ความคิดเห็นที่ 1 มีโอกาสเก็บสะสมได้ไว อนาคตก็จะมีเก็บสะสมได้มากกว่าที่จะเริ่มตอนมีอายุมากๆ แล้วมีเก็บไว้น้อย .... อาจจะมองย้อนกลับมาดูแล้วเสียดายเวลาที่ผ่านไปแล้วครับ ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ทำให้จ่ายภาษีได้น้อยลง.... แล้วเอาส่วนที่จ่ายน้อยลงไป เลือกลงทุนเพิ่มในกองทุนที่สามารถขายคืนได้ตามต้องการ ..... ทำให้แทนที่จะเสีย ส่วนขอภาษีไป ... เอากลับมาทำให้เกิดประโยชน์ซ้ำซ้อนน่าจะสร้างโอกาสเพิ่มขึ้นได้ อีกมากด้วยครับ....... มีให้เลือกอีกประเภทคือ LTF .... เพียง 5 ปีปฏิทินก็สามารถขยับขยายขายได้ แต่หมายถึงต้องแลกกับความเสี่ยงเพื่อได้โอกาสแบบที่มีทางเลือกที่น้อยกว่า RMF ที่มีหลากหลายประเภทกองทุนให้เลือกได้มากกว่า LTF ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 08:46:41

ความคิดเห็นที่ 2 อายุเท่านี้ ซื้อ LTF น่าจะเหมาะกว่า เพราะ5-10 ปี อาจจำเป็นต้องใช้เงิน แล้ว LTF ทุก 5 ปี ปฎิทิน (ประมาณ 3 ปี 2 เดือน) ก็ขายแล้วซื้อใหม่ เพื่อลดหย่อนภาษีได้  จำนวนรอบซื้อขายมากกว่า RMF (ที่ต้องขายอายุ 55 ปี)   สรุป ซื้อ LTF คุณจะหักภาษีได้ ประมาณ 9 ครั้ง เมื่ออายุครบ 55 ปี แต่ RMF ลดภาษีได้ 1 ครั้ง จากคุณ : mandoom (mandoom) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 09:06:13

ความคิดเห็นที่ 3 ชอบLTFมากค่ะ ซื้อเต็ม15%ทุกปีค่ะ ปีนี้ก็วางแผนว่าจะซื้อเต็ม แต่ติดก็ที่RMFค่ะ ว่ามันนาน แล้วตอนนี้ซื้อก็ราคาค่อนสูงด้วย pjukเห็นว่ายังคุ้มอยู่ใช่มั้ยคะ จากคุณ : งงได้อีก (I See The MoOn) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 09:09:50

ความคิดเห็นที่ 4 LTF ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เพียงถึงปี 2559 เท่านั้นนะครับ...... RMF เป็นได้ทั้งการออม (ประเภทตราสารหนี้) และการลงทุน (ประเภทหลักทรัพย์อื่นๆ) ไม่ต้องลงทุนเท่ากันทุกปี ใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ตามกำลังที่สามารถทำได้ ปีไหนอยากลงทุน น้อยหน่อย เพียง 5,000 บาทก็ทำได้ ปีไหนคิดว่ามีภาระภาษีมากเกินไปก็สามารถลงทุน เก็บออมมากหน่อยก็ทำได้เช่นกันครับ อีกทั้งไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขังอยู่กับความเสี่ยงตลอดไป เพราะสามารถสับเปลี่ยน ย้าย กองทุนเพื่อปรับเปลี่ยนระดับความเสี่ยงได้อย่างไม่มีข้อจำกัด และไม่มีค่าธรรมเนียมอีก ด้วยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 09:17:21

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตัวเชื่อว่าคุ้มค่าที่ได้เริ่มออมเริ่มลงทุนไว้ตั้งแต่แรก ไม่ได้ปล่อยพลาดให้ผ่านไปครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 09:24:32

ความคิดเห็นที่ 6 รบกวนคุณ mandoom  อธิบายเรื่อง "LTF ทุก 5 ปี ปฎิทิน (ประมาณ 3 ปี 2 เดือน) ก็ขายแล้วซื้อใหม่ เพื่อลดหย่อนภาษีได้" หน่อยสิะ ทำไมถึงเป็น 3 ปีกว่าเองอะคะ ไม่ใช่ 5 ปีเหรอคะ งง จากคุณ : smileline เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 09:44:34

