ความคิดเห็นที่ 1 อยู่ที่มือที่มองไม่เห็นคนเดียวว่า จะเห็นแก่ตัว หรือ จะเห็นแก่ปชช.ส่วนใหญ่ของประเทศ.......... จากคุณ : เด็กเอบวก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 21:42:17

ความคิดเห็นที่ 2 อ่า ลืมหมายเหตุไป ผมถือหุ้น dtac อยู่ 10% ของ port มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ครับ อิ อิ จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 22:00:51

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่มีการประมูล 3จี TOT กสท ได้เปรียบครับ คนเสียเปรียบคือ เอกชน และประชาชน ได้เปรียบจากอะไร ได้จาก เงินค่าสัมปทานในระบบ 2จี ที่ต้องจ่ายอยู่ปีละหลายหมื่นล้าน ซึ่ง TOT กสท เอาไปกินใช้กันเละเทะ ซึ่งดูจาก เงินที่ส่งเข้า คลังได้ ผู้ที่เสียเปรียบ คือเอกชน เสียเปรียบอย่างไร คือ ในระบบ 2จี การสร้างระบบเครือข่ายทั้งหมด เท่าไร จะต้องยกให้กับ TOT กสท ไปทั้งหมด แล้ว TOT กสท จะให้เป็นสิทธิ ในการใช้ทรัพย์สิน นั้นๆ ซึ่งถ้า เปลี่ยนจาก 2 จี และ 3 จี บน สัมปทาน เดิม เอกชน ก็จะต้องสร้าง ระบบเครือข่าย และยกให้กับ TOT กสท อีกเหมือนเดิม และจะต้องจ่ายค่าสัมปทาน เหมือนเดิม อีก ผู้ที่เสียเปรียบ คือ ประชาชน เสียเปรียบอย่างไร เราก็จะใช้ เทคโนโลยี ที่แพง เนื่องจาก จะโดน 2 องค์กร ขูดรีดจากเอกชน และเอกชน ก็จะต้องผลักภาระมาแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีเอกชนรายใด จะลงทุนให้ตัวเองขาดทุน แน่นอน ส่วนถ้าสามารถ มีการประมูล 3จี สำเร็จ ผู้เสียเปรียบคือ TOT กสท เพราะจะต้องขาดรายได้ ปีละ 3-4 หมื่นล้านไป ซึ่งรายได้ ตรงนี้ ถ้าดูกันให้จริงๆ ไม่เคยที่จะส่งเข้าคลัง เลย ถึงจะส่งก็น้อยมาก และอีกอย่าง 2องค์กรนี้ ถูกตั้งให้เป็น มหาชน มานานแล้ว ไม่ใช่รัฐ อีกต่อไป ซึ่งก็ต้องสรุปได้ว่า รัฐ ไม่เสียเปรียบ ถ้าเกิดมีการประมูล 3 จี ผู้ได้เปรียบ ถ้าเปรียบเทียบ ระหว่าง 3 โอโปเรเตอร์ 1. dtac ได้เปรียบสุด เพราะปัจจุบัน dtac จะต้องจ่ายค่าสัมปทาน เป็น % ของรายได้ให้กับ 2 องค์นั้น ถึง 25% ก็จะเปลี่ยนเหลือ แค่ 6% ตามสัญญา ตามกฏหมาย กทช. ที่ ออกในปี 40 ที่จะเข้า คลังโดยตรง เพราะฉะนั้น dtac จะได้เปรียบสุด 2. true ได้เปรียบรองมา เพราะปัจจุบัน true จ่ายอยู่ 18% ก็จะเปลี่ยนเหลือแค่ 6% 3. advanc จ่ายเพิ่ม 6% เนื่องจากปัจจุบัน เป็นคู่สัญญา กับ องค์การโทรศัพท์ ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทาน จากคุณ : ไก่อลาสก้า เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 22:02:20

ความคิดเห็นที่ 4 ผมอยากให้ยุบ 2 องค์กรนี้จริง ๆ ทั้ง ทีโอที และ กสท. แข่งขันกับเอกชนไม่ได้ ก็ยุบไป จากคุณ : ขอแฟนรวย เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 22:31:17

