี้ยที่แม่คุณได้รับไปแล้ว อันเนื่องมาจากการถอนเงินก่อนกำหนด แล้วการจะใช้เงินฝากคำประกันเงินกู้ น่าจะใช้บัญชีเดิมไม่ได้เพราะใกล้จะหมดอายุแล้ว ซึ่งก็ต้องเปิดบัญชีฝากประจำใหม่ แล้วก็ต้องทำหนังสือสัญญา สาขาต้องส่งเรื่องให้สำนักงานใหญ่พิจารณาอีก และพนักงานก็อาจจะมองว่า บัญชีนั้นใกล้ถึงวันครบกำหนดแล้ว อาจจะไม่อยากให้ลูกค้าต้องเสียดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากเยอะ ผมว่าเรื่องทั้งหมด มันอาจจะเป็นเรื่องของความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน แม่คุณอาจจะไม่ได้พูดเรื่องทั้งหมด และอาจจะไม่เข้าใจเงื่อนไขทั้งหมดของแบงค์ พนักงานเองก็อาจจะได้รับข้อมุลเพียงบางส่วน แล้วก็ใช้ข้อมูลนั้นตัดสินใจ แล้วก็อาจจะไม่ได้แนะนำแนวทางอื่นให้ลูกค้ามีทางเลือก ส่วนคุณเองก็ฟังจากแม่คุณฝ่ายเดียว แล้วก็จะมาประณามเลย มันก็ไม่ถูก จริง ๆ คุณควรจะเข้าไปคุยกับพนักงานสอบถามเหตุผล ทางเลือก ข้อเสนอแนะ แล้วนำมาชี้แจงให้แม่คุณเข้าใจตรงกัน มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า หรือว่า ความรู้สึกของคุณมันไปไกลกว่านั้นแล้ว อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วหล่ะ จากคุณ : สรกฤช เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 16:14:37

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท ใจเย็นๆ นิดดีกว่านะคะ เราว่า ข้อความประจานแบ็งค์นี่มันแรงเกินเหตุไปหน่อย และคิดว่า เป็นโกรธที่คุณแม่ต้องเสียใจมากกว่า ฟังจากเนื้อหา และ คอมเม้นท์ เราว่า แบ็งค์ ผิดข้อเดียวตรงที่เค้าพยายามรักษาเงินฝากของแบ็งค์ ซืงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับแบงค์โดยรวมเลย พนักงาน คน/กลุ่มนั้น ผิด ต่อลูกค้า จริงๆ อยากให้แยกแยะประเด็นให้ชัดๆ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่า ไม่พอใจ อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ว่ากราดกันไปหมด แล้วพวกลากมาลากไป ลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เราว่าถ้าคุณอธิบายให้คุณแม่ทราบ ท่านจะต้องเข้าใจค่ะ เราว่า ท่านดูเป็นคนใจเย็นออก แล้วยิ่งคุณโวยวายมากไป ท่านจะยิ่งร้อนใจตามไปด้วยนะคะ จากคุณ : kwanmanee เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 16:19:39

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าถอนคำพูดว่าประนามได้ ก็คงต้องขอ อภัย TMB ที่ใช้คำว่าประนาม ขอบคุณคุณ กันดัมจัง คุณหมอบอก กระดูกต่อติดดีแล้วครับ ขอบคุณคุณกันดัมจังแทนคุณพ่อด้วย ถ้ามีโอกาสจะบอกคุณพ่อว่า เพื่อนๆผมในอินเตอร์เน็ตฝากอวยพร คุณพ่อครับ ที่สังเกตและเข้าใจ แม่ผมไปฝากออมทรัพย์ที่แบงค์นี้บ่อยๆเพราะไม่ไกลจากบ้าน ตรงที่คุณ กันดัมจังแปลกใจ ผมก็แปลกใจตรงนี้แหละครับ คุณสนิทจนชวนมาฝากประจำได้ แต่ทำไมคุณไม่สนิทตอนจะถอนเงิน หรือหาทางช่วยเหลือลูกค้า และเงินฝากก็มีอยู่เรื่อยๆ แต่กลับบอกว่าไม่เดินบัญชี ตรงนี้ผมว่ามันยังไงๆอยู่ เรียนคุณ ผมปล่าวนา มีเงินฝากประจำ กินดอกเค้ามาแล้วจะถอนก่อน ? โวยวาย มีเงินฝากประจำ จะขอกู้เค้าไม่ให้กู้ ? โวยวาย >>> ผมเข้ามาแจ้ง(ประนาม) การกระทำที่ดูเหมือนไม่ดูแลลูกค้าครับ ไม่ได้โวยวายใส่ใคร บ้านนี้เมืองนี้ คนเป็น Dr. ถ้ายังคิดได้แค่นี้ แล้วตาสีตาสา จะขนาดไหน >>> ได้ Dr.ด้านวิศวะกรรมครับ ในส่วนของ มานุษยธรรมหรือ จริยธรรม ผมอาจจะ ด้อยกวาเด็กมัธยมก็ได้ครับ ต้องขออภัย ถ้าจะดูแล้ววุฒิภาสะผมต่ำ ก็เป็นที่ผมครับ ไม่เกี่ยวกับ บ้านนี้เมืองนี้ ต้องขอโทษ Dr.ท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่านด้วยครับ ขอโทษจริงๆ ขอบคุณ คุณสรกฤช อย่างสูงเลยครับ ผมว่าโพสคุณ ชัดเจนและเห็นภาพมากๆเลย แต่หลังจากทราบเรื่องผมโทรไปถามทางแบงค์เองครับ และก็พูดในเรื่องความจำเป็ย (แม้จะติดอารมณ์ สงสารแม่ไปนิด) ผมก็ยังได้รับคำตอบเดิม และ คำว่า ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอ หรือไม่ก็ยอมเสียเงินร่วมแสนครับ โดยประเด็นการขอกู้ เขาแจ้งว่า ได้พิจารนาแล้ว ไม่อนุมัติ ถึง คุณkwanmanee ขอบคุณครับ ใจเย็นอยู่แล้วครับ แค่อยากจะบอกว่า เรื่องเงินเล็กๆน้อยๆแบบนี้กับ ลูกค้าสูงอายุคนนึง น่าจะมีทางออกกับลูกค้าได้มากกว่านี้นะครับ ขอบคุณทุกๆคนที่มาช่วยแชร์ความรุ้สึกครับ ไงเดี๋ยวจะแวะมาดูเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 19:05:45 จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 16:42:32

ความคิดเห็นที่ 57 กิ๊ฟแรกของเดือนนี้ ให้คุณค่ะ ใครผิดถูกไม่สำคัญเท่า  จิตใจของคุณแม่ค่ะ จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 17:04:04

ความคิดเห็นที่ 58 ผมเคย แนะหลายๆกระทู้ให้ทำบัตรเครดิต วงเงินเยอะๆเข้าไว้ หลายคนมักกลัว โดนถูกแอบใช้ เวลาฉุกเฉิน มันช่วยเราได้มาก ผมก็เหมือน จขกท พ่อผมรถชนขาหักสองข้าง หกท่อน ดีทีมีบัตรหลายใบ รูดไป แปดแสนกว่าบาท ไม่ต้องรีบหาเงินสด จากคุณ : Pigfarm เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 17:34:00

ความคิดเห็นที่ 59 แล้วคุณคิดว่าเคสเดียวกันแต่เป็นธนาคารอื่นจะต่างกันเหรอครับ แบงค์อื่นบางสาขายิ่งกว่านี้อีก เพื่อนผมเคยโดนมาแต่ขี้เกียจเล่า เพราะคงยาว ผมว่าคุณกับน้องจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลของคุณพ่อคุณได้ แต่แม่อยากรบกวนแค่นั้นใช่มั้ยครับ งั้นก็ควรทำในสิ่งที่ลูกควรทำ ก็แค่นั้นครับ มาประนามหรือแค้นธนาคารไม่ได้ช่วยอะไรครับ จากคุณ : อรรญะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 17:42:09

ความคิดเห็นที่ 60 สรุปผมยังไม่เข้าใจว่าแบ๊งทำผิดตรงไหนครับ ตรงที่เค้าทำตามกฏระเบียบที่มีอยู่เหรอครับ ? จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 18:17:08

ความคิดเห็นที่ 61 เรื่องกฏระเบียบไม่ผิดครับ แต่ผิดที่ไม่มีความเป็นคน แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 21:37:00 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 18:48:05

ความคิดเห็นที่ 62 มาย้ำอีกครั้งให้ จขกท. ใรร่ม ๆ ครับ ขอให้มองอีกแง่มุมหนึ่ง อย่าลืมว่าธนาคารเค้าต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นนะครับ ดังนั้นการจะพิจารณาอะไร ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานนี้ด้วย ประการที่สอง การดำเนินธุรกิจธนาคารยังต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยครับ ดังนั้นการจะทำอะไร เค้าต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ การที่มีโครงการให้ดอกเบี้ยสูง แล้วหากยังสามารถถอนคืนก่อนกำหนด โดยให้ดอกเบี้ยเป็นอมมทรัพย์ ดดยไม่มีค่าปรับ อาจจะเข้าข่ายที่เป็นการให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษได้นะครับ (ผมเคยอยู่แบงก์ และโดนแบงชาติเล่นงานมาแล้วครับ) ประการที่สาม การขอสินเชื่อ จะต้องแยกออกจากการฝากเงิน แม้จะเอาเงินฝากค้ำก็ตาม เงือนไขการพิจารณาสินเชื่อ จะประกอบด้วย 1. วัตถุประสงค์ของการนำเงินไปใช้ ว่าเป็นไปตามนโยบายของธนาคาร 2. ความสามารถในการชำระคืน (เพราะหากผิดนัดชำระ แม้จะมีเงินฝากค้ำ ก็เข้าข่ายต้องถุกจัดชั้นหนี้ และต้องสำรองตามกฎหมายด้วยครับ)  3. หลักประกันการกู้ยิม (อันนี้ผ่าน) อย่าลืมว่าธนาคารเป็นของมหาชน มีผู้ถือหุ้น หากเป็นธนาคารของอาเจ๊ก เถ้าแก่ ที่เป็นเจ้าของคนเดียว คงทำได้ทุกเรื่อง ก็เพราะแบบนี้แหละครับ ที่ tmb ในอดีต ปล่อยสินเชื่อกันหละหลวมจนกลายเป็น npl ท่วมแบงก์ จนถึงต้องถูกทางการเข้าแทรกแซง อย่าไปอ้างใครเลยครับ ตัวผมเองก้เคยโดน ผมออกจากธนาคาร แม้ผมจะมีสินเชื่อสวัสดิการผ่อนบ้านอยู่ แม้จะยังชำระไม่ครบ แบงก์ยังบังคับให้ชำระให้ครบหมดเลย จากคุณ : เด็กลาดพร้าว (zombie99) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 19:24:49

