ความคิดเห็นที่ 1 มีคนบอกว่า ถ้าเราทำงานที่เรารัก จะไม่ค่อยได้เงิน แค่พอกินแล้วก็สุขใจไปวันๆ แต่ถ้างานที่ทำเงินเยอะๆ แล้วไม่ชอบ รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ทำงาน ก็เลือกเอาแล้วกันนะคะ จากคุณ : เด็กเกาะสมุย เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:17:20

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าน้องชอบงานทางด้านลงทุน ก็เก็บเงินจากเงินเดือนมาเล่นหุ้น ฉลาดในการเพิ่มค่าของเงิน ถ้าน้องชอบตัวเลข มีโชค สายตาดีมีวิสัยทัศน์ ไม่นานก็มีเงินเยอะ เก่งแล้วก็ร่ำรวย จากคุณ : เด็กเกาะสมุย เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:20:31

ความคิดเห็นที่ 3 พิมตกหล่นขอแก้ครับ "แต่ว่าอยากทำงานด้านการเงิน การลงทุนมากกว่าการทำด้านวิศวะ" ขออภัยครับ จากคุณ : เสือโหด เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:22:15

ความคิดเห็นที่ 4 ในฐานะรุ่นพี่ เครื่องกล อยากบอกว่า เสียดาย บุคคลากร ครับ จากคุณ : นายช่างปุ๊ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:34:15

ความคิดเห็นที่ 5 หาทางไปต่อ โทด้านการเงิน หรือ MBA ก่อนดีไหม ค่อยมาคิดว่าอยากทำอะไร หรือไม่ก็อาปริญญาโทไปหางานด้านอื่นแทนวฺศวะเลยก็ได้ ส่วนควาก้าวหน้ามีหลายปัจจัย เช่นจังหวะ โอกาส และความสามารถของเราเอง คิดจะลงทุน อย่าเอาเงินเดือนมาเนตัววัดทั้งหมด แต่ให้ดูโอกาสที่จะไปต่อยอดในอนาคตดีกว่า นะ จากคุณ : พ่อน้องนา เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:35:26

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนใหญ่จะรู้จักแต่วิศวะเครื่องกลที่ชอบงานสายวิศวะอยู่แล้วคะ แต่วิศวะที่หันมาทำการลงทุนก็มีเยอะ(แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว) ที่รู้จักกันตอนนี้ก็อย่างเช่น ดร.นิเวศน์ ถ้าสนใจการลงทุนจริงๆก็น่าจะลองทำงานวิชาชีพเดิมและเก็บเงินมาลงทุนนะคะ ถ้าไม่เที่ยวก็เก็บได้ไวค่ะ   ปล ทำงานวิศวะในบริษัทมหาชนบางแห่ง จะรู้ข่าววงในไว เก็บหุ้นสะดวกกว่าใครก็มีนะคะ  จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:37:11

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็จบวิดวะไฟฟ้ามา แต่ยังหันมาเอาดีด้านการลงทุนเหมือนกัน เล่นหุ้นก็สนุกดีครับ มันช่วยฝึกฝนให้เรารู้จักคิด วางแผน วิเคราะห์ว่าเราควรจะทำยังไงถึงจะเอาชนะตลาดหุ้นให้ได้ game money มันยากกว่างานที่เราทำโดยตรงซะอีกนะ จากคุณ : เป็ก (SOMBOON9) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:41:46

