|
เกิดอะไรขึ้นครับ หุ้นลงมา 3-4 วันติดแล้ว??
|
|
กิดอะไรขึ้นครับ หุ้นลงมา 3-4 วันติดแล้ว??
เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น abcคะ?? ลงมาจากสัปดาห์ก่อนแล้ว 10%
-------------------------------------------------------
คำตอบคือ หุ้นลงมา 3-4 วันติดนั้นจิ๊บจ้อยเหลือเกินครับ ตคลาดหุ้นเวลาลงจริงๆ อย่าว่าแต่ 3-4 วันติด ลงต่อเนื่องกันเป็นเดือน , หรือหลายๆ เดือน หรือเป็นปีก็ยังเคยมี
หุ้นลงสัปดาห์เดียว 10% นั้นเล็กน้อยครับ วันนี้ไปเสริชหาหุ้นดู หลายๆ ตัว ตัวที่เคยโดดเด่นก่อนหน้านี้ หลายๆ ตัว ลงมาราวๆ 20% จาก high
ถามว่า น่าเล่นเด้งหรือเปล่า?? ---ไม่มีความเห็น
ถามว่ามันจะลงอีกนานมั้ย ---ไม่มีความเห็น
ถามว่าตลาดจะไปถึง 1000 จุดในเร็วๆ นี้มั้ย ---ไม่มีความเห็น
-------------------------------------
มาตั้งกระทู้ตอนนี้ แค่เพียงอยากจะบอก โดยเฉพาะกับมือใหม่ๆ ว่า
จากต้นสัปดาห์ ตลาดหุ้นเราทำ high เมื่อวันจันทร์ วันนี้วันพฤหัส ตลาดก็ลงมาอย่างที่เห็น
หุ้นบางตัวยังสวนขึ้นทำ new high อยู่ ในขณะที่หุ้นอีกหลายๆ ตัว ติดลบให้คนโอดครวญกันแล้ว
ซึ่งเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้..
อยากจะฝากบอกตรงนี้ว่า ที่เห็นหลายๆ กระทู้เริ่มโอดครวญกันแล้วในช่วงนี้ ว่า..
"นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในตลาดหุ้น.." เป็นเรื่องที่แสนธรรมดา เป็นธรรมชาติของตลาดหุ้น
ถ้าขาดทุนที่ตรงนี้ 10% ใน 4-5 วันทำการ เรารู้สึกว่ามันรุนแรง และโหดร้าย..
อยากจะฝากบอกว่า หากของจริงมาวันไหน มันจะหนักหน่วงโหดร้ายกว่านี้อีกหลายเท่า
ผมไม่ได้กำลังบอกว่าตลาดจะลงแรงนะ ตั้งใจนะมาบอกว่า.... "ถ้าตรงนี้ วันนี้ เราเริ่มรู้สึกว่าหนักหนาแล้ว ..จงหาเครื่องมือ หรือวิธีป้องกันความเสี่ยง หากเจอกรณีที่ร้ายแรงกว่านี้เอาไว้ให้พร้อม..
หากวันใดวันหนึ่ง ความโหดร้าย รุนแรง และเกรียวกราดมาเยือนจริงๆ เราจะได้มีสติ พร้อมรับมือ , ไม่ใช่มั่วแต่ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก แล้วปล่อยให้ความเสียหายเล็ก กลายเป็นความเสียหายใหญ่ขึ้นมา"
ขอเตือนแบบกว้างๆ นะครับ เพราะผมเองก็ไม่ชอบเจาะจงรายละเอียด เพราะรู้ว่า แต่ละคน มีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน
ได้แต่เตือนแบบกว้างๆ อย่างนี้..