ความคิดเห็นที่ 5 คุณเด็กเอบวก ย้ำคิดย้ำทำไปหน่อยมั้ย ? จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 23:55:36

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องเทคนิค อย่าไปใส่ใจมาก ลูกค้าเอง ก็ไม่สนใจเหมือนกัน และที่ลูกค้าสนใจก็คือ ราคา ถ้าต่อสัญญาที่เป็นอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่นับ tot ก็ต้อง ais เพราะต้นทุนต่ำสุด ฐานลูกค้าเยอะสุด ต่อให้อัพเกรดใหม่ ก็ยังคืนทุนเร็วสุด เพราะฐานลูกค้า ปล คห.3 ในข้อที่ 3 ais ก็จ่ายค่าสัมปทานอยู่ที่ 20 25% ไม่ใช่ว่าไม่ต้องจ่าย จากคุณ : Pigou เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 00:10:29

ความคิดเห็นที่ 7 ขอให้ข้อมูลนิดหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการอัพเกรดจาก2G เป็น3G ต้องอธิบายก่อนว่าอุปกรณืน่ะมีอยู่สามส่วนคือ 1) Radio Access พวกเสาสัญญานที่เห็นอยู่ทั่วไปตามยอดตึก ห้องแถว และกลางทุ่ง ส่วนนี้ ถ้าจะอัพจาก 2G ไป 3G จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ A) ส่วนเสาอากาศ แท่งขาวๆที่อยู่บนยอดเสา โดยส่วนเสาอากาศขึ้นอยู่กับความถี่ที่ใช้และส่วนของความแรงของสัญญาณ (Gain) B) ตู้BTS (Base Transceiver Station) โดยที่ 3G จะเรียกว่า Node B (Node BTS) อย่างไรก็ตามส่วนที่เป็นค่าเช่าที่ เสาเหล็กที่สร้างขึ้นสำหรับจับยึดเสาสัญญาณ รั้ว ระบบไฟสำรอง และอื่นๆ (หมวดนี้ ปรกติเรียก Site Acquisition) ใช้ของเก่าได้เกือบหมดครับ 2) Transmission พวกอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อ BTS กลับมาที่ชุมสาย ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับชนิด a) Fiber Optic ผู้ให้บริการ ถ้าเป็น AIS ส่วนใหญ่จะเช่า ADC ใช้ซึ่งไม่ต้องลุงทุนใหม่ ดีแทคก็เช่า UIH ใช้ TrueMove ก็เช่า True ใช้ การลงทุนส่วนใหญ่ของ Fiber Optic จะลงไว้เยอะมาก เพราะการไปเปิดถนนมาวางสายFiberต้นทุนแพงมาก ดังนั้นจะลงทุนเผื่อไว้เยอะมาก ดังนั้นแค่ขยายอุปกรณ์รับปลายทางและส่งต้นทางก็เรียบร้อย b) Microwave จะเห็นเป็นจานกลมๆ สีขาวๆที่ติดอยู่บนเสาสัญญาณ ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของอุปกรณ์ 3G Transmission จะเป็น IP base ของเก่าที่เป็น TDM จะใช้ไม่ได้ ต้องซื้อใหม่ TrueMove ใช้ Microwave เยอะสุด จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่เช่าใช้ยังไงก็ไม่ต้องลงทุนเองมาก จะมีก็Microwaveที่ต้องเปลี่ยนซึ่งก็ใช้ไม่มาก 3) Core Switching หรือ อุปกรณ์ชุมสาย ส่วนนี้จะแบ่งหลักๆเป็นส่วน Circuit Switching (บริการเสียง) และ Package Switching (บริการด้านข้อมูล - สำหรับต่ออินเตอร์เน๊ท) ทั้งสองส่วนนี้ ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้ง 2G และ 3G (สามารถอัพเกรดเป็น 4Gได้ด้วย) เพียงแค่มีการ Activate Software เท่านั้น จะเห็นได้ว่าบริการเสียงที่ใช้อยู่ปัจจุบันคงไม่ต้องเพิ่มอีกแล้ว (ต่อให้มีมือถือสองเครื่องแต่คงคุยได้ที่ละเครื่อง) แต่ในส่วนของการใช้บริการข้อมูลคงต้องเพิ่มขึ้นเมื่อมี 3G เพราะความเร็วในการสื่อสารมากขึ้น ปริมาณการใช้ข้อมูลก็มากขึ้น แต่ก็เป็นเพียงการขยาย ไม่ได้ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด