ความคิดเห็นที่ 1 ภาพปลากรอบ จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 18:08:14

ความคิดเห็นที่ 2 อยากรู้ว่าจะจองได้ยังไงครับ? จากคุณ : TOK99 เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 18:34:34

ความคิดเห็นที่ 3 นั่นซิ จะโทรถามมาร์ ก็วันหยุด เจอแต่ เวบ บัวหลวง ยังไม่ได้หาวิธีจองเลย         แล้วคุณคิดว่า ถึง 1 พย KTB จะราคาเท่าไรครับ น่าจะลองโทรถามที่ บัวหลวงเลยนะ http://www.bualuang.co.th/th/c_ho_branch.php จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 19:09:11

ความคิดเห็นที่ 4 ktb01pa ผมว่ายังไม่แฟร์ นะครับ 13บาททำไม่ไม่เอา16บาทเหมือนกันไปเลย ออกมาในราคาเท่ากันๆ รับรองมันหยด เพราะอัตราส่วน1:1  หุ้นktbขึ้น1บาทdwขึ้น1บาท โฮๆแรงมากครับ จากคุณ : วิญญาณเทวดา เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 20:17:03

ความคิดเห็นที่ 5 จากเดิมที่มีเพียงหุ้น KTB      แล้วตลาดก็พัฒนา ให้มีฟิวเจอร์ KTB  ออกมาเป็น  SSF (Single stock future) เป็นอีกทางเลือก ให้เล่นลง หรือขึ้นได้ตาม  KTB แต่ KTBZ10 ยังเป็นฟิวเจอร์ ที่ใช้เงินค้ำประกันสัญญา  และยังมีความเสี่ยง แบบกำไรไม่ลิมิต และขาดทุนไม่ลิมิตด้วย ถ้าช่วงไหน เงินในบัญชี ไม่พอเพียงกับค่ามาร์จิ้น อาจจะต้องโดนโทรตาม ให้เติมเงิน สำหรับบางคนที่ไม่มีเวลาหน้าจอตลอด หรือ เทรด รายวัน จึงอาจจะไม่สดวกนัก เพราะสัญญาฟิวเจอร์ มีอายุเวลาด้วย    ต่อมา ตลาดได้พัฒนา ให้มีออปชั่น วอแรนซ์ ถึงแม้จะเป็นก้าวแรกของออปชั่น แบบเทียมๆๆ         ไม่เต็มรูปแบบออปชั่นแท้ (มีเจ้ามือ จริงๆๆ คนเล่นได้แต่ซื้ออย่างเดียว )แต่ก็เป็นผลดีที่  ไม่โดนภาวะ ผู้ขายออปชั่นที่ต้องมีระบบมาร์จิ้นเช่น ฟิวเจอรื  เป็น ออปชั่นที่ซื้อเพื่อไปขายแบบหุ้น )        เมื่อเอาราคาแปลงไปจำนวนหนึ่ง จึงตอบสนองคนเคยเล่นหุ้นเล็ก หุ้นปั่น ได้ดีเพราะราคาในกระดานจะเหลือราคา เหมือนหุ้นตัวเล็ก            แต่จากที่คนไม่เข้าใจยังมาก และ ไม่มี ราคาแปลงเป็นช่วงๆๆ แบบออปชั่นแท้ จึงทำให้เกิด การผลักดันราคา ง่าย และเข้าทางเจ้ามือ ที่พยายาม ดันราคาให้สูงการแปลงจึง ไม่มีทางเกิดได้เพราะ รวมราคาในกระดานด้วย อัตราแปลง มากๆๆแล้ว จะเกินราคาตัวแม่ในสัญญาคอลเสมอ           หรือน้อยกว่าตัวแม่ เสมอเมื่อ เป็นสัญญาพุท      แต่สักระยะ หนึ่ง หรือ มี ล ที่ออกมาตามหลักการจริงๆๆ เช่น อัตราแปลง 1ต่อ1 แบบนี้  ตลาด DW ก็คงจะพัฒนาต่อไป ให้คนเข้าใจออปชั่นได้มากขึ้นง่าย จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 20:21:49

