ความคิดเห็นที่ 1 หลักฐานที่เตรียมไปด้วย - บัตรประชาชน และ เงินที่ใช้เปิดบัญชีธนาคาร และเงินลงทุนในกองทุนเริ่มต้น (ครั้งแรกขั้นต่ำ 5,000 บาท) เริ่มต้นจาก เปิดบัญชีธนาคาร พร้อมระบุแจ้ง จนท. ให้ชัดเจนว่าต้องการขอใช้บริการ SCB Easy Net ด้วยทันที ถ้าไม่ต้องการทำบัตร ATM หรือ Debit Card ครับ เพื่อที่จะได้เปิดใช้บริการ SCB Easy Net ได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการภายหลัง แต่ก่อนที่จะตกลงเปิดบัญชีธนาคาร ถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนก่อนว่า มีซองรหัส Login Name และ Password สำหรับ SCB Easy Net ให้หรือเปล่า ...... ถ้าไม่มี อาจจะต้องเปลี่ยนสาขาไปเลยครับ..... หรือถ้ายอมทำบัตร ATM ก็หมดปัญหา เพราะจะสามารถมาสมัครใช้บริการ SCB Easy Net ด้วยตนเองภายหลังได้ครับ และเมื่อเปิดบัญชีธนาคาร (พร้อม SCB Easy Net ได้แล้ว) ขอเอกสารสำหรับ - การเปิดใช้บริการกองทุน : เพียงครั้งแรกครั้งเดียว เพื่อจะได้มี เลขผู้ถือหน่วยลงทุน (12 หลัก) ไว้ทำรายการ กับกองทุน - การขอออก Fund Book : สำหรับกองทุน SCBTMF ไว้สำหรับตรวจสอบมูลค่าการลงทุน - การเขียนใบคำสั่งซื้อกองทุน : ด้วยขั้นต่ำในการเริ่มต้นลงทุนครั้งแรก เพียง 5,000 บาท ครั้งต่อไปสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ได้ครับ ในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เริ่มต้นกับ SCBTMF กองทุนเดียวก่อนครับ....... แล้วค่อยมาเริ่มต้นกับกองทุนอื่นอย่างเช่น SCBDV ภายหลังผ่านทาง SCB Easy Net ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 23:05:58

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับการขอใช้บริการกองทุน ควรผูกกับบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ได้เปิดใช้บริการ SCB Easy Net เอาไว้ด้วย เพื่อจะได้ไว้ทำรายการเพิ่มเติมผ่านทาง SCB Easy Net ได้ด้วยตนเองตามต้องการ ส่วนการลงทุนกับ SCBDV อาจจะใช้การทำรายการซื้อโดยตรงโดยัดเงินจากบัญชีธนาคาร หรืออาจจะสำรองเงินลงทุนไว้ใน SCBTMF ก่อนแล้วเมื่อมีจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม หรือจะทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ค่อยทำรายการสับเปลี่ยนจาก SCBTMF มากลงทุน ใน SCBDV ก็ได้ครับ แต่ในเบื้องต้นอาจจะเริ่มต้นเรียบรู้ทั้งวิธีการทำรายการ และการตรวจสอบผลตอบแทน จากการลงทุนจริงผ่านทางรายงานต่างๆ ที่ทาง SCB Easy Net เตรียมไว้ให้ได้อย่างครบ ถ้วนก่อน ด้วยการลงทุนกับ SCBTMF ที่ไม่ต้องอาศัยจังหวะการลงทุนเนื่องจากมีความ เสี่ยงและความผันผวนน้อยมาก จนไม่ต้องกังวลว่าจะมีการสูญเสียแต่อย่างไรครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 23:13:03