จะเห็นได้เลยว่าที่บอกว่า3Gต้องลงทุนใหม่ทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องที่บอกไม่ครบ เงื่อนไขที่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมดเนื่องจากโครงข่ายปัจจุบันอยู่ใต้สัมปทาน ดังนั้น จะตกเป็นของ TOT และ CAT ผู้ประมูลได้ใบอนุญาตใหม่ AIS DTAC TrueMove จำเป็นต้องแยกทรัพย์สินออกจากกันอย่างชัดเจน ตามเงื่อนไขของ กทช. และป้องกันการสับสนในช่วงการถ่ายโอนอุปกรณ์คืนเจ้าของสัมปทาน ถ้าอยู่ใต้สัมปทานเดิมแต่อัพเกรด 2Gไป3G การลงทุนจะต่ำกว่ามาก อย่างไรก็ตาม ปริมาณเงินที่ต้องลงทุนก็ยังมีอยู่และช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากทำให้ผู้ให้บริการไม่อยากลงทุน มาในส่วนของความถี่ จะต้องบอกว่า DTAC ได้เปรียบมากที่สุด เนื่องจากในสัมปทานดีแทคมีความถี่ 850 และ 1800 MHz เพื่อให้บริการในเชิงCommercialได้ AIS มี 900 และ 1800 (ผ่านบริษัทลูก DPC) TrueMove มี 1800 MHz อย่างเดียว (ไม่นับ แบน850ที่ไปของ CATมาเพื่อทดลองให้บริการ 3G อยู่ตอนนี้) จะเห็นได้ว่า ช่วงความถี่ 850 มีการให้บริการ 3G ใน ผู้ให้บริการใหญ่ๆเช่น AT&T USA, Telstra Australia, etc. ซึ่งเป็นผลให้ผู้ผลิตมือถือสร้างเครื่องให้สามารถใช้บริการในแบน 850 อย่างมาก เช่น IPhone 3G/4G, IPAD, BlackBerry ในขณะที่แบน 900 และ 1800 ไม่เป็นที่นิยมมากนัก หาเครื่องที่รองรับลำบาก อย่างไรก็ตามแบน 1800 สามารถที่อัพเป็น LTE (Long Term Evolution - 3.95G เกือบจะเป็น 4G อยู่แล้ว 4G ถูกเรียกว่า LTE Advanced ตามมาตราฐาน ITU) คิดง่ายๆ ประเทศอื่นเขาอัพ 2G เป็น 3G แล้ว ความถี่ของ2Gก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็เลยเอามาใช้ทำ 4G ซะเลย เทคโนโลยี LTE ตอนนี้มีประเทศที่เริ่มให้บริการแล้วใน Sweden และ Norway (ถ้าจำไม่ผิด) และมีแผนจะเปิดให้บริการในปีหน้าอีกมากกว่า 20 operator ทั่วโลก เช่น NTT DoCoMo Japan, AT&T USA, SKT Korea, etc. นี้ยังไม่นับอายุสัมปทานที่ DTAC เหลือมากสุด 8ปี ดังนั้น ภายใต้สัมปทานเดิม ถ้า Board CATอนุมัติให้อัพเกรดเทคโนโลยีได้ไม่จำกัด DTAC น่าจะไปได้ไกลสุดครับ   เพิ่มเติมนิดหน่อย DTAC มีสถานีฐาน3G 850 อยู่ประมาณ 60 สถานี ใช้เพื่อการทดลอง รอการอนุมัติเพื่อให้สามารถทำ Commercial จาก ครม.อยู่ ถ้าอนุมัติก็จะขยายต่อ TrueMove มีสถานีฐาน3G 850 อยู่ประมาณ 600 สถานี ใช้เพื่อการทดลอง ครอบคลุมกรุงเทพและหัวเมืองต่างๆเรียบร้อย ดูได้ในเว็ปของทรูเลยครับ AIS มี 3G 900 อยู่ที่เชียงใหม่ ชลบุรี และหัวหิน จำนวนไม่มาก อีกอย่างความถี่ในกรุงเทพถูกใช้งานค่อนข้างเต็มแล้ว ถ้าต้องเตรียมความถี่มาใช้สำหรับ 3G อาจกระทบคุณภาพการให้บริการของ 2G ส่วนใหญ่เขาไม่อัพเป็น3G หมดครับ เพราะบางพื้นที่ปริมาณการใช้ข้อมูลไม่มาก ก็คง2Gไว้ก็ได้ครับ อีกอย่าง เป็น Overlay เผื่อ 3G เดี้ยงก็ให้บริการได้ ถ้าอัพหมดVendorรวย Operatorลงทุนเยอะแต่บริหารง่าย Userก็ต้องใช้ที่ราคาแพงไปเพราะOperatorเขาก็คิดเงินที่ลงทุนไปเยอะกับเรา แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 01:15:56 จากคุณ : ตี๋ต่อ (ตี๋ต่อ) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 00:49:07

