PANTIP.COM : I9843979 เล่นหุ้นเป็นงานประจำ ไม่ต้องทำอย่างอื่น ชีวิตมั่นคง เป็นไปได้หรือไม่ครับ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 32

คุณแม่ลูกสอง .....

ผมมีความเห็นต่างมุมจากคุณมากที่เดียว ....มืได้เจตนาหาเรื่องนะ แต่ไม่เห็นด้วยกับที่คุณอธิบายดังนี้

=============================

ความคิดเห็นที่ 15

อ่านโจทย์ของ จขกท ให้ละเอียดก่อนค่ะ
จขกท เขาถามว่า ถ้าเขาอยากมีอาชีพเล่นหุ้นเพื่อจะเอากำไรออกมาเลี้ยงครอบครัว และโดยที่ไม่มีรายได้ทางอื่น เขาจะต้องมีเงินลงทุนสักเท่าไร จึงจะทำได้เดือนละ 5 หมื่นบาท แบบสม่ำเสมอ
คุณแม่ลูกสอง ....ไม่ได้ตอบว่าต้องใช้ทุนเท่าไร .

ในเมื่อไม่มีรายได้ทางอื่น ก็แปลว่า จะต้องนำกำไรออกมาทุกรอบที่ได้กำไร
คุณแม่ลูกสอง ...มั่วแล้วครับ คุณยังไม่รู้ว่า ระบบเทรดมีสมรรถนะทำกำไรเท่าไร ...คุณก็สรุปแบบใช้ความรู้สึกว่าต้องเอากำไรออกมา

ไม่ใช่นำกำไรใส่ทบเข้าไปลงทุนเพิ่ม แล้วจะยิ่งทวีคูณเข้าไปได้อย่างไรไม่ทราบ??
คุณแม่ลูกสอง ...มั่วแล้วครับ ตกลงระบบเทรดของคุณมันทำกำไร หรือทำขาดทุน ...EC มันเป็นยังไงขอผมดูหน่อยได้ไหม

มี เงินแค่ 3 ล้านบาท ไม่มีทางที่มือใหม่เพิ่งจะหัดเล่น จะมีรายได้อย่างมั่นคง สม่ำเสมอ มากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียว โดยไม่เดือดร้อนถึงครอบครัวในยามที่หุ้นตกร่วงเละจนเงินต้นยุบไป 20-30% ต่อหน้าต่อตา
คุณแม่ลูกสอง ...มั่วแล้วครับ ...ตัวเลข ๓ล้านคุณเอามาจากไหน (กลางอากาศ) ....จะใช้ทุนเท่าไรมันขึ้นกับสมรรถนะของระบบเทรดคับ

หาก หวังจากปันผลอย่างเดียว แล้วต้องการเงินปีละ 6 แสน คุณจะต้องมีเงินสัก 14 ล้านบาท ทั้งนี้ รวมเงินค่าใช้จ่ายระหว่างที่รอปันผล และเงินสำรองใช้ฉุกเฉินในครอบครัว
คุณแม่ลูกสอง ...มั่วแล้วครับ ...ตัวเลข ๑๔ล้านคุณเอามาจากไหน (กลางอากาศอีกแล้ว) ....คุณกำลังบอกว่าระบบเทรดของคุณต้องใช้ทุน ๑๔ล้านถึงทำกำไรได้ ห้าหมื่นต่อเดือนใช่ไหมคับ

เพราะ เท่าที่ดูจากพอร์ต VI ทั้งหลาย ในช่วงเริ่มต้น ที่ยังไม่ได้ใส่เงินเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ ได้ปันผลกันโดยเฉลี่ย ไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำไป
คุณอาจโชคร้ายไปเจอวีไอปลอมที่รวยจากการขายหนังสือมั้ง

ยิ่ง ตลาดในช่วงนี้ ราคาขึ้นจนกระทั่ง ปันผลต่อหุ้น ยุบเหลือเพียงประมาณ 2-3% เท่านั้นเอง ที่ได้ๆกำไรกัน มันมาจากการเก็งส่วนต่างกำไรทั้งสิ้น เมื่อตลาดวาย คนใหม่ๆที่เข้ามา 10 คน จะขาดทุนจนหายหน้าไปเลย 8 คน บางคนหาเงินก้อนใหม่ก็เข้ามาใหม่
คุณแม่ลูกสอง ...ออกลูกบ่นแล้วคับ ...ตลาดวาย ตลาดลง ...ก็ทำ short sell ไปซิ ...ก็ทำกำไรเหมือนขึ้นนิ

จากคุณ    : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone)
จากนีโอลาว

===============================================

ความคิดเห็นที่ 22

เท่าที่ดู คนที่เข้ามาตอบ มือใหม่ทั้งนั้น แล้วไม่มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบโดยลำพัง
ผมมือเก่า เก่าจนโทรม ขอออกความเห็นหน่อยคับ
ก็ เข้ามาในช่วงที่ตลาดกำลังขึ้น เห็นการหากำไรเป็นของง่ายๆ หุ้นไม่ได้ให้กำไรปีละ 20% สม่ำเสมอ ทุกๆปี บางปีนอกจากไม่ได้แล้ว ยังติดลบอีกด้วย
ปัจจุบันกำไรทำได้ทั้งขาขึ้นและขาลง คุณแม่๒ลูกคงไม่ทราบว่าทำ short sell ได้ใช่ไหมคับ ถึงบ่นและห่วงช่วงตลาดไม่ดี

