ความคิดเห็นที่ 1 จากภาพให้ดูทางซีกซ้่ายครับ นั่งคือ position ของฝั่งนลท. ส่วนทางขวาเป็น position ของคนออก DW ปกติแล้วทั้งนลท.และผู้ออกสามารถจะผสมผสาน option หลายๆชนิด เพื่อ lock หรือ กำหนดผลตอบแทนให้ตัวเองได้ครับ ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าเราซื้อ PTT เอาไว้ แล้วคิดว่ากลัวว่าหุ้นจะลง แต่ก็ไม่อยากขายเพราะมันอาจจะขึ้นก็ได้ นลท.สามารถใช้ DW หรือ option มาเป็นประโยชน์ได้ครับโดยstrategy ที่เรียกว่า "Protected Put" โดยการซื้อ Put DW ของ PTT ให้มีสัดส่วนเท่ากับ "Hedge Ratio" ในราคาที่เหมาะสม โดยผลที่ได้คือ ถ้า PTT ลงจริงๆ เราจะได้เราจะได้กำไรจาก DW มาชดเชยกับ Loss ของ หุ้นที่เราถือ ในขณะที่ถ้าหุ้นขึ้น เราก็จะได้กำไรจากหุ้นที่ถือเหมือนเคย จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:26:33

ความคิดเห็นที่ 2 ฟังดู too good to be true ใช่มั้ยครับ   ใช่ครับการจะได้กำไรจาก strategy "Protected Put" นี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด อย่าเคสที่ว่ามา ในกรณี PTT ขึ้น มันต้องขึ้นให้มากกว่าถ้าเทียบกับเราถือหุ้นอย่างเดียวเพื่อชดเชยค่าสัญญาของ Option ถ้าให้ดูกราฟก็ประมาณนี้ครับ edit: ทำไมกราฟที่ผมมีมันพื้นขาวแต่มาลง pantip มันแปลงร่างได้ หุหุ เอาเป็นว่่ากำไร ที่เราจะได้ก็คือตามเส้นโค้งๆนั่นแหละครับ ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นเส้นโค้งๆลองอ่านต่อตรงส่วน Black-Scholes Model แล้วอาจจะเข้าใจครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 10:49:36 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:27:22

ความคิดเห็นที่ 3 พูดง่ายๆในเคสด้านบนเราใช้ option ในการประกันการขาดทุน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่า"premium"ที่้ต้องจ่ายเพื่อซื้อประกันนั่นเองครับ ดังนั้นกำไรที่เราได้ก็จะน้อยลงไปเท่ากับราคาที่จ่ายไปเพื่อซื้อ DW ประโยชน์อีกอย่างของ Option ที่ใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงคือการทำ "Long Straddle" ครับ ในกรณีนี้ใช้เมื่อเราคิดว่า ต่อไปราคาหุ้นที่เราถือจะผันผวนมากๆๆๆๆ คือรู้ว่าไม่ขึ้นมากๆๆๆก็ลงมากๆๆๆแน่นอน แบบนี้ "Long Straddle" สามารถ lock ผลขาดทุนให้จำกัดได้ ในขณะที่สามารถทำกำไรได้ unlimited ถ้าราคาหุ้นผันผวนจริง เคสนี้ถ้าเราถือ PTT อยู่แล้ว แล้วคาดว่าราคาจะผันผวนมากๆ ในช่วงอายุของ DWนั้นๆ เราสามารถซื้อ DW Put และ Call มาทำ "Long Straddle" ได้ โดยจะให้ Payoff-Profit ดังนี้ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:29:17

ความคิดเห็นที่ 4 จะเห็นว่าถ้าหุ้นลงมากๆๆๆๆ ก็กำไร ขึ้นมากๆๆๆก็กำไร แต่ถ้า side way ก็โดนกินเรียบครับจากต้นทุนของการซื้อ DW นั่นเอง Strategy พวกนี้ ฟังดูง่าย แต่จริงๆยากมากครับ เพราะต้องคำนวนทั้งอัตราส่วน หรือจำนวนสัญญา DW ที่เราต้องใช้เพื่อกำหนดผลตอบแทน ราคาของ DW ที่จะต้องเหมาะสม excersice price และอายุของ DW ก็ต้องเหมาะสมเช่นกัน ซึ่งในทางปฏิบัติ DW มันอาจจะมีราคาไม่สมเหตุสมผล  อายุ และ excercise price ที่ไม่เข้ากับ Strategy ของเรา และปัจจัยอื่นๆอีกมากครับ ที่ยกตัวอย่างมาเป็นแค่ 2 ในไม่รู้กี่สิบแบบของ Option Strategy ที่มีทั้งหมดนะครับ ผมยกตัวที่ดูแล้วเข้าใจง่ายๆมา ซึ่งในทางปฏิบัติบ้านเราอาจจะยังทำแบบนี้ไมไ่ด้ นอกจากเก็งกำไรครับ เพราะ DW ที่มียังน้อยเกินไปและส่วนมากมีแต่ Put ซะด้วย แถมราคาในตลาดก็ไร้เหตุผลสิ้นดี DW หรือ Option เป็น zero-sum game ครับ (เช่นเดียวกับ Future ครับ แต่ไม่เหมือนกับ หุ้น และ derivative บางชนิดที่มักจะเป็น Positive Sum Gain ครับ) คนที่ write DW ออกมาอย่าง broker ทั้งหลาย ถ้าให้เทียบก็คือบริษัทประกันที่เขียนกรมธรรณ์ประกันชีวิตให้เรานั่นแหละครับ โดยประกันให้เรา ในขณะที่ได้ premium เป็นผลตอบแทน ประกันต่างกับDWตรงที่ประกันชีวิตไม่จำเปนต้องเป็น 0-sum เพราะมันยังมีผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งเราและบริษัทจากอายุสัญญาที่ยาว ในขณะที่ DW นั้นสัญญาสั้นมาก การจะwrite DW ออกมาทาง broker เค้าคำนวน price ที่รวมเอาปัจจัยทั้งหลายไว้แล้วครับ เมื่อไหร่ที่ DW ปล่อยออกสู่ตลาด ปั่นราคากันขึ้นไป คนหนึ่งกำไร คนหนึ่งก็ต้องขาดทุนครับ เพราะ at the end (excercise date) ราคาของมันก็จะกลายเป็น 0 ซึ่งถ้า ณ จุดนั้น DW "in the money" (ราคาใช้วสิทธิ์สูงกว่าราคาตลาดในกรณี put หรือ ต่ำกว่าตลาดในกรณี call) นลท.ที่ถือDWนั้น excercise ก็ได้กำไร ส่วนbroker ก็ขาดทุน ในขณะที่ถ้า DW "out of the money" นลท.ไม่ excercise broker ก็กำไร (จากการwrite DW ให้นลท.) นลท.ก็ขาดทุน(...มหาศาล...เพราะ DW =฿0) Edit: กลบไก่ที่ปล่อยออกไปบางจุดครับ แหะๆ แต่ไม่มีผลต่อเนื้อหาโดยรวมครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:47:37 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:46:54 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:27:10 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:29:44

