ความคิดเห็นที่ 1 ความเดิมจากตอนที่แล้ว หุ้นตัวอย่างอยู่ระหว่างจะอยู่หรือจะไป และ ใน indicator หลายตัวก็ได้เกิดสัญญาณขายแล้ว มาวันนี้เป็นเช่นไร มาดูภาพเดิมก่อน จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 22:52:28

ความคิดเห็นที่ 2 ผ่านไปสองวัน ใครเข้าไว้วันศุกร์ ก็คงต้องขายทิ้งไป ส่วนใครถือมานานก็คงต้อง take profit ส่วนใครยังไม่ได้เข้าก็คงยังไม่ต้องทำอะไร จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 22:54:02

ความคิดเห็นที่ 3 มาดู moving average กันต่อ ภาพเดิมเมื่อวันศุกร์นะครับ จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 22:55:01

ความคิดเห็นที่ 4 มาวันนี้ กรุ๊ปสั้นยังคงตั้งอกตั้งใจเทขายเช่นเดิม กรุ๊ปยาวยังไม่แสดงทีท่ามากนัก แต่ถ้าบีบลง (ร่วมขายด้วย) ก็เอวัง จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 22:56:48

ความคิดเห็นที่ 5 ตามมาด้วยเจ้า indi ภาพก่อนนะครับ จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 22:57:40

ความคิดเห็นที่ 6 ใครเชื่อ indi มีวินัยทำตามวันนี้ก็คงชิวๆ เพราะไม่มีอยู่แล้ว จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 22:58:31

ความคิดเห็นที่ 7 คงพอสรุปได้สั้นๆว่า เทคนิเคิลมีส่วนช่วยในการลงทุนได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่ 100% มี false บ้าง แต่ถ้ามีระเบียบในการทำตามในทุกๆครั้ง ผลตอบแทนที่ได้ก็คงไม่ขี้เหร่แน่นอน      ทีนี้ปัญหาของคนส่วนใหญ่ก็คือ         1. ไม่รู้         2. รู้แต่ไม่ค่อยมั่นใจ (ทำตามบ้าง ไม่ทำตามบ้าง) ซึ่งส่วนใหญ่ของสองจะเยอะกว่า (ผมเองก็เคยเป็น) มันจึงยังมีการปรุงแต่งของใจเข้าไปในการเทรดด้วยเสมอๆ  ก็เวลาได้(เป็นขาขึ้น)ก็จะโลภๆๆ พอมันลง เกิดสัญญาณขายก็ทำใจไม่ได้ เพราะกำไรหายไปเยอะ ไม่กล้าขาย หลอกตัวเองว่ามันคงกลับขึ้นไปอีก จนในที่สุดจากกำไรก็เริ่มเท่าทุน และขาดทุนในที่สุด หรือพอตลาดเป็นขาลง พอเกิดสัญญาณซื้อก็ไม่กล้าซื้อ เพราะกลัวfalse กลัวโดนหลอก พอมันขึ้นจริงๆ ก็ตกรถ ได้แต่แช่งให้มันลงมา.... เป็นเช่นนี้เสมอๆ ที่จะสื่อก็คือ ถ้าอยากสำเร็จในวิชาเทคนิเคิล นอกจากศึกษาระบบ ที่เข้ากับนิสัยเราแล้ว ฝึกฝนขยับปรับพอร์ตแล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือฝึกใจ หรือความเข้าใจความเป็นไปของตลาด มีขึ้น ก็มีลง มีออกข้าง มีvolแห้ง ตลาดเงียบ มีตลาดคึก vol โป่ง มันก็แค่นี้....มันมีแดง ซักวันก็มีเขียว อย่าไปคิดมาก... อย่าไปให้น้ำหนักกับวันเดียว....  มันต้องดูกันยาวๆ...กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวนะครับ.... เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน.....สู้ๆ จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 23:07:55

ความคิดเห็นที่ 8 จริงครับ ตอนมันจะขึ้นจนชัดเจนมันก็ต้องใช้เวลาหลายๆ วัน หลายๆ สัปดาห์ ถ้ามีเราตั้งแต่ยังไม่ชัด แต่ถือจนชัดก็โป๊ะเช๊ะ ตอนมันจะลงจนชัดเจนก็ต้องใช้เวลาหลายๆ วัน หลายๆ สัปดาห์ ถ้ามีเราอยู่ในนั้นตั้งแต่ยังไม่ชัด ถือจนชัดก็โช๊ะเด๊ะ จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 23:14:26