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณพี่จุกมากนะคะสำหรับคำแนะนำค่ะ ทีนี้มีคำถามเพิ่มเติมอยากสอบถามพี่จุกน่ะค่ะ 1. คือว่าทำไมพี่จุกจึงยังไม่แนะนำให้เริ่มซื้อ SCBDV พร้อมกันกับ SCBTMF เสาร์นี้เลยรึคะ? 2. เมื่อเราเปิดใช้บริการกองทุนและมีหมายเลขผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว เราสามารถซื้อกองทุนใดก็ได้ของธ.ไทยพาณิชย์ใช่ไหมคะ รวมทั้งพวก LTF, RMF? 3. กองทุน SCBTMF ควรจะซื้อและขายตอนไหนรึคะ? เห็นว่าสามารถซื้อเก็บได้เรื่อยๆ หมายความว่าอยากซื้อก็ซื้ออยากขายก็ขาย พวกราคาซื้อขายไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมาก หรือมีผลต่างมากรึคะ? 4. พวกกองทุนที่มีเงินปันผล หมายความว่า ทุกครั้งที่เงินปันผลออกจะโอนมาที่บัญชีออมทรัพย์ที่เราผูกไว้รึคะ? 5. พี่จุกคิดว่าตอนนี้เหมาะที่จะซื้อ SCBLT1 ไหมคะ? หรือรอไว้ซื้อปลายปี หรือเก็บไว้ซื้อปีหน้ารอตอนหุ้นราคาลง ปีนี้ก็จ่ายภาษีไปก่อน ไม่ต้องใช้สิทธิ์ตัวนี้ หรือเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นแทนดีคะ? 6. นอกเหนือจากนี้พี่จุกยังมีกองทุนอื่นที่อยากแนะนำสำหรับผู้เริ่มลงทุนอีกไหมคะ? ขอบคุณพี่จุกอีกครั้งนะคะ จากคุณ : ocha chan เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 13:59:13

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาดู จากคุณ : chokojang เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:22:27

ความคิดเห็นที่ 5 พยายามช่วยหาคำตอบมาให้ค่ะ ^^' ที่พี่จุกไม่ให้ซื้อ SCBDV วันเสาร์ เพราะว่า สามารถซื้อ/สับเปลี่ยนเข้า ได้ทุกวันทำการค่ะ ส่วนการขายคืน / สับเปลี่ยนออก จะทำได้เฉพาะวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ค่า แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 18:50:40 จากคุณ : cHaAhe เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:46:15

ความคิดเห็นที่ 6 - เมื่อมีหมายเลขผู้ถือหน่วยลงทุนแล้วสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนกองทุนต่างๆ รวมถึง LMF และ RMF ได้เลยค่ะ - เงินปันผลจะโอนเข้าบัญชีที่เราผูกไว้ค่ะ จากคุณ : cHaAhe เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:47:15

ความคิดเห็นที่ 7 กองทุน SCBTMF สามารถซื้อ-ขาย ได้ทุกวันทำการค่ะ หรือจะซื้อเก็บได้เรื่อยๆ เปรียบเสมือนการออมเงินอีกรูปแบบนึงค่ะ pjuk เคยบอกว่า SCBTMF มีสภาพคล่องใกล้เคียงกับการฝากออมทรัพย์ จึงสามารถทดแทน เงินฝากออมทรัพย์ ได้เกือบทั้งหมด กองทุนไม่ต้องมีภาระทางภาษี เมื่อได้รับผลตอบแทนในรูปของส่วนต่างจากราคาซื้อ และเมื่อขายคืน .... เพียงแต่ผลตอบแทนจากกองทุนมองได้จากอดีต แต่สำหรับอนาคต กำหนดแน่ชัดไม่ได้ ซึ่งต่างจากดอกเบี้ยของเงินฝากค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 19:47:43 จากคุณ : cHaAhe เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:38:40

ความคิดเห็นที่ 8 LTF ... เริ่มต้นเลยครับ ลงทุนปีนี้ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนของปีนี้เลยครับ .... ปีหน้าถ้ากลัวผันผวน เสี่ยงสูงเพิ่มขึ้น สามารถสับเปลี่ยนหลบภัย ลดแรงกระแทก เก็บผลประโยชน์สะสม ย้ายไป SCBLTS ก็ได้ครับ ปีนี้มีโอกาส เร่งเก็บเกี่ยวประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด โดยอาจจะกระจายความเสี่ยงเพื่อ สร้างโอกาส กับ SCBLT1 และ SCBLT3 ที่สลับเล็กใหญ่ครอบคลุมทุกระบบการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์ผ่านทางกองทุนครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 21:12:32 จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 21:06:59