ความคิดเห็นที่ 63 ตรงเงื่อนไขสัญญา บอกตรงๆ หลายที่เีขียนแล้วเข้าใจยาก ก็เลยไม่ได้ฝากประจำหรืออะไรเลย ฝากออมทรัพย์อย่างเดียว ยังไงก็ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละเรื่อง จากคุณ : jejeeppe เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 20:09:02

ความคิดเห็นที่ 64 คห. ที่ 61  ครับ ต้องทำยังไงถึงมีความเป็นคนครับ จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 21:39:55

ความคิดเห็นที่ 65 คิดเองซิครับ คนที่เค้าเป็นมนุย์เค้าควรทำอย่างไรกับมนุษย์ด้วยกันเอง แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 21:51:01 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 21:49:42 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 21:48:40

ความคิดเห็นที่ 66 ก่อนจะตั้งกระทู้กล่าวหา ให้ร้าย ทำให้เสื่อมเสีย แก่ผู้ถูกกล่าวหา ด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บิดเบือน หรือไม่ครบถ้วน ลงในที่สาธรณะใดๆ ผู้ที่กระทำการดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำข้างตัน 1 ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้ 2 ตามที่สังคมนั้นๆ ได้แสดงออก จขกท ไม่น่าตั้งกระทู้แบบนี้เลยจิงๆ  แทนที่จะเป็นเรื่องของคุณที่ต้องการประนาม TMB ซึงมีช่องทางโดยตรงผ่านเวบ TMBได้เลย ตอนนี้กลายเป็นว่า คุณโดนสังคมในนี้สงสัยในความถูกต้องของสิ่งที่คุณได้กระทำลงไป จขกท อย่ามานั่งตอบกระทู้ของหลายๆท่านอยู่เลย ควรจะขอโทษกับความเข้าใจที่ผิดพลาด และการกระทำที่ขาดสติ ของคุณเองดีกว่า ลองไปนั่งนึกดูนะว่ามันคุ้มกันไหมกับเวลที่เสียไป ถ้ามีกระทู้ที่คุณแสดงความไม่พอใจได้ คุณก็ต้งกระทู้แสดงความเสียใจได้อยู่ที่ว่าจะทำหรือเปล่า จากคุณ : แล้วแต่ดวง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 22:22:47

ความคิดเห็นที่ 67 xxx แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 22:40:54 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 22:38:55

ความคิดเห็นที่ 68 ถ้าเจ้าของกระทู้เอาข้อเท็จจริงมาเผยแพร่ หนูจะไปฟ้อง อะไรเจ้าของกระทู้ได้ การออกมาเผยแพร่อย่างนี้ซิดีซะอีก โชคดีที่ลูกหลานเค้าพอมีตังค์ คิดกลับกัน ถ้าเค้าไม่มีละ ชิวิตคนหนึ่งคนมันไม่มันมีค่าหรืออย่างไร หัดเข้าวัดเข้าวากันซะบ้างอ้ายพวกนี้ จะได้มี ความคิดที่เป็นคนขึ้นมาบ้าง =========================== เค้าขอถอนเงินไปรักษาสามีที่เจ็บนะครับ ไม่ได้ถอนเงินไปฮันนีมูนที่ต่างประเทศโปรดเข้าใจตามนี้ เข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่า =========================== ขอตัวไปประมูลพระก่อนนะ จ๊ะหนู แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 22:50:10 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 22:48:53 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 22:39:20

ความคิดเห็นที่ 69 ถึง ความคิดเห็นที่  66 จขกท ไม่น่าตั้งกระทู้แบบนี้เลยจิงๆ  แทนที่จะเป็นเรื่องของคุณที่ต้องการประนาม TMB ซึงมีช่องทางโดยตรงผ่านเวบ TMBได้เลย >>>>โพสไปแล้วครับ กลับไปดู  คห.ที่ 30 ครับ ดูให้ทั่วๆก่อนครับ ตอนนี้กลายเป็นว่า คุณโดนสังคมในนี้สงสัยในความถูกต้องของสิ่งที่คุณได้กระทำลงไป >>> ใครสงสัยผม โพสต่อเลยครับ ผมว่างพอที่จะมาตอบความคืบหน้าครับ แล้วคุณสงสัยอะไรผมครับ ผมอธิบายได้ครับ การที่ลูกค้าคนนึง ไม่พอใจการบริการของผู้ให้บริการ แล้วเอามาบอกคนอื่นในลักษณุต่อว่าต่อขาน ผมเห็นว่าในห้องมาบุญครอง เขาก็ร้องเรียนและแสดงความคิดเห้นทางบอร์ดในพันทิพเช่นกันครับ จขกท อย่ามานั่งตอบกระทู้ของหลายๆท่านอยู่เลย ควรจะขอโทษกับความเข้าใจที่ผิดพลาด และการกระทำที่ขาดสติ ของคุณเองดีกว่า ลองไปนั่งนึกดูนะว่ามันคุ้มกันไหมกับเวลที่เสียไป >>> ผมตั้งกระทู้เพื่อบอกในสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหานี้เป็นปัญหาระหว่างผมกับ TMB ผมไม่พอใจในบริการ ผมก็แจ้งทางขาขา และก็ไม่มีคำตอบที่ดี ผมส่งข้อความไปทางเว็บก็ไม่เห็นการตอบกลับก็เลยเอามาโพสเล่าให้เพื่อนๆในนี้ฟัง และเตือนว่าอาจเกิดปัญหาแบบผม อย่างที่ย้ำเป้นปัญหาของผม(ตัวแทนแม่)ในฐานะลูกค้า กับ TMB ในฐานะผุ้ให้บริการ ส่วนคุณแล้วแต่ดวง rep66 เป็นโจทย์หรือจำเลยในเรื่องนี้ครับ ที่มาสั่งให้ผมหยุดตอบคำถาม และ สั่งให้ผมขอโทษธนาคารที่ให้บริการไม่ประทับใจกับลูกค้า  และ สั่งให้ผมตรึกตรองการกระทำที่ขาดสติของผม ผมขอน้อมรับในคำแนะนำ แต่ถามตรงๆ คุณเกี่ยวอะไรด้วยหรือครับ แล้วผมต้องทำตามที่คุณสั่งด้วยหรือครับ ถ้าอยาก แสดงความเห็นกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นนะครับ ว่าประเด็นคืออะไร แล้วค่อยๆกลั่นกรองก่อนที่จะพิมพ์อะไรออกมานะครับ อย่าเพิ่งด่วนออกความเห้นในกระทู้ล่อแหลมแบบนี้ แต่ถ้าคุณมีส่วนได้ส่วนเสียกับธนาคารก็แจ้งมาครับ เพราะผมได้ส่งเบอร์โทร ชื่อจริง นามสกุลจริงไปทางเว็บไซด์แล้วครับ ด้วยความเคารพ ถ้ามีกระทู้ที่คุณแสดงความไม่พอใจได้ คุณก็ต้งกระทู้แสดงความเสียใจได้อยู่ที่ว่าจะทำหรือเปล่า >>>> ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมจะเสียใจเรื่องอะไร ถ้าจะแก้ ก็คงขอแก้เอาคำว่าประนามออกเท่านั้นเพราะนี่คือ เสียงจากลูกค้าคนนึงซึ่งมีสิทธิ์ในการแสดงความเห็นต่อบริการที่ตนเองใช้บริการอยุ่ อย่างไรแล้ว ก่อนที่คุณจะเอาเรื่องการกล่าวร้ายมาพูด รบกวนกลับไปหาอ่าน พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 แถวๆมาตรา 57  นะครับ แล้วค่อยมาทะเลาะกันเรื่อง การกล่าวร้าย บิดเบื่อนครับ ด้วยความเคารพ ปล.คงต้องขออนุญาต คุณแล้วแต่ดวง ถ้าผมจะขอเข้ามาตอบในกระทู้ที่ผมตั้งขึ้นนะครับ หวังว่าคุณคงไม่ว่ากระไร หรือ เป้นการรบกวนคุณนะครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 22:57:43

ความคิดเห็นที่ 70 @ต้องขอประนาม แบงค์ TMB ใครทำธุรกรรมอะไร อย่าไปร่วมเลย ธนาคารนี้แย่มาก >>เหรียญมีสองด้าน อยากบอกเพียงว่า เป็นลูกค้าของ TMB สาขาจอมเทียน การบริการดี พนักงานสุภาพ ไม่เคยมีปัญหาค่ะ ทั้งธุรกรรมการฝาก/ ถอน/ Cheque Clearing ฯลฯ การฝากเหรียญทุกชนิด เป็นหลักเกือบหมื่น บ่อยครั้งไม่เคยเสียบริการค่านับ เพราะเราสอบถามก่อน+ตกลงจัดเงินตามรูปแบบที่พนักงาน Teller ของธนาคารต้องทำ  ตามทุกชนิดของเงิน ปัจจุบัน ยิ่งดีขึ้น เนื่องจากใช้ระบบ i banking เมื่อเราไม่สบายใจเรื่องการ hack วงเงินเหมือนที่มีข่าว ทางจนท.ธนาคารฯ ก็ติดต่อผู้ดูแลระบบโทรมาอธิบาย จนเราเข้าใจต่อระบบนั้นมากขึ้น ค่ะ ปล.ขอให้คุณพ่อแข็งแรงเร็ววัน นะคะ   จากคุณ : มดพัทยา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 23:39:58

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครับ คุณมดพัทยา จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 23:44:24

ความคิดเห็นที่ 72 ผมขอต่อว่า Dr.Jeab ตรงๆ เลยนะครับ 1. ถ้าคุณแม่คุณไม่ค่อยรู้เรื่อง ทำไมไม่ไปธนาคารด้วยกัน (ก่อนโพสกระทู้) 2. ให้ข้อมูลไม่หมด ชึ้นำให้ผู้อื่นเขัาใจผิด (ต่อ TMB) 3. ถ้าใช้เงินฝากค้ำ คุณรู้หรือไม่ว่าจะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จนกว่าจะใช้เงินกู้หมดก่อน แม้ว่ายอดเงินฝากจะเยอะกว่าเงินกู้ก็ตาม ไม่งั้นต่อไปจะมีกระทู้ "มีเงินฝากที่ครบกำหนดแล้ว 550,000B แต่จะถอนออกมาเพื่อไถ่ถอน เงินกู้แค่ 200,000B ไม่ได้ TMB กะฟันดอกเบี้ยชัดๆ" ระเบียบบางอย่างมันดูเหมือนงี่เง่า แต่ต้องมี แล้วจริงๆ มันก็มีทางทำได้แต่มีขั้นตอน ซึ่งถ้าขนาดถอนฝากประจำก่อนกำหนดยังมีปัญหาความไม่เข้าใจ ตอนไถ่ถอนคงโกลาหล 4. จะ dr. ด้านไหน ขั้นตอนแรกของการทำวิจัยก็ต้องหาข้อมูลก่อนมิใช่หรือ จากคุณ : Pseudonoise เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 00:50:12

