เล่าสู่กันฟังครับ เบื้องหลังความสำเร็จของคุณสมชาย เหล่าสายเชื้อ ดีลเลอร์โตโยต้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
|
|
ท่าม กลางวิกฤตของแบรนด์ โตโยต้า ทั่วโลกที่ต้องเรียกคืนรถยนต์หลายรุ่นนับล้านคันมาแก้ไขข้อบกพร่อง แต่ที่ประเทศไทย โตโยต้า ยังครองยอดขายอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะ โตโยต้าดีเยี่ยม อุบลราชธานี ของเสี่ย สมชาย เหล่าสายเชื้อ เจ้าของโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชีย เบื้องหลังความสำเร็จ หนุ่มเมืองจันท์ แห่ง ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ( คอลัมภ์นิสต์) จะเล่าให้ฟัง " หนุ่มเมืองจันท์ " เล่าว่า ผมเพิ่งกลับจากงาน " MICT สร้างคน สร้างชาติ " ที่จังหวัดอุบลราชธานี ผมคุยกับ " สมชาย เหล่าสายเชื้อ " เจ้าของ " โตโยต้าดีเยี่ยม " ดีลเลอร์ขายรถโตโยต้ารายใหญ่ของอุบลราชธานี บอกตรงๆ ว่าไม่รู้จัก ตอนอ่านข้อมูลของ " สมชาย " ที่ทีมงานส่งมาให้ก็เริ่มสนใจมากขึ้น แต่พอได้เจอตัวจริง ยิ่งคุยยิ่งตะลึง ... ไปอยู่ที่ไหนมา
" โตโยต้าดีเยี่ยม " เป็นโชว์รูมของโตโยต้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 22 ไร่เศษ ใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท และกำลังขยายไปอีก 60 ไร่ แต่ความยิ่งใหญ่ของ " โชว์รูม " นั้นไม่เท่ากับชีวิตของ " สมชาย " ผม ชอบประโยคหนึ่งที่เขาบอกกับคณะกรรมการของ " โตโยต้า " ในช่วงการสัมภาษณ์ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินว่าจะอนุมัติให้ " สมชาย " เป็น " ดีลเลอร์ " ขายรถโตโยต้าหรือไม่ " ผมไม่มีอะไรที่เหนือกว่าคนอื่น ผมมีเพียงแค่ใจที่เหนือคน " " ขนาดหัวใจ " ของ " สมชาย " คนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ " สมชาย " จบแค่ ป. 5 ตอนเรียนนั้น เขามีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าเด็กนักเรียนคนอื่นตรงที่ เรียนชั้นละ 2 ปี จนถึง ป. 5 ครูประจำชั้นทนไม่ได้ ต้องแอบเอาข้อสอบมาให้ที่บ้าน กลัวว่าเขาจะสอบตก " สมชาย " ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ไปทำงานตามร้านขายของชำ ขายหนังสือพิมพ์ ฯลฯ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน เขาเป็นคนสู้งาน ทำงานที่ไหนเถ้าแก่ก็รัก วันหนึ่ง เขาไปทำงานที่บริษัทเสริมสุข ส่ง " เป๊ปซี่ " ตามร้านต่างๆ ในจังหวัดอุบลฯ ทำงานไม่กี่เดือน เขาก็ได้เป็น " พนักงานขายดีเด่น " ที่ทำยอดขายสูงสุดในประเทศไทย 1,200 กว่าลังต่อวัน จำนวนลังที่ขายได้ต่อวันมากกว่าปริมาณที่รถจะบรรทุกได้ครับ เขาขาย 2 รอบ เคล็ดลับการขายของ " สมชาย " ก็คือ ออกรถเช้ากว่าคนอื่น เขาออกรถตั้งแต่ตีห้า 11 โมงเขาก็ขายหมด
