PANTIP.COM : I9725138 หุ้นลูก PTT13CC ควรเข้าตอนไหนดีครับ มือใหม่ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 6

คิดจะเล่น พวก DW ต้องมีหลักการนิดหน่อยครับ ไม่อย่างนั้นมันก็เหมือนกับการพนันเล่นเก็งกำไรไปเรื่อยๆ

คนบางส่วนใช้ DW เป็นส่วนของ trading strategy ซึ่งอันนี้ผมว่ามีคนเคยอธิบายไปแล้ว

แต่ผมจะแนะนำให้ดูแบบง่ายๆนะครับ

DW ในกระดานมีมากมายหลายตัว แต่ถามว่าตัวไหนน่าเล่น เสี่ยงน้อย เสี่ยงมาก มาดูกัน

เริ่มต้นที่เราต้องรู้ก่อนเลยก็คือ "รายละเอียดของ DW" แต่ละตัว เช่น หมดอายุเมื่อไหร่ ราคาใช้สิทธิเท่าไหร่ และอัตราการใช้สิทธิเท่าไหร่ ยกตัวอย่างนะครับ ตัว SCC13CA หมดอายุประมาณมีนาคม 2554 ราคาใช้สิทธิ 270 บาท อัตราใช้สิทธิ 20 ตัวได้ 1 หุ้นแม่

อันที่สองซึ่งจำเป็นมากๆ คือ การคาดการณ์ราคาของหุ้นแม่ ว่าจะไปได้ถึงเท่าไหร่ ถ้านับจนถึงวันหมดอายุของ DW (ขอยกตัวอย่าง SCC13CA เหมือนเดิมเพราะว่าจำได้ตัวเดียวครับ) ข้อนี้จะเป็นขอชี้ชะตาของคนที่จะเข้าซื้อ DW กันเลยครับ เพราะ DW มันก็คือ warrant ซึ่งราคาของมันจะอ้างอิงตามราคาหุ้นแม่ ลองทำแยกเป็นช่วงราคานะครับ

ราคาแม่ ราคา SCC13CA
350 (350 - 270) / 20 = 4 บาท
360 (360 - 270) / 20 = 4.5 บาท
370 (370 - 270) / 20 = 5 บาท
380 (380 - 270) / 20 = 5.5 บาท
400 (400 - 270) / 20 = 6.5 บาท

ทีนี้หลักมันอยู่ตรงนี้ล่ะครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน ตัวผมเองมองว่าดัชนีน่าจะวิ่งขึ้นสู่ 1000 จุดได้ในที่สุด และ SCC จะต้องมีราคาถึง 350 แน่นอน และอาจจะไปได้ถึง 400 บาท "ภายในเดือน มี.ค. ปี 2554" ซึ่งก็เพราะระยะเวลาคงเหลือของ SCC13CA ซึ่งมีอายุเหลืออีกตั้ง 6 เดือน ทำให้ความั่นใจว่าหุ้นอย่าง SCC จะปรับตัวสูงขึ้นเป็นตัวนำตลาดได้ในช่วงที่ fund flow เข้า

ผมจึงได้ซื้อ SCC13CA เข้าไปที่ราคา 3.12 บาท ขณะนั้นราคา SCC อยู่ที่ 324 บาท

หากลองคำนวณ ณ ราคาที่ผมซื้อ

ที่ราคา SCC13CA ราคา 3.12 บาท ราคาหุ้นแม่ควรอยู่ที่ (3.12*20)+270 = 332.4 บาท
หรือ ที่ราคา SCC ที่ 324 บาท ราคา SCC13CA ควรอยู่ที่ (324 - 270) /20 = 2.7 บาท

แน่นอนครับ ถ้าคำนวณ ณ วันที่ซื้อ ผมยอมซื้อของที่แพง แต่ตรงนี้ไม่ใช่จุดที่ผมกังวล เพราะผมมีมุมมองที่ดีต่อหุ้น SCC เป็นอย่างมาก ว่าในระยะเวลาอีก 6 เดือน มันต้องไปอย่างน้อย 350 บาท

เพราะฉะนั้นถ้าผมถือ SCC13CA ไปจนถึงวันหมดอายุ แล้ว SCC ณ วันนั้นราคาอยู่ที่ 350 บาทพอดี ผมจะกำไรตัวละ 88 สตางค์ และถ้าเกิดตลาดดีมาก SCC เกิดไปถึง 400 บาท ณ วันหมดอายุของ SCC13CA ผมก็จะได้กำไรตัวละ 3.38 บาท

