|
ความคิดเห็นที่ 37 |
ผมว่าวิถีชีวิต และสังคมปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับส่วนหนึ่งว่า คนรวยทำไมรวยขึ้น แต่ทำไมคนจนก็ยังจนอยู่วันยังค่ำ ส่วนคนชั้นกลางก็ทำงานเพื่อเงินไปวันๆ
จริงอยู่คนคนจีนแค่เสื่อผืนหมอนใบ มาทำงานในประเทศไทย งานหนักเงินน้อย วันหยุดไม่มี แต่คนจีนเป็นคนประหยัด และรู้จักออม รู้จักลงทุน แล้วเก็บเงินมาลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันคนรุ่นอาก๋ง อาม่า หลายๆ ท่านมีเงินทองมากมาย มีกิจการให้ลูกหลาน
แต่คุณยอมรับไหมว่า วิถีชีวิต + สังคม ในปัจจุบัน มันไม่เหมือนเมื่อก่อน
เมื่อก่อนคนจีนมาเมืองไทยก็ทำงานกินค่าแรงไปวันๆ เก็บเงิน เพื่อเปิดกิจการ เริ่มต้นธุรกิจอะไร ร้านขายของชำ ขายอาหาร เทียบกับสังคมปัจจุบัน คนทำงานหลายคน (คนที่บ้านไม่ได้มีฐานะ) ทำงานเก็บเงินได้ยังไม่รู้เลยจะเอาเงินไปทำอะไร เพราะปัจจุบัน 7-11, เคเอฟซี, MK สุกี้ ฯลฯ เข้ามาแทนที่ธุรกิจต่างๆ ทำให้คนในปัจจุบันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นธุรกิจอะไร อย่างไร โอกาสลงทุนแล้วเจ๊ง มีเยอะกว่าเมื่อก่อนนะครับ สังคมปัจจุบันเป็นสังคมทุนนิยม การแข่งขันสูง ใครมีเงิน ใครเก่ง ใครคิดก่อนทำก่อนได้เปรียบ ไม่เหมือนสมัยก่อน
ดอกเบี้ยสมัยก่อนร้อยละ 15 สมัยผมยังเด็กๆ เมื่อก่อนแม่ผมบอกว่า ถ้าดอกเบี้ยดีอย่างนี้ บ้านผมต่อให้ไม่ทำงาน ก็มีเงินพอที่จะใช้จ่ายแบบประหยัดอยู่กันแบบสบายๆ ปัจจุบันดอกเบี้ยร้อยละ 0.50-0.75 ถ้ามัวแต่รอดอก เงินต้นคงจะหายหมดแบงค์แน่ๆ ถ้าไม่ทำงาน
สังคมสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีการโอ้อวด ไม่มีกิเลสยั่งยุเหมือนในปัจจุบัน (อาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่มากมายขนาดนี้) คงต้องยอมรับว่าสังคมสมัยก่อนมีแต่โทรศัพท์บ้าน ไม่มีมือถือ ไม่มี BB สมัยก่อนคุณใช้โทรศัพท์ หรือเพจเจอร์ตอนอายุเท่าไร สมัยที่เพจเจอร์ออกมาใหม่ๆ พ่อแม่คุณซื้อเพจให้ลูกตั้งแต่ประถมเลยหรือเปล่า ทุกวันนี้ผมเห็นเด็กประถม พกมือถือระดับ BB เครื่องละหมื่นกว่าบาท ผมอึ้งเลยว่าพ่อแม่เขาคิดยังไงให้ลูกพกโทรศัพท์ราคาแพง ไม่กลัวขโมยหรือโจรบ้างเหรอ ไม่กลัวว่าอันตรายจะเกิดกับลูกบ้างเหรอ เพราะว่าดูแล้วยังเด็กเกินไป นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ อยากจะได้ วัตถุนิยมเหล่านี้มาประดับบารมี ให้ดูดี มีหน้ามีตาไม่น้อยกว่าเพื่อนๆ หรือคนรอบข้าง นี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้คนปัจจุบันค่าใช้จ่ายหมดไปกับสิ่งฟุ่มเฟือยมากกว่าคิดว่าจะเอาเงินมาลงทุนทำอะไร
นอกจากนี้ยังมีอื่นๆ อีกนะครับ ถ้าคุณคิดให้ดีคุณจะรู้ว่า มันเป็นเรื่องของวิถีชีวิตและสังคมมากกว่า
แต่ผมคิดว่าการใช้อำนาจการปกครองก็มีส่วนเกี่ยวข้องนะครับ นโยบายต่างๆ ที่ออกมาส่งผลดีต่อใคร ยังไงอะไรอย่างนี้น่ะ ทำไมธุรกิจต่างๆ ถึงต้องเอาเงินไปสนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆ มีได้ ก็ต้องมีเสีย เป็นเรื่องปกติของโลกปัจจุบัน โลกของทุนนิยม
เท่าที่อ่านกระทู้ จขกท. พูดออกไปทางแนวการเมืองนิดๆ ทั้งๆ ที่เขียนท้ายกระทู้ว่างดโยงการเมือง แต่ จขกท. กลับเอาเรื่องที่โยงการเมืองมาโพสซะเอง
แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 21:57:44
แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 21:55:25
จากคุณ |
:
bigzaa
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ก.ย. 53 21:45:05
|
|
|
|
|