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อนที่วิดวะมารุ่นเดียวกับผม เค้าจบโทด้านการเงิน  เข้าทำงานแบงค์ อยู่ในสายงานสินเชื่อเพื่อการอุตสาหกรรม คือเค้าจะวิเคราะห์ความเป็นได้ในการกู้เงินไปลงทุนว่าคุ้มหรือเปล่า และแบงค์ควรจะปล่อยเงินกู้หรือไม่  เช่น ตั้งโรงงานนี้เหมาะสมหรือไม่ , line การผลิตเป็นไง ผลิตภัณฑ์จะออกมาดีหรือไม่  คือใช้วิชาชีพวิศวกรรรม มาวิเคราะห์เหมือนแบงค์จะตั้งโรงงานเอง ทำนองนี้ครับ  ถ้าวิเคราะห์ว่าตั้งได้  แบงค์ก้อปล่อยกู้ได้ ดังนั้น เค้าจะได้ใช้วิชาชีพ วิศวกรรม ควบคู่ไปกับ เรื่อง การเงิน การลงทุนครับ จากคุณ : นายช่างปุ๊ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:56:42

ความคิดเห็นที่ 9 ขอแนะนำว่าให้ไปทำงานสายวิชาชีพที่เรียนมาดูก่อนสัก 2 ปี แล้วมาวิเคราะห์ดูว่าเราชอบงานด้านนี้มั๊ย ถ้าไม่ชอบจริงๆ ก็รีบเปลี่ยนสายงานไปทางด้านเศรษศาสตร์-การเงินจะดีกว่า แต่ต้องยอมรับเงินเดือนที่ลดลงในช่วงแรกด้วยนะ ไม่ต้องไปยึดติดว่ามีประสบการณ์มาแล้ว 2 ปี ต้องไปต่อด้านเดิมนี่แหละเดี๋ยวเงินเดือนลดลง เพราะจริงๆแล้ว 2 ปีนี่น้อยมาก ไปด้านการเงินไปเร็วและกว้างกว่าสายวิศวะเยอะ ผมเองก็จบวิศวะเครื่องกล ทุกวันนี้ก็ทำงานประจำไปด้วย(สายช่าง) และเอาเงินสะสมมาลงทุนครับ จบมานานแล้วอยากเปลี่ยนก็ไม่ทันแล้วครับ อ้อ อีกอย่าง..ทำงานปีแรกๆอย่าพึ่งสร้างหนี้นะ มันจะเป็นตัวผูกมัดเราให้ทำอะไรลำบาก จากคุณ : LearningbyDoing เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 12:46:02

ความคิดเห็นที่ 10 เรียนมาด้านวิศวะก็ดีน่ะ มันช่วยให้เราคิดอย่างมีเหตุมีผล มีตรรกะ ใช้หลักวิทยาศาสตร์ ทำงานไปด้วย เรียนนอกเวลาสาขาที่เราสนใจ ไม่เสียหายอะไร มีความรู้หลากหลาย เวลาว่างก็รอจังหวะลงทุน ซื้อทิ้งปล่อยยาว รวยแบบเงียบๆ ความก้าวหน้าสายวิศวะเทียบกับสายบริหารคงต่างกัน แต่ก็อยู่ที่ความพอใจของเรา จากคุณ : WindReturn เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 13:14:09

ความคิดเห็นที่ 11 จบวิดวะคอมครับ ตอนนี้ทำงานสายการเงินเช่นกัน ทำในสิ่งที่ชอบดีกว่าครับ จากคุณ : esdgr (esdgr) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 13:32:53

ความคิดเห็นที่ 12 esdgr พี่ช่วยเล่าเสริมหน่อยว่า พี่ทำอะไรในสายการเงิน ทำมาแล้วกี่ปี เงินเดือนเท่าไหร ได้เรียนต่ออะไรไหม ขอบคุนคับ จากคุณ : เสือโหด เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 13:58:03