นี่คือการคิดอย่างคนที่คิด "ลงทุน" จริงๆนะครับ เพราะเน้นการถือจนถึงวันหมดอายุ ยังไงก็ไม่โยนขายในกระดานแน่นอน

แต่สมมตินะครับ ราคา SCC เกิดผีเข้า วิ่งหน้าตั้งไปที่ 370 บาท ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. ซึ่งราคา SCC13CA ที่แท้จริง (intrinsic value) ควรอยู่ที่ 5 บาท ขณะที่ยังเหลืออายุอีก 3 เดือน ถ้าราคาในกระดานมันเกิดวิ่งไปถึง 6 บาท ผมอาจตัดสินใจขายออกมาก็ได้ เพราะอะไร เพราะผมมองว่า ราคา SCC แถว 370 บาทมันเต็มมูลค่าแล้ว ถึงจะถือต่อไปอีก 3 เดือน มันก็คงไปไม่ได้มากกว่านี้เท่าไหร่ ดังนั่้น ของที่ราคาควรจะอยู่ 5 บาท แต่ว่าผมสามารถโยนขายในกระดานได้ในราคา 6 บาท ผมก็ขายดีกว่า เพราะถ้าฝืนถือต่อไปจนครบอายุ ถ้าผมต้องการได้กำไรเท่ากัน ผมจะต้องลุ้นให้ SCC ไปถึง 390 บาท

นี่ล่ะครับ ถึงบอกว่า การลงทุนใน DW นั้น เน้นที่มุมมองของเราต่อหุ้นตัวแม่ ผมเห็นคนเล่น BANP13CA และ BANP13CB กันเยอะ แต่ผมกลับไม่สนใจ DW 2 ตัวนี้เลย เพราะหากดูราคาในกระดาน มันเล่นกันที่ราคาหุ้นแม่อยู่ประมาณ 730 บาท แล้ว ซึ่งผมมึมุมมองต่อหุ้น BANPU ว่าราคามันน่าจะวิ่งไปได้เพียง 750 บาท ภายในสิ้นปี (วันที่ DW ทั้งสองตัวหมดอายุ)

ตอนนี้ DW ที่ผมมีมุมมองเชิงบวกอยู่มาก มีเพียง SCC13CA PTTC13CA และ TCAP13CA เพราะแนวโน้มราคาหุ้นแม่มีโอกาสปรับตัวไปได้ไกล ภายในเวลาหมดอายุของ DW

สำหรับ SCB08CA ที่เพิ่งออกวันนี้นั้น ราคาเล่นกันแพงมาก แต่เนื่องด้วยอายุของ DW ยาวนานถึง 9 เดือน ทำให้ราคามี premium ค่อนข้างสูงครับ แต่เพราะผมไม่ชอบหุ้น SCB เป็นการส่วนตัว แล้วผมให้ราคา SCB เต็มที่ก็แค่ 120 บาท ซึ่งถ้ามาซื้อ SCB08CA ตอนนี้มันก็แพงเอาการ รอให้ตลาดมีการปรับแล้วค่อยซื้อดีกว่า

จากคุณ : wattanac

เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:37:16

ความคิดเห็นที่ 13

ตอบคุณความเห้น 12 นะครับ

คำว่า หมดตัวน่ะผมผ่านมาแล้ว เป็นหนี้ก็ผ่านมาแล้ว

ตราสารทุกชนิด เรามีโอกาสหาเงินจากมันได้เสมอ เพียงแต่ต้องดูว่า เรากำลังเล่นอยู่บนหลักการของอะไร ไม่จำเป็นเสมอไปที่การเล่น warrant แล้วจะต้องหมดตัว

warrant ที่มัน in the money หลายๆตัว หรือพวกที่ มี premium เล็กน้อย เช่น kk-w4 ticon-w4 ถ้าหากเราพอจะเห็นเค้าว่าหุ้นแม่มันมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ มันก็คงไม่แปลกถ้าเราจะซื้อถือเพื่อการลงทุน จะเอาไปแปลง หรือจะโยนขายในกระดานก่อนวันหมดอายุหากกรณีไม่มีเงินแปลง

ผมว่าการเล่น warrant นั้น ถ้าคนที่อ่านตลาดได้ขาด หรือว่ามีความเชื่อว่าหุ้นแม่ของ warrant ตัวนั้น มีทิศทางไปในทางที่เราคาดไว้ ก็สามารถกำไรจากมันได้เช่นกัน