กลับมาบรรทุก " เป๊ปซี่ " ใหม่อีกเที่ยวหนึ่ง แล้วตระเวนไปตามร้านอื่นๆ ต่อ " ผมไม่ได้ขายแค่ร้านริมถนน แต่ในซอย หรือตามบ้าน ผมก็ส่ง "
3 ปีผ่านไป เขาก็ยังรักษาสถิตินักขายดีเด่นเอาไว้ได้ ซึ่งตามหลักเขาควรจะได้รับการโปรโมตในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ " สมชาย " ไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่าตำแหน่งผู้จัดการนั้นต้องมีอายุ 36 ปีขึ้นไป " สมชาย " ตัดสินใจลาออก และเดินตามความฝันในวัยเด็กของเขา เขาชอบ " รถยนต์ " " สมชาย " เดินไปสมัครงานที่ " โตโยต้าอุบลราชธานี " ดีลเลอร์ขายรถโตโยต้าเก่าแก่ในเมืองอุบลฯ คำถามแรกที่เจอก็คือ " จบอะไรมา " พอบอกว่า ป. 5 เถ้าแก่ก็ปฏิเสธ " ตอนนี้เขารับแต่ ปริญญาตรี หรือ ปวส. " " สมชาย " รู้ว่าคุณสมบัติสู้ไม่ได้ เขาจึงยื่นข้อเสนอใหม่ เป็นข้อเสนอแบบ " ก๊อดฟาเธอร์ " " นี่คือ ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ " " ก๊อดฟาเธอร์ " นั้นใช้บารมีหรือความเหี้ยมโหดทำให้คนฟังต้องสยบยอม แต่ข้อเสนอของ " สมชาย " เป็นข้อเสนอที่คนฟังไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร ข้อเสนอของเขามี 3 ข้อครับ 1. ทำงานอะไรก็ได้ 2. เงินเดือนเท่าไรก็ได้ และ 3. ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด
" คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้ามีคนเสนอเงื่อนไขแบบนี้ " คุณสมชายถามผมบนเวที ... ทำงานอะไรก็ได้ เงินเดือนเท่าไรก็ได้ และทำงานไม่มีวันหยุด " แบบนี้ต้องมาปล้นแน่ๆ เลย " ผมตอบ ... มุข ครับ มุข
" เถ้าแก่ " คนไหนเจอคนมาสมัครงานแล้วเสนอเงื่อนไขแบบนี้ อย่างน้อยเขาก็ต้องรู้สึกว่าไอ้เด็กคนนี้มันต้องขยัน และตั้งใจจริงอย่างแน่นอน นั่นคือ เหตุผลที่ " เถ้าแก่ " ตัดสินใจรับ " สมชาย " เข้าทำงาน เริ่มต้นงานแรกด้วยการปัดกวาดรถและทำทุกอย่างที่ " เถ้าแก่ " ใช้ จนวันหนึ่ง " เถ้าแก่ " สั่งให้เขาไปส่งรถให้ลูกค้าที่ยโสธร ให้เงินไป 30 บาท 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นเขากลับมาพร้อมกับตังค์ทอน 13 บาท ขับรถไปส่ง และนั่งรถโดยสารกลับมา ไม่อู้ และซื่อสัตย์ เมื่อ โชว์รูมที่ยโสธรมีปัญหา " เถ้าแก่ " จึงส่ง " สมชาย " ไปดูแล 3 เดือนแรกเขาขายไม่ได้เลยสักคันเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่ " สมชาย " ค้นพบก็คือ คนที่มีรถเก่า ส่วนใหญ่อยากซื้อรถคันใหม่ แต่จะซื้อได้ก็ต้องขายรถเก่าให้ได้ก่อน " สมชาย " จึงใช้กลยุทธ์หาพ่อค้ารถมือสองมารับซื้อรถ พอขายรถเก่าได้ เขาก็จะมาซื้อรถใหม่กับ " สมชาย " ยอดขายรถโตโยต้าที่ยโสธรพุ่งขึ้นเรื่อยๆ สิ้นปี " เถ้าแก่ " จัดงานปีใหม่ และบอกกับพนักงานทุกคนว่าสาขาอุบลฯ นั้นอยู่รอดได้เพราะสาขายโสธร " หนู " ช่วย " ราชสีห์ " " สมชาย " ทำงานที่ " โตโยต้าอุบลฯ " 15 ปี เมื่อ " เถ้าแก่ " เสียชีวิต เขาก็ตัดสินใจลาออก เลิกเป็น " ลูกจ้าง " และเริ่มต้นชีวิต " เถ้าแก่ " ตั้งแต่วันนั้น เชื่อไหมครับว่าวันเปิดโชว์รูม " โตโยต้าดีเยี่ยม " เขาส่งจดหมายไปถึงผู้มีพระคุณ 5 คน
ขอเชิญมาร่วมงาน พร้อมกับ " ของขวัญ " ที่แทน " คำขอบคุณ " เชิญเลือกรถโตโยต้า 1 คัน รุ่นไหนก็ได้ เลือกได้เลย
" น้ำใจ " ที่ยิ่งใหญ่ของ " สมชา ??" กลับได้รับ " คำตอบ " ที่งดงามยิ่งกว่า งดงามอย่างไร ฉบับหน้าจะเล่าให้ฟังครับ " ผม ไม่ได้ขายรถถูกกว่าตัวแทนจำหน่ายอื่น แต่ลูกค้าประทับใจในบริการ พอมาจอดรถปั๊บ เจ้าหน้าที่จะประกาศว่าขณะนี้มีลูกค้าท่านนั้นท่านนี้มาออกรถใหม่ ขอให้พนักงานทุกคนที่ว่างเว้นจากการทำงานมาร่วมพิธีส่งมอบรถ ซึ่งมีพนักงานมาร่วมส่งเป็นร้อยครับ "
สมชาย เหล่าสายเชื้อ เป็นเจ้าของโชว์รูมโตโยต้าดีเยี่ยม จังหวัดอุบลราชธานี นักธุรกิจภูธร ที่มีความรู้แค่ชั้น ป. 5 รับงานทุกอย่างที่ขวางหน้าตั้งแต่เด็กล้างรถ คนขับรถน้ำอัดลม จนขยับขึ้นมาเป็นเซลส์แมน และมีความฉลาดเฉลียวชนิดหาตัวจับยากมาตั้งแต่เด็ก แม้ฐานะยากจนแต่ดิ้นรนสู้ชีวิตจนกลายเป็นเจ้าของโชว์รูมโตโยต้าใหญ่ที่สุดใน เอเชีย คือตัวอย่างของความน่าสนใจ ที่อยากเชิญชวนให้ติดตาม...นับจากนี้
เซลส์ดีเด่น เดินหน้าล่าฝัน
" ผม เป็นคนเรียนเก่งมาก คือเรียนชั้นละ 2 ปี " คุณสมชาย เปิดประเด็นด้วยการยิงมุขเรียกเสียงหัวเราะ ก่อนเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาแบบเปิดเผยว่า ตัวเขาความจำไม่ค่อยดี ลักษณะเหมือนคนความจำสั้น เรียนได้ไม่เกิน 10 นาที เริ่มรู้สึกเบลอคล้ายมีอาการผิดปกติทางสมอง เวลาสอบไล่ทีไร มักได้ลำดับบ๊วยอยู่เสมอ หรืออาจได้รองบ๊วยบ้าง ถ้าเทอมนั้นมีคนขาดสอบ แต่ด้วยความที่ไม่เป็นเด็กเกเร คุณครูจึงเมตตานำข้อสอบมาให้ทำถึงที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงไม่จบ ป. 5 เมื่อค้นพบว่าการเอาดีทางเรียนหนังสือคงลำบาก จึงตัดสินใจยุติการเรียนในระบบแล้วออกมาหางานทำ...