ความคิดเห็นที่ 13 แนะนำให้ทำงานด้านที่เรียนมาก่อนครับ เพราะเราถนัดสุดในด้านได้ใช้ความรู้ แม้ตอนนี้อาจจะรู้ตัวว่าไม่ค่อยชอบ แต่น่าจะทำได้ดีกว่างานด้านการเงิน ซึ่งควรจะศึกษาควบคู่กันไปก่อน ตอนนี้คิดว่าเร็วไปครับที่จะเปลี่ยนสายงาน ถ้าทำงานด้านการเงินไปแล้วมีปัญหา การแก้ปัญหาจะลำบากกว่าเพราะล้วนเป็นเรื่องใหม่ของน้อง ไม่เหมือนวิศวะที่เรามีทักษะจากความรู้ที่เรียนมา เป็นวิศวกรไปสักพักหนึ่งก่อน แล้วศึกษาด้านการเงินการลงทุนไปด้วย น้องก็จะได้ความรู้ และยังมีรายได้ที่อาจจะลองแบ่งมาลงทุนดูเพื่อศึกษาจริงไปด้วย อีกอย่างเวลาอาจจะช่วยให้น้องตกผลึกได้ว่าตัวเองควรจะเลือกทางไหน โดยส่วนตัวก็ทำงานด้านวิศวกรรมมาสิบกว่าปี ก่อนที่จะผันตัวเองไปทำอย่างอื่น ขอให้น้องโชคดี จากคุณ : รุ่นพี่ต่างสถาบัน (ริชแมน) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 14:40:11

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไปเลยครับ ถ้าชอบ ผมจะบอกให้นะ วิชา Eng Econ เรียนลึกกว่า Fund Fin 1-2 เสียอีก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ก็จบ วิศวะมา เครื่องกลด้วยมั้ง แนะนำเรียนโท Eng FIN ไปเลย ไปสอย CFA มาด้วย ทำงาน BOT ด้วยนะ รับรองแหล่ม จากคุณ : Supremo เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 14:44:19

ความคิดเห็นที่ 15 จบไฟฟ้ามา20กว่าปีแล้ว ไม่เคยได้ทำงานแบบที่เรียนมาเลย ไปตามหัวใจน้องเลยครับว่าชอบอะไร หลานชายผมพึ่งจบตรี abac แกไปเรียนทำอาหารต่อเลย ขอให้ได้ทำตามที่ใจชอบและขอให้มีความสุขกับมันครับ จากคุณ : โต้คลื่น เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 16:24:41

ความคิดเห็นที่ 16 ทำงานทาง  วิศวะนะดีแล้ว   ดูจากรอบๆตัว ผม  คนที่ยังทำอาชีพวิศวะ  ที่เป็นลูกจ้างบริษัท  มั่นคงทั้งเงินเดือนและการงาน   ปี40ที่ตกงานกันมากๆ    วิศวะ ตกงานน้อยกว่า  ยิ่งพวกที่อยู่ รง ผลิตสินค้าส่งออก  ยิ่งต้องทำโอด้วยซ้ำ เรามักฝันว่าจบวิศวะไปเรียนต่อ MBA  แล้วจะไปทำงานสายการเงิน จะชนะคนที่เรียนสายตรงมา   ทั้งตรีและโท  แล้วยังมี พวกสายตรงจบจากเมืองนอกมา   ผ่านการฝึกงานกับบริษัท ชื่อดังทางสายเงินธนาคารในเมืองนอกมาแล้ว   บุคคลที่ยกตย มาด้านบน  จะมีสักกี่ึคนที่ทำได้   คุณจะโชคดีเหมือนท่านเหล่านั้นไหมล่ะ จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 17:02:28