ความคิดเห็นที่ 6 อ้อ ราคากำหนดตอนประกาศ เราไม่ทราบเขาคิดราคาแปลงตอนช่วงไหน            แล้ววันที่ 1 พย 2553 KTB จะราคาเท่าไรด้วย      มันอาจจะลง หรือขึ้นกว่าวันนี้  ก็ต้องเดากันครับ ถ้าเดาถูกก็ชนะตั้งแต่ยังไม่เข้าตลาดครับ จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 20:24:10

ความคิดเห็นที่ 7 นี่แหละครับ หลักการของออปชั่น  1 ต้องอ่านทิศทางออก จะได้เลือกทางถูก จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 20:25:29

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับเข้าใจมากขึ้นแต่ยังไม่กล้าเล่นDW แต่จริงๆก็อยากเล่นนะครับเพราะว่าเห็นคนอื่นกำไรเยอะๆแล้วตาแดงอะ ส่วนผมเล่นหุ้นมาเกือบจะครบ8เดือนเงินลงทุน200000 บาท แต่ได้กำไรมาไม่เกิน10000 บาท ครับ พี่หมอสัจจะว่าผมจะอยู่รอดในตลาดหุ้นได้ไหมครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : nitto เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 21:18:42

ความคิดเห็นที่ 9 #8 ครับ รอดสิครับ สบายๆ ไม่ได้ขาดทุนนิครับ กำไรได้มาประมาณไม่ถึง 5% ก็ยอมรับได้นะครับ จากคุณ : CySpk เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 22:02:35

ความคิดเห็นที่ 10 จะตั้ง Pa แต่ราคาแปลงไม่สูงกว่าหรือใกล้ๆราคาในกระดาน มันจะ Put ได้ไง  ทางหลักการใครจะบ้าไปซื้อ Pa KTB ราคาแปลงเพี้ยนๆแบบนี้ ถ้าคิดว่าลง Short future ktb ไม่ดีกว่าเหรอ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 53 22:16:48 จากคุณ : P Phod เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 22:14:21

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ต้องเสียเวลาไปจองครับ เพราะเขาใช้วิธี direct listing   หมายความว่า  ไปเจอกันที่กระดานหลัก  1  พ.ย.   ราคา  ขึ้นกับ ดีมานย์  ซับพลาย์  ครับ จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 22:20:22

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าซื้อหุ้น KTB ดักรอก่อนเลยดีไหมครับเนี่ย มองแล้วอนาคต dw เข้ามา ต้องมีการปั่นทำราคาแน่นอน จากคุณ : เป็ก (SOMBOON9) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 23:11:00

ความคิดเห็นที่ 13 ตัวแม่ต้องต่ำกว่า 11.8 สำหรับตัว KTB01PA ครับ คนซื้อที่ 1.2 ถึงจะมีกำไรจากมูลค่าที่แท้จริง ที่ไม่รวมมูลค่าตามเวลา จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 23:11:43

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่ราคา ktbz10pa 13 บาทนี่ น่าจะเป็นราคาที่บัวหลวงรับซื้อคืนรึเปล่าคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องรอมันลงต่ำกว่า 13-1.2=11.8 ถึงจะกำไรมั้งคับ อันนี้ไม่แน่ใจจิงๆคับ แต่คิดว่ามันน่าจะเหมือนซื้อ put option แต่ถ้าเป็น 11.8จิง ราคามันก็ต่ำซะจนไม่น่ามีใครอยากซื้อ เลย งงๆคับ แล้วถ้าเป็นตาม#11 แสดงว่าบัวหลวงให้นักลงทุนกำหนดราคาซื้อกันเอง แล้วใครจะเป็นคน offer อ่ะคับ ??? งงหนักเข้าไปใหญ่???? จากคุณ : kts (ktstheblue) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 23:30:24

ความคิดเห็นที่ 15 ไม้แรกเจ้ามือ offer เองครับ และคาดว่าจะ bid เองด้วย รับรองว่าไม่ได้ราคาตามที่กำหนดแน่นอน (เขียนไว้ล่อแมงเม่า) แต่มันจะเปิดสูงกว่านั้นเยอะ จากคุณ : ช า ติ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 23:56:03