ทำงานสุจริตทุกอย่างที่ได้เงิน " ขาย มาแล้วแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ หัวอาหารสัตว์ ยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ย ปลาร้า ยาเส้น หนังสือพิมพ์ กระทั่งน้ำอัดลม " คุณสมชาย เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนให้ข้อมูลน่าสนใจว่า ช่วงที่เขาทำงานอยู่กับ " เป๊ปซี่ " ส่งสินค้าให้ตามร้านค้าในตัวจังหวัดอุบลราชธานีนั้น เคยได้รับรางวัลเป็นพนักงานขายดีเด่น ทำยอดขายได้มากที่สุดถึง 1,222 ลัง ต่อวัน คู่สนทนาแทบตกเก้าอี้ เมื่อได้ยินสถิติของยอดขายดังกล่าว จึงถามไถ่ถึงเทคนิคส่วนตัว คุณสมชาย จึงบรรยายให้เห็นภาพที่ดูเหมือนง่ายว่า " อาศัย ตื่นเช้าและกลับดึก การออกจากบ้านแต่เช้าทำให้มีโอกาสไปไกลกว่า และสามารถเพิ่มรอบการทำงานได้มากกว่าคนอื่น และต้องไม่มองว่าร้านนี้ซื้อเท่าไหร่ ผมขายให้หมด 10 ลังก็ขาย ครึ่งลังก็ขาย เวลาผ่านไปร้านไหน ต้องเข้าไปสวัสดีครับ เป๊ปซี่มาเยี่ยมครับ ทำอย่างนี้ทุกร้านต้องขายได้ทุกร้าน คนอื่นเขาอาจไปเยี่ยม 50-60 ราย ต่อวัน แต่ผมต้องเยี่ยมให้ได้ 300-400 ราย ต่อวัน " คุณสมชายเป็นพนักงานขายดีเด่น ติดต่อกันนาน 3 ปี จึงตัดสินใจลาออก เพื่อ " ล่าฝัน " ครั้งยังเยาว์
" เป็นความฝันตั้งแต่เป็นเด็กว่าอยากเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ เคยไปเกาะกระจกโชว์รูม แล้วคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้เป็น จนเข้ากรุงเทพฯ เห็นแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าเต็มไปหมด เลยวิเคราะห์เองว่ารถแท็กซี่ต้องวิ่งวันละ 24 ชั่วโมง รถจึงต้องทนทาน ถ้าได้เป็นตัวแทนของโตโยต้า คงทำงานไม่ยาก เพราะผลิตภัณฑ์เขาดี " เจ้าของเรื่องราว เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มธุรกิจในฝัน และ ก่อนก้าวขึ้นเป็นตัวแทนจำหน่าย คุณสมชายเคยทำงานเป็นเซลส์ขายรถยนต์โตโยต้าประจำดีลเลอร์แห่งหนึ่งในจังหวัด อุบลราชธานีมาก่อน แต่กว่าจะได้เข้ามาจับงานขาย ด้วยความที่จบเพียงชั้น ป. 5 เขาจึงต้องเริ่มต้นด้วยการทำหน้าที่ปัดกวาดและทำงานทุกอย่างตามแต่เถ้าแก่ บัญชาเสียก่อน ครั้นเมื่อวันเวลาผ่านไปได้ราว 15 ปี เขาจึงมีโอกาสผงาดขึ้นเป็น " เถ้าแก่ " เองบ้าง " พอ ถึงวันที่ทำได้อย่างฝัน เลยใส่ทุกอย่างเข้าไปเต็มที่ โชว์รูมของผม มีร้านอาหาร ห้องรับรอง ร้านเสริมสวย ร้านกาแฟ คาราโอเกะ เรียกว่าครบวงจร แต่เดิมมีพื้นที่ 22 ไร่เศษ ลงทุนไป 800 ล้านบาท และตอนนี้กำลังขยายไปอีก 60 ไร่ " คุณสมชาย เล่าน้ำเสียงไม่โอ้อวด แต่ท้าทายต่อว่า " ถ้าใครเจอโชว์รูมหรือศูนย์บริการที่ไหนดีกว่าของผม ผมให้แสนนึงเลย "
ดีเยี่ยม ไม่เป็นรอง ที่หนึ่ง...เท่านั้น