ความคิดเห็นที่ 5 สรุปศัพท์สำหรับ DW หรือ Option ถ้าเทียบกับหุ้นหรือ Tfex ทั่วๆไปนะครับ สำหรับหุ้นทั่วไป Long = ซื้อ Short = ขาย หรืออีกความหมายหนึ่งคือ ยืมหุ้นมาขาย (short sell) สำหรับ future Long คือ สัญญาว่าซื้อ Short คือ สัญญาว่าจะขาย สำหรับ DW หรือ option Long คือ ซื้อสิทธิ์ที่จะ... (buy the right to...) Short คือ เขียนและขายสิทธิ์ที่จะ...(write the right to...) Long Call คือ ซื้อสิทธิ์ที่จะซื้อ(buy the right to buy) Long Put คือ ซื้อสิทธิ์ที่จะขาย(buy the right to sell) Short Call คือ เขียนและขายสิทธิ์ที่จะซื้อ (write the right to buy) Short Put คือ เขียนและขายสิทธิ์ที่จะขาย (write the right to sell) จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:30:39

ความคิดเห็นที่ 6 ใครที่ยังงงว่าเอ... สรุปว่า DW มันมีสูตรคำนวนราคาที่เหมาะสมยังไง จะได้เอาไปคำนวนเพื่อดูราคาที่เหมาะสมของมันได้... นี่คือสูตร Black-Scholes Option Pricing Model คือสูตรำควนมูลค่าที่เหมะาสมเวลาที่ทาง KGI ใช้คำนวน premium ของ DW ครับ โดย C = Call Option Value S = Current Stock Price (ราคาตัวแม่) N(d) = คือความน่าจะเป็นที่สุ่มมาจาก nromal dist. K = excercise price หรือราคาการใช้สิทธิ์ต่อหุ้นแม่ 1 ตัว e = 2.71828 r = Riske-Free rate ส่วนมากอิงจาก gov bond T = ช่วงอายุเวลาที่เหลือของ DW (แสดงออกมาเป็นหน่วยปี) In = Natural Log function ตัวที่คล้ายเลข 6 คว่ำหน้า คือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานนของอัตราผลตอบแทนต่อปีของหุ้นแม่ Edit: เพิ่มครับ สูตรตัวนี้นั้นปกติใช้กับ Option ที่มีอัตราการใช้สิทธิ์ 1:1 ครับ แต่บ้านเราเอามาทำให้ซับซ้อนขึ้นไปอีกโดยอัตราการใช้สิทธิ์ไม่ใช่ 1:1 ดังนั้นอาจจะต้องมีการดัดแปลงสูตรนี้อีก ซึ่งผมโง่เลขมากครับ ถ้าคิดแบบตื้นๆก็อาจจะแค่ *จำนวน DW ที่ใช้ต่อการแปลงแม่ 1 ตัวเข้าไปที่ราคาจากสูตรตรงๆเลย หรือถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่ทราบแล้วครับ เอาเป็นว่าหลักการมันก็คือแบบเดียวกันคือ คือราคาของ Option/DW ตามสูตร Black-Scholes มีปัจจัยหลักๆคือ 1.ราคาแม่ 2.Excercise Price 3.ความผันผวนของราคาแม่ 4.Time Value of Money จากการที่เราลงทุนใน Option ใช้เงินน้อยกว่าการที่เราลงทุนตรงจากหุ้นแม่จาก Payoff-Proit ที่เท่ากัน 5.ช่วงเวลาที่เหลือของ DW ปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลต่อ Price ของ Option/DW โดยที่ Black-Scholes ไม่ capture 1.Expected price ของหุ้นแม่ ณ วัน DW หมดอายุ (ณ ที่คำนวนราคา หุ้นแม่อาจจะราคาต่ำกว่า Ecercise price มากๆๆๆ ซึ่งในทางทฤษฏีจากสูตร ราคา option/DW ควรเป็น 0 แต่ในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องเป็น 0 แบบที่เราเห็นกันในตลาดบ้านเรา ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ expectation ของนลท.ว่าราคาแม่จะพุ่งไปเกิน excercise price มากๆ ณ วัน excercise หรือคำนวนกันไม่เป็น) 2. อันนี้ใช้เฉพาะกับ American Option ซึ่งสามารถ Excercise ณ เวลาใดๆก็ได้ก่อนหมดอายุนะครับ ซึ่งไม่ applicable กับ DW ของบ้านเราที่เป็นลักษณะของ Europian Option ที่ต้อง excercise ณ วันสิ้นชีพ เอ้ย สิ้นอายุเท่านั้น ปัจจัยตัวนี้ก็คือ Flexibility ครับ โดยจะทำให้ American Option อาจจะมีค่ามากกว่าที่คำนวนจากสูตร และมักจะมีมูลค่าที่แท้จริงที่สูงกว่า Europian option ที่เงื่อนไขเดียวกัน โดยที่สูตร Black-Scholes ไม่ Capture ตรงนี้ครับ บอกไว้ก่อนเลยนะครับ ไม่ได้กวนนะครับที่เอาสูตรยากๆมาลง มันคือสูตรที่สถาบันเค้าใช้คำนวนกันจริงๆครับ ทีนี้ถ้าเราแหย่ขาเข้าไปเล่นก็ต้องถามตัวเองล่ะครับ เรามีความรู้พร้อมแค่ไหนที่จะสู้กับรายใหญ่ที่เค้ามีเครื่องมือทุกอย่าง แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 10:43:21 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:41:10