ความคิดเห็นที่ 73 ถ้าเค้าทำถูกต้องตามเงื่อนไขที่มักมี * ตัวเล็กๆ ที่มองไม่ค่อยเห็นไว้ ก็เสียงมากที่คุณอาจถูกฟ้องได้นะครับพี่น้อง จากคุณ : นายขนมปังแถว เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 09:52:38

ความคิดเห็นที่ 74 ผมขออภัยและขอโทษ ที่ทำให้ท่าน จขกท เข้าใจผิด ในข้อความใดอันจะนำไปสู่ความขัดแย้งนะครับ ผมแค่เตือนคุณให้ได้คิดบ้างนะครับ มิได้สั่งการใด ผมไม่มีอำนาจ เพราะงั้น สิ่งที่คุณตั้งใจจะทำต่อไปนั้น เป็นไปโดยความคิดและการตัดสินใจของคุณนะครับ ผมก็บอกได้เท่านั้นเอง ขอบคุณที่กรุณาเสียเวลามาอ่านนะครับ จากคุณ : แล้วแต่ดวง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 10:02:24

ความคิดเห็นที่ 75 #74 ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่ากัน แนะนำกันได้ครับผมก็แย้งกลับในมุมมองที่คิดต่างนะครับ ขอบคุณคุณแล้วแต่ดวง ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 10:43:30

ความคิดเห็นที่ 76 เท่าที่อ่านมาผมว่าธนาคารก็ไม่น่าจะโดนถึงขั้นประนามนะครับ พนักงานธนาคารก็เป็นลูกจ้างคนหนึ่ง จากหลายๆ คห.ด้านบนถ้าพนักงานไม่ทำตามสัญญาพนักงานเขาจะอธิบายต่อผู้บริหารอย่างไร หรือผู้บริหารจะอธิบายต่อผู้ถือหุ้นอย่างไรถ้าเกิดเคสแบบนี้เยอะๆ เราคิดในเคสว่าถ้าเป็นบริษัทเรา เราจะ.... แบบนี้ได้ครับ แต่นี่เป็นบริษัทมหาชน จะทำตามใจไม่ได้หรอกครับ ถ้าจะมาโพสกดบอกให้ผู้ถือหุ้นในนี้ไปเปลี่ยนนโยบายของบริษัทตอนประชุมผู้ถือหุ้นก็ไปอีกอย่าง จากคุณ : Metalloids เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:03:54

ความคิดเห็นที่ 77 เรียน rep#72 ผมขอต่อว่า Dr.Jeab ตรงๆ เลยนะครับ 1. ถ้าคุณแม่คุณไม่ค่อยรู้เรื่อง ทำไมไม่ไปธนาคารด้วยกัน (ก่อนโพสกระทู้) >>> กลับไปอ่านเรื่องราวตั้งแต่ต้นนิดนะครับ เรื่องที่เกิด เกิดจากความต้องการของคนแก่คนนึงซึ่งไม่ได้บอกลูกๆ และทำไปตามความต้องการของตัวเองในฐานะเจ้าของเงินฝาก แต่พอหลังจากเกิดเหตุการณ์ แกถึงมาเล่าให้ลูกๆฟัง จนผมรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่ ธนาคารสามารถแก้ไขได้ หาทางออกที่ดีกว่านี้ได้ มากกว่าการจะปัดความรับผิดชอบและยืนยันตามสัญญา แม้ผมคุยเสนอทางออกเป็นการยกตัวอย่างว่า เงินกู้ระยะสั้น ออกบัตรเครดิต หรือ อื่นๆจะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ยังยืนยันว่าให้รอ ธนาคารในฐานะผู้ให้บริการก็ควรจะเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า มากกว่าการรักษาผลประโยชน์ขององค์กรเพียงฝ่ายเดียว 2. ให้ข้อมูลไม่หมด ชึ้นำให้ผู้อื่นเขัาใจผิด (ต่อ TMB) >>>>ก็เช่นกัน กลับไปอ่านบนโพสแรกเลยตอนตั้งกระทู้ ผมไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ในนั้นมีข้อมูลครบแล้ว และโจทย์ก็บอกว่า ผมไม่ได้หงุดหงิดที่ไปทำสัญญาแบบนั้น แต่โจทย์คือ ทำไมในเมื่อมีเงินอยู่เป็นหลักประกัน เราไม่สามารถเอาเงินออกมาใช้ได้ ทางธนาคารไม่มีทางออกให้กับลูกค้าเลยหรือไร คิดจะยึดแต่หลักการและเหตุผลเท่านั้นหรือ ขอยกตัวอย่าง ถ้าคุณขับรถพร้อมครอบครัวและลูกๆบนถนนสองเลน คุณขับรถในเลนของคุณแล้วมีสิบล้อแซงออกมาจากฝั่งตรงข้ามมาจะชนประสานงากับรถของคุณและลูกๆ ถ้าคุณหลบซ้ายคุณจะชนร้านค้าริบถนน แต่ถ้าคุณขับต่อ คุณจะไม่ผิด กฏหมายจะให้คุณเป็นฝ่ายถูก แต่คุณและครอบครัวจะยังอยู่มาฟ้องหรือเปล่าไม่รู้ ผมถามคุณว่า คุณจะหลบจะยอมเสียหายที่ไปชนร้านข้างถนนมั้ย หรือ ยอมถูตามกฎหมายและยอมตาย และถ้าคุณหลบซ้ายคุณต้องมาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยที่จะไปเรียกร้องจากสิบล้อไม่ได้ เพราะการชนไม่เกิด เขาไม่ได้ชนกะคุณ คุณมีปัญหากับร้านค้าเท่านั้น ก็ลองคิดดูนี่ไงคุณถูก แต่คุณจะเลือกแบบไหน 3. ถ้าใช้เงินฝากค้ำ คุณรู้หรือไม่ว่าจะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จนกว่าจะใช้เงินกู้หมดก่อน แม้ว่ายอดเงินฝากจะเยอะกว่าเงินกู้ก็ตาม ไม่งั้นต่อไปจะมีกระทู้ "มีเงินฝากที่ครบกำหนดแล้ว 550,000B แต่จะถอนออกมาเพื่อไถ่ถอน เงินกู้แค่ 200,000B ไม่ได้ TMB กะฟันดอกเบี้ยชัดๆ" ระเบียบบางอย่างมันดูเหมือนงี่เง่า แต่ต้องมี แล้วจริงๆ มันก็มีทางทำได้แต่มีขั้นตอน ซึ่งถ้าขนาดถอนฝากประจำก่อนกำหนดยังมีปัญหาความไม่เข้าใจ ตอนไถ่ถอนคงโกลาหล >>>>ยอมรับในความคิดคุณจริงๆ คิดกระทู้และหลักการแบบนี้ออกมาได้ วนกลับมาก่อนประเด็นคือ ธนาคารไม่แคร์ความรุ้สึก และกระทำการอันไม่เอื้อต่อการร่วมค้าขาย เลยเกิดกระทู้นี้ขึ้นมา ระเบียบงี่เง่าที่ต้องมีไม่เป็นไร อย่าให้มีคนงี่เง่าก็พอครับ 4. จะ dr. ด้านไหน ขั้นตอนแรกของการทำวิจัยก็ต้องหาข้อมูลก่อนมิใช่หรือ >>> กลับไปอ่าน Rep#56 บรรทัดทีี่15 ครับก่อนถาม กรุณาหาข้อมูลมาก่อนครับ แต่ถ้าจะถามเพื่อจะ ดิสเครดิตล่ะก็ เลื่อนอ่านลงมาอีกซักบรรทัดสองบรรทัด ในเรื่อง มนุษยธรรมและจริยธรรม ที่ผมอาจไม่ได้จบเอกทางด้านนี้ ก็ต้องขออภัย จากคุณ : Pseudonoise ผมขอต่อว่า Dr.Jeab ตรงๆ เลยนะครับ >>>  ขอยกประโยคนี้อีกครั้ง คือ ขออธิบายว่า ในเคสนี้ ผมและคุณแม่ที่เป็นลูกค้าอยู่ในฐานะ โจทย์ ธนาคารให้บริการ อยู่ในฐานะ    จำเลย คดี : โจทย์ขอตำหนิ การให้บริการที่รู้สึกว่าไม่สมควรและไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า รูปการ :กำลังประเมินอยู่ว่าศาลจะยกฟ้องหรือต้องมีการประนีประนอมกันก่อน โดยมีเพื่อนๆในพันทิพเข้ามาร่วมแชร์และแสดงความคิดเห็น ดังนั้น คุณPseudonoise ต่อว่าผมด้วยฐานะอะไรในคดีนี้ครับ โจทย์ หรือจำเลย หรือคุณเป็นผู้พิพากษา ผมจะได้เข้าใจ ขอบคุณครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:17:16

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 76 ครับ ถูกต้องเลย ผมก็คิดๆอยู่ว่าโปรยหัวกระทู้แรงไปจริงๆ ก็คงต้องทบทวน และ ศึกษาการตั้งกระทู้ใหม่ ผมอาจจะติดมาจาก ห้องมาบุญครอง ที่เวลาร้องเรียนอะไร ก็จะรุนแรงใช่ย่อยเลยครับ ผมอาจจะเข้ามาในห้องนี้ ไม่บ่อยเท่า ห้องหว้ากอ และมาบุญครองห้องประจำ เลยอาจไม่เข้าใจธรรมเนียมของห้องนี้ ต้องขออภัยเพื่อนๆร่วมสังคมนี้ด้วยครับ ู^_____^ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:27:30