ความคิดเห็นที่ 16 ก็ราคาต้นทุนมันเป็น 0  ส่วนใหญ่เพื่อผู้มีอุปการะคุณ ที่เรียกว่า big lot แล้วผู้ออกก็เก็บไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ในการปั่น แต่เรียกว่า market maker คิดดูเอาเอง  เจ้ามือถือไพ่ที่มีตัวเลขชุดเดียวกับผู้เล่นอยู่ในมือก่อนแล้ว  แถมยังมีตั้งหลายชุดด้วย   โดยที่มีชิบที่ได้มาฟรีๆกองอยู่ข้างหน้า  ในขณะที่คนเล่น ต้องจ่ายเงินซื้อชิบจากเจ้ามือ แย่กว่าบ่อนคาสิโน ตรงที่เป็นชิบที่ไม่สามารถนำไปแลกเงินสด  และหมดมูลค่าเมื่อเล่นจบเกมเสียด้วย กำไรของผู้เล่น คือการขายชิบต่อให้ผู้เล่นคนใหม่ เท่านั้น   เจ้ามือ ทยอยขายชิบ  ชนะก็กวาดชิบคืน วนเวียนขายออกไปใหม่ รอบแล้วรอบเล่า ถ้าแพ้ก็แจกชิบที่ไม่ต้องซื้อหาให้ไป  (ยากจะแพ้ เพราะมีไพ่หลายชุด) ไม่ใช่ warrants ที่บริษัทแม่เป็นผู้ออกนะจ๊ะ  มันเป็นแค่สิ่งสมมุติที่มีอายุสั้นๆในช่วงปลายหุ้นขาขึ้น  ที่ตลาดเหลือ gap กำไรไม่มากแล้ว โอกาสที่หุ้นตัวใหญ่ๆพวกนี้ จะขึ้นอย่างพรวดพราด ยากมาก   นั่งดู tcap ตัวแม่ side way ในกรอบแคบๆ  ตัว DW ตบลงมา 2.54 แล้วลากกลับ เกือบแตะ 5 บาท  ก็แต่ละตัว ออกสู่ตลาดไม่กี่สิบล้านหน่วยเอง  เรื่องอะไรต้องไปลากหุ้นที่มีระดับพัน ถึง หลายหมื่นล้านหุ้น จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 00:12:59

ความคิดเห็นที่ 17 เปิดโดดไปหลายบาทแน่นอน ผมก็ซื้อด้วย จากคุณ : โตขึ้นจะเป็นเซียน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 00:38:58

ความคิดเห็นที่ 19 ผมรอดูจังหวะเข้าอยู่เหมือนกันครับ เคยซื้อ IVL01CA ตอน 4.50   พอราคาเริ่มลงก็เลยซื้อถัวขาลงจนเต็มพอร์ต  แล้วมันก็ร่วงไปอยู่ที่ 2.82 บาท ผมใจแข็งถือไว้ครับ  ไม่ขายแม้ว่าจะขาดทุนตัวเลขไปหลายหมื่น  แต่ก็เอ๋อไป 4-5 วันเลย สุดท้ายมันก็ดีดกลับมา  เลยปล่อยไปที่ 5 บาทกว่า ได้กำไรมา 20% กำไรสูง  แต่ก็เสี่ยงสูง  ถ้าตลาดยังไม่วาย    DW ก็ยังน่าสนอยู่ครับ  ถ้า SET เปลี่ยน Trend เป็นหมีเมื่อไหร่ ก็... แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 53 14:11:40 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 53 14:11:18 จากคุณ : หลิวอวี้ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 14:10:29