ความคิดเห็นที่ 10 มาลงชื่อตามอ่านผลงานของคุณmix_xer เป็นอีกกระทู้คุณภาพ เสียดายกิ๊ฟหมดไปก่อนแล้วครับ จากคุณ : ริชแมน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 23:39:01

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ.. และเห็นด้วยครับ "เทคนิเคิลไม่เคยหลอกเรา มีแต่เราหลอกตัวเอง" จากคุณ : Pogio เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 23:39:02

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ - - ผมกำลังศึกษาเทคนิเคิลอยู่พอดี เขียนอ่านง่ายดีครับ ติดตามเน้อ จากคุณ : GiDlv5 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 00:41:07

ความคิดเห็นที่ 14 อูย..กิฟท์หมดซะแระ (ต้องทนไ้ส้แห้ง ไม่มีกิฟท์ใช้ไปจนกว่าจะสิ้นเดือน อ่อย...) จากคุณ : ขอบคุณกระทู้ดีๆค่ะ^_^ (ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 00:45:06

ความคิดเห็นที่ 15 มากดโหวต + ให้กิ๊ฟครับ ผมก็เป็นประเภทหนึ่งครับ ที่ดูกราฟ แต่ก็มักจะเผลอใส่อารมณ์ลงไปด้วยเสมอ ตอนซื้อดู Indicator ตัวนึง แต่ตอนขายดันดูอีกตัวซะงั้น เละไม่เป็นท่า พูดง่ายๆก็คือ ไม่มีวินัย เลือกดู Indicator ที่ตรงใจเรา ณ ตอนนั้น ซะอย่างนั้น แล้วจะไม่ให้เละได้อย่างไร การมีวินัยทำตามระบบมันยากจริงๆครับ จากคุณ : ตาบี้ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 01:14:28

ความคิดเห็นที่ 16 ศึกษาได้ที่ไหนครับ แล้วกราฟพวกนี้หาดูได้ที่ไหนครับ จากคุณ : t.asdf5 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 01:21:52

ความคิดเห็นที่ 17 สารภาพว่าผมไม่เป็นเอาซะเลยสายนี้ แถมรู้แล้วก็ไม่รู้จะไปดูกราฟที่ไหน ดูๆแล้วรู้สึกว่าถ้าเป็นมันง่ายกว่านั่งดูงบ คุ้ยข้อมูลอีก ถ้าผมสำเร็จวิชา VI แล้วจะกลับมาศึกษาสายนี้บ้าง เผื่อว่างจะได้เทรดเป็นรอบๆได้ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 01:44:49

ความคิดเห็นที่ 18 ขอถามหน่อยสิครับว่าโปรแกรมที่ใช้ดูกราฟแบบที่แสดงอยู่คือโปรแกรมอะไรหรอครับ?? ขอบคุณครับ จากคุณ : เด็กใหม่อยากลองดี (ZdNut) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 02:57:06

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : Rickman9 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 07:06:54

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ แหม พอเหตุการณ์ชัดขนาดนี้ เทค-นิ-คอล ก็ออกมาชัดเปรี๊ยะเลยเด้อ  เด้อ ครับ เด้อ จากคุณ : wijarana เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 08:57:14

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องสัญญาณชัดไม่ชัดนี่ ผมมีปัญหากับมันมากๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็น stoch, rsi, macd พอมันงอหัวขั้นแตะกับเส้นค่าเฉลี่ย ก็เข้าซื้อ แต่พอซื้อแล้ว มันกลับไม่ตัดขึ้นไปซะงั้นต้องรีบคัต พอเวลารอให้มันตัดขึ้นไปชัดเจน ซื้อเข้าไป วันรุ่นขึ้นมันก็ลงเลย หัวหักตัดเส้นค่าเฉลี่ยลงมาเฉย ต้องคัตอีก เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งแล้ว จนสับสนไปหมด ไม่รู้จะเอาไงกับมันดี เหมือนมีคนทำกราฟ ทำสัญญาณหลอกได้ จากคุณ : TSL เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 09:19:04

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นพี่ๆหลายคน กิฟท์หมดตั้งแต่  กลางเดือน  รู้เลยว่าเป็นพวกติดละคร ดราม่า.......   ขอผมโดนดูดไปนิดหน่อย   ไหวตัวทันเหลือเอาไว้แจกช่วยท้ายๆเดือนครับ อิอิ........... จากคุณ : คนเขลาเบาปัญญา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 13:22:23

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นวิชาที่น่าสนใจทีเดียวครับ ไว้ว่างๆจะมาขอฝากตัวเป็นศิษย์เด็กเทคนิคซะหน่อย จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งบนดวงดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 15:57:19

