|
สวัสดีครับแวะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ ผมว่าเรื่องมันน่าจะเกิดมาจากตรรกะของผู้คนส่วนมากมองว่า number1 คือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะให้ผลลัพธ์ที่สูงที่สุด โดยจะไม่สนใจมอง number 2 ,3 ,4,5,
,10 และเนื่องจาก number 1 เป็นนักลงทุนสไตล์ VI ด้วยแล้วก็จะกลายเป็นว่า แนวทางนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด คือคำตอบ โดยลืมมองว่าจริงๆแล้ว สไตล์ของเราเหมาะกับแนวนี้จริงๆหรือไม่ เพราะเราถูกกรอบความคิด ครอบงำไปแล้วว่า คนที่สุดยอดเค้ามาแนวทางนี้นะดังนั้น ถ้าเราไปแนวทางอื่นมันต้องไม่ดีแน่ๆ
แต่ถ้าคนส่วนมากเปิดใจมองบน ความจริง ลองเอาข้อมูล Top 500 นักลงทุนมาดู แล้วล่ะก็เราอาจจะได้ความรู้เพิ่มเติมอีกมากมายเลยว่า จริงๆแล้ว VI กับ VS ที่หลายๆคนต่างคิดว่าเป็นแนวทางหลักในแนวทางการลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถกเถียงมาโดยตลอด กลับมีแนวทางอื่นๆที่ประสบความสำเร็จมากมายเช่นกันเมื่อเทียบในแง่อัตราคนที่ทำสำเร็จ
ท้ายนี้ผมคิดว่านักลงทุนที่ดี ควรจะต้องมองทุกอย่างให้ครอบคลุม ระหว่างเรื่องของผลลัพธ์และโอกาส ยกตัวอย่างง่ายๆเพื่อให้เห็นภาพ เช่น โอกาสสำเร็จ 10% แต่ได้ผลลัพธ์ ตอบแทน 100 % กับ โอกาสสำเร็จ 90% ผลลัพธ์ตอบแทน 10% ซึ่งผมคิดว่าเราควรเปิดใจรับทุกวิถีแนวทาง ศึกษาข้อมูลจริงๆกันดูว่า เอ....คนที่เค้าสำเร็จกัน เค้าทำแนวทางไหน ความรู้อะไรกันบ้างน้า อันไหนเจ๋งเหมาะกับตัวเราก็มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม เพราะฝรั่งเอาเข้าจริงๆมันใช้ทุกวิถีแนวทาง ที่มันเห็นว่าจะกินตังเราได้ หรือทำผลตอบแทนได้ (บัฟเฟต เองยัง short options เลย ลองโหลดงบ เบิร์กไชร์มาดูกันก็ได้ครับ) เมื่อก่อนผมต้องแอบเจ็บใจลึกๆเวลาได้ Monthly report ว่า...เอ ทำไมมันถึงกินตังพวกเราง่ายกันจัง โดยเฉพาะ Future เนี่ย เอ..หรือ ว่าพวกเรามัวแบ่งฝ่ายความรู้กันอยู่แล้วตีกันเอง ถ้าจับเอาองค์ความรู้ มารวมกันได้ต่างฝ่ายต่างเปิดใจรับรู้ และแนะนำกัน ก็คงเกิดนักลงทุนเจ๋งๆในบ้านเราขึ้นอีกมากมายเลยทีเดียวก็อาจเป็นได้เนอะ อิอิ :)
จากคุณ |
:
MudleyGroup
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ต.ค. 53 03:05:05
|
|
|
|
|