ความคิดเห็นที่ 79 ร่วมแชร์ แสดงความคิดเห็น? ที่เห็นคือใครที่ตอบไม่ถูกใจคุณๆก็เหน็บเค้า แทนที่จะเป็นคำตอบที่มีเหตุผล คืออาจจะตอบไม่ตรงหน่อยนะคะ แต่ที่อ่านๆดูแล้ว ธนาคารรักษาผลประโยชน์ตัวเอง ส่วนคุณก็รักษาผลประโยชน์ในเงินแสนของแม่คุณเช่นกัน ถ้าคุณจะยกว่าถ้าเป็นตาสีตาสาล่ะเค้าจะทำไง ซึ่งตอนแรกคุณไม่ได้พูดแบบนี้ ถ้าอยู่ๆยกเรื่องนี้ก็คือคุณต้องการแค่ความเห็นที่เห็นด้วยกับคุณเท่านั้น ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรานะ ต่อให้แม่ไม่อยากรบกวน เราก็จะเป็นคนที่จ่ายค่ารักษาพ่อเอง พ่อแม่คุณก็อายุมากแล้ว เงินจำนวนนั้นควรให้ท่านเก็บไว้ดีกว่า ในเมื่อคุณเป็นถึงด๊อกเตอร์แถมมีธุรกิจโรงพิมพ์ น้องชายเป็นเจ้าของสวน เงินก้อนนี้เราว่าคุณหาได้อยู่แล้ว คุณลองไปอ่านคห #62 อีกที ถ้ากรณีแบบนี้ถือว่าธนาคารไม่มีความเป็นคน ทุกธนาคารก็คงไม่มีความเป็นคนหมด จากคุณ : tingtongwatsamon เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:38:26

ความคิดเห็นที่ 80 ห้องนี้บางหัวข้อก็แรงนะครับ แต่ส่วนใหญ่ที่แรงนั้นเป็นเรื่องที่คนในนี้รู้ๆกันอยู่แล้ว เหมือนมาตั้งกระทู้บ่นซ้ำมากกว่า (เช่นเรื่องที่คนให้ข่าวปั่นหุ้น ข่าวจริง ข่าวหลอก) แต่ที่หลายๆคนออกมาเบรค จขกท. ก็คงเพราะไม่อยากให้ห้องนี้ไหลตามน้ำไป สาดซะธนาคารไม่เหลือชิ้นดี แล้วค่อยมานั่งพิจารณาเหตผลครับ (เท่าที่ดูตอนแรกๆ จขกท.มีอารมน์พอสมควรทีเดียว)เพราะมีหลายๆกระแสที่แรงในพันทิปแล้วเกิดคดีพลิกมาก็มีหลายเคสแล้ว ทำเอาอมยิ้มบางท่านเสียผู้เสียคน(อมยิ้ม) ไปเลยก็มี แต่ถ้าไม่ใช้หัวข้อกระทู้นี้ คนคงไม่เข้ามาตอบเยอะขนาดนี้นะครับเนี่ย จากคุณ : Metalloids เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:38:49

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องธนาคารไม่มีความเป็นคน อย่าไปว่าธนาคารเค้าแบบนั้นเลยครับ ถ้าลองไปบอกโรงพยาบาลว่า ผมมีเงินฝากประจำกับธนาคารอยู่ อีก3เดือนไถ่ถอนออกมาได้ อีก3เดือนผมค่อยจ่ายได้ไหมครับ ผมเชื่อว่าโรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ก็จะไม่มีความเป็นคนเช่นกันถ้าใช้หลักการคิดแบบเดียวกัน กรณีนี้ผมว่าถ้าจะต่อว่าก็มีกรณีเดียวคือ ถ้าคุณแม่ของ จขกท. ได้อธิบายและพูดคุยกับ พนักงานธนาคารแล้วพนักงานธนาคารไม่ได้เสนอทางเลือกที่ควรจะเสนอให้ ผมเห็นว่าเป็นกรณีเดียวที่สามารถต่อว่าได้ครับ จากคุณ : Metalloids เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:43:21

ความคิดเห็นที่ 82 โลกเรามันเป็นอะไรไปแล้ว มนุษย์สองคนตกลงกันว่าจะทำแบบนี้ พอมนุษย์คนนึงทำผิดข้อตกลง มนุษย์อีกฝ่ายกลับกลายเป็นผู้ไม่มีความเป็นมนุษย์ มนุษย์คนนึงไปยืมเงินแล้วเค้าไม่ให้ ฝ่ายไม่ให้ก็ไม่มีความเป็นมนุษย์ มนุษย์อื่นที่ไม่ใช่ตนเอง เค้าไม่มีครอบครัว ไม่มีภาระ ไม่มีเจ้านาย ไม่มีกฎระเบียบหรืออย่างไร มนุษย์หนอมนุษย์ --- แบงค์แห่งหนึ่ง ผมมีเงินฝากและลงทุนอยู่แปดหลัก เดินเข้าแบงค์ตั้งแต่ยามจนผู้จัดการยกมือไหว้ปะหลกๆ ซื้อของมาฝากทุกเทศกาล ผมอยากขอ OD ให้ลูกเพื่อให้เค้ารับผิดชอบแยกเป็นส่วนไปแค่ 5 ล้าน โดยเอาเงินฝากผมค้ำ 35-50% เค้าไม่ให้ครับ เพราะลูกผมอายุน้อย จบไม่ตรงธุรกิจที่ทำ เปิดกิจการได้ไม่นาน ผมควรมาตั้งกระทู้ด่าแบงค์นี้ดีมั้ย --- ดูแล้วครอบครัวคุณไม่ได้ยากจนขัดสน ถ้าพอมีเงินเหลือลองแบ่งมาฝากเงินแบบมีประกันอุบัติเหตุไว้บ้างครับ จากคุณ : ขามุง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:49:51

ความคิดเห็นที่ 83 น้อมรับในทุกความเห็นครับ และขอแย้งในกรณีที่เห็นต่างกันเป้นประเด็นๆไป โดยพยายามดึงเข้าเหตุผล ระหว่าง สัญญา กับ เจตนา ของธนาคารและพนักงานธนาคารครับ เลยพยายาม ไม่ดึงเพื่อมาโจมตี ผู้ร่วมแสดงความเห็น หรือ สถานะของผู้ร่วมแสดงความเห็น วันนี้เรามาถกกันที่ เกิดเคสแบบนี้ธนาคารทำแบบนี้ ถูก ผิด อย่างไร แต่หลังๆเริ่มมี การพูดถึง คนโพสว่าเป็น Dr.อย่างไร ด้านไหนเลย เริ่มรู้สึกว่าโยงออกนอกประเด็นเลยพยายามอธิบายครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 12:12:34

ความคิดเห็นที่ 84 ใช้คำว่า ประนาม แรงเกินไปอ๊ะ ใจร้อน ทำอะไรวู่วาม ไปครับ จขกท ผมคิดว่า เป็นแค่กระทู้ระบายความโกรธ อยากให้ จขกท สอบถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง หรือ  1558 คอลเซ็นเตอร์ ส่วนกรณีผม และ พี่ที่แผนก คือ ปิดทุกบัญชี เหลือบัญชีเงินเดือนที่บริษัท บังคับต้องเปิดกับ TMB สาขาที่ทำงานเท่านั้นไว้ และไม่ไปเสนอหน้าในสาขานี้ อยู่ 2 เดือน จน ผจก สาขาส่งกระเช้าของขวัญเรียงคนมาให้เป็นการขอโทษ ถึงมองหน้ากันติดแต่ความรู้สึกเอากลับมาไม่ได้   แต่ก็ยังใช้บริการ TMB อยู่เหมือนเดิม เพราะใกล้ สะดวก ถึงจะทะเลาะกันบ่อยก็เหอะ แต่ไม่ขอประนาม คงเป็นเฉพาะรายคน บางสาขา จากคุณ : siamguy (SiamGuy) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 12:35:41

ความคิดเห็นที่ 85 ใช้คำว่าประนามกับแบงค์  ที่ทำตาม  เงื่อนไขสัญญา   ลองกลับไปอ่านสัญญาแล้วเรียกร้องให้แบงค์ปฎิบัติตามนั้น  หากไม่ทำตามสัญญา  ค่อยประนาม ถ้าทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของแบงค์  คนระดับนี้ควรแยกแยะออกครับ ว่าใช้คำรุนแรงไปหรือไม่   หากแบงค์ทำถุกต้องตามสัญญา  แบงค์คงฟ้องกลับได้  หากแบงค์ไม่ฟ้องกลับก็แสดงว่าแบงค์ยังมีคุณธรรม  ไม่เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 12:46:52

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านจากที่เจ้าของกระทู้เขียน ผมว่าเรื่องของเรื่อง ถ้าพนักงานพูดจาดี ๆ นำเสนอทางออกอื่นให้ตามสมควรก็คงไม่เป็นแบบนี้ หลาย ๆ เรื่องนั้น ฝ่ายบริการที่ถูกต่อว่าไม่ผิดกฎบริษัทหรอกหรือเป็นผลดีต่อลูกค้าจริง ๆ แต่ผิดที่ไม่รู้จักรับมือลูกค้า ไม่รู้จักหาคำพูดที่ฟังแล้วสบายหูกว่า แล้วถึงแม้ว่าฝ่ายบริการผิด แต่อธิบายดี ๆ ลูกค้ายังไม่ติดใจเอาเรื่องเลย จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 12:53:58

ความคิดเห็นที่ 87 555 ตกลงให้ประนาม bankหรือ เจ้าของกระทู้ ผมว่าไม่แปลกใจที่แม่คุณ ไม่เข้าสัญญาของ bank เพราะตัวคุณเองยังอธิบายแบบคิดเอาเองเลย จากคุณ : 555 (watermanshow) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 12:57:43

ความคิดเห็นที่ 88 เอาเลยครับรีบฟ้องเลยครับ อยากจะรู้ใครจะหน้าแหก อย่าช้านะหนู แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 53 13:26:50 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 13:25:21

ความคิดเห็นที่ 89 เคสนี้แบงค์ไม่ผิดครับ แต่จากที่อ่านเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน และคุณ จขกท ก็ช่วยออกค่ารักษาพยาบาลไปแล้ว ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็บอกให้คุณแม่สบายใจว่าจะจัดการค่าใช้จ่ายให้เอง พอครบกำหนดค่อยไปถอนออกครับ ถอนตอนนี้หรือไปกู้จะได้ไม่คุ้มเสียครับ จากคุณ : Cool K เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 14:32:59

ความคิดเห็นที่ 90 มีเงินฝากห้าแสน  แต่ไม่มีเครดิตกู้  ผมว่าธนาคารไม่ฉลาดหาเงิน ออกตัวก่อนนะครับ คนสามัญ เกษตรกร ธรรมดาๆ ไม่ทราบระบบธนาคารจริงๆหรอกครับว่าเป็นไง แต่ถ้าเป็นผมจะสินเชื่อหรือบัตรอะไรซักอย่าง ให้แกได้ใช้เงิน ดอกก็ได้ ลูกค้าก็ได้ ส่วนเรื่องอารมณ์เจ้าของกระทู้ก็น่าเห็นใจ คราวหน้าใจเย็นกว่านี้ละกันครับ จากคุณ : neetnoskub เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 14:35:03