ความคิดเห็นที่ 8 3,4 อาหารสมอง ส่วน 1 = junk food จากคุณ : unkul เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 06:21:00

ความคิดเห็นที่ 9 dtac มีคลื่นความถี่ 850 ด้ายครับ ซึ่งไม่ได้เอาไปใช้ใน 2G สามารถนำไปพัฒนาเป็น 3G ได้โดยไม่กระทบกับ 2G ของตนเอง (ตอนนี้เอาไปใช้ในการ trial 3G ใน กทม. แล้วก็แบ่งไปให้ True trial ด้วย) คลื่นความถี่ 1800 ยังไม่เคยเห็นใช้พัฒนาเป็น 3G เลย อีกเรื่องก็คือเอาไปใช้ลำบอก เพราะใน กทม ความถี่ยังไม่ค่อยพอใช้กันเลย จากคุณ : logarithm เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 08:40:05

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ คุณ Pigou ให้ความรุ้เพิ่มครับ จากคุณ : ไก่อลาสก้า เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 08:54:05

ความคิดเห็นที่ 11 ทาง DTAC เคยออกข่าวว่าไม่สนใจประมูล 3G เพราะเขาพัฒนา LTE จากคลื่นเดิมได้เลย แต่ผมคิดว่าประมูลไป ก็ได้โอกาสที่ไม่ต้องเสียค่าสัมปทาน น่าจะมีผลประโยชน์มากกว่า อีกอย่างคือ การลงทุนใน LTE น่าจะมีต้นทุนที่สูงมาก เพราะเป็นเทศโนโลยี่ที่ใหม่ ทำให้ ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ยังแพงอยู่มาก แม้แต่ในญี่ปุ่นเอง ก็พึ่งจะเริ่มใช้จริงจังในปีนี้เอง ความเร็วตามมาตราฐาน LTE จะประมาณ 360 Mbps, LTE Advanced ประมาณ 1 Gbps แต่ใช้งานจริงก็ลดลงไปมาก จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 09:07:18

ความคิดเห็นที่ 12 สงสัยเรื่อง Coverage area ของความถี่ 2,100 MHz เพราะน่าจะครอบคลุมไม่ได้มาก ทำให้จำนวนสถานีฐานจะต้องเพิ่มขึ้น ทำให้น่าจะต้องเพิ่มสถานีฐานมากขึ้น ไม่ได้ใช้ ร่วมกับของคลื่นเดิมมากนัก ดังนั้นการลงทุนร่วมกันในการตั้งสถานีฐานของแต่ละค่าย น่าจะทำให้ต้นทุนรวมลดลง ได้มาก แต่น่าจะต้องมีคนกลางที่มาบริการในส่วนนี้ จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 09:13:02

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับความคิดที่ 3 โปรดพิจารณาเสียใหม่ว่ามันถูกต้องหรือไม่ 3. advanc จ่ายเพิ่ม 6% เนื่องจากปัจจุบัน เป็นคู่สัญญา กับ องค์การโทรศัพท์ ***ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทาน*** จริงหรือ??? เป็นไปได้หรือ??? จากคุณ : อิสระทางความคิด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 09:17:58