สงครามเงินตรา การเงินระลอกใหม่ของอเมริกา
|
|
สงครามเงินตรา การเงินระลอกใหม่ของอเมริกา โดย เกษียร เตชะพีระ
(นำมาจากมติชนครับ ปกติ จะมานั่งอ่านบทความดีๆ ของสมาชิกในนี้ เผอิญได้อ่านบทความนี้และเห็นว่ามีสาระ จึงนำมาฝากทุกท่านครับ)
นับ แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (The Federal Reserve - FED) ดำเนินมาตรการ
Quantitative Easing (QE) 1 หรือการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบแรกเพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจอเมริกันให้ฟื้นหลัง วิกฤตซับไพรม์และภาวะเศรษฐกิจถดถอยใหญ่
(กล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงคือคณะกรรมการตลาดการเงินแห่งธนาคารกลาง
สหรัฐ หรือ the Federal Open Market Committee - FOMC เป็นผู้ดำเนิน
โครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ หรือ Large Scale Asset Purchase
Program) ระหว่าง 25 พฤศจิกายน ค.ศ.2008 ถึงเดือนมีนาคมศกนี้ เฟดได้
กว้านซื้อพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐและหลักทรัพย์คุณภาพสูงอื่นๆ จาก
ตลาดไปรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ แล้ว
("Fed Gets Ready to Pump $600 Billion More Into US Economy", VOANews.com, 4 November 2010, www.voanews.com/learningenglish/home/Fed-Gets-Ready-to-Pump-600-Billion-Into-Economy-106730573.html)
แบ่ง คร่าวๆ เป็นพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐ 3 แสนล้านดอลลาร์+ตรา
สารหนี้ของ Fannie Mae และ Freddie Mac (บรรษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่
รัฐบาลอเมริกันถือหุ้นใหญ่) 1.5 แสนล้านดอลลาร์+ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อจำนอง
ที่อยู่อาศัยหนุนหลัง (MBS) ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยคงที่และค้ำประกันโดย Fannie
Mae, Freddie Mac และ Ginnie Mae (บรรษัทของรัฐทำหน้าที่บริหารจัดการ MBS เพื่อช่วยเหลือผู้ซื้อ-ผู้เช่าที่อยู่อาศัยรายได้ต่ำ-ปานกลาง) อีก 1.1 ล้านล้านดอลลาร์+อื่นๆ
เหล่านี้ทำให้ยอดสินทรัพย์ของเฟดเพิ่มขึ้น เป็นราว 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ ในนี้
รวมทั้งราว 1/5 ถึง 1/4 ของยอด MBS ค้างชำระที่ค้ำประกันโดยกระทรวงการ
คลังและหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอื่นๆ ทั้งหมด
ส่ง ผลให้ฐานเงินของเศรษฐกิจอเมริกัน (monetary base หมายถึงยอดรวม
สินทรัพย์การเงินที่เป็นสภาพคล่องของประเทศ ประกอบด้วยธนบัตรและเหรียญ
ที่ชาวบ้านจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนอยู่ในระบบ, และที่เก็บไว้ตามตู้นิรภัยของ
ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่างๆ, รวมทั้งเงินสดสำรองที่ธนาคาร
พาณิชย์ถูกกำหนดให้ต้องฝากไว้กับธนาคารกลาง ด้วย) ขยายตัวจาก 8.3 แสน
ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2007 -> ราว 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี
ปัจจุบัน ซึ่งในจำนวนนี้ ยอดเงินฝากที่สถาบันเงินฝากทั้งหลายฝากไว้ที่ธนาคาร
กลางสหรัฐ ก็เพิ่มขึ้นจาก 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อ ธันวาคม 2007 -> ราว
1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยเช่นกัน (James Bullard, "Quantitative Easing : Uncharted Waters for Monetary Policy", The Regional Economist, January 2010, www.stlouisfed.org)
จากคุณ |
:
Zhounat
|
เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ย. 53 18:00:10
|
|
|
|