ความคิดเห็นที่ 20 ในเรื่องนี้หากมองเปรียบเทียบในแง่ของ Option บริษัทที่ออก DW ตัวนี้จะมีีสถานะ Short Strangle 1. short call ที่ 16.00 ด้วยพรีเมี่ยม 2.20 2. Short put ที่ 13.00 ด้วยพรีเมี่ยม 1.20 ถ้าจะว่าไป บริษัทผู้ออกจะมี BE อยู่ที่ 9.60 และ 19.40 ตามลำดับ  ซึ่งถือว่ามี Handicap มากทีเดียว แต่ผมคงไม่ไปสนใจหรอก เพราะเป็นเรื่องทำมาหากินของเค้า สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือ คนที่เล่นไม่ว่าจะทั้ง ด้าน C หรือด้าน P ก็ตาม ว่าจะมีวิธีป้องกันความเสี่ยงได้อย่างไรหากได้โดดเข้าไปร่วมวงกับเค้าแล้ว ทั้งนี้เพราะ หลักการสำคัญของการเล่นอนุพันธ์ จะต้องมีทางป้องกันความเสี่ยงได้ มิฉะน้นอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ง่าย และมากเสียด้วย เราจะเห็นว่าผู้ซื้อจะเป็นได้เพียงแค่ด้าน long เท่านั้น หากเรามาดูแต่ละด้านกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแต่ละทาง 1. หากซื้อด้าน call BE ท่านจะเท่ากับ 18.20 หากซื้อแล้วราคา DW ลง ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด  ท่านจะมีวิธีใดที่จะป้องกันได้    1.1 Short หุ้นตัวแม่ออกมา กรณีนี้ท่านจะต้องมีหุ้นอยู่ คำถามที่จะถามต่อมาคือ เมื่อมีหุ้นตัวแม่อยู่แล้วจะไปซื้อ DW เพื่อแปลงในเดือน ก.พ. ปีหน้าอีกทำไม หากจะเพิ่มก็ไปซื้อตัวแม่เลยมิดีกว่าหรือ ถ้าเป็นกรณีนี้ถ้าจะท่านจะเล่น ก็เล่นไปเพื่อหวังส่วนต่างของราคา DW ไปเลยไม่ต้องมาดูตัวแม่  1.2 Short Single Stock Future ตัวแม่ หากท่านทำแบบนี้ท่านอย่าลืมว่า ท่านไม่ได้ป้องกันได้โดยสมบูรณ์ เพราะวันสิ้นสุดอายุของสินค้าทั้งสองชนิดไม่พร้อมกัน ท่านยังต้องมีค่า timedecay มาคิดคำนวณด้วย 1.3 Hedge ด้วยการ long ด้าน P ถ้าท่านทำแบบนี้ ก็บอกได้เลยว่าแม้ท่านจะ Lock Loss ไว้ได้ก็ตาม แต่ Loss ที่เกิดขึ้นจะมีมูลค่ามากทีเดียว เพราะท่านต้องเสียพรีเมี่ยม (ราคา) ทั้งสองด้าน ส่วนทางด้านลงก็เหมือนกัน ฝากท่านไปคิดเ็ป็นการบ้าน เพียงแต่กลับทางกันเท่านั้น แต่ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกัน ดังนั้น หากท่านจะเล่น DW จริง ๆ แล้ว ท่านควรเล่นเพื่อหวังส่วนต่างราคาเพียงอย่างเดียวไปเลยครับ ไม่ต้องมาคำนวณถึงวันสุดท้ายว่าจะแปลงแล้วกำไรขาดทุนอย่างไร  เพราะหากท่าจะคิดแบบนั้น มันยังมีทางเลือกได้ดีกว่าการเล่น DW อีกครับ  ที่ผมโพสต์มานี้ก็เพียงหวังจะให้ท่านเห็นในอีกมุมมองของ DW เท่านั้นเองครับ จากคุณ : เด็กลาดพร้าว (zombie99) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 22:54:44