ความคิดเห็นที่ 91 ผมว่า จขกท น่าจะตั้งกระทู้  "วันนี้เรามาถกกันที่ เกิดเคสแบบนี้ธนาคารทำแบบนี้ ถูก ผิด อย่างไร " ตั้งแต่แรกละ คนเขาจะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ที่เจอกับธนาคาร แต่หลังๆเริ่มมี การพูดถึง คนโพสว่าเป็น Dr.อย่างไร ด้านไหนเลย เริ่มรู้สึกว่าโยงออกนอกประเด็นเลยพยายามอธิบายครับ ผมว่า ไม่นอกประเด็น ในประเด็นตรง ๆ เลยละ เรียนจบ Dr. แต่ว่าคิดได้น้อยกว่า คนไม่จบ ป ตรี เพราะ เขียนเรื่องได้ เห็นแก่ตัว มาก ๆ จากคุณ : siamguy (SiamGuy) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 14:41:24

ความคิดเห็นที่ 92 ผมได้ส่งลิงค์และ ข้อความทั้งหมด ให้ทางแบงค์แล้วครับ ถ้าแบงค์ใส่ใจลูกค้า น่าจะ ขยับทำอะไรซักอย่างได้แล้วครับ เพราะเห็นว่าจะตอบกลับใน 48 ชม. ใช่เลยครับอย่าช้าครับถ้าคิดจะฟ้องกลับ หรือคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นการเหมาะสมต่อลูกค้าแล้ว อยากคุยโดยใช้หลักการ และเหตุผลผ่านสื่ออยู่เหมือนกันว่า ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ ผลจะสรุปแบบใด การที่แต่ละคนออกความเห้นต่างๆกันไป ทุกคนก็มีความคิดของตัวเองทั้งนั้น หลับตาซักพัก ปล่อยอารมณืให้สบาย แล้วหลับตานึกว่า ถ้าคุณเป็นผม แล้วคุณคิดว่าคุณจะทำอย่างไรต่อไป และจะอธิบายเรื่องต่างๆ อย่างไรให้คนอื่นฟัง แล้วหลับตาลงอีกที คิดว่าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ของ TMB แล้วลองหลับตานึกว่า จะแก้ปัญหาลูกค้าโวยวายในเคสนี้อย่างไร เพื่อให้เขาเข้าใจ หลักการ สัญญา และเหตุผล กลับมาเป็นตัวคุณ เราควรมองเหตุการณ์นี้ในฐานะคนกลางที่ดีอย่างไร เสนอแนวความคิดเช่นไร ผ่านกระทู้สาธารณะ เพื่อแนะนำ แนวทางที่ควรเป็น นี่คือหลักพื้นฐาน ของการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งคงต้องใช้ ประสบการณ์และวุฒิภาวะพอสมควรในการนึกถึงหัวอกเขาหัวอกเรา โดยตัดการไบแอส สิ่งที่ฉันเชื่อ สิ่งที่ฉันคิดและ สิ่งที่เป็นปรปักษ์กับความคิดของฉัน แล้วคุณจะเข้าใจ ในทุกโพสที่ผมกล่าวมา ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 53 15:07:38 จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 14:48:28

ความคิดเห็นที่ 93 คือจขกท.จะบอกว่าไม่เกิดกับตัวเองไม่รู้สึกว่างั้นเถอะ หลายท่านที่ตอบๆมาตั้งเยอะ ผมว่าจขกท.ก็น่าจะเข้าใจบ้างนะ หรือคิดว่าคนอื่นเค้าใจเขาใจเราไม่เป็น หรือว่าไม่ได้สนใจเลย คือตัวเองถูกเท่านั้น คนกลางที่ดีคือต้องตอบเข้าเป็นฝ่ายเดียวกับจขกท.? อ่านแล้วไม่รู้ว่าต้องการอะไรจากแบงค์ จะเอาให้ตัวเองได้ข้อเสนอหรืออะไรที่ฝ่ายคุณพอใจอย่างเดียวถึงจะพอใจงั้นเหรอ ด้วยความเคารพ(ทำไมเมื่อไมไ่ด้เคารพ) จากคุณ : อนาถใจ (donclub) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 17:43:14

ความคิดเห็นที่ 94 แวะมาตอนคำ่ คุณป้าท่านนึง ฝากเงินธนาคารไว้แบบประจำ 5 ปี จำนวน 550,000 อีกสามเดือนครบสัญญา ทุกเดือน คุณป้ารับเงินดอกเบี้ยไปใช้แล้ว เดือนล่ะ 1700 โดยประมาณ จำนวน 57 งวด หรือ  96900  บาท บังเอิญ คุณป้ามีเหตุจำเป็นอย่ายิ่ง ต้องใช้เงิน จำนวนนี้ ในการรักษา สามีที่เกิดอุบัติเหตุ คุณป้าไปปรึกษา ทาง TMB เพื่อขอถอนเงินออกมาใช้ก่อนกำหนด ทางธนาคาร บอกว่า ถ้าถอน คุณป้าจะได้รับเงินเพียง  453,100 เท่านั้น เพราะดอกเบี้ยตลอด สี่ปีกว่า จะไม่ได้และต้องหักที่เงินต้น คุณป้าไม่ละความพยายาม ขอกู้เงินโดยใช้ บัญชีเงินฝากประจำของตัวเองที่มีเงิน 550,000 นี้ประกัน เพื่อนำเงินไปใช้ ธนาคาร ปฏิเสธที่จะให้กู้ เพราะ ถึงคุณป้าจะจำเป็นแค่ไหน สัญญาก็คือสัญญา ถ้าอยากได้เงินก็เอาไปแค่ 453,100 เท่านั้น โจทย์ถามว่า ในทางกฎหมาย สัญญาก็ควรเป็นสัญญา แต่ในทางการค้า การที่แบงค์ปฏิเสธการช่วยเหลือ หรือการขอกู้ของคุณป้าท่านนี้ในฐานะลูกค้าที่เอาเงินมาฝากให้แบงค์ใช้ เหมาะสมแล้วหรือ ? น่าจะเป็นข้อสรุปของเรื่องนี้ และ ถ้าจะโต้แย้งกันผมอยากให้มองที่โจทย์ครับ ด้วยความเคารพ (ขอให้ทะเลาะกันในเรื่องที่เถียงกัน นอกกระทู้นี้ก็เพื่อนกันทั้งนั้น) จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 20:42:20

ความคิดเห็นที่ 95 การที่แบงค์  จะปล่อยกู้  ต้องมีหลักทรัพย์  ค้ำประกัน   และหลักทรัพย์ที่จะค้ำประกัน  คือสัญญาเงิน  ฝาก  จะครบกำหนดภายใน  3  เดือน   หากแบงคค์ให้กู้  ก็คงให้กู้ได้แค่ระยะ  3  เดือน   หรือพอครบกำหนด  3  เดือน  ต้องอายัดบัญชีใว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน  ก็แค่นั้น   พนักงานไม่ใช่เจ้าของธนาคาร  จะมาอนุมัติ  อะไรที่มันผิดกฎระเบียบคงไม่ได้  อาจโดนความผิดฐาน  ทุจริต  ต่อหน้าที่   คนในฐานะลูกหากมีความรับผิดชอบ  ทำไมไม่พาแม่เข้าพบผู้จัดการผู้มีอำนาจตัดสินใจ   ดีกว่าออกมาโวยวาย    หรือ  แม่เลี้ยงดูลูกจนจบ  ด็อกเตอร์แต่ไม่  เหลียวแลพ่อที่ต้องเข้า  รพ. ผมว่า  จขกท.  ตั้งกระทู้มาเพื่อฟังและอ่านในสิ่งที่ตัวเองอยากได้เห็นและอยากได้ยิน   แต่ไม่ยอมรับ  กับกฎเกณท์  และความจริง พนักงานแบงค์  ไม่ได้เป็น  จนท.สภาสังคมสงเคราะห์  เขาต้องทำตามระเบียบตามหน้าที่   หากทั้งหมดยังไม่เข้าใจกลับไปอ่าน  ทุกความเห็นตั้งแต่ต้น  น่าจะเข้าใจ   หากยังไม่เข้าใจ  ก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมากล่าวแล้วครับ ทั้งหมดทั้งสิ้นในประเด็นล้วน   1  ประเด็น  สัญญาเงินฝาก 2  ประเด็นสัญญาเงินกู้ 3   ประเด็น  ไม่ยอมรับฟังความเป็นจริง  ต้องการฟังในสิ่งที่อยากฟังเท่านั้น    ประมาณว่า  ดีครับผม  เหมาะสมครับท่าน จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 21:16:38

ความคิดเห็นที่ 96 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 53 21:26:14 จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 21:23:46