ความคิดเห็นที่ 9 กองทุนต่างๆ มีมากมายให้แบ่งเงินลงทุนกระจายโอกาสไปในรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายครับ อย่างเช่น - กองทุนตราสารหนี้ ที่มีข้อจำกัด :: SCBRF ที่ขายคืนได้เฉพาะวันที่ 16 ของเดือน - กองทุนหุ้น :: SCBSET เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET INDEX) :: SCBDV เน้นการลงทุนระยะยาว เพื่อรอรับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล :: SCBPMO การะจายการลงทุนไปยังหุ้นในกลุ่มต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก - กองทุนหุ้นต่างประเทศ :: SCBPGF ลงทุนใน 3 หวีป - อเมริกา ยุโรป และประเทศญี่ปุ่น :: SCBAEM ลงทุนในกลุ่มประเทศในโซนเอเซีย ยกเว้น ญี่ปุ่น - กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ :: SCBAUD ทีอาจจะเสมือนเป็นการลงทุนกับค่าเงิน ออสเตรเลีย จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 21:08:48

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณพี่จุกอีกครั้ง และขอบคุณคุณ cHaAhe ด้วยนะคะ ทีนี้ขอถามเพิ่มอีกสามคำถามนะคะ คือว่ายังงงนิดหน่อย คือ SCBTMF นี่ จะซื้อวันไหนจะขายวันไหน แบบไม่ประสีประสาอะไร ยังไงก็ไม่มีวันขาดทุนเลยรึคะ? (หมายถึง โอกาสที่เงินจะติดลบมีน้อยมากกกก) ข้อดีคือได้ดอกเบี้ยดีกว่าฝากออมทรัพย์ ข้อด้อยคือเวลาถอนแล้วไม่ได้รับเงินทันที... เข้าใจถูกไหมคะ? "SCBDV มีความเสี่ยง ความผันผวนได้ทุกช่วงเวลา ทำให้อาจจะต้องอาศัยจังหวะการลงทุนมากพอสมควร ดังนั้นถ้าจะไปทำรายการซื้อผ่านทางสาขา อาจจะพลาดโอกาสในการติดตามอารมณ์ของตลาดหุ้นไปได้" ...ที่เข้าใจคือการทำการซื้อขายผ่านทาง SCB Easy Net แล้วราคาซื้อขายที่เราได้ก็มีราคาเดียวคือราคาสุดท้ายของวันที่ทำรายการไม่ใช่รึคะ? พวกกองทุนนี่มีการเปลี่ยนแปลงราคาขึ้นลงระหว่างวันเหมือนพวกหุ้นด้วยรึคะ? ถ้ามีราคาเดียว ซื้อที่ธนาคารหรือซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตก็น่าจะเหมือนกัน...รึเปล่าคะ? ซื้อวันเสาร์อาทิตย์ ก็เหมือนซื้อวันจันทร์ (เอ...หรือเหมือนวันศุกร์???) เพราะได้ราคาเดียวกัน เวลาสับเปลี่ยนกองทุน LTF จะต้องสับเปลี่ยนในกลุ่มกองทุน LTF เหมือนกันเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์ทางด้านภาษีด้วยรึเปล่าคะ? เพราะเราต้องถือให้ครบ 5 ปี... ตอนแรกเข้าใจว่าซื้อแล้วซื้อเลยห้ามทำอะไรกับมันจนกว่าจะครบ 5 ปีซะีอีกนะเนี่ย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ocha chan เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:27:37

ความคิดเห็นที่ 11 ขอเข้ามาถามแจมด้วยคนนะคะ มือใหม่เหมือนกันค่ะ ตอนนี้ฝากก้อนนึงไว้ใน sff ไว้ปีเศษๆและต้องการโยกไป rmf แต่ทำไมพนักงานธนาคารไม่รู้จัก rmf หล่ะคะ ก็เลยถามต่อว่าถ้าถ้าเราต้องการโยกเงินส่วนนึงไปกองทุนอื่นดอกเบี้ยของส่วนที่เราโยกมาก็ตามมาไม่ได้ค่ะ ต้องอยู่ใน sff เท่านั้น เลย งง ค่ะเพราะเอาดอกเบี้ยออกมาไม่ได้ แล้วจะทำยังไงดีคะ หรือว่าต้องขายหมดก่อนแล้วถึงได้ รบกวนด้วยนะคะ จากคุณ : aoyyy เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:49:35