ความมั่นใจว่าอาณาจักรของเขา " ดีเยี่ยม " ไม่เป็นรองใครนั้น คุณสมชายมีข้อมูลมายืนยัน โดยแจงให้ฟังดังตัวอย่าง " ลูกค้า ที่มาซื้อรถที่ดีเยี่ยม จะรู้สึกเหมือนไปซื้อรถที่ห้างสยามพารากอน เพราะผมสร้างโชว์รูม ที่หรูหรา สง่างาม แค่เดินผ่านห้องน้ำ ฝาชักโครกยกขึ้นอัตโนมัติ น้ำไหลใส่มือไม่ต้องบิด ทุกอย่างอัตโนมัติหมด "
" โต โยต้าดีเยี่ยมไม่ได้ขายรถถูกกว่าตัวแทนจำหน่ายอื่น แต่ลูกค้าประทับใจในบริการ พอมาจอดรถปั๊บ เจ้าหน้าที่จะประกาศว่าขณะนี้มีลูกค้าท่านนั้นท่านนี้มาออกรถใหม่ ขอให้พนักงานทุกคนที่ว่างเว้นจากการทำงานมาร่วมพิธีส่งมอบรถ ซึ่งมีพนักงานมาร่วมส่งเป็นร้อยครับ " คุณสมชาย เล่าจบประโยคนี้ มีปฏิกิริยาตื่นเต้นจากคนฟังในวันนั้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนสำทับถึงความดีเยี่ยมในแบบของเขาต่อว่า
" ลูกค้า ที่มาซื้อรถ ต้องรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของโชว์รูมมูลค่านับพันล้านบาทที่เปิด 365 วัน จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ มีคาราโอเกะ ร้านเสริมสวย ไว้คอยให้บริการฟรีหมด เขาต้องรู้สึกว่าเสียเงินซื้อรถแล้วคุ้มค่า แล้วเวลาลูกค้าเข้ามาหาโชว์รูม ไม่ต้องเดินนะครับ มีรถกอล์ฟพาเที่ยวชมแต่ละจุด เรียกว่าลูกค้าทุกคนเป็นวีไอพีเหมือนกันหมด " สนทนา มาถึงตรงนี้มีคำถามทำไมต้องใช้คำว่า " ดีเยี่ยม " เจ้าของกิจการมูลค่าพันล้านบาท จึงอธิบายด้วยเสียงดังฟังชัดว่า เป็นความตั้งใจจริงของเขาที่ต้องการอยู่ใน " อันดับหนึ่ง " เท่านั้น ทั้งๆ ที่สมัยเรียนหนังสือเขาครองอันดับบ๊วยมาตลอด
" ตอน เปิดบริษัท มีการมอบนโยบาย ผมบอกกับลูกน้องว่า ต้องการที่หนึ่งอย่างเดียว ที่สองก็ไม่เอา ปรากฏว่าทุกคนในบริษัทออกอาการมึนงง และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะในประเทศไทยมีตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าถึง 200 กว่าแห่ง "
" แต่ ผมก็ฝ่าฟันจากอันดับ 80 กว่ามาเป็น 50 กว่า เดี๋ยวนี้ขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งแล้ว หมายความว่าความพึงพอใจจากลูกค้าของผมมาเป็นอันดับหนึ่งครับ " คุณสมชาย เล่าก่อนยิ้มปลื้ม ถาม ไถ่ถึงหลักในการบริหารคน คุณสมชายบอกเขามักพูดคุยให้คนที่เข้ามาสมัครเข้าทำงานเข้าใจว่า ชีวิตของทุกคนมีคุณค่าเหมือนกัน เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนจะเป็นทั้งลูก ทั้งน้อง ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี แต่ทุกคนต้องตั้งใจทำงานด้วย " ผม บอกลูกน้องเสมอว่าคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่สามารถเลือกเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่มีความมุ่งมั่น อะไรที่คุณกลัวอย่าไปกลัว ให้เดินเข้าหามันเลย "