สมมติผมมองว่า SCC จะไป 400 บาทภายในเดือน มี.ค. ปีหน้า ซึ่ง ณ ราคานั้น SCC13CA ควรอยู่ที่ 6.50 บาท ถามว่า ถ้าผมซื้อ SCC13CA ณ วันนี้ 3.80 บาท แล้วผมรอไปเรื่อยๆ ใช่ครับ ระหว่างทาง หุ้นแต่ละตัวมันมีการแกว่งตัว แต่หากเรามีความเชื่อว่ามันจะไปที่ราคานั้น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตกใจขายมันออกไปก่อน แม้ว่าตัว DW อาจปรับตัวลงมากกว่า 10% ก็ตามแต่ แต่นั่นหมายความว่าเราต้องรับความเสี่ยงได้

แต่หากมุมมองของเราเปลี่ยนไป เช่นว่า อยู่ๆเกิดเหตุการณ์อะไรก็ไม่รู้เข้ามากระทบตลาดอย่างหนัก เช่นเรื่องมาบตาพุตกลับมาหลอกหลอนอีกรอบ เราก็ต้องมาคิดอีกทีว่า อย่างนี้ SCC จะไป 400 ได้แบบที่เราคิดมั้ย หากมุมมองต่อหุ้นแม่ของเราเปลี่ยนไป เราอาจตัดสินใจขายออกมาก็ได้ คงไม่ได้ยืนกระต่ายขาเดียว ถือจนหมดอายุแม้ปัจจัยเปลี่ยนหรอกครับ

แต่การมอง warrant ในลักษณะการถือเพื่อไปแปลง แล้วเปรียบเทียบกันหลายๆตัว มันทำให้เราพอจะได้ข้อมูลว่า ตอนนี้ตัวไหนถูก ตัวไหนแพง ตัวไหนน่าสนใจที่จะซื้อ

ถามว่า ทำไม่ไม่เล่นตัวแม่ ปลอดภัยกว่า คนเล่น warrant คือคนละโมบโลภมาก ไม่จริงหรอก ในตลาดหุ้นมันมีโอกาสอยู่ตลอด พวก VI ก็มีโอกาส นักเก็งกำไรก็มีโอกาส นักเล่นรอบก็มีโอกาส นักเทคนิคก็มีโอกาส แต่เราต้องไขว่คว้าหาโอกาสนั้นให้เจอ ด้วยการวิเคราะห์จากข้อมูลที่เรามี

Warrant เป็นตราสารที่มี leverage สูงมาก อันนี้เรารับทราบกันดีอยู่ แต่หากเชื่อว่าหุ้นแม่จะไปได้ไกล รับความเสี่ยงได้ ก็ไม่แปลกนะ ที่จะเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า

ยกตัวอย่าง KK-W4 นะ ไม่มีคนเล่น กลัววอแรนท์ แต่ผมเป็นคนนึงที่เล่น ซื้อตรง 10 บาทนิดๆ ตั้งแต่ที่เริ่มมีบทวิเคราะห์ของโบรกให้ราคา KK 35 - 45 บาท แล้วเราก็มองว่า ราคาหุ้น KK มัน laggard กว่ากลุ่ม มันควรจะไปได้ในเร็วๆนี้ ผมซื้อเพราะผมจะลงทุนใน warrant ไม่ได้คิดเก็งกำไรเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้น ไม่อยากให้สรุปว่า warrant นั้นลงทุนไม่ได้ เสมอไป เพราะการลงทุนทุกรูปแบบ มันมี "โอกาส" ของมันเสมอ เพียงแต่เราควรจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงตราสารประเภทนั้นๆก่อนที่จะเข้าลงทุน เพราะในตลาดหุ้น มีกฏอยู่ว่า อย่ารักหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง และอย่าเกลียดหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง แม้จะเจ็บจากมันมา แต่ก็อย่ากลัว ลองหาดูว่าความผิดพลาดของเราคืออะไร อย่าให้เกิดอีก อาจเสียหายเป็นล้านเพราะความไม่รู้ แต่ต่อมาอาจได้กลับมามากกว่าที่เสีย หากหันมาศึกษามันให้เข้าใจ และถามตัวเองให้ได้ว่า ซื้อหุ้นตัวนั้น "เพราะอะไร"??

จากคุณ : wattanac

เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 02:32:11