ความคิดเห็นที่ 12 . จากคุณ : cHaAhe เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 00:05:59

ความคิดเห็นที่ 13 SCBTMF ... เมื่อขายคืน จะได้รับเงินค่นเข้าบัญชีในวันทำการถัดไป ซึ่งเข้าใจถูกต้องครับ .... ว่าผลตอบแทนมากกว่าฝากออมทรัพย์ แต่สภาพคล่องน้อยกว่าครับ SCBDV .... ทำรายการ ซื้อ วันหยุด จะถือเสมือนว่าทำรายการในวันทำการถัดไป ซึ่งก็คืนวันจันทร์ (ตามคำถาม) โดยจะได้รับราคาในการจัดสรร ตอนสิ้นวันทำการครับ LTF ... กำหนดให้สับเปลี่ยนระหว่างกองทุน LTF ด้วยกันเท่านั้น โดยเงินลงทุนห้ามออก จากระบบ LTF ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 00:08:55

ความคิดเห็นที่ 14 #11 ... พนักงานที่ไม่รู้จัก RMF ... อาจจะเป็นไปได้ที่ไม่ดูแลเรื่องกองทุน และน่าจะเป็นพนักงานใหม่หรือเปล่าครับ .... แต่น่าจะน้อยรายมากๆ ที่ไม่รู้จักครับ การทำรายการสับเปลี่ยนจาก SCBSFF ไปลงทุนใน RMF (SCBR1, SCBR2, SCBR3, SCBR4) สามารถทำได้ทุกวันทำการ หรือจะทำรายการล่วงหน้าโดยกำหนดให้เกิดรายการในวันทำการก็ได้ครับ ทั้งนี้เมื่อทำรายการสับเปลี่ยนหรือขายคืน ทั้งต้นทุน และผลตอบแทนที่สะสมมา จะออกมาจากกองทุนพร้อมๆ กัน ..... ไม่ได้ออกมาเพียงต้นทุน หรือออกเพียงผล ตอบแทนเท่านั้นครับ โดยจะเห็นได้ว่า แม้จะสับเปลี่ยนเป็นจำนวนเงิน ก็จะได้จำนวนเงินเท่าที่สับเปลี่ยนออก โดยจำนวนหน่วยลงทุนก็จะลดลงไป = จำนวนเงินที่สับเปลี่ยนออก / ราคาสับเปลี่ยนออก ซึ่งจำนวนหน่วยที่สับเปลี่ยนออกนี้เอง ที่ถือเป็นต้นทุนที่ลงทุนมา = จำนวนหน่วยลงทุน x ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย แต่ด้วยการสับเปลี่ยนเราทำได้ที่ราคาสับเปลี่ยนออก ไม่ได้ทำที่ราคาต้นทุนเฉลี่ย ดังนั้นส่วนต่างของราคา ระหว่างราคาที่สับเปลี่ยนออก กับต้นทุน จึงถือเป็นผลตอบแทน = (ราคาสับเปลี่ยนออก - ราคาต้นทุนฉลี่ย) x จำนวนหน่วยลงทุนที่ถูกสับเปลี่ยนออก ส่วนที่เหลืออยู่ก็เช่นกัน คือมีทั้งต้นทุน และผลตอบแทน ที่เกิดจากจำนวนหน่วยลงทุนที่เหลืออยู่ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 00:22:20

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณพี่จุกที่เข้ามาอธิบาย และขอบคุณคุณ cHaAhe ที่มาแปะรายละเอียดให้ทราบนะคะ ยังไงจะค่อยๆศึกษาไป ถ้ามีตรงไหนไม่แน่ใจหรือไม่เข้าใจจะขออนุญาตกลับมาถามใหม่นะคะ จากคุณ : ocha chan เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 10:53:11