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนถ้าจะคำนวนมูลค่าที่เหมาะสมของ Put DW ก็ตามสูตรนีครับ โดยอิงจาก Call-Put Parity จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:42:52

ความคิดเห็นที่ 8 ยอดเยี่ยมครับ ต้องอัดใส่ขมองน้อยๆไว้ ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:52:54

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ เยี่ยมครับ มาเจิมแล้วจะกลับมาอ่านอีกที อิอิ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 01:05:01

ความคิดเห็นที่ 10 ที่โพสมาถ้าไม่เข้าใจกันก็ไม่เป็นไรครับ ผมลองยกตัวอย่างง่ายๆซักตัวละกัน ซึ่งตัวอย่างซื้อแต่ Call DW อย่างเดียวโดนไม่มี Position ใดๆอื่นๆอยู่ในมือนะครับ(ซึ่งผิดวัตุประสงค์ของOptionตามทฤษฏี แต่อาจจะถูกวัตถุประสงค์ของผู้ออกDW และตลท. ซึ่งอันนี้ผมไม่ทราบ) อย่าง IVL01 CA ที่เป็น Call Warrant ในที่นี้ผมไม่คิดราคาที่เหมาะสมตามสูตร Balck-Scholes เลยนะครับ เอาแบบคิดจากราคาตลาดเลยว่า ถ้าซื้อที่ราคานี้แล้วผลต่อไปจะเป็นอย่างไร อัตราใช้สิทธิ์ 2:1 ราคาใช้สิทธิ์ = 26 ราคาตอนนี้ในตลาดคือ 3.1 ดังนั้น ถ้าซื้อ DW นี้ไว้ 10,000 หุ้น เท่ากับว่า ราคาแม่ ควรจะมีราคา (3.1*2)+26 = 32.2 ณ วันที่ 31/01/2554 ถ้าวันที่ 31/01 ราคา IVL เป็น 26 KGI ก็ซึ่งได้ Premium จากราคา IPO ที่ 1.61*10,000 = 16,100 ก็ไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม ขณะที่นลท.ที่ซื้อ DW ไว้ และถือจนวันใช้สิทธิ์ก็จะไม่ excercise ดังนั้น ก็ขาดทุน...... 3.1*10,000 = -31,000 --- ถ้าวันที่ 31/01 ราคา IVL เป็น 29.22 KGI +Premium จากราคา IPO ที่ 1.61*10,000 = 16,100 - ขาดทุนจากการถูก excercise = (29.22-26)*(10,000/2) = -16,100 KGI Net กำไร/ขาดทุน = -14,900 นลท. + excercise = (29.22-26)*(10,000/2) = +16,100 - 3.1*10,000 = -31,000 นลท. Net กำไร/ขาดทุน = -14,900 --- ถ้าวันที่ 31/01 ราคา IVL เป็น 32.2 KGI +Premium จากราคา IPO ที่ 1.61*10,000 = 16,100 - ขาดทุนจากการถูก excercise = (32.2-26)*(10,000/2) = -31,000 KGI Net กำไร/ขาดทุน = -14,900 นลท. + excercise = (32.2-26)*(10,000/2) = +31,000 - 3.1*10,000 = -31,000 นลท. Net กำไร/ขาดทุน = 0 ---- ถ้าวันที่ 31/01 ราคา IVL เป็น 40 KGI +Premium จากราคา IPO ที่ 1.61*10,000 = 16,100 - ขาดทุนจากการถูก excercise = (40-26)*(10,000/2) = -70,000 KGI Net กำไร/ขาดทุน = -53,900 นลท. + excercise = (40-26)*(10,000/2) = +70,000 - 3.1*10,000 = -31,000 นลท. Net กำไร/ขาดทุน = +39,000 ---- ในขณะที่ ถ้าวันที่ 31/01 ราคา IVL เป็น 20 KGI +Premium จากราคา IPO ที่ 1.61*10,000 = 16,100 - ไม่มีการ Excercise KGI Net กำไร/ขาดทุน = +16,100 นลท. ไม่ excercise - ต้นทุน DW 3.1*10,000 = -31,000 นลท. Net กำไร/ขาดทุน = - 31,000 ถ้าเทียบกับภาพ คห. 1 จะเห็นว่า การที่นลท.ซื้อ IVL DW เดี่ยวๆโดยไม่มี Position ของ IVL ในมือ ก็คือภาพบนซ้าย Long Call นั่นเองครับ Unlimited Gain / Limited Loss ในขณะที่ KGI ก็position ทางบนขวาคือ Short Call Limited Gain / Unlimited Loss Edit: minor error ครับ ไม่มีนัยต่อเนื้อหา แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:05:06 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 11:20:53 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 10:29:34 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 01:17:21 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 01:13:59

