PANTIP.COM : I9966796 LTF หรือประกันชีวิตที่ใช้ลดหย่อนภาษีและเงินตอบแทน อันไหนดีกว่ากัน [การลงทุน]

ความคิดเห็นที่ 12

นายกส.ตัวแทนฟันธง!กธ.บำนาญไม่โดนสรรพากรเช็คบิลย้อนหลัง

นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตฯออกโรงชี้แจงจ้าละหวั่น หลังรับโทรศัพท์และอีเมล์จากสมาชิกตัวแทนที่สับสนสอบถามเข้ามาอื้อ

เพราะต่างหวั่นลูกค้าถูกสรรพากรไล่เก็บภาษีย้อนหลังในส่วนที่มีการหักลดหย่อนไปแล้ว ฟันธงไม่โดนแน่ หลังอ่านรายละเอียดเนื้อหาสรรพากรระบุชัดเจน ให้ยึดหลักนับที่ระยะเวลาความคุ้มครอง ยันไม่ใช่นับที่ระยะเวลาจ่ายเบี้ยตามที่เข้าใจกันคลาดเคลื่อน

นายบรรยง วิทยวีรศักดิ์ นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (Thaifa) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนเองและสมาคมฯ ได้รับโทรศัพท์และอีเมล์จากสมาชิกตัวแทนเข้ามาสอบถามกันมากถึงกรณีมีสื่อบางฉบับไปลงตีความในเนื้อหาบทความทำนองว่า ในกรณีผู้ซื้อกรมธรรม์ บำนาญถ้าไม่ได้ชำระค่าเบี้ยประกันจนมีผลทำให้บริษัทประกันต้องยกเลิกสัญญาก่อนที่กรมธรรม์จะมีอายุเกินกว่า 10 ปีขึ้นไป ตรงนี้ถือว่าผิดเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ ผู้ทำประกันจะต้องนำเงินที่ได้จากการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในอดีตมาชำระคืนกรมสรรพากร โดยการยื่นแบบเสียภาษีเพิ่มเติมนั้น

ตนเองก็ได้ทำการชี้แจงบรรดาสมาชิกตัวแทนที่เกิดความหวั่นวิตกและสอบถามเข้ามากันจำนวนมาก หลังจากที่ตนเองได้อ่านกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากรกำหนดโดยละเอียดแล้วพบว่า เงื่อนไขของกรมสรรพากรกำหนดในกรณีกรมธรรม์ที่จะได้รับการหักลดหย่อนภาษีได้นั้นมีดังนี้ 1.ระยะเวลาเอาประกันกรมธรรม์บำนาญต้อง 10 ปีขึ้นไป 2.ระหว่างที่จ่ายเบี้ยประกันจะต้องไม่มีการรับเงินคืนหรือผลประโยชน์อื่นใด และ3.เงินบำนาญเมื่อได้รับแล้วจะต้องเป็นจำนวนเงินที่เท่ากัน

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ในเนื้อหาที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ชัดเจนถึงคำว่า ระยะเวลาของกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป โดยเวลาที่เขาคิดอายุของกรมธรรม์ เขาจะไม่คิดระยะเวลาจ่ายเบี้ยประกัน แต่คิดระยะเวลาคุ้มครอง เช่นทุกวันนี้กรมธรรม์แบบ 7/15 จ่ายเบี้ยประกันไป 7 ปี แต่กรมธรรม์คุ้มครอง 15 ปี กรมธรรม์แบบนี้ลดหย่อนภาษีได้ เพราะถือว่า เอาระยะเวลาคุ้มครองเป็นหลัก ดังนั้นกรมธรรม์บำนาญก็เหมือนกันก็ต้องใช้หลักเกณฑ์นี้ หรืออย่างเช่นกรมธรรม์แบบ 60/85 ถึงแม้ว่าสมมุติคุณจะทำประกันตอนอายุ 55 ปี จ่ายเบี้ยประกันไปแค่ 5 ปี คุณก็ยังอยู่ในเกณฑ์ได้รับสิทธินำมาหักลดหย่อนภาษีได้ แม้จะจ่ายเบี้ยประกันแค่ 5 ปีก็ตาม เราจะต้องนับอายุความคุ้มครองของกรมธรรม์ตั้งแต่จ่ายเบี้ยจนถึงสิ้นสุดสัญญากรมธรรม์คือ ตั้งแต่ 55 ปี ถึง 85 ปี คือเท่ากับ 30 ปี ไม่ใช่มานับเวลา 5 ปีที่จ่ายเบี้ย

และกรณีผู้เวนคืนต้องเวนคืนกรมธรรม์ถึงแม้จะจ่ายเบี้ยไม่ถึง 10 ปี ก็จะไม่มีการถูกเรียกภาษีที่ได้รับการลดหย่อนคืน เพราะว่า กรมธรรม์บำนาญเป็นกรมธรรม์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีบทลงโทษในตัวอยู่แล้ว ถ้าคุณเวนคืนก่อนกรมธรรม์ครบสัญญา จะได้รับมูลค่าเงินสดซึ่งน้อยกว่าเบี้ยประกันที่คุณจ่ายไปพอสมควร นั่นก็เป็นบทลงโทษอยู่แล้ว ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมพวก RMF หรือ LTF พวกนั้นใส่เงินเข้าไป ถ้าจ่ายไปสัก 2-3 ปีแล้วไถ่ถอนคืน พวกนั้นจะได้รับเงินต้นและดอกผล กรมสรรพากรจึงกำหนดว่า ต้องมีการปรับ โดยการเรียกภาษีที่ได้รับลดหย่อนไปแล้วนั้นคืน มิฉะนั้นคนจะใช้ช่องโหว่เมื่อลงทุนไป 2-3 ปีแล้วถอน ซึ่งผิดเจตนารมย์ของกรมสรรพากรที่อยากให้คนลงทุนระยะยาว เพื่อเก็บออมเงินไว้จนเกษียณอายุ ทั้งนี้จะต่างจากกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เขามีบทลงโทษที่แรงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในทางปฎิบัติของกรมสรรพากรที่ผ่านมา จึงไม่มีการเรียกเก็บภาษีที่ได้รับการลดหย่อนไปแล้วสำหรับกรมธรรม์ที่จ่ายไม่ครบ 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์สะสมทรัพย์และบำนาญก็ตาม

“จะเอากรมธรรม์บำนาญไปเทียบกับการลงทุนในกองทุนรวมไม่ได้ เพราะกรมธรรม์ไม่ว่ารูปแบบใดๆทันทีที่คุณเริ่มทำ คุณมีข้อผูกพันที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันทุกปีไปตลอดสัญญา และจะต้องจ่ายในวันเดือนปีที่กำหนดตรงกันทุกปี ขณะที่การลงทุนในกองทุนรวมมีความยืดหยุ่นมาก จะลงทุนปีเว้นปีก็ได้ ลงทุนมากน้อยก็ได้ ข้อผูกพันน้อยกว่า เพราะฉะนั้นจึงต้องมีบทลงโทษเข้ามาควบคุม ดังนั้นด้วยสองเหตุผลนี้ ผมเองจึงฟันธงว่า กรมธรรม์บำนาญไม่โดนสรรพากรไล่เช็คบิลเก็บภาษีย้อนหลังอย่างแน่นอน”นายกสมาคมตัวแทนฯกล่าวทิ้งท้าย

อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 8 ฉบับที่ 192 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16- 30 พฤศจิกายน 2553

จากคุณ : not defendant

เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 11:32:07