ความคิดเห็นที่ 21 ในเรื่องนี้หากมองเปรียบเทียบในแง่ของ Option บริษัทที่ออก DW ตัวนี้จะมีีสถานะ Short Strangle 1. short call ที่ 16.00 ด้วยพรีเมี่ยม 2.20 2. Short put ที่ 13.00 ด้วยพรีเมี่ยม 1.20 ถ้าจะว่าไป บริษัทผู้ออกจะมี BE อยู่ที่ 9.60 และ 19.40 ตามลำดับ  ซึ่งถือว่ามี Handicap มากทีเดียว แต่ผมคงไม่ไปสนใจหรอก เพราะเป็นเรื่องทำมาหากินของเค้า สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือ คนที่เล่นไม่ว่าจะทั้ง ด้าน C หรือด้าน P ก็ตาม ว่าจะมีวิธีป้องกันความเสี่ยงได้อย่างไรหากได้โดดเข้าไปร่วมวงกับเค้าแล้ว ทั้งนี้เพราะ หลักการสำคัญของการเล่นอนุพันธ์ จะต้องมีทางป้องกันความเสี่ยงได้ มิฉะน้นอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ง่าย และมากเสียด้วย เราจะเห็นว่าผู้ซื้อจะเป็นได้เพียงแค่ด้าน long เท่านั้น หากเรามาดูแต่ละด้านกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแต่ละทาง 1. หากซื้อด้าน call BE ท่านจะเท่ากับ 18.20 หากซื้อแล้วราคา DW ลง ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด  ท่านจะมีวิธีใดที่จะป้องกันได้    1.1 Short หุ้นตัวแม่ออกมา กรณีนี้ท่านจะต้องมีหุ้นอยู่ คำถามที่จะถามต่อมาคือ เมื่อมีหุ้นตัวแม่อยู่แล้วจะไปซื้อ DW เพื่อแปลงในเดือน ก.พ. ปีหน้าอีกทำไม หากจะเพิ่มก็ไปซื้อตัวแม่เลยมิดีกว่าหรือ ถ้าเป็นกรณีนี้ถ้าจะท่านจะเล่น ก็เล่นไปเพื่อหวังส่วนต่างของราคา DW ไปเลยไม่ต้องมาดูตัวแม่  1.2 Short Single Stock Future ตัวแม่ หากท่านทำแบบนี้ท่านอย่าลืมว่า ท่านไม่ได้ป้องกันได้โดยสมบูรณ์ เพราะวันสิ้นสุดอายุของสินค้าทั้งสองชนิดไม่พร้อมกัน ท่านยังต้องมีค่า timedecay มาคิดคำนวณด้วย 1.3 Hedge ด้วยการ long ด้าน P ถ้าท่านทำแบบนี้ ก็บอกได้เลยว่าแม้ท่านจะ Lock Loss ไว้ได้ก็ตาม แต่ Loss ที่เกิดขึ้นจะมีมูลค่ามากทีเดียว เพราะท่านต้องเสียพรีเมี่ยม (ราคา) ทั้งสองด้าน ส่วนทางด้านลงก็เหมือนกัน ฝากท่านไปคิดเ็ป็นการบ้าน เพียงแต่กลับทางกันเท่านั้น แต่ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกัน ดังนั้น หากท่านจะเล่น DW จริง ๆ แล้ว ท่านควรเล่นเพื่อหวังส่วนต่างราคาเพียงอย่างเดียวไปเลยครับ ไม่ต้องมาคำนวณถึงวันสุดท้ายว่าจะแปลงแล้วกำไรขาดทุนอย่างไร  เพราะหากท่าจะคิดแบบนั้น มันยังมีทางเลือกได้ดีกว่าการเล่น DW อีกครับ  ที่ผมโพสต์มานี้ก็เพียงหวังจะให้ท่านเห็นในอีกมุมมองของ DW เท่านั้นเองครับ จากคุณ : เด็กลาดพร้าว (zombie99) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 22:55:12

ความคิดเห็นที่ 22 ------DW กับ Short Strangle กลยุทธ์ หนึ่งของออปชั่น มันมีหลักการเช่นไร--- จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 06:16:13

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยกับท่านเด็กลาดพร้าว (zombie99) เป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : Pluto_Ball เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:50:21

ความคิดเห็นที่ 24 ติดตามทุกความเห็นและเจ้าของกระทู้ค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องหุ้น ได้ความรู้เยอะมากค่ะ จากคุณ : ไพลินสีชมพู เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:13:08