" มี ช่างคนหนึ่งมาปรึกษาผม บอกทำงานอยู่ 3 ปี อยากเป็นเซลส์แต่ทำไม่ได้ ผมบอกยังไม่ลอง แล้วรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้ ปรากฏเดือนแรกเขาขายได้ 22 คัน เดือนที่สองได้อีก เดือนที่สามก็ได้อีก เทคนิคที่ผมบอกเขาไปคือคุณต้องฉกฉวยโอกาส มาถึงแต่เช้า เที่ยงไม่กิน เย็นเพื่อนเลิกงานแล้ว ก็ยังไม่กลับรอจนค่ำมืด สุดท้ายช่างคนนั้นกลายเป็นท็อปเซลส์ไปเลย " คุณสมชาย เล่าให้ฟัง ฉกฉวยทุกโอกาส เชื่อมั่น ทำได้ บุคลิก โดดเด่นของนักธุรกิจพันล้านท่านนี้ที่มีการกล่าวขานกันมากในหมู่ผู้ใกล้ชิด นั่นคือการใส่ใจในรายละเอียด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ " คนรอบตัว " ในทุกระดับ
ยก ตัวอย่างเมื่อครั้งการก่อสร้างโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชียใกล้เสร็จ เขาถือโอกาสเชิญช่างอิฐ-หิน-ปูน-ทราย รวมถึงผู้รับเหมาทุกคนมารับเลี้ยงโต๊ะจีน เพื่อแทนคำขอบคุณที่ทุกคนมาช่วยสร้างให้ฝันของเขาเป็นจริง " ผม บอกกับช่างทุกคนว่า หากไม่มีพวกท่านโชว์รูมของผมคงไม่มีทางสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะออกใบประกาศให้พวกเขาเก็บไว้เป็นที่ระลึก หากวันไหนมีโอกาสผ่านไปมา สามารถเข้ามาเยี่ยมเยียนใช้บริการได้ทุกเวลา " " ปรากฏช่างคนหนึ่งซาบซึ้งใจ อยากอุดหนุนผม จึงขอจองรถ 1 คัน กระทั่งจบงานเลี้ยง ผมขายรถให้กับผู้รับเหมาได้ทั้งหมด 55 คัน " คุณสมชาย เล่าเหมือนไม่ตื่นเต้น แต่ทำเอาคู่สนทนาตกใจแทบจะพลัดตกจากเก้าอี้เป็นครั้งที่สอง ความ ละเอียดอ่อนของคุณสมชาย ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะช่วงเวลาที่เขากำลังมีความสุขกับอาณาจักรตรงหน้า แต่เขาก็ไม่เคยละเลย ระลึกถึง " ผู้มีพระคุณ " ซึ่งมีส่วนผลักดันให้เขาก้าวมาถึงฝั่งฝันดังเช่นทุกวันนี้ " ตอน จะเปิดโชว์รูมผมส่งจดหมายไปยังผู้มีพระคุณหลายๆ ท่าน ขอให้สละเวลามาเลือกรถไปใช้ตามชอบ โดยผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แต่ทุกท่านไม่ขอรับ ให้เหตุผลกลับมาว่า ให้ผมเก็บเอาไว้ทำทุน " " ช่วง ปีใหม่ผมจึงนำเงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้กับพวกท่านอีก คราวนี้ทุกท่านรับไว้ แต่พอถึงเทศกาลตรุษจีน พวกท่านก็นำเงินก้อนนั้นกลับมามอบให้ผมเป็นแต๊ะเอีย " คุณสมชาย เล่า ย้อน ถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งต้องฝ่าฟันมรสุม " ต้มยำกุ้ง " เมื่อครั้งปี 2540 คุณสมชาย ย้อนความทรงจำให้ฟังว่า ช่วงเวลานั้นสถาบันการเงิน 65 แห่งต้องปิดตัวลง นักธุรกิจแทบทุกวงการ ล้วนตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขา แต่หากมัวพร่ำบ่นว่าแย่ คงหมดกำลังใจไปนานแล้ว " ผม ไม่เคยท้อ เพราะท้อแล้วไม่มีประโยชน์ ท้อแล้วมันทำให้หมดกำลังใจ เราต้องรีบอาบน้ำ แล้วเติมกำลังใจให้ตัวเองใหม่ เพราะคนเราขาดกำลังใจไม่ได้ ปัญหาคือความสำเร็จปลอมตัวมาทดสอบเรา เหมือนข้อสอบ " คุณสมชาย บอกจริงจัง ก่อนเผยกลยุทธ์เมื่อครั้งนั้น
" ช่วง เศรษฐกิจไม่ดี หลายคนคิดว่าไม่มีโอกาสเพราะตลาดเต็ม แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น กลับกันคือ ต้องเร่งขยายงาน เพราะคู่แข่งก็คือคู่แข่งอยู่ดี จึงต้องแตกต่างทำงานให้มากกว่าคนอื่น เมื่อมีคนตกงานมาสมัครงานกันมาก เลยสามารถคัดคนได้ " คุณสมชาย เล่า ก่อนฝากมุมมองไว้ด้วยว่า คนที่ประสบความสำเร็จมักฉกฉวยโอกาสจากโชคร้าย แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าจะฉกฉวยในทุกโอกาส
แม้ จะจบการศึกษาในระบบเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หากแต่ว่ามาวันนี้ กลับได้เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตไม่น้อยหน้าใคร คงมีใครหลายคนตั้งคำถามถึงเคล็ดลับในการทำงาน ซึ่งคุณสมชายมักแนะนำให้คนเหล่านั้นจุด " ไม้ขีดไฟ " ก้านแรกให้กับชีวิตของตัวเองเ ? ียก่อน และต้องมีความเชื่อมั่นว่าหากคนอื่นทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนอย่างเราทำไม่ได้ จากนั้นจึงลงมือปฏิบัติทันที " ผม มักบอกทุกคนว่าไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดูถูก แต่เราอย่าดูถูกตัวเอง ต้องบอกกับตัวเองว่าเราเป็นคนมีศักยภาพ พ่อแม่ยังรอความหวังจากเรา ญาติพี่น้องยังรอความหวังจากเรา "
" ถ้า เราไม่จุดไม้ขีดไฟชีวิตตอนนี้ หรือไม่ปรับปรุงตัวให้มีความแตกต่างจากคนอื่น ปีหนึ่งๆ มีคนจบปริญญาตรี 600,000 คน ที่พร้อมจะมาเป็นคู่แข่ง ฉะนั้น คุณต้องถีบตัวเอง ไม่มีใครเขาสร้างบริษัทมูลค่าร้อยล้านพันล้านบาท เพื่อรอให้คุณทำงานให้เรื่อยๆ เฉื่อยๆ หรอก "
" คน ที่รู้จักใช้เวลา คือคนที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพราะเวลามันผ่านแล้วผ่านเลย ย้อนกลับมาไม่ได้ กลับมาเถิดวันวานมีแต่เสียงเพลง ชีวิตจริงมันไม่มีหรอกครับ " คุณสมชาย ฝากแง่คิดทิ้งท้ายอย่างนั้น
จากคุณ |
:
โรงแรม
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ต.ค. 53 05:52:02
|
|
|
|