เรื่องหนึ่ง ที่แนะนำเสมอๆ เวลาเห็นว่า ตลาดอยู่ในจุดที่มีความผันผวนสูงๆ คือเรื่องของการ "ปรับพอร์ต"
ปรับพอร์ตเรา ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ที่เราเห็น และความเสี่ยงที่เรารับได้ ปรับพอร์ตเรา ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ "ที่เรารู้สึก"
บางทีเครื่องมือ ที่เราใช้ อาจจะให้คำตอบที่เราพอใจไม่ได้ แต่เราสามารถ "ใช้ใจ" เป็นเครื่องมือที่ดีได้
ถ้ารู้สึกว่า "ใจเราเริ่มไม่ดี" หาทางทำให้ใจเป็นกลางๆ ถ้ามีหุ้นเยอะไป แล้ว "ใจไม่ดี ก็ลดพอร์ตลงหน่อย ให้พอดีกับใจ" ถ้ามีหุ้นน้อยไป แล้ว "ใจไม่ดี ก็เพิ่มพอร์ตขึ้นหน่อย ให้พอดีกับใจ"
พอร์ตเราเองนะครับ เล่นเท่าไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้อง ถือหุ้น100% , หรือล้างพอร์ต 0%
ปรับนิด ปรับหน่อย เราทำได้ครับ ไม่เป็นไร , และไม่ต้องห่วงเรื่องขั้นต่ำมากนัก แม้พอร์ตเราเล็ก เล่นน้อย ควรเสีย 20-30 บาท , แต่ขั้นต่ำกินไป 50 ก็อยากไปคิดมาตรงนั้น
บางที เพิ่ม หรือลดพอร์ต มากเกินใจตัวเองไป มันก็จะทำให้เรารู้สึกไม่ลงตัว
เพราะฉะนั้น แม้เราพอร์ตเล็ก , ก็ควรปรับพอร์ตให้ลงตัว ลงใจเรา อย่าไปเกี่ยงว่า ต้องซื้อเกินขั้นต่ำ (ถ้าห่วงเรื่องขั้นต่ำมาก ก็ย้ายไปโบรคที่ไม่มีขั้นต่ำ)
สำหรับคนพอร์ตใหญ่ๆ นั้น เชื่อว่า จะมีธรรมชาติในการปรับพอร์ตอยู่แล้ว แต่หลายๆ คน บางทีก็ยังใช้การปรับพอร์ตได้ไม่ดี
เพราะยังเคยชินกับการ "เลือกข้าง" หรือ แทงสูงต่ำ
จริงๆ แล้ว "การปรับพอร์ต" คือ "การไม่เลือกข้าง" ครับ
มันคือการแบ่งรับ-แบ่งสู้..
---------------------------------------
สรุป..
-สำหรับมือใหม่ ที่เพิ่งเล่นหุ้นได้ไม่นาน มาเล่นในตลาดขาขึ้น แล้วเริ่มรู้สึกว่า การที่หุ้นเราติดลบ 10-20% เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสากรรจ์
ฝากเตือนตรงนี้ ให้เตรียมเครื่องมือ หรือแผนกลยุทธ์ให้พร้อม หากเผขิญกับวันที่ "รุนแรงและเกรี้ยวกราด"
-ฝากเรื่องการปรับพอร์ต ให้ใช้เป็นเครื่องมือในการสู้ศึก ทะยอยขาย ทะยอยซื้อได้ , ขายไปดูไป ซื้อไปดูไป..
ขายหุ้นไปแล้ว กลายเป็นหมาไล่กันคนซื้อ แสดงว่าดี ให้หาขจังหวะทะยอยขายเพิ่ม .. ..หากขายแล้ว มันกลายเป็นหมูหวานๆ ในปากคนอื่น ให้หยุดขาย
ซื้อแล้ว ที่คิดว่า มันคือหมูหวานๆ , กลับกลายเป็นหมาดุๆ มาไล่กัด ให้หยุดซื้อ ..แต่หากซื้อแล้ว มันหมูหวานๆ ยิ่งเคี่ยวยิ่งหวาน ค่อยซื้อเพิ่มได้อีก
ฝากรวมๆ ไว้ตรงนี้ครับ
จากคุณ |
:
บุญทับ
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 53 23:47:11
|
|
|
| |