ความคิดเห็นที่ 97 เรียน rep#77 //1. ถ้าคุณแม่คุณไม่ค่อยรู้เรื่อง ทำไมไม่ไปธนาคารด้วยกัน (ก่อนโพสกระทู้) //>>> กลับไปอ่านเรื่องราวตั้งแต่ต้นนิดนะครับ เรื่องที่เกิด เกิดจากความต้องการของ //คนแก่คนนึงซึ่งไม่ได้บอกลูกๆ และทำไปตามความต้องการของตัวเองในฐานะเจ้า //ของเงินฝาก แต่พอหลังจากเกิดเหตุการณ์ แกถึงมาเล่าให้ลูกๆฟัง จนผมรู้สึกว่ามี //หลายอย่างที่ ธนาคารสามารถแก้ไขได้ หาทางออกที่ดีกว่านี้ได้ มากกว่าการจะปัด //ความรับผิดชอบและยืนยันตามสัญญา แม้ผมคุยเสนอทางออกเป็นการยกตัวอย่างว่า // เงินกู้ระยะสั้น ออกบัตรเครดิต หรือ อื่นๆจะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ยังยืนยันว่าให้รอ //ธนาคารในฐานะผู้ให้บริการก็ควรจะเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า มากกว่าการ ษาผลประโยชน์ขององค์กรเพียงฝ่ายเดียว ----------------------------------------------------------------------- ตอบ ผมถึงได้มีคำว่า ก่อนโพสกระทู้ไงครับ จากต้นฉบับ เหตุการณ์เกิด - คุณโวยวายในนี้ - คุณ"กำลังจะ"ไปพบผู้จัดการ // 2. ให้ข้อมูลไม่หมด ชึ้นำให้ผู้อื่นเขัาใจผิด (ต่อ TMB) // >>>> ก็เช่นกัน กลับไปอ่านบนโพสแรกเลยตอนตั้งกระทู้ ผมไม่มีการแก้ไขเพิ่ม // เติม ในนั้นมีข้อมูลครบแล้ว และโจทย์ก็บอกว่า ผมไม่ได้หงุดหงิดที่ไปทำสัญญา // แบบนั้น แต่โจทย์คือ ทำไมในเมื่อมีเงินอยู่เป็นหลักประกัน เราไม่สามารถเอาเงิน // ออกมาใช้ได้ ทางธนาคารไม่มีทางออกให้กับลูกค้าเลยหรือไร คิดจะยึดแต่หลักการ // และเหตุผลเท่านั้นหรือ // ขอยกตัวอย่าง // ถ้าคุณ ขับรถพร้อมครอบครัวและลูกๆบนถนนสองเลน คุณขับรถในเลนของคุณแล้ว // มีสิบล้อแซงออกมาจากฝั่งตรงข้ามมาจะชนประสานงากับรถ ของคุณและลูกๆ ถ้า //คุณหลบซ้ายคุณจะชนร้านค้าริบถนน // แต่ถ้าคุณขับต่อ คุณจะไม่ผิด กฏหมายจะให้คุณเป็นฝ่ายถูก แต่คุณและครอบครัวจะ // ยังอยู่มาฟ้องหรือเปล่าไม่รู้ ผมถามคุณว่า คุณจะหลบจะยอมเสียหายที่ไปชนร้าน // ข้างถนนมั้ย หรือ ยอมถูตามกฎหมายและยอมตาย และถ้าคุณหลบซ้ายคุณต้องมา // ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยที่จะไปเรียกร้องจากสิบล้อไม่ได้ เพราะการชนไม่เกิด // เขาไม่ได้ชนกะคุณ คุณมีปัญหากับร้านค้าเท่านั้น ก็ลองคิดดูนี่ไงคุณถูก แต่คุณจะ // เลือกแบบไหน ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ คนละเรื่องครับ ถ้าคุณสงสัยว่าทำอะไรได้ไม่ได้ ถามผู้จัดการซิครับ พนักงานอาจต้องการรักษาผลประโยชน์ลูกค้า ไม่ต้องการให้เสียดอกเบี้ย เลยไม่ให้ถอน โดยไม่รู้เหตุผลความจำเป็น แล้วการกู้ก็ไม่ใช่ เดินไปแล้วบอกว่าอยากกู้เอาเงินฝากค้ำ จะกู้ได้เลย "ถ้าคุณสงสัยว่าทำอะไรได้ไม่ได้ ถามผู้จัดการซิครับ" // 3. ถ้าใช้เงินฝากค้ำ คุณรู้หรือไม่ว่าจะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ // จนกว่าจะใช้เงินกู้หมดก่อน แม้ว่ายอดเงินฝากจะเยอะกว่าเงินกู้ก็ตาม // ไม่งั้นต่อไปจะมีกระทู้ // "มีเงินฝากที่ครบกำหนดแล้ว 550,000B แต่จะถอนออกมาเพื่อไถ่ถอน // เงินกู้แค่ 200,000B ไม่ได้ TMB กะฟันดอกเบี้ยชัดๆ" // ระเบียบบางอย่างมันดูเหมือนงี่เง่า แต่ต้องมี // แล้วจริงๆ มันก็มีทางทำได้แต่มีขั้นตอน // ซึ่งถ้าขนาดถอนฝากประจำก่อนกำหนดยังมีปัญหาความไม่เข้าใจ // ตอนไถ่ถอนคงโกลาหล // >>>>ยอมรับในความคิดคุณจริงๆ คิดกระทู้และหลักการแบบนี้ออกมาได้ วนกลับ // มาก่อนประเด็นคือ // ธนาคาร ไม่แคร์ความรุ้สึก และกระทำการอันไม่เอื้อต่อการร่วมค้าขาย เลยเกิด // กระทู้นี้ขึ้นมา ระเบียบงี่เง่าที่ต้องมีไม่เป็นไร อย่าให้มีคนงี่เง่าก็พอครับ ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ ลองไปคุยกับเจ้าหน้าที่ bank ก่อนแล้วกันครับว่า การใช้เงินฝากค้ำเงินกู้ทำอย่างไร ขั้นตอนการใช้คืนเป็นอย่างไร ระเบียบงี่เง่ามันมี เพราะระบบกฎหมายไทยมันห่วย และคนโกงมันเยอะ ผมไม่ได้ว่าคุณจะโกง อย่าเข้าใจผิด ผมพูดว่าโดยทั่วไป ลองไปคุยดู ถามขั้นตอนโดนละเอียด แล้วจะเข้าใจว่าทำไม ผมใช้คำว่า"โกลาหล" จาก "...ซึ่งถ้าขนาดถอนฝากประจำก่อนกำหนดยังมีปัญหาความไม่เข้าใจ ตอนไถ่ถอนคงโกลาหล" (จาก #94 คุณยังไม่ได้คุยกับ bank เลยนี่) // 4. จะ dr. ด้านไหน ขั้นตอนแรกของการทำวิจัยก็ต้องหาข้อมูลก่อนมิใช่หรือ // >>> กลับไปอ่าน Rep#56 บรรทัดทีี่15 ครับก่อนถาม กรุณาหาข้อมูลมาก่อนครับ // แต่ ถ้าจะถามเพื่อจะ ดิสเครดิตล่ะก็ เลื่อนอ่านลงมาอีกซักบรรทัดสองบรรทัด ใน // เรื่อง มนุษยธรรมและจริยธรรม ที่ผมอาจไม่ได้จบเอกทางด้านนี้ ก็ต้องขออภัย // จากคุณ : Pseudonoise ---------------------------------------------------------------------------- ตอบ เน้น "จะ dr. ด้านไหน ขั้นตอนแรกของการทำวิจัยก็ต้องหาข้อมูลก่อน" ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นมนุษยธรรม ด้าน ศาสตร์ ศิลป์ ฯลฯ ก่อนได้หัวข้อ thesis คุณก็ต้องดูว่าคนอื่่นๆ เขาทำอะไร ถึงไหน มีปัญหาอะไร ไม่ใช่เหรอ อยากให้"ฉุกคิด"ถึงการใช้เหตุผลตอนเรียน แล้วนำมาใช้กับชีวิตก็เท่านั้น // ผมขอต่อว่า Dr.Jeab ตรงๆ เลยนะครับ // >>>  ขอยกประโยคนี้อีกครั้ง คือ ขออธิบายว่า ในเคสนี้ // ผมและคุณแม่ที่เป็นลูกค้าอยู่ในฐานะ โจทย์ // ธนาคารให้บริการ อยู่ในฐานะ    จำเลย // คดี : โจทย์ขอตำหนิ การให้บริการที่รู้สึกว่าไม่สมควรและไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า // รูปการ :กำลังประเมินอยู่ว่าศาลจะยกฟ้องหรือต้องมีการประนีประนอมกันก่อน โดย // มีเพื่อนๆในพันทิพเข้ามาร่วมแชร์และแสดงความคิดเห็น // ดังนั้น คุณPseudonoise ต่อว่าผมด้วยฐานะอะไรในคดีนี้ครับ โจทย์ หรือจำเลย หรือ // คุณเป็นผู้พิพากษา ผมจะได้เข้าใจ // ขอบคุณครับ ----------------------------------------------------------------------------- ตอบ ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ผม"ต่อว่า"เพราะอยากชี้ให้เห็นอีกด้านของปัญหาเท่านั้น ต่อว่า ไม่ใช่ ตัดสิน ว่าถูกผิด ต่อว่า เพื่อให้คิด ก็เท่านั้น แต่ถ้าต้องการตาม #93,95 (หรืออื่นๆ ที่คล้ายๆ กัน) ว่า ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 53 23:47:58 จากคุณ : Pseudonoise เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 23:32:52

ความคิดเห็นที่ 98 ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ตอนนี้เจ้าของกระทู้ติดใจ TMB อยู่เรื่องเดียวคือ ทำไม TMB ไม่ให้กู้ถูกต้อง ใช่มั๊ยครับ เรื่องเงินฝากผมว่าพนักงานทำถูกแล้วที่แนะนำไม่ให้ถอนเพราะนี่คือการรักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้าต้องได้รับคำชมครับ เคสนี้การตัดสินใจเป็นของลูกค้าถ้ายืนยันที่จะถอนเค้าก็ห้ามคุณไม่ได้ ถามว่าถ้าถอน ใครได้ประโยชน์ใครเสียประโยชน์ คุณหรือเปล่า หรือว่าแบงค์ ถ้าเป็นผม ผมอยากให้ถอนครับ ได้เงินมาใช้พรี 4 ปี 9 เดือน มีเหรอจะไม่เอา เรื่องเงินกู้ผมว่า คุณให้รายละเอียดน้อยไปนะครับอันนี้ยกประโยชน์ให้ TMB ไปครับ การกู้ต้องมีการประเมินนะครับ โดยมีการให้คะแนนมีการคำนวนเป็นตัวเลข ไม่ได้ใช้ความรู้สึกประเมินนะครับ โดยอาศัยข้อมูลเหล่านี้ - จุดประสงค์ในการกู้  - กู้เท่าไหร่  - คนกู้อายุเท่าไหร่ - ใครค้ำประกัน - อื่น ๆ อีก นอกจากนี้ยังมี กฎเกณฑ์ ต่าง ๆ ของแบงค์ชาติมากำกับอีก ไม่ใช่ว่าอยากปล่อยกู้ก็ปล่อยได้นะครับ ถ้าไม่ผ่านก็คือไม่ผ่าน ปล่อยกู้ไม่ได้ ขืนปล่อยกู้ไป audit แบงค์ชาติมาตรวจเจอ ว่าประเมินไม่ผ่านแล้วปล่อยกู้ไปได้ยังไง ใครซวยหล่ะครับ แต่อย่างน้อยน่าจะชี้แจงหน่อยนะว่าที่ไม่อนุมัติเพราะเหตุผลอะไร เงินกู้แต่ละแบบเงื่อนไขการกู้ก็ไม่เหมือนกันคุณไม่ผ่านเงือนไขของเงินกู้แบบนึง แต่อาจจะผ่านสำหรับอีกแบบก็ได้ อาจจะต่างกันในแง่ของวงเงิน และอัตราดอกเบี้ย ถ้าผมจะตำหนิก็ตำหนิพนักงาน ในเรื่องที่ไม่พยายามหาทางเลือก ที่เหมาะสมให้กลับลูกค้าคงต้องว่ากันเป็น คน ๆ ไป สิ่งที่คุณต่อว่า TMB ผมมองว่ามันรุนแรงไปนิดนะ แต่ก็เข้าใจ อารมณ์คุณ ณ ตอนนั้น ผมว่าใจเย็น ๆ แล้วลองไปคุยอีกที หรือเปลี่ยนสาขาที่จะไปคุยเลยก็ได้ ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับขอให้คุณพ่อหายป่วย ไว ๆ จากคุณ : vanetwork เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 23:45:36

