|
ความคิดเห็นที่ 28 |
^ ^ ^ ตอบ สาวพลังอิออน - มาตรฐานคือ slow sto นะ อย่างอื่นพี่ว่าเร็วเกิน (แค่ slow sto พี่ว่าบางทีก็ยังเร็วไป) มันแตกต่างในค่าเวลาที่เขาใช้เข้าสูตรเพื่อพล็อต ทำให้กราฟออกมาเหลื่อมกันไปบ้าง...แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
พี่และเท่าที่เห็นอีกหลายๆคน ใช้ slow sto ในทุกกรณีจ้า ไม่ใช้ sto ตัวอื่น
- VAD พี่ให้น้ำหนัก 15% (แท่งเทียน+BB 30%, Volume 25%, Slow sto 20%, VAD 15%, MACD 10%) พี่ใช้เพราะพี่รู้ว่ามันคืออะไรและอ่านมันออก
พี่เป็นพวก pure technical สำนัก fund flow (พวกที่ให้น้ำหนักกับกระแสเงินไม่น้อยกว่ารูปแบบราคา) แล้วก็เป็นพวกที่ไม่เชื่อใน indies แบบใดแบบหนึ่ง ฉะนั้นเวลาจะใช้ indies ก็ต้องการใช้ให้ครบทั้ง 3 กลุ่มคือทั้งกลุ่ม trend (MACD อยู่ในกลุ่มนี้้) momentum (slow sto อยู่ในกลุ่มนี้) และ volume (VAD อยู่ในกลุ่มนี้) พี่ไม่เห็นด้วยที่กราฟบางคนมีอินดี้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตะบี้ตะบันกันเข้าไป 2-3 ตัว อย่างที่บางคนใช้ RSI กับ slow sto หรือ MACD กับ ADX เพราะมันกลุ่มเดียวกัน ให้ข้อมูลประมาณเดียวกัน อัดเข้าไปซ้ำจะพาลตาลายเปล่าๆ
VAD เป็นตัวบอกว่าเงินที่เข้ามานี่เข้ามาเพื่อเก็บหุ้นหรือเพื่อมารับหุ้นที่กำลังโดนรินขาย สัญญาณซื้อขายโดยตัวมันเองจึงเชื่อไม่ค่อยได้ แต่มันจะไป confirmed slow sto อีกทีว่าสัญญาณซื้อขายของ slow sto นั้น...จริงหรือปลอม ในขณะที่ MACD จะเป็นตัวบอกเทรนด์ว่าขณะนี้เมิงกำลังซื้อหรือขายอยู่ในเทรนด์ใด (ซื้อในอัพเทรนด์-แม่น ขายในดาวน์เทรนด์-แม่น ตรงข้ามทั้งสองคือไม่ค่อยแม่น)
ถ้าถามถึงความเร็วของสัญญาณ VAD เร็วสุด slow sto รองลงมา MACD ช้าสุด อย่างกราฟวันของเซ็ตข้างบน VAD กระดกขึ้นแล้ว slow sto ยังต่ำเตี้ยอยู่เลย ขณะที่ MACD ก็ยัง sideway
พี่ถึงบอกไงว่าทะยอยเก็บได้...ด้วยความเสี่ยงที่เราพึงจะต้องมีความเชี่ยวชาญพอที่จะจัดการได้
เล่นหุ้น...ห้ามมั่ว ไม่ชัวร์ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ - อย่าเล่น เสี่ยงเกินแล้วเกิดพลาดขึ้นมาก็ไม่รู้จะจัดการยังไง - ก็ห้ามเล่น
เล่นเท็คนิคัล ขนาดพี่ rate ประมาณ 10 ทีพลาดทีเดียว ในทีที่พลาดนั้นถ้าเอาตัวรอดไม่ได้ก็หมด การกันเงิน มีแผนสำรอง รู้จักพลิกแพลงเวลาเกิดอะไรขึ้นจึงสำคัญไม่น้อยกว่าการอ่านกราฟเป็นจ้า
จากคุณ |
:
คราวนี้ ถามบาทนึงตอบร้อย คิกๆๆ (แท็กซี่นิรนาม)
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ย. 53 00:10:03
|
|
|
|
|