ความคิดเห็นที่ 11 ขอตัวไปนอนก่อนครับ ไว้พรุ่งนี้อาจจะมาต่อถ้ามีใครมีคำถาม ที่โพสมา มาจากความรู้ทางทฤษฏีล้วนๆนะครับ ของจริงผมไม่เคยแตะครับ เพราะรู้ความหายนะของมันเป็นอย่างดี ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึงเลย ถ้าที่โพสไปมีข้อมูลหรือการคำนวนใดๆที่ผิดพลาด ช่วยท้วงติงด้วยนะครับ และต้องขออภัยล่วงหน้า แล้วผมจะเข้ามาแก้ไขครับ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 01:14:44

ความคิดเห็นที่ 12 2TD  แต่  3T หาร B จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 03:18:43

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ตลาดตอนนี้????????????????????????? จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 06:02:29

ความคิดเห็นที่ 15 อื่ม ผมเหมือนกับ คห 13 จากคุณ : ออสก้าอินเดีย เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 06:13:55

ความคิดเห็นที่ 16 เอากระทู้เก่ามาฝากด้วย นั้นวอแรนซ์สมัยก่อน และนี่คือวอแรนซ์สมัยนี้              ถ้าสนใจออปชั่นและเข้าใจ ก็น่าจะเป็นตามจขกทเขียน     แต่ข้อสังเกต           1 กลตไม่รับผิดชอบ ถ้า เคลมเงินกันไม่ได้ เพราะกรณีนี้ ได้เป็นเงินไม่ใช่หุ้นแม่แบบวอแรนซ์ปกติ           2 ส่วนใหญ่ (มีเพียงพุท เดียวของโบรก 01)เป็นคอลDW ดังนั้นทฤษฏี เล่นเป็นกลยุทธแบบ ออปชั่นจึงใช้ไม่ได้ (คห 3 long straddle)           3 คนออกDW ได้เปล่าตั้งแต่ ราคาจอง จนเข้าตลาด ด้วยอัตราแปลง20ต่อ1หรือ 50ต่อ1   นั่นคือ เมื่อลูกขึ้น1บาท เท่ากับแม่ต้องขึ้น 20หรือ 50บาทตามอัตราแปลง      เพราะเมื่อเอาราคาทุนจากDW 20 ตัวหรือ 50 ตัวไปบวกราคาแปลงแล้ว เกินราคาแม่   ไม่มีคนแปลง คนขายกินเงิน ทั้งหมดฟรี  (คนขายแน่นอน คือ คนออกDW นั่นเอง)      ดังนั้นวิธีง่ายๆๆ ของคนขาย คือการดันราคาให้ขึ้นมากมากๆๆไว้              ได้ขายของแพง และทำให้ราคาแปลงเลยราคาตัวเเม่                   จบเกมส์คนสุดท้ายถือกระดาษเปล่า           งานนี้ กระดาษอาจจะไม่จบที่ 0ในวันใก้ลหมดอายุ แต่จะวิ่งไปหาราคาที่แปลงแล้วไม่เกิน ตัวแม่           ถ้าตลาดขึ้นมากๆๆจริงๆๆ ตัวแม่ขึ้นมากๆๆ คนที่เก็บDwราคาถูกไว้ได้ก็มีสิทธิ แจ๊คพีอต ได้มากกว่าเก็บตัวแม่ก็ได้           (กรณีนี้ ควรหา DW แต่แรกๆๆ และ อัตราแปลงไม่มาก และมีพุทด้วย ได้เล่นแบบกลยุทธออปชั่นได้  และ ควรเป็น DW ที่ออกตอนเซท ต่ำๆๆ หรือ ตัวแม่ราคาต่ำๆๆด้วย )          ขอให้ศึกษาให้เข้าใจ และเลือกวิธีเล่นให้ถูก              อะไรที่เขาเอาเปรียบ  มีเจ้ามือ มีการทายขึ้นทายลง มีการได้เสียเป็นเงิน             นั่นคือการพนัน             แต่ที่นี่ถูกกฏหมาย??? จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 06:51:27

ความคิดเห็นที่ 17 คล้ายๆกับว่า โบรกฯคือเจ้ามือ ก็มีโอกาสที่จะเจ๊งเหมือนกัน กรณีที่หุ้นตัวนั้นๆ ขึ้นแรงๆ จนถึงวันหมดอายุ โบรกฯก็เจ๊งแน่ๆ ผมขอถามหน่อยว่า โบรกฯ เขามีวิธีป้องกันความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ได้ซื้อหุ้นตัวแม่ เก็บไว้รองรับการแปลงสภาพก่อนออก DW หรือเปล่า ผมจะได้พิจารณา ว่าจะขายหรือจะถือ KGI ต่อดีมั๊ย จากคุณ : คุณชายเฉิน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 07:15:23