ความคิดเห็นที่ 7 LTF ... ปีที่ลงทุน นับได้เป็นปีที่ 1 ปีที่ 2 ... เต็มปี ปี่ที่ 3 ... เต็มปี ปีที่ 4 ... เต็มปี ปที่ 5 ... ตั้งแต่วันทำการแรก ก็สามารถขายคืนได้ตามเงื่อนไข 5 ปีปฏิทิน ดังนั้นความหมายของ ปีปฏิทิน คือเลขปี พ.ศ. ไม่ใช่ช่วงระยะเวลาแบบวันชนวัน จึงเห็นได้ว่า เต็มปี แค่ 3 ปี .... ส่วนปีที่ซื้อ และปีที่ขายคืน ไม่ต้องเต็มปี ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 09:59:38

ความคิดเห็นที่ 8 ขอแชร์ความคิดเห็นครับ ผมซื้อ RMF ก่อน จนเต็มแล้วค่อยซื้อ LTF ที่เหลือ ผมมองว่า กาลงทุน RMF ยิ่งลงทุนยาวโอกาสขาดทุนมีน้อย   เสี่ยงน้อยกว่า LTF มาก LTF ทุกกองต้องลงทุนในหุ้น จะมากน้อยแตกต่างกัน (บางกองทุนอาจจะมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงเวลาหุ้นลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่มี) แต่ RMF มีทุกชนิด ตั้งแต่ปลอดภัยสุดๆ(แต่ผลตอบแทนน้อย)เช่น พันธบัตรรัฐบาล จนถึงเสี่ยงมากหน่อย(แต่ผลตอบแทนมาก) เช่น หุ้น และตอนนี้ก็มีทองคำด้วย ถ้าหุ้นกำลังขึ้นก็ลงทุนในหุ้น ถ้าหุ้นตก ก็ย้ายมาลงในพันธบัตร ข้อเสียที่มีก็คือ  เอาออกมาใช้ไม่ได้  เงินนี้ต้องเย็นสุดๆ รอเอาไว้ใช้ตอนเกษียณเท่านั้น ต้องมอง RMF เป็นการลงทุนครับ เพราะ 20% มันแค่ปีเดียวหลังจากนั้นเงินแช่ยาว และต้องคอยขยับย้ายกองเพื่อใหได้ผลประโยชน์มากที่สุด LTF ดีคือลงทุนสั้น 5ปีปฏิทิน หรือ 3ปีกว่าๆตามข้างบนครับ เมื่อครบปีที่กำหนด ก็สามารถเอาเงินก้อนเก่าหมุนออกมาซื้อได้อีก ลดภาษีได้อีก ในขณะที่ RMF มีแต่เพิ่มเงินก้อนใหม่เข้าไปเพื่อลดภาษี ถ้าคิดง่ายๆ LTF ได้ลด 20% เงินแช่ 3 ปีนิดๆ ถ้าปีที่ขายไม่ได้กำไร ไม่ขาดทุนได้เงินต้นคืนก็เท่ากับประมาณ 7%ต่อปีครับ ถ้าหุ้นขึ้นก็ได้มากกว่านั้น แต่ถ้าเกิดเป็นช่วงหุ้นลงยาวๆๆๆๆๆ แบบวิกฤติอะไรทำนองนี้ที่เพิ่งผ่านมา จะพบว่าขาดทุนมากๆๆๆครับ แนะนำว่าถ้าเงินเย็นลง RMFครับ ถ้าเงินจำเป็นต้องใช้ใน 3-5ปีนี้ LTF ครับ จากคุณ : กฤษณะ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 10:13:59

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบความเห็นที่ 6 ครับ หลักการตามที่  pjuk บอกเลยครับ ตามหลักเราต้องถือ 5 ปีปฏิทิน เเต่ถ้าเราซื้อปลายปีที่ 1 เเล้วขายต้นปีที่ 5 (ซื้อประมาณเดือน ธ.ค. ปีที่ 1 ขาย ต้นเดือนม.ค. ปีที่ 5) ระยะเวลาประมาณ 3 ปีครับ ถ้าเป็น LTF ตอนนี้ราคาค่อนข้างสูงมากเเล้วครับ ไม่เเน่ใจว่าราคาจะสูงกว่านี้ได้อีกไหม เเต่ถ้าเป็น RMF ก็จะนานไป เเต่สำหรับเรา เราว่า อีก 28 ปีเองแปปเดียว เผื่อไว้ในยามเกษียณก็ได้นะครับ เราไม่ได้ซื้อ RMF ครับ เเต่เราซื้อประกันเงินออมรูปเเบบนึงที่ได้ผลตอบเเทนอีก 25 ปีเหมือนกัน ได้ประมาณ 4-5% ต่อปีโดยประมาณครับ เเล้วก็ลดหย่อนภาษีได้ด้วย ^^ จากคุณ : soncu (soncu) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 10:40:18

ความคิดเห็นที่ 10 RMF ดีกว่า LTF แน่ๆปีนี้ โดยเฉพาะทอง ถ้าเป็นเงินส่วนที่จะใช้ตอนแก่ ก็ลงเลยครับ ปีนี้ผมก็ซื้อแต่ RMF จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 10:53:15