ความคิดเห็นที่ 24 ขอความกรุณาคุณ mix_xer ช่วยทำกราฟวิเคราะห์ ทองคำ กับ น้ำมันดิบ ให้ดูได้ไหมคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : KimNamGun เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 16:08:18

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบคุณ tsl เรื่องสัญญาณชัดไม่ชัดนี่จะเกิดช่วงที่มันกำลังฟอร์มตัว sideway สะสมกำลังอยู่ กล่าวคือช่วงหุ้นตัวนั้นขึ้นๆลงๆแคบๆ ถ้าเอา indi มาจับก็จะเห็นมันตัดขึ้นตัดลง โดยเฉพาะ ยิ่งพวก indi ที่ใช้บอก trend ได้เช่น dmi หรือ macd มันจะตัดกันจนเราท้อเลย (ตลาดช่วงนี้ใช้ sto จะได้ผลดี) แต่พอเทรนด์มา ซึ่งมักมาแบบไม่รู้ตัว ไม่ให้ตั้งตัว คนที่ไม่ย่อท้อ ตาม indi ที่บอกเทรนด์มาตลอดก็จะได้กำไรคืนจากตลาด ทั้งดอกทั้งต้นสบายไป (ปล.ส่วนใหญ่ indi จะเจอ wipsaw ถี่กว่า ema ยิ่งถ้าใช้ตัว ema แบบ guppy ยิ่งเห็นภาพชัด) จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 17:41:48

ความคิดเห็นที่ 26 ขอโทษคุณ KimNamGun ด้วยครับ ความสามารถอันน้อยนิดของผม มิบังอาจวิเคราะห์ ทองคำ กับ น้ำมันดิบให้ดูได้ครับ ผมแค่มาบอกวิธีดูเทรนด์และแปลความ indicator เฉยๆ ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 17:51:24

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณ คุณ mix_xer มาก ๆ ค่ะ อยากจะศึกษาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าหัวจะไปไหว หรือเปล่า จากคุณ : Tomorrow Ok Today Goodbye เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 23:39:13

ความคิดเห็นที่ 28 ขอคำแนะนำในการใช้ adx หน่อยครับ ว่าดูยังไง เรื่องสัญญาณซื้อขาย และความแรงของสํญญาณนะครับ จากคุณ : Joy_Bune เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 09:23:18

ความคิดเห็นที่ 29 วิชานี้ก็ใช้กับหุ้น VI ได้นะครับ กำไรมากกว่าถือเปล่าๆ ปีนี้ผมได้ลองใช้กับ mint ซื้อๆขายๆตั้งแต่ 9.50 บาท สะใจมากมาย. จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 20:22:29

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบคุณ Joy_Bune ครับ (ขอโทษที่ตอบช้าไปหน่อย) ตัวอินดิเคเตอร์ที่ถามถึง เรียกชือเป็นทางการว่า Average directional movement Index แปลเป็นภาษาเราบ้านๆว่า ดัชนีวัดทิศทางตลาด โดยเจ้าตัวเนี้ย ประกอบไปด้วย 3 ส่วน          1. DI+ (Directional Movement Positive) --->แนวโน้มขึ้น          2. DI-  (Directional Movement Negative) --->แนวโน้มลง          3. ADX (Directional Movement ADX) ---->ดัชนีวัดทิศทาง ขอข้ามหลักการคำนวนไปเลยละกันนะครับ มาดูวิธีใช้กันเลย ถ้าตลาดมีทิศทางขึ้น DI+ จะตัดขึ้นอยู่เหนือ DI- กลับกัน ถ้าแนวโน้มลง DI- จะตัดขึ้นอยู่เหนือ DI+ ง่ายๆใช่มั้ยครับ:) ส่วนเส้น ADX เอาไว้ดูเทรนด์(ความแข็งแรง)ของแนวโน้มขณะนั้นๆ ถ้า di+ อยู่เหนือ di- และ ค่า adx มีค่ามากขึ้นกว่าวันก่อน แสดงว่าตลาดมีแนวโน้มขึ้นที่แข็งแรงขึ้น (ถ้า adx มีค่าลดต่ำลงมากๆ เช่นกันกว่า 20 มักเกิดขึ้นในภาวะตลาด sideway หรือภาษาผมเรียกตลาดปิงปอง :) จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 12:37:00

ความคิดเห็นที่ 31 มาสร้างกราฟ แบบ GMMA หรือ Guppy กันดีกว่า:) จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 15:30:11