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคุณ GeneraX สำหรับข้อมูลดีๆ ขนาดคนที่มีความเข้าใจ เกี่ยวกับ DW ขนาดนี้ยังไม่แตะ แต่คนที่ไม่มีความรู้ดีพอกลับกระโจนเข้าใส่เพราะความโลภ อยากรวยเร็วๆ พอเตือนกันดีๆก็ว่าอิจฉา ผมว่าพวกนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา รวยกันไปเถอะครับ แล้ววันหนึ่งเมื่อตลาดเป็นขาลงจะรู้สึกแล้วนึกถึงสิ่งที่ผมสื่อออกมา เพราะผมเขียนเสมอว่าพวกนี้ไม่ใช่การลงทุน อย่าเชื่อสิ่งที่ตลาดและโบรกกำลังโฆษณาหลอกคุณ โดยห้อยคำท้ายประโยคว่านี่คือ การ"ลองทน"มีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการ"ลองทน" เพราะมันเป็นคำโกหกที่แฝงมากับคำเตือนครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 07:38:37 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 07:37:34 จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 07:36:46

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่ากว่าครึ่งที่ลงใน DW ตอนนี้ไม่มีใครถือสอง position หรือใช้เพื่อเป็นเครื่องมือ hedging เกร็งกำไรกันล้วนๆ สุงหรือต่ำ แค่นั้นกันจริงๆ ขอบคุณพี่ GeneraX สำหรับบทความดีๆนี้ครับ จากคุณ : ปอป้อง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 08:05:53

ความคิดเห็นที่ 20 ลืม ลิ้งค์ เรื่องCover warrent สมัยก่อน           เรื่องเจ้ามือเจ๊ง ถ้าเขาออกตอน เซทต่ำ ราคาต่ำแล้ว อัตราแปลงน้อย  แล้วเขาดัน ราคาDW ให้สูงรวมแล้วแปลง ไม่สูงกว่า ราคาแม่             กลับมีคนเก็บราคาถูกตอนต่ำไว้ได้ แล้วตอนใก้ลหมดอายุ แม่ขึ้นไปสูงกว่าตอนเริ่มต้นมากมาก           ราคาจะลดอย่างไร ก็ยังมากหรือ แพงกว่าคนเล่นแรกๆๆเก็บไว้ ครับ     วิธีแก้ เขาจะต้องคอนโทรลวอลุมที่อยู่ในมือลูกค้าได้ และใช้ อย่างอื่นในตลาดมาช่วย ถ้าเสียหายทางนี้ จริงๆๆ เช่น ฟิวเจอร์ หรือ ออปชั่น นั่นคือความสามารถของเขา        ถ้าเราเข้าใจ ก็เล่นกับเขาตอนเขาอยากดันราคา หลบตอนเขากดราคาเมื่อยังมีคนแปลงได้อีกมากเก็บDWไว้เพื่อให้ปล่อยของ จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 08:07:54

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : arakball เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 08:08:06

ความคิดเห็นที่ 22 ลืมอีก http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2006/05/I4411898/I4411898.html    สนุกน่าอ่าน      ก็ดีครับทำให้คนสนใจวิชาใหม่ๆๆกันและออปชั่นก็จะเริ่มเป็น ความรู้ที่ต้องศึกษากันมากขึ้นมากกว่าหุ้นที่กำไร จิ๊บๆๆด้วยทุนมากๆๆ จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 08:10:31

ความคิดเห็นที่ 23 ขอให้แฟร์หน่อยมีพุท DW ด้วยนะขาลงได้เล่นได้ด้วย จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 08:12:13

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนนี้มันไม่ค่อยแฟร์น่ะสิครับ ที่เห็นตอนนี้มี put ของ DW ตัวเดียวหรือเปล่าครับ แต่ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลที่นำมาเสนอ จากคุณ : ลูกเม่า ศิษย์แม่เป้ง (dewnus) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:18:56

ความคิดเห็นที่ 25 ผมสรุปว่ามันเปรียบเสมือน warrant ของหุ้นตัวเล็ก  ที่เอาไว้ปั่นได้ง่าย เพราะใช้เงินน้อย จากคุณ : PTom เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:32:15

ความคิดเห็นที่ 26 Strategy ไม่ต้องคิดหรอกครับ เพราะตอนนี้ ราคา DW ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับตัวแม่ ที่จริง DW อันนี้จะต่างจากหุ้นคือ มี leverage ( อัตราการใช้สิทธิ์ ) ซึ่งถ้าราคาถูกผูกกับตัวแม่ ถ้าอ่านทิศทางตัวแม่ออก จะได้กำไร หรือ ขาดทุนเยอะมาก ก็เพราะว่ามี leverage จากคุณ : The Peak เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:38:49