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณมากๆครับ ทุกๆคน ขอแวะเข้ามาฟังความคิดเห็นเรื่อยๆครับ จากคุณ : Dr.Jeab เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 00:47:49

ความคิดเห็นที่ 100 ผมอ่านแล้วงง สรุปประเด็นที่จขกท. ว่าคือทำไมไม่ให้กู้ใช่ไหม เพราะเห็นตอนแรกพูดประเด็นว่าธนาคารไม่ให้ถอน ขอว่าตามที่ เข้าใจส่วนตัวเลย คือสาเหตุจขกท. ไม่ได้ไปคุยเอง คุณฟังจาก คุณแม่อย่างเดียวและคุณแม่คุณก็ไม่เข้าใจเรื่องหลักการดอกเบี้ย ต่างๆ เพราะผมอ้างอิงจากที่บอกตอนแรกธนาคารไม่ได้ห้ามถอน แต่เขาแจ้งว่าถอนไม่ได้เพราะมันผิดสัญญา แต่"ถ้า" ถอนคือต้อง ถูกตัดดอกเบี้ยไปที่เอาไปใช้แล้ว  แต่คุณแม่คุณเข้าใจว่าเป็นถอน ไม่ได้ กลับมาตั้งหลักที่บ้าน มีคนแนะนำให้ไปกู้กลับไปใหม่ทาง ธนาคารก็ว่าตามหลักการกู้ซึ่งมันไม่น่าจะผ่านเกณฑ์ จขกท. ก็เลย ไม่พอใจ ซึ่งถ้าเป็นคุณทำงานตรงนั้นตรงจะปล่อยผ่านให้กู้ได้โดย อ้างเรื่องความเห็นใจหรืออะไรก็ไม่ได้หรอก ผมอ่านผ่านๆ ว่าคุณเอง ก็เป็นวิศวกร สมมุติถ้าคุณรับผิดชอบเซ็นต์ให้งานผ่านทั้งที่คุณตรวจ แล้วมันไม่ผ่านหรือ ถ้าผู้รับเหมาอ้างว่าให้เห็นใจต้องใช้เงินก่อนรอ งานอันนี้เรียบร้อยจะกลับมาแก้ภายหลังแน่ๆ ขอให้เช็นต์ว่างานผ่าน เรียบร้อยก่อนคุณจะเซ็นต์ไหมครับ ความเห็นใจกับความจริงมันคน ละเรื่องกันนะ ผมก็ไม่ได้อยู่ที่นั้นคุณก็ไม่ได้อยู่ที่นั้น ดังนั้นก็ไม่มีใคร รู้ว่าความจริงคืออะไร ทั้งที่ถ้ามีคนที่รู้หรือเข้าใจเรื่องอยู่ที่นั้นสักคน เช่นอาจจะเป็นพนักงานที่นั้นรู้ว่าคุณแม่คุณต้องใช้เงินจริงๆ เพราะอะไร เขาอาจจะอธิบายให้เข้าใจละเอียดได้มากขึ้นก็ได้ จากคุณ : time3957 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 03:23:52

ความคิดเห็นที่ 101 อ่านมานานขอสรุปประเด็นตามที่ตัวเองเข้าใจ 1. จขกท ไม่ติดใจเรื่องดอกเบี้ยที่โดนหักใช่ไหมครับ เพราะเค้าให้ดอกเบี้ยมาใช้ทุกเดือนก่อน แต่ถ้าถอนก่อน 5 ปี ธนาคารก็หักดอกเบี้ยที่เคยได้รับไปคืน (ซึ่งผมคิดว่าเหมือนกันทุกธนาคาร) --- ประเด็นนี้จขกท เขียนแบบให้อารมณ์มากเกินไป คนสับสนคิดว่าเป็นประเด็นหลัก + ควรเอารูปโปรโมขั่นเงินฝากประจำนั้นออกครับ ผมเข้าใจว่าเมื่อ 5 ปีก่อน ไม่น่ามี Campaign เงินฝากประจำ Up&Up แบบนั้น 2. ส่วนประเด็นขอกู้โดยใช้เงินฝากค้ำ จขกท ได้คุยกับธนาคารหรือยังครับ อยากทราบคำตอบเช่นเดียวกัน จากคุณ : นับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 07:11:05

ความคิดเห็นที่ 102 #94   แวะมาตอบกระทู้ที่  94 ขอออกตัวก่อนว่าคำตอบนี้ไม่เกียวกับเจ้าของกระทู้  แต่หมายถึงป้าตามความเห็น  94  ความเห็นก่อนหน้าทั้งหมดจบไปแล้วครับ   ครับ คุณป้าท่านนึง ฝากเงินธนาคารไว้แบบประจำ 5 ปี จำนวน 550,000 อีกสามเดือนครบสัญญา ทุกเดือน คุณป้ารับเงินดอกเบี้ยไปใช้แล้ว เดือนล่ะ 1700 โดยประมาณ จำนวน 57 งวด หรือ  96900  บาท บังเอิญ คุณป้ามีเหตุจำเป็นอย่ายิ่ง ต้องใช้เงิน จำนวนนี้ ในการรักษา สามีที่เกิดอุบัติเหตุ คุณป้าไปปรึกษา ทาง TMB เพื่อขอถอนเงินออกมาใช้ก่อนกำหนด ทางธนาคาร บอกว่า ถ้าถอน คุณป้าจะได้รับเงินเพียง  453,100 เท่านั้น เพราะดอกเบี้ยตลอด สี่ปีกว่า จะไม่ได้และต้องหักที่เงินต้น คุณป้าไม่ละความพยายาม ขอกู้เงินโดยใช้ บัญชีเงินฝากประจำของตัวเองที่มีเงิน 550,000 นี้ประกัน เพื่อนำเงินไปใช้ ธนาคาร ปฏิเสธที่จะให้กู้ เพราะ ถึงคุณป้าจะจำเป็นแค่ไหน สัญญาก็คือสัญญา ถ้าอยากได้เงินก็เอาไปแค่ 453,100 เท่านั้น ข้อนี้แยก  3  ประเด็น   1  คิดว่าป้าคงเข้าใจแล้วว่าหากถอนเงิน  ก่อนครบสัญญา  คงโดนหักดอกเบี้ย  (คยอ่านคงไม่ทราบว่าเนื้อหาสัญญาเป็นอย่างไร  ถอนก่อนได้หรือไม่  เพราะไม่มีรายละเอียกจากป้า)  จบ 2  ขแกู้โดยใช้เงินฝาก  ที่กะลังจะหมดสัญญา  (เน้นใก้ลหมดสัญญานะครับ)   แบงค์  ไม่ให้กู้เพราะสัญญาต้องเป็นสัญญา ถ้าอยากได้เงินก็เอาไปแค่ 453,100 เท่านั้น    งงครับ   อ่านดีๆ  จะงง   กู้เงินมันเกี่ยวอะไรกับสัญญาต้องเป็นสัญญา   ประโยคนี้แสดงว่า   ในสัญญาเงินฝากบอกว่าห้ามกู้เหรอ   อยากเห็นสัญญาเงื่อนไขการฝากเงินจัง      แล้วประเด็นเงินกู้   มันเกี่ยวอะไรกับอยากได้  เอาไปแค่  453100  เท่านั้น นี่พยายามไม่นอกประเด็นแล้วครับ  หยิบทุกประโยคในกระทู้ป้ามาเลย 3   ประเด็นนี้   ในทางกฎหมาย สัญญาก็ควรเป็นสัญญา แต่ในทางการค้า การที่แบงค์ปฏิเสธการช่วยเหลือ หรือการขอกู้ของคุณป้าท่านนี้ในฐานะลูกค้าที่เอาเงินมาฝากให้แบงค์ใช้ เหมาะสมแล้วหรือ ? ตอบว่าเหมาะสมแล้ว   การจะกู้หลักประกันต้องมั่นคง  การเอาเงินฝากที่จะถอนออกใน  3  เดือน  มาค้ำคงเป็นไปไม่ได้   ป้ามีรายได้อะไรบ้างแต่ละเดือน   หลายๆอย่างประกอบการพิจรณา จบสามประเด็นครับ ขอนอกเรื่อง  แล้วป้าท่านนั้นไม่มีลูกหลานมาดูดำดูแดงและเหรอ   หากมีแต่ทำไมไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของป้าก็เข้าข่ายลูกเนรคุณละครับ  แม้ลูกไม่ช่ายเหลือป้าแบบให้เปล่าให้ป้ายืมก่อนก็ยังดีครบสามเดือนค่อยเอาไปคืนลูก     พอมีเบอร์โทรป้าบ้างมั้ยครับ  ผมอาจมีทางออกให้ป้าได้ ด้วยความปราถนาดี   ไม่เกี่ยวกับ  จขกท.นะครับ   เพราะเป็น  เคสของป้าท่านนึง จากคุณ : ชื่อนี้ไม่เหมาะสม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 08:10:15

ความคิดเห็นที่ 103 โจทย์ถามว่า ในทางกฎหมาย สัญญาก็ควรเป็นสัญญา แต่ในทางการค้า การที่แบงค์ปฏิเสธการช่วยเหลือ หรือการขอกู้ของคุณป้าท่านนี้ในฐานะลูกค้าที่เอาเงินมาฝากให้แบงค์ใช้ เหมาะสมแล้วหรือ ? ตาม #94  จขกท คิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว  การค้าคุณไม่ทำตามกฎหมาย ระเบียบปฎิบัติ อย่างนี้ เวลาออกแบบก่อสร้าง ต่าง ๆ คุณคงออกแบบ คุมงานตามใจ ไม่ต้องดูระเบียบ หรือ กฎทางวิศวกรรม เลยหรือ รับงาน เบิกเงิน แต่ไม่ทำตามสัญญา ลูกค้าอยากให้งานเดิน ก็ฟ้องเอางั้นสิ มันสามารถทำได้หรือ การค้าที่ไม่ต้องทำตามกฎหมาย ไม่รู้จะคิดอย่างไง เวลาที่เจ้าของบ้านให้ก่อสร้างแล้วเกิดผิดพลาด เจ้าของบ้านรับผิดไป วิศวกรออกแบบ คุมงาน บอกไม่เกี่ยวอย่างงั้นป่าว หรือ จขกท ออกมาเสนอทางออก ช่วยเหลือ เจ้าของบ้านรับผิดชอบการก่อสร้าง โดยที่เจ้าของบ้านไม่ต้องฟ้องวิศวกรให้มารับผิดชอบด้วยหรือป่าว จากคุณ : SiamGuy เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 09:05:11

ความคิดเห็นที่ 104 แนะนำเจ้าของกระทู้ฟ้องเลยครับ ปรึกษา สคบ. จะได้เป็นคดีตัวอย่าง ในแง่ของกฏหมายคุณอาจจะ แพ้ แต่คุณจะได้ความเห็นใจจากสังคมแน่นอน ส่วน TMB ก็จะต้องถูกประนามจากสังคมแน่นอน จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 09:41:49