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลยค่ะ ตอนนี้คิดว่าจะลง RMFไปด้วยเลยค่ะ เพราะเงินค่อนข้างเย็น..แต่ยังไม่freezeซะทีเดียว :) เราควรจะลงเป็นชนิดพันธบัตรไปก่อน เพราะตอนนี้หุ้นขึ้น แล้วค่อยมาโยกกองทีหลัง ใช่มั้ยคะ -คุณsoncuคะ ไม่ทราบว่าประกันเงินออมของบริษัทไหนอ่ะคะ อยากทราบรายละเอียดค่ะ สนใจ จากคุณ : หายงงแล้ว..ขอบคุณค่ะ (I See The MoOn) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 11:09:32

ความคิดเห็นที่ 12 อีกทีค่ะ RMF กองทุนทองคำนี่ก็ลดหย่อนภาษีได้เหมือนกันใช่มั้ยคะ จากคุณ : I See The MoOn เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 11:10:48

ความคิดเห็นที่ 13 RMF - ให้มีคำว่า "เพื่อการเลี้ยงชีพ" ในชื่อกองทุนภาษาไทย สรรพากรยอมรับให้นำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้หมดครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 11:17:25

ความคิดเห็นที่ 14 pjuk ใจดี รวดเร็ว ชัดเจน มากเลยค่ะ ไม่น่าห้องนี้ถึงมีแต่คนถามหา 55555 ...ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : I See The MoOn เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 11:19:32

ความคิดเห็นที่ 15 http://www.thaimutualfundnews.com/program/tax.html คำนวณแล้วกันว่าประหยัดได้กี่ตังค์ จากคุณ : puyong เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 11:30:24

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกท่านมากเลยค่ะ ส่วนตัว ยังไม่เคยซื้อ RMF เลยค่ะ คิดว่ามันนานนนนนเกินไป กว่าจะ55 อีกตั้งนาน^_^ จากคุณ : smileline เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 11:31:00

ความคิดเห็นที่ 18 อย่ากลัว RMF ด้วยเพราะว่า จะต้องถือยาวเมื่อครบ อายุ 55 ปี ... การลงทุนทางตราสารทุน (หุ้น) นั้น ถ้าได้อ่านหนังสือ หรือว่าศึกษาเพิ่มเติม จะพบว่า การลงทุนนี้มีความเสี่ยงน้อยลงมาก ถ้าหากเราลงทุนในระยะยาวพอ --------------------------------------------- มีการศึกษา หรือตัวอย่าง จากนักลงทุนระดับโลก มากมาย ที่เค้าลงทุนมาทั้งชีวิต พบว่า เค้าได้ผลตอบแทน ประมาณ 10+ % ต่อปี แบบทบต้น โดยเฉลี่ย ถ้าหากคิดว่าคุณ คิดว่าจะอีกประมาณ 28 ปี ที่จะขายได้ ... จะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ?? ----------------------------------------------------- เห็นด้วยมาก ๆ กับคุณ กฤษณะ ... แต่เงินที่เราลงทุน ใน RMF ต้องเป็นเงินเย็น ๆ คือ ซื้อแล้วลืมไปเลย ... เพราะ ระหว่างทาง 28 ปี จะต้องมีปีที่ตลาดหุ้นเน่า หรือตกต่ำลงอย่างมาก ... และก็ต้องมีปีที่เป็นปีทองของตลาดหุ้นที่จะทำให้ผลตอบแทนเราอย่างมากเช่นกันครับ ... ดูตัวอย่าง จาก pjuk ก็เห็นได้ชัดเลยครับว่า ได้ผลตอบแทนเป็น 100+% เลยทีเดียว .... จากคุณ : murmur เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 12:01:10

ความคิดเห็นที่ 19 มีลงย่อมมีขึ้น ... มีกลางวันย่อมมีกลางคืน ... อยู่ที่ว่าเรา ลงทุนได้นานพอหรือไม่ ... อย่าลืม เลือกกองทุนที่เราจะลงทุนด้วยนะครับว่า ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ไปลงทุนอะไรบ้าง ... ในภาพ เปรียบเทียบ AYFDIVRMF กับ TDEX (กองทุน set 50 ของ บล.วรรณ) จากคุณ : murmur เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 12:04:06

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณคุณmurmurค่ะ ตัดสินใจลงRMFแล้วค่ะ คิดให้ไกล..ไปให้ถึงเกษียณค่ะ 55 ตอนนี้ก็นั่งเรียนรู้อยู่ค่ะ ว่าควรลงกองไหนแบบไหนดี จากคุณ : I See The MoOn เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 20:21:36