ความคิดเห็นที่ 27 อันนี้สำคัญครับ ผมคิดว่าหลังจากโพสข้อความนี้แล้วก็น่าจะครอบคลุมสิ่งที่ผมอยากจะสื่อแล้วนะครับ ตามหลักของ DW หรือ Option แล้ว นอกจากการนำมาใช้เป็น Hedging แล้วจุดประสงค์คือให้นลท.มีโอกาสใช้เงินจำนวนที่น้อยกว่า ถ้าเทียบกับการซื้อหุ้นแม่ ในขณะที่มี explosure ในการทำกำไร-ขาดทุน เทียบเท่าหุ้นแม่ (ณ ราคาของ DW ที่เหมาะสม) หลักการอันนี้ก็คล้ายๆ warrant ครับ เพื่อนๆหลายๆคน มาเล่น DW เพราะประโยคที่ว่า "สำหรับนักลงทุนแล้ว payoff ที่ได้คือ unlimited gain / limited loss สำหรับผู้ออก DW คือ limited gain / unlimited loss"....ฟังดูดีนะครับสำหรับนลท.อย่างเราๆท่านๆ แต่ในทางปฏิบัติคำพูดนี้ถูกเกือบทั้งหมดครับ แค่เรารู้หรือไม่ว่าคำว่า Limited Loss มันก็คือ 0 หรือ"หมดตัว"นั่นแหละครับ พูดง่ายๆคือมันถูก Limit ให้เราหมดตัวจากเงินลงทุนทั้งหมด ไม่ใช่ unlimited ให้เราต้องขายบ้ายขายรถมาใช้หนี้ เรามาดูตัวอย่างกันครับ... สมมุติผมเป็นลท.มีเงิน 1,000,000 บาท ถ้าผมจะเล่น IVL เพรียวๆด้วยเงิน 1,000,000บาท ถามว่า possible payoff จากการลงทุนนี้คืออะไรครับ? Unlimited Gain / Limited Loss ใช่รึเปล่า (limited ที่ payoff = 0 ซึ่งก็คือ ขาดทุน = หมดตัว)? แล้ว DW ล่ะ? จากตัวอย่างที่ให้ไปในคห.10เราก็มีกำไร unlimited ได้ครับ ณ จุดที่ราคาแม่ขึ้นไปเกิน 32.2 บาท โดยได้กำไร 5,000 บาท จากการที่แม่ขึ้นไป 1 บาท... ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วขาลงล่ะครับ? แน่นอนเราจะขาดทุนไม่เกินค่า DW ที่จ่ายไป... นี่แหละครับคือประเด็น ถ้าผมมีเงิน 1,000,000 บาท แล้วต้องการซื้อ IVL ถ้าผมลงทุนใน IVL ตรงๆเลยผมจะซื้อหุ้นได้ 35,400 หุ้น ที่ราคา 28.25 แต่ถ้าผมลงทุนใน DW ด้วยราคาตลาดที่ 3.1 บาท ผมจะสร้าง explosure ที่คล้ายๆกับการถือหุ้นแม่ ด้วยเงินเพียง 219,480 บาท ด้วยการซื้อ DW 70,800 หุ้น (เคสนี้ผมไม่ได้ Hedge Payoff จากการ excercise นะครับ เพราะจะทำได้ราคาตลาด DW ต้องเหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งมันควรจะอยู่ที่แถวๆ 1.5-2 บาท จาก Black-Scholes ไม่ใช่ 3.1 บาท ณ ราคาแม่ 28.25) ในเคสนี้ "unlimited loss" ของผม"จำกัด"อยู่ที่ 219,480 บาทจาก 1ล้าน ถ้าหุ้นขึ้นไปไม่เกิน 32.2 ถ้าให้เทียบก็เทียบกับซื้อแม่อย่างเดียวด้วยเงิน 1,000,000 แล้วราคาแม่ลงไปเกิน 28.25- (219480/35400) = 22 บาท ปัญหาคือในทางปฏิบัติถ้าเป็นพี่ๆ จะซื้อ DW ด้วยเงิน 219,480 แล้วเอาที่เหลือไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลรึเปล่าครับ??? คำตอบก็คืออาจจะไม่ ผลก็คือพี่ลงทุนซื้อ DW ด้วยเงิน 1,000,000 บาท แน่นอนครับถ้าแม่ขึ้นเกิน 32.2 พี่จะได้กำไรมหาศาล (assume ว่าราคา option สมเหตุสมผล ไม่ใช่แบบตอนนี้) ถ้าเทียบกับซื้อแม่อย่างเดียว ในขณะเดียวกันถ้าราคาแม่ ณ วัน excercise ต่ำกว่า 32.2 ก็จะขาดทุนไปเรื่อยๆจนถึงถ้าแม่ราคา 26 ผลก็ได้ก็คือ "Limited Loss" เหมือนกันก็คือ 1,000,000 บาททั้งหมดที่ลงทุนไปหรือที่เรียกว่า "หมดตัว"นั่นเอง ในขณะที่ถ้าถือหุ้นแม่ถ้าคุณจะ"หมดตัวได้" ราคาต้องลงมาที่ 0 บาท หรือบริษัทเจ๊งนั่นเอง ในขณะที่ DW คุณสามารถหมดตัวง่ายๆถ้าเราคามันต่ำกว่า 32.2 บาท ทีนี้จะหมดตัวเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเล่นไปเท่าไหร่ ดังนั้นไม่ว่ากรณีไหนๆก็เรียก "Limited Loss" ทั้งนั้นครับ เพราะมันไม่มีทาง loss เกินเงินที่ลงทุนไป แต่ในทางทฤษฏีเค้านำมาเทียบกับ position ที่เทียบกับกับการถือแม่เพรียวๆครับ ไม่ใช่เอาเงินที่มีทั้งหมดลงไปเท่ากับถ้าจะซื้อแม่เพรียวๆ แม้กระทั่งในฝั่งของผู้ออก DW เองที่บอกว่า Unlimited Loss ในความเป็นจริงมันก็มี limit ครับในกรณี Short Put คือLimit อยู่ ณ จุดที่หุ้นแม่ราคา = 0 นั่นเอง ในขณะที่ Short Call นั้น loss แบบ unlimited จริงๆๆครับ ตามราคาที่หุ้นแม่ขึ้นไป สรุป 1. จำให้ได้นะครับ Limited Loss = หมดตัว ณ จุดราคาที่ถ้าซื้อแม่แต่แรกแล้วก็อาจจะกำไรด้วยซ้ำ หรือขาดทุนนิดหน่อย 2. ส่วน Unlimied Gain ก็ต้องคำนวน ดูBreak Even จากตัวอย่างคห.10 นั่นแหละครับ แล้วคิดดูเอาเองว่า ในโลกแห่งความเป็นจริง ราคาแม่ ณ Excercise มันจะขึ้น unlimit จนเกินจุดนั้นไปได้จริงๆหรือ Edit หลายส่วนเลยครับ ปล่อยไก่ไปหลายตัวมากๆในตอนแรก :D แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:55:49 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:33:13 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:00:20 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 12:04:40 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 11:59:56

