ความคิดเห็นที่ 1 1. จุดเริ่มต้น ทั้งการเรียนรู้ระบบกองทุน ทั้งการพักเงินไว้รอใช้จ่าย และต่อไปด้วยพัก เงินรอจังหวะการลงทุน สามารถใช้ SCBSFF หรือ SCBTMF ได้ตามสะดวกครับ ส่วน SCBDV เริ่มต้นสำหรับความไม่แน่นอน ฝึกใจให้กล้า เพื่อยอมรับความเสี่ยงสำหรับ ผลการลงทุนระยะยาวที่ให้โอกาสตามช่วงจะงหวะตลาดหุ้นได้โดยไม่ต้องขายคืนให้เสีย หน่วยลงทุนครับ 2. สำหรับการลงทุนระยะสั้น เมื่อต้องการผลตอบแทนทางด้านส่วนต่างของราคา โดยอาศัยจังหวะการลงทุน ทั้งเข้า และออก สามารถเลือกลงทุนผ่าน SCBSET ได้ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำเพียงทีเฉพาะขาออก 0.1% + VAT ได้ตามต้องการครับ แต่ถ้าเป็น LTF ขอให้ได้รับประโยชน์ในการนำตัวเลขเงินลงทุนไปใช้ลดหย่อนภาษี ได้ด้วยน่าจะดีกว่า การลงทุนเพียงหวังผลตอบแทนโดยไม่ใช้สิทธิ์ทางภาษี เพราะย่อย หมายถึงต้องเสียภาษีของส่วนต่างที่เกิดขึ้น ถ้ามีระยะเวลาการลงทุนไม่ตรงตามเงื่อนไข รวมไปถึงการลงทุนแล้วไม่ใช้สิทธิ์ทางภาษีด้วยครับ 3. ระยะเวลาการลงทุนในตลาดหุ้น บางครั้งอาจจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ผู้ลงทุน มากกว่าเหตุผล ทำให้การคาดการณ์ภาวะการของตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ยาก หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าต้องการให้ถูกต้องแม่นยำแบบเชื่อถือได้ครับ 4. ที่เข้าใจการเข้า-ออก เพื่อสร้างผลตอบแทน ถูกต้องครับ .... แต่ถึงเวลาจริงอาจจะไม่ เป็นไปตามที่คิด เพราะเห็นว่าดัชนียังขึ้นได้ในปัจจุบัน แต่เพียงชั่วข้ามคืนเข้าสู่วันใหม่ อาจจะไม่ได้เป็นตามคาด .... หรือแม้เห็นว่าลงแล้วกลัวลงอีก ทำให้ตัดสินใจออก ... แต่กลับกลายเป็นว่าออกแล้ว กลับหันกลับมาขึ้นแทน ... นั่นหมายถึงจังหวะที่สูญเสียไป ทันที ....... ดังนั้นการลงทุนกับกองทุนที่มีความเสี่ยง อาจจะต้อง อย่าทุ่ม(หมด) อย่าทิ้ง(หมด) อย่าหนี(เป้าหมาย) อย่าเลิก(ที่จะเริ่มใหม่) แม้จะขาดทุน หรือกำไร ก็ตามครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 09:33:55

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุนมากครับพี่ จากคุณ : tp-pt152 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 10:03:33

ความคิดเห็นที่ 3 ดังนั้นการลงทุนกับกองทุนที่มีความเสี่ยง อาจจะต้อง อย่าทุ่ม(หมด) อย่าทิ้ง(หมด) อย่าหนี(เป้าหมาย) อย่าเลิก(ที่จะเริ่มใหม่) แม้จะขาดทุน หรือกำไร ก็ตามครับ ^ ^ ^ สุดยอดครับพี่ pjuk ชอบๆๆๆ  วันนี้ว่าจะตามพี่ pjuk ไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : gappyja เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 13:44:30