ความคิดเห็นที่ 17 จบวิศวะไฟฟ้ามาเหมือนกันประมาณ 10 ปี ทำงานสายวิศวะไป 2 ปี เลื่อนไปทำงานสายบริหารอีก 2 ปี สุดท้ายมาทำธุรกิจส่วนตัวจนปัจจุบัน(ออกเพราะตันจากอายุวุฒิของตัวเรา) แค่อยากบอกว่าที่เรียนมาเป็นพื้นฐานสำหรับวิธีคิดในการแก้ปัญหา และการเผชิญปัญหาส่วนการทำงานจริงนั้น จะยากลำบากในอีกรูปแบบหนึ่ง คือเรื่องคน ซึ่งเป็นจุดอ่อนของสายวิศวะเลย ที่น้องต้องทำการเรียนรู้อย่างจริงจังขึ้น < แนะนำ เหตุที่่อ่อนด้านคนนั้น เพราะวิศวะจะเน้นเรียนในระบบที่มีการตอบสนองที่แน่นอน มากกว่าระบบของคนมากนัก (อันเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน) ตอนทำงานได้แง่คิดมาอย่างนึงคือ หัวหน้าเราหรือผู้จัดการ ไม่จำเป็นต้องเก่งเท่าเรา แต่เค้าสามารถใช้งานเราได้ และมีเงินเดือนมากกว่าเรา ^^" ซึ่งถึงตรงนี้ต้องย้อนมาถามตัวเองอีกว่า เราทำงานเพื่ออะไร ถ้าคำตอบออกประมาณว่า 1.หาเงิน ... ฉะนั้นงานอะไรก็ได้ ขอแค่สุจริตมีเงินใช้ และมีความสุข ก็เรียนรู้ไปเลยให้มากพอ 2.พิสูจน์ตัวเอง ... ฉะนั้นควรเริ่มจากที่เราถนัด คือสายวิศวะไปก่อนแล้วค่อยขยับขยาย ต่อโท จะมีความสุขกว่า 3.ไม่รู้เพื่ออะไร ... ก็ควรจะย้อนไปข้อ 2 ก่อน แล้วค่อยคิดอ่านต่อไป หรือว่าจะเรียนต่อเลยก็เป็นทางเลือกที่ดี สุดท้าย ไม่ว่างานไหนก็จะเกี่ยวกับเงิน คน และทักษะ เสมอ ขอบอก เช่น ลงทุนในหุ้น เกี่ยวกับตัวเอง เงิน และการบริหารเงินกับบริหารตัวเอง ทำงานในบริษัทการเงิน ก็จะเกี่ยวกับ คนรอบข้าง ลูกน้อง หัวหน้า ตัวเอง เงิน และการจัดการ ทำงานในสายวิศวะ ก็จะเกี่ยวกับ คนรอบข้างเหมือนกัน แต่เรื่องเงินอาจจะน้อยสักหน่อย และการจัดการ ส่วนเรื่องบริษัท ต้องทำการบ้านเอาเองว่าเราต้องการอะไรกันแน่ ซึ่งคงไม่ยากไปกว่าทำโปรเจ็คจบหรอกน่า ^^ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 17:07:55

ความคิดเห็นที่ 18 คุณชาติศิริ BBL ดร.ประสาร KBANK คุณวิชิต SCB สามคีย์แมนจากสามแบงค์ใหญ่ ทุกคนจบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์หมดครับ แต่แนะนำว่าอย่าไปทำสายสินเชื่อเลย น่าเบื่อ เจอแต่พวก Conservative จากคุณ : French Vanilla เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 18:51:02

ความคิดเห็นที่ 19 ^^^ ข้างบนว่าใคร ... ท่านประธานคะ ขอช้สิทธิ์พาดพิงค่ะ จากคุณ : เด็กเกาะสมุย เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 19:48:08

ความคิดเห็นที่ 20 เรียนมาทางวิศวะ ทำงานตรงสาย แค่ปีเดียว แล้วทำด้านการเงินตามที่ชอบ อยากบอกว่า ให้น้องอดทนทำงานด้านที่เรียนมา ให้ได้สัก 5 ปี จะได้เป็นผู้เชียวชาญ จะกลับไปกลับมาจะได้สะดวก และจะได้วัยวุฒิ มากขึ้น ได้ความสุขุม ใจเย็น อะไรประมาณนี้ แล้วค่อยมาด้านการเงินก็ ยังไม่สายครับ จากคุณ : บินวน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 20:06:43