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากค่ะ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้แจ้งเห็นจริงเรื่อง DW ขึ้นมาเลยค่ะ จากคุณ : nannoy เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 12:29:30

ความคิดเห็นที่ 29 โดยส่วนตัว ยอมรับว่า DW ในตลาดหลักทรัพย์ตอนนี้ เหมาะสมแก่การเก็งกำไรจริงๆ ทั้งนี้ขอสรุปหลักการง่ายๆ ว่า 1. ขาดทุนจำกัด เท่ากับมูลค่าที่ซื้อ DW  แต่กำไรไม่จำกัด (คุณสมบัติข้อนี้เหมือนหุ้น) 2. อัตราผลตอบแทนจะสูงกว่าการลงทุนในหุ้น เพราะมี Exposure (ข้อนี้เหมือนลงใน Futures) 3. ถ้าเราคาดการณ์ถูกว่าหุ้นแม่จะขึ้น ก็ซื้อ Call DW ที่อ้างอิงหุ้นตัวนั้น ถ้าคิดว่าลง ก็ซื้อ PUT DW (ที่ตอนนี้มีเพียงตัวเดียว) จากที่ติดตามการซื้อขาย DW ที่ผ่านๆมา 1. ราคา DW ก็ขยับตามราคาของหุ้นแม่นะครับ เพียงแต่อาจไม่ได้ตามทฤษฎีซะทีเดียว แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกันแน่นอน 2. การซื้อขายของงเจ้ามือ (จริงๆแล้วคือ Market maker) เค้าก็ต้องทำหน้าที่หลายอย่างนะ ทั้งสร้างสภาพคล่อง, ทำราคาให้ inline กับราคาใช้สิทธิ์ รวมถึงต้องเก็บของกรณีที่ DW กำลังจะ In-the-money เพื่อป้องกันการขาดทุนของตัวเอง (ดูจากรายงาน Outstanding) 3. ที่ผ่านมา PTT08CA ก็เคยจบด้วยการจ่ายเงินสดคืนให้ผู้ถือนะ สุดท้ายขอให้คุณตระหนักว่า คุณ... คือคนที่ลงทุนเอง คิดให้ดีๆ ศึกษาให้รอบคอบก่อนลงทุน (เก็งกำไร) นะครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 12:32:45 จากคุณ : เกรียนพองลม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 12:32:13

ความคิดเห็นที่ 30 รู้แต่ว่าหมดสัปดาห์นี้ อาจจะเห็น DW ติด Cash Balance ยกแผงครับ จากคุณ : yacht7 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 13:03:11

ความคิดเห็นที่ 31 ตอบ คห. 17 ในทางทฤษฏีถ้าดูกราฟคห.1 ซีกขวา KGI เจ๊งได้จริงๆครับในกรณีที่ออก Call แล้วราคาแม่ขึ้นไปสูงมากๆๆๆ หรือแม้แต่ในกรณี Put ก็อาจจะเสียหายหนักถ้าเกิด IVL โรงงานระเบิดทั่วโลก derivative แทบทุกชนิดมีจุดประสงค์หลักคือการบริหารความเสี่ยงครับ ถึงแม้ในอีกด้านของเหรียญจะสามารถนำมา amplify ความเสี่ยงก็ได้เช่นกัน ในกรณีนี้ KGI สามารถจัดการความเสี่ยงของตัวเองง่ายๆเลยครับ เช่นถ้าออก Call มา KGI ก็ offset loss จาก call ง่ายๆ ด้วยการทำ "Covered Call" ครับด้วยการถือ IVL ในมือครับด้วยอัตราที่เหมาะสม หรือจะใช้วิธี Long DW IVL อีกตัวเพื่อทำ "Bullish Spread" หรือ "Bearish Spread"ก็ได้ครับ ที่พูดมานี่ผมเปิดตอบจากหนังสือเลยนะครับ ซึ่งอาจจะไม่ใช่วิธีที่ทางผู้ออก DW ทำจริงๆเพื่อจัดการความเสี่ยงในทางปฏิบัติ ประเด็นที่ผมจะพูดก็คือว่าทางผู้ออก DW ไม่โง่ที่จะtake position เดี่ยวๆ ประเภทไม่รวยก็เจ๊งแบบนลท.ทั่วๆไปครับ เค้าจะมีเทคนิคในการ lock ผลตอบแทนหรือ spread ที่เค้าตั้งเป้าเอาไว้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงครับว่า KGI จะเจ๊งได้เกิด IVL ขึ้นไปมากๆๆๆจริงๆ อย่างแย่ก็อาจจะขาดทุนบ้าง หรือขาดทุนกำไรเท่านั้นเองครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:23:58 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 13:22:26

ความคิดเห็นที่ 32 ทฤษฏีไหนก็ใช้ไม่ได้สำหรับการเก็งกำไรในตอนนี้นะผมว่า ขนาด call กับ put ของ ivl มันยังวิ่งไปทางเดียวกันเลยคิดดู ปวดหัวจริงๆ จากคุณ : xczar เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 17:19:18

ความคิดเห็นที่ 33 ทฤษฎี บอกเราว่า  มะม่วง จะมีให้กินแค่ฤดูร้อน   แต่ปฏิบัติ  มีให้กินทั้งปี จากคุณ : เกรซอยากรวย เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 22:34:00

