|
ความคิดเห็นที่ 3 |
ถ้าไม่มีภาระ เรื่องครอบครัว เรื่องบ้านเรื่องที่ดินเรื่องรถอะไรต่อมิอะไร และยังมีเงินออม เงินเย็นที่เรายังสามารถประทังชีวิตไปได้ ก็อาจจะพอไปกันได้ การเล่นหุ้นเป็นอาชีพหลักไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างผมปัจจุบันก็เล่นเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ และยังมีอาชีพเสริมเป็นการวางระบบเซิร์ฟเวอร์ สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการที่ต้องอยู่กับบ้านและนั่งเล่นหุ้นก็คล้ายๆกับคุณ คือต้องอยู่ดูแลคุณย่า ซึ่งอายุก็มากมายซะเหลือเกิน แต่ลูกหลานก็บอกว่าไม่เป็นไรเงินมีให้ได้ แต่ขอให้อยู่ดูแลคุณย่าเท่านั้น ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ดูแลคุณย่ามากมาย แถมคุณย่ายังดูแลผมเองอีกซะนิ หาข้าวหาปลาให้กินเหมือนเลี้ยงหลานเล็กๆประมาณนั้น ประเด็นสำคัญผมคิดว่า คนเราเมื่อแก่ตัว เงินทองที่มี มันไม่สำคัญเท่ากับเรื่องของเวลาที่จะอยู่กับลูกหลาน เค้าคงอยากจะให้คุณอยู่ด้วยกันทุกวัน ได้คุยกันหรือทำกิจกรรมครอบครัวออกไปเที่ยวซื้อของด้วยกัน นั่นน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่า เพราะเมื่อแก่ตัวคนเราก็คงคิดว่าเวลาเหลือน้อย อยากอยู่กับคนที่รักมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
ดังนั้นไม่ต้องกังวลหรอกครับ ดูหุ้นนั่งดูพอร์ท ไม่ขายไม่ขาดทุน เงินก็ลงเป็นหุ้นกินระยะยาวกินปันผลไม่ต้องเสี่ยงมาก ก็น่าจะไม่ต้องกังวลอะไรมาก เกษียณจาก บ.เอกชนน่าจะมีเงินเก็บบ้างอย่างน้อยก็ประมาณ 5 ล้านบาท หาหุ้นดีๆกินปันผลยาวๆปีละประมาณ 250,000 (ตกเดือนละ 20,000) แค่นี้ก็พอเพียงแล้ว นอกนั้นก็ใช้ชีวิต ใช้เวลาให้มีความสุขกับครอบครัว กับคนที่คุณรัก
อย่างผมก็ตื่นมา 8 โมง ทานข้าวอาบน้ำดูข่าว อ่านข่าวนั่งฟังโบรควิเคราะห์แล้วก็เล่นหุ้นไปตามอารมณ์ 10 โมงก็นั่งดูนั่งมองหุ้นแล้วก็อ่านกระดานสินธร ว่าเค้ามีข่าวอะไรอัพเดทสนุกสนานกันบ้าง แล้วก็เล่นๆหาเงินไป อย่าไปเครียดอะไรกับชีวิตมากคนเราเกิดมาไม่กี่เดือนไม่กี่ปี ใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยกันอย่างมีความสุข แค่นี้ก็น่าจะมีความสุขแล้วไม่ใช่หรือกับการมีชีวิตกับเขาซักชาติหนึ่ง
จากคุณ |
:
venezier
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ย. 53 22:29:25
|
|
|
|
|