ความคิดเห็นที่ 105 ก่อนอื่น ขอให้คุณพ่อ จขกท. หายไว ๆ นะครับ เรื่องของเรื่อง ก็คือ ลูกเป็นห่วงแม่เท่านั้นครับ และ จขกท. ก็ได้ยอมรับแล้วว่า หัวกระทู้แรงไป เรื่องนี้ ไม่มีคนผิดครับ  แบงค์ก็ไม่ผิด  จขกท. ผิดเรื่องการตั้งกระทู้ด้วยอารมณ์  แต่ก็ยอมรับผิดไปแล้ว การโพสอาจทำให้แบงค์เสียหาย แต่คนแสดงความคิดเห็นอย่างพวกเราก็ไปต่อว่าเจ้าของกระทู้เรื่องนั้นไม่ได้เพราะเราไม่ใช่ คู่กรณี ก็ได้แค่แสดงความคิดเห็น (นอกจากเป็นพนักงาน TMB 555+) มันเป็นเรื่องของหลักการ หลักคิด ของแต่ละคน แต่ละองค์กร คงจะต่อว่า ธนาคารใจยักษ์ ใจมารไม่ได้ ผมคิดว่า บัญชีนี้ไม่สามารถใช้ค้ำประกันได้ เพราะระยะเวลาฝากกำลังจะหมด และ ตามสัญญาคือ เขาต้องคืน 5.5 แสน ให้คุณแม่ ไม่คืนไม่ได้ จะสังเกตุว่า ปกติ ธนาคารจะให้เปิด 2 บัญชี อันหนึ่งคือ บัญชีฝากประจำ อีกอันคือบัญชีออมทรัพย์ ดอกเบี้ยจะเข้าออมทรัพย์ และเมื่อครบกำหนด เขาจะโอนเงินต้นเข้าออมทรัยพ์ด้วย เขาไม่มีสิทธิ์ Hold เงินไว้ในบัญชีเดิม ถ้ายอมให้ใช้บัญชีนี้ค้ำ แล้วคุณแม่ จขกท. ไปถอนก็เจ๊งพอดีครับ ถ้าต้องการทำ ต้องหาเงินมาเปิดเป็นบัญชีใหม่ ซึ่งเลขที่บัญชีนี้จะเข้าไปอยู่ในสัญญาเงินกู้ หลักการของธนาคารถูกต้องแล้วครับ เพราะถ้าธนาคารยอมให้กู้โดยใช้บัญชีเดิมซึ่งกำลังจะหมดอายุ ผมคนหนึ่งละ จะไม่ถือหุ้นธนาคารนี้เลย เพราะถือว่า Policy ไม่ค่อยปลอดภัย เสี่ยง NPL สูง ยังไงฝากเจ้าของกระทู้พิจารณา และไตร่ตรอง สำหรับการตั้งกระทู้ครั้งต่อไปครับ จากคุณ : Man Call Hero เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 09:44:32

ความคิดเห็นที่ 106 ถ้าพนักงานธ. ยอมให้แม่คุณถอนเงินซะตั้งแต่ครั้งแรกที่ไป ก็ได้เงินมาแล้ว (โดยที่ไม่บอกว่าจะต้องโดนหักเงินเป็นค่าดอกเกือบแสน เพราะมันมีอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว ไม่อ่านเองนี่นา) คุณก็คงจะได้มาตั้งกระทู้ประนามอีกแบบนึงแน่ๆ จากคุณ : KONGKANGFA เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 10:05:38

ความคิดเห็นที่ 107 ที่บ้านเองก็เคยพาตาเข้า รพ.เอกชน รักษากันหลักล้านอยู่ ผ่าตัดร่วม 3 ครั้งได้ หมดไปหลายล้าน ถ้าจะพูดเรื่องความเป็นคนแล้วเนี่ย ธนาคารไม่ได้ผิดอะไรเลยนะ เพราะถึงเป็น รพ.เอกชน เรื่องธุรกิจเองบางทีก็มาก่อนความเป็นคน ส่วนเรื่องจะให้กู้ไหม มันก็แล้วแต่เขาจะพิจารณานี่ ใช่ว่าเป็นลูกค้าแล้วจะต้องได้เสมอไป เหมือนเราเข้าไปเป็นลูกค้าใน รพ.เอกชน เราจะไปบอกเขาว่า นี่ฉันเป็นลูกค้าเธอนะ เธอต้องให้ฉันผ่อนผันเรื่องเงินตามนี้ๆๆๆๆ ต้องให้ฉันติดกี่เดือนๆ ซึ่งโอเคถ้าผ่อนผันอาจจะได้ แต่เขาก็มีลิมิตเวลาให้ ซึ่งก็ไม่ได้ใจกว้างนักหรอก อันที่จริงบิลร่อนมาทุก 3 วันด้วยซ้ำไป ลูกค้าไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ หรือ พระเจ้าค่ะ ยังไงก็ยังต้องดำเนินตามกฏของพื้นที่ๆเราเข้าไปใช้บริการ หรือตามเงื่อนไขของเขาอยู่ดี ดังนั้นสิทธิที่ทางผู้ให้บริการจะให้บริการเราไหม ก็ยังเป็นของเขาอยู่ ก็ยังคิดอยู่ว่า ธนาคารเขาไม่ให้กู้ หรือ รพ เขาไม่ให้ติดหนี้ มันก็เป็นสิทธิที่เขาพึงทำได้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่า ขาดความเป็นคน เพราะไม่งั้นเคสอื่นๆก็ทำได้เหมือนกัน แล้วเกณฑ์จะอยู่ตรงไหนล่ะ เพราะใครๆก็คงอ้างเรื่องความจำเป็นของตัวเอง ไม่คิดว่าถึงกับต้องประณามนี่ เพราะทางธนาคารเองก็ไม่ได้ทำผิดกฏอะไร และการยื่นกู้ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องได้เสมอไป ถ้าเขาไม่ให้ก็ต้องยอมรับ ไม่น่าถึงกับต้องมาตั้งกระทู้ประจานกันเลยนี่น่า ไม่งั้นป่านนี้กระทู้ไปขอเขากู้แล้วเขาไม่ให้ก็มาประจานกัน คงมีเพียบแน่ ส่วนเรื่องเครดิตบางทีก็ตลกนะ ลูกน้องพี่ที่เราสนิท ไปยื่นขอเครดิตผ่านซะงั้น แต่พี่ที่เราสนิทเป็นเจ้าของโรงงานยื่นไม่ผ่าน ส่วนพี่สาวเขาจะทำด้านบัญชีมีเงินหมุนในบัญชีตลอด ก็มีหลายใบเป็นแบบแพตตินั่ม พี่แกก็ยังเข้าใจเลยว่า ถึงจะมีฐานะเป็นเจ้าของโรงงาน แต่เวลาไปขอเครดิต เขาก็ดูตามหลักฐาน แกก็ยอมรับว่า เงินเขาไม่หมุนเท่าไร เพราะส่วนมากจะเอาไปลงในบัญชีพี่สาวมากกว่า จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 10:44:04

ความคิดเห็นที่ 108 อยากรู้แค่ว่า จขกท ไปคุยกับผจก ว่ายังไงบ้าง มาอ่านเฉยๆ เข้าใจประเด็นที่ว่า จทขก ติดใจเรื่อง การขอกู้แล้วไม่ให้มากวก่า จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 10:48:42

ความคิดเห็นที่ 109 มาแชร์ ประสบการณ์จริง ผมทำงานเกี่ยวกับการเงิน มีเงินที่ต้องรับชำระต่อวันไม่แน่นอน มีวันหนึ่งได้รับเงินสด 4 ล้านบาท ในช่วงเวลา หลัง 16.00  แต่โทรไปให้มารับ บอกไม่สามารถรับฝากได้ เกินเวลา และ เกินวงเงินที่ธนาคารสามารถรับได้ ไปธนาคารในห้าง ที่มีบัญชีเปิดอยู่ ก็บอกว่า สามารถรับได้ แค่มากสุด 1 ล้าน และคุณต้องมาทันก่อนเวลาปิดทำการในห้าง ทันก็รับไม่ทันก็ไม่สามารถรับได้ และขอเป็น ธนบัตรใบละ 1000 บาท เพราะตู้เซฟเก็บไม่พอ น่าเจ็บใจไหมละ ยอดฝากคุณก็ได้ แต่ทำไมไม่รับฝาก แถมต้องหอบเงิน ไปอ้อนวอนรับฝากหน่อยเถอะ ปล ได้รับคำตอบตอนหลังว่า ธนาคารเขามีวงเงินประกัน ว่าเงินคงเหลือเก็บในธนาคารได้ แต่ละสาขา เท่าไหร่ ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทย มาตรวจสอบ ว่ามีเงินเกิน จะโดนปรับ กี่แสนบาท ก็ว่ากันไป ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น สุดท้ายธนาคารก็รับได้แค่วงเงินที่จำกัด ทั้งที่บริษัท มียอดเงินฝากนอนอยู่ในสาขา หลายร้อยล้าน ก็ยังไม่รับฝากเพราะกฎ ก็คงเป็นกฎ ของคนทำงาน ภาคการเงิน แม้แต่สลึงเดียว หากันจนเที่ยงคืน ว่าหายไปไหน จากคุณ : SiamGuy เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 11:10:15

ความคิดเห็นที่ 110 ผมบอกให้ลูกน้องท่องไว้ในใจเสมอ ว่าลูกค้าคือพระเจ้า ถ้าไม่มีลูกค้ากิจการผม คงไม่เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ทำธุรกิจต้องรู้จักการให้ ไม่ใช่ท่องเป็นอยู่แต่ คำเดียวว่า "จะเอาๆๆๆๆๆๆๆ" ฝากพนักงาน TMB ไปคิดด้วยว่า สามัญสำนึก ที่ดีต่อสังคมนั้นควรทำอย่างไร เคสนี้นานๆมาที ไม่ได้มาบ่อย ถ้าคิดไม่ได้หรือคิดไม่เป็นก็ลาออกไปเลี้ยงเป็ดน่า จะเป็นอาชีพที่เหมาะสมที่สุด แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 11:41:54 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 11:34:41 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 11:32:19 จากคุณ : เล่นเองรวยเอง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 11:24:47

ความคิดเห็นที่ 111 เป็นแบบนี้ ทุกธนาคารค่ะ จากคุณ : someonesaysomething เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 11:26:28

ความคิดเห็นที่ 112 คห.#105 คำตอบในการขอกู้  น่าจะถูกต้อง จากคุณ : มดพัทยา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 12:33:54