ความคิดเห็นที่ 34 แจ๋วเลย  อยากได้ตัวอย่างดูพอดี  .... Ponzi scheme  มือสุดท้ายได้แต่กระดาษเปล่า ขอยคุณท่านนายพลX  อวยยศให้ซะเรย...อิ อิ จากคุณ : เซฟเก็บตังค์ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 23:02:06

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณนะครับ จากคุณ : บุญทับ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 07:34:46

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณคะ     จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 12:55:49

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณค่ะ... จากคุณ : ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 14:07:17

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับ วิธีคำนวณแบบซับซ้อนนี่ผมลืมไปหมดแล้ว (ไม่ได้ใช้นานจัด) ตอนนี้สำหรับผมจะใช้วิธีคำนวณแบบง่าย ๆ แค่เอา strike price + มูลค่าตลาดของ DW ที่ต้องใช้ แล้วก็ forcast (แปลว่าเดานั่นเอง) ว่าถ้าถึงวันใช้สิทธิแล้วราคาตัวอ้างอิงมันน่าจะได้ตามนั้นหรือเปล่า  แต่ถ้าใช้วิธีผมรับรองได้ขายทิ้งกันหมดแน่ 555 จริง ๆ DW ที่มามันดี แต่ตลาด DW บ้านเรามันก็.......นะ ใครอยากเข้าบ่อนแบบถูกกฎหมายก็ไม่ยากละ จากคุณ : silver seraph เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 09:17:49

ความคิดเห็นที่ 39 คคหที่ 32 นลท อาจจะคิดว่า IVL อาจจะเหวี่ยง แต่ไม่รู้ว่าเหวี่ยงขึ้น หรือเหวี่ยงลง รึเปล่าครับ :) ขอแจ้งที่ผิดนิดนึงครับ คคห ที่ 10 ถ้าวันที่ 31/01 ราคา IVL เป็น 29.22 KGI +Premium จากราคา IPO ที่ 1.61*10,000 = 16,100 - ขาดทุนจากการถูก excercise = (29.22-26)*(10,000/2) = -16,100 KGI Net กำไร/ขาดทุน = -14,900 นลท. + excercise = (29.22-26)*(10,000/2) = +16,100 - 3.1*10,000 = -31,000 นลท. Net กำไร/ขาดทุน = -14,900 ต้องแก้เป็น KGI Net กำไร / ขาดทุน = 0 (เท่าทุน) รึเปล่าครับ? จากคุณ : esdgr เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 00:55:43

ความคิดเห็นที่ 40 ต้นทุนที่ต่ำที่สุดของ นลท อยู่ที่ราคาเริ่มต้นของ DW 2 ตัว + ราคาใช้สิทธิ์  ไม่ใช่หรือคะ??  ทำไมต้องไปคิดให้สับสน สลับซับซ้อน ในเมื่อที่เห็นเล่นๆกัน ก็แค่เก็งกำไรสั้นๆ เหมือนเล่นหุ้นปั่น  ราคาเว่อร์ๆทุกตัว  ไม่มีทางเอาชนะเจ้ามืออยู่แล้ว   แม้แต่นักลงทุนที่ซื้อ DW IVL ได้ต่ำสุด คือ 3.2 + 26 บาท  =  29.20 ตอนนี้ ยังแค่เท่าทุนเท่านั้น  คนที่ซื้อแพงกว่า กำลังขาดทุนทุกคน แต่ตัว DW ได้ถูกปั่นขึ้นไป + เกิน 200% แล้ว  คนที่ถือ น่าจะขายทิ้งเอากำไร sure sure ดีกว่าการรอแปลงในอีก 4 เดือนข้างหน้า  ยิ่งคนที่ซื้อทีหลังในราคาสูงๆ คงหวังแค่เก็งกำไรจากตัว DW เท่านั้น   ส่วน KGI ที่เป็นเจ้ามือ  กินเปล่าไปแล้ว 1.6 บาท ต่อ 1 DW   ถ้าออกมา 100 ล้านหน่วย ก็ได้ไป 160 ล้านบาท ไม่รวม commission และตราบใดที่ IVL มีราคาไม่เกิน 26 + DW ราคาตลาด x 2  ก็ยากที่จะมีใครมาแปลงให้ KGI ต้องขาดทุน  ตอนนี้ 26 + เกิน 10 บาท  ราคาบนกระดานยังไม่ถึง 30   ก็เอาราคาแปลง +  ราคา DW ตามตลาดที่ต้องลงทุนก่อน  เทียบกับตัวแม่   ส่วนต่างเรียกว่า  premium  ซึ่งยิ่งสูง ก็ยิ่งเสียง  เพราะคงไม่มีหุ้นตัวไหนวิ่งได้เร็วเท่า เมื่อปั่นได้ที่ และใกล้หมดอายุ  ทั้งวอลุ่มและราคา  ก็จะสะท้อนให้เห็นความจริงที่เราไม่ต้องเสียเวลาไปตามล่า ตอนนี้ DW ไม่ได้ตามตัวแม่  ดิฉันเห็น TTA ราคา 24.5 -25 นานหลายวัน แต่ DW ของ TTA วิ่งขึ้นไป + 100% แล้ว  ตัว TCAP ก็แทบไม่ขยับ แต่ DW เห็นวิ่งจาก 2.28 ไป 100% เช่นกัน  ตัว IVL ขึ้น แต่ put ของ IVL ก็วิ่งขึ้นตาม จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 20:55:58

ความคิดเห็นที่ 41 ดูกราฟพอเข้าใจ ข้อความก็งงๆ รู้แต่ว่ามันก็มีประโยชน์ดี ขอบคุณ จหกท. ที่นำมาลง จากคุณ : jejeeppe เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:42:18