ความคิดเห็นที่ 21 กำลังไล่เรียงดูคลิป มันนี่ ทอล์ค สมัยที่ ทีม ดร. ไพบูลย์ ดร. นิเวศน์ ดร. ถาวร และ คุณเสน่ห์ สัมภาษณ์ นักลงทุน วีไอทั้งหลาย ... โห จบ วิศวะกันเยอะมาก .... คุณ ฉัตรชัยเป็นต้น .... (เพิ่งดูล่าสุด) แม้ ดร ไพบูลย์ เองก็ยังบอกว่าตอนเรียนวิศวะอยู่ก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า ชอบสายอื่น แต่ ... อุตส่าห์เรียนมาทั้งที ในสถาบันที่น่าจะได้รับความรู้สุดยอดวิชา ... จะ +ลองวิชา+ ซักหน่อยก่อนไหม .... แนะนำว่า การเงิน การลงทุน เริ่มเเบบ เรียนเองได้เลย ค่อยๆดูลู่ทาง ทำในสิ่งที่รัก มี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ย่อมไปสู่ความสำเร็จ .... ชัวร์ ขอให้โชคดี .... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 22:38:42 จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 22:31:16

ความคิดเห็นที่ 22 สำรวจตัวเองก่อนว่าชอบทำงานด้านการเงินจริงหรือเปล่า แล้วเปลี่ยนไปเลย ไปหาเรียน MBA MS Finance ต่อยอดก็ดี ล่าไลเซ่น CFA, CISA เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ทำไปซักพักเงินเดือนก็จะตามมาเอง แต่บอกก่อนว่า มันดีทั้งสองสายนั่นแหละ จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 05:31:00

ความคิดเห็นที่ 23 ก็เสียดายค่าใช้จ่ายของรัฐกับวิชาชีพในสายที่คุณเรียนมาครับ ยังไงก็หาทางชดใช้คืนหลวงบ้างโดยทำงานในสายที่น้องเรียนมาสักระยะเวลาหนึ่งก่อน นี่พูดในฐานะรุ่นพี่คณะของคุณนะครับ ส่วนตัวผมก็ยังทำงานในสายวิชาชีพอยู่ แต่ก็เข้าใจดีครับว่าเพื่อนๆร่วมรุ่นหรือรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไปเอาดีทางสายการเงินเต็มไปหมดครับ สายวิชาการสุดท้ายมันก็ตัน ก็ต้องหาทางไปต่อทางสายบริหาร หรืออื่นๆเพื่อความก้าวหน้า คุณลองเช็คประวัติประธานบริษัทฯการเงินดังๆแต่ละคนดูได้ครับ (ไม่ขอระบุนาม) วิดวะทั้งนั้น จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 12:26:13

ความคิดเห็นที่ 24 รู้สึกว่าเราน่าจะตั้งใจเรียนวิชา Eng Econให้มากกว่านี้ ...ไม่น่าเรียนพอสอบผ่านเล๊ย TT^TT ตอนนี้ผมก็ทำงาน วศ.(กลายๆ)กับสายการเงินไปด้วยกัน เพียงสาย วศ. มีเจ้านายเป็นคนอื่น แต่สายการเงิน มีเจ้านายเป็นตัวผมเองแค่นั้นเอง ... จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 15:26:58

ความคิดเห็นที่ 25 วิชาเศรษฐศาสตร์วิศวกรรมเป็นวิชาที่มีประโยชน์มาก ผมรับรองได้เลย จากคุณ : Dr. Manhattan เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 14:35:32

ความคิดเห็นที่ 26 ทำสิ่งที่ชอบดีกว่าครับ ตอนนี้อาจจะยังเร็วอยู่ที่จะรู้ว่าชอบอะไร ก็ทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องเสียดายวิชาวิศวะที่เรียนมาครับ มันเป็นพื้นฐานสำหรับการเรียนวิชาการเงินการลงทุนที่ดี ... ผมก็จบเครื่องกล.. แต่ทำงานด้านการเงินอยู่ครับ สนุกดีนะ.. จากคุณ : naipui เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 21:02:17