|
...สมัยนี้ ประเทศต่างๆ ชอบจะชักชวนต่างชาติเอาเงินมาลงทุนในประเทศของตน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ... แต่ที่จริงหลักการอันนี้มีมานานแล้ว ก่อนพุทธกาลซะอีก ..
...มีเรื่องเล่าในครั้งพุทธกาล ว่า ครั้งหนึ่งแคว้นโกศลของพระเจ้าปเสนทิเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง จึงอยากจะฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจของแคว้นของตน ดังนั้นจึงส่งฑูตไปกราบทูลต่อพระเจ้าพิมพิสารแห่งแคว้นมคธซึ่งมีความมั่งอุดมสมบูรณ์ มีเศรษฐีมากมาย มีมหาเศรษฐีตั้ง ๕ คน ให้พระเจ้าพิมพิสารซึ่งเป็นพระสหายกัน ให้ช่วยแบ่งเศรษฐีจากแคว้นมคธส่งไปอยู่แคว้นโกศลสักคน (ทั้งพระเจ้าปเสนทิ และพระเจ้าพิมพิสาร ทั้งคู่ต่างก็เป็นลูกศิษย์คนสำคัญของพระพุทธเจ้า มีความศรัทธาในพุทธสาสนาเต็มที่) .. พระเจ้าพิพิสารก็ไม่ขัดใจพระสหาย จึงทรงปรารภจะส่งเมณฑกมหาเศรษฐีไปอยู่แคว้นโกศล แต่เมณฑกมหาเศรษฐีไม่อยากไปเอง จึงส่งเศรษฐีลูกชายคือสญชัยเศรษฐีไปแทน (เมณฑกมหาเศรษฐี คือ ปู่ ของนางวิสาขามหาอุบาสิกาของศาสนาพุทธนั่นเอง .. สญชัยเศรษฐีคือ พ่อของนางวิสาขา) ..ปรากฏว่า เนื่องจากมีสมบัติมากมาย เมื่อสญชัยเศรษฐีเคลื่อนย้ายครอบครัวและทรัพย์สมบัติไปอยู่แคว้นโกศล ต้องไปสร้างเมืองขึ้นมาอีกเมือง เพื่อรองรับครอบครัวและบริวารอีกมากมาย และช้างม้าวัวควาย สมบัติต่างๆของสญชัยเศรษฐี อีกมหาศาลบานเบอะ .. เมืองนั้นชื่อว่า เมืองสาเกต
นี่คือตัวอย่างของการเคลื่อนย้ายทุน มีมาก่อนนานแล้ว ตั้งกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว
หลักการแบ่งสมบัติเป็น ๔ ส่วน ตามที่ยกมาในกระทู้ตั้ง ที่เรียกว่า โภควิภาค ๔ (จาก ปาฏิกวรรค ฑีฆนิกาย สุตตันตปิฏก) คือ... ๑ . เอเกน โภเค ภุญฺเชยฺย ... หนึ่งส่วน(หมายถึง ๑ ใน ๔) ใช้จ่ายเลี้ยงตน เลี้ยงคนที่ควรบำรุง และใช้ทำประโยชน์อื่นๆ
๒. และ ๓. ทวีหิ กมฺมํ ปโยชเย ...สองส่วน(ครึ่งหนึ่ง) ใช้ลงทุนเพื่อให้เพิ่มพูน
๔. จตุตฺถญฺจ นิธาเปยฺย ..หนึ่งส่วนเก็บไว้เผื่อใช้เมื่อยามจำเป็น
จากคุณ |
:
Clarke
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ต.ค. 53 01:02:31
|
|
|
|
|