อีก 10 ปี ถ้าดิฉันไม่แก่ตายไปเสียก่อน จะเข้ามา check ชื่อใหม่ ว่าเป็นยังไงกันมั่ง
เช็คชื่อผมด้วยนะ ....เออ : คุณแม่ลูกสอง จะลองทำ paper trade กันดูไหมคับ ผมจะได้ประเมินถูกว่า : คุณแม่ลูกสอง จะมีโอกาสกี่%ที่จะกลับมาเช็คชื่อ

เงิน 3 ล้าน สำหรับครอบครัวที่ต้องใช้เงินปีละ 6 แสน ถ้าเจอตลาดขาขึ้น แล้วดันเอาเงินทั้งหมดไปลงในหุ้น ไม่มีเงินสดสำรองใช้ ก็คงต้องรีบขายหุ้น เพื่อนำเงินออกมาใช้ แล้วก็จะเจอ ต้องซื้อคืนแพงกว่าเดิม ได้หุ้นจำนวนน้อยกว่าเดิมด้วย
: คุณแม่ลูกสอง มีระบบเทรดไหมคับ หรือใช้อารมณ์และความรู้สึกเล่นหุ้น ...ถึงมีแต่ตัวเลขลอยๆไปมา ...หาไม่ได้ว่าระบบของคุณมีสมรรถนะเท่าไร ...ผมจะได้คำนวนได้คับ

ตลาดขาขึ้น การซื้อคืนรอบสอง รอบสาม ราคาจะโหนตัวสูงขึ้น จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเป็นลำดับ อีกทั้ง gap กำไร ทั้งช่วงเวลา จะหดสั้นลงไปเรื่อยๆ ถ้าขายไม่ทัน ก็ติดหุ้นที่ราคาสูง หากตัดใจขาย เท่ากับคืนกำไร หรืออาจจะถึงกับขาดทุน แล้วถ้าเงินติดอยู่ในหุ้นหมด ถามว่า จะเอาอะไรกิน
ตกลงระบบเทรดของคุณ มันยังไงกันแน่ ฟังการซื้อขายแล้ว ...เหมือนบ่นนะ

เอาตัวอย่างของจริงไปดู

ย้อน เวลาไปในอดีต เปิดตลาดมา หุ้นขึ้นแค่ 2 ปีกว่า 400 จุด ปี 1978 ก็ร่วงแล้ว ลงมาเหลือ 100 จุด กว่าจะขึ้นก็อีกตั้งหลายปี ระหว่างนั้น เอากำไรจากไหน??
ข้อมูลตกรุ่นแล้วคับ .......ปัจจุบันทำ short sell ได้ถูกกฏหมายแล้ว .....ตกหรือขึ้นมีค่าเท่ากัน

ปี 1992 1993 หุ้นขึ้น แค่มกรา 1994 ก็เริ่มตกแล้ว ตกไปยันปลายปี 1998 รวมเวลาทั้งหมด 5 ปี ไม่เท่านั้นนะ ใครที่ไม่ล้างพอร์ต หุ้นที่ติดอยู่ บางตัวอาจจะล้มหายตายจากไปแล้ว บางตัว ราคาไม่หวนกลับขึ้นมาที่เดิมอีกเลย เท่ากับว่า ทุนลดลง ต้องมีทุนใหม่เสริมเข้าไป ข้อมูลตกรุ่นแล้วคับ .......ปัจจุบันทำ short sell ได้ถูกกฏหมายแล้ว .....ตกหรือขึ้นมีค่าเท่ากัน

คนที่เข้าตลาดในช่วงปีที่ 4 และ 5 ของหุ้นขาลง รอบสุดท้ายนี่ก็ปี 1997 และ 1998
ถือ ว่าโชคดี เพราะหุ้นแย่ๆล้มตายไป 1 ใน 4 ของกระดาน และเจอตลาดขาขึ้นพอดี แม้จะมีปรับฐานบ้าง ก็ยังเป็นเทรนขาขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีกำไรให้ไขว่าคว้าได้ทุกๆปี

ปี 1999 หุ้นขึ้นแรง ปี 2000 หุ้นร่วง ปี 2001 2002 หุ้นนิ่ง กลางปี 2003 เพิ่งเริ่มขึ้น และต่อมา มีหุ้นตัวใหญ่ๆ marketcap สูงๆมาเข้าตลาด จีนเร่งโต ส่งผลให้ใช้พลังงานเยอะ
ข้อมูลตกรุ่นแล้วคับ .......ปัจจุบันทำ short sell ได้ถูกกฏหมายแล้ว .....ตกหรือขึ้นมีค่าเท่ากัน

จากคุณ    : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone)
จาก...นีโอลาว

จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=-

เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:55:41