Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บัฟเฟตต์ข้างบ้าน --ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ติดต่อทีมงาน

ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นกระทิงยาวนานนั้น  ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เรามักพบเห็นเสมอก็คือ  มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำจากตลาดหุ้น  ผลตอบแทนที่พวกเขาได้รับนั้น  หลาย ๆ คนสามารถทำได้สูงลิ่วอย่างไม่น่าเชื่อ  จำนวนไม่น้อยสูงยิ่งกว่า วอเร็น  บัฟเฟตต์  ไม่ว่าจะวัดกันในช่วงเวลาไหนในเวลาที่เท่า ๆ  กัน  ตัวอย่างเช่น  นาย ก. ลงทุนมา 10 ปี  ผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นที่ทำได้สูงถึงปีละกว่า 40% ในขณะที่บัฟเฟตต์เองนั้น  ไม่เคยทำได้ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่พอร์ตเขายังเล็กที่การสร้างผลตอบแทนสูงยังทำได้ง่าย  หรือในช่วง “ยุคทอง” ไหนของบัฟเฟตต์ก็ตาม  ว่าที่จริงปีที่บัฟเฟตต์ทำผลตอบแทนได้ถึง 40%  นั้นก็มีไม่เกิน 10 ปีในช่วงเวลากว่า 50 ปีของชีวิตการลงทุนของบัฟเฟตต์  ดังนั้น  ถ้าจะวัดกันที่ผลการลงทุนเป็นเปอร์เซ็นต์แบบทบต้นต่อปีแล้ว  คนที่ทำได้สูงกว่า วอเร็น บัฟเฟตต์ นั้น  มีไม่น้อย  เพียงแต่ว่าชื่อเขาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักยกเว้นในกลุ่มคนเล็ก ๆ  ที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์กันอยู่  คนเหล่านี้  บางที เราก็เรียกกันว่า  “วอเร็น บัฟเฟตต์  ข้างบ้าน”  อย่างไรก็ตาม  ระหว่าง วอเร็น บัฟเฟตต์ ข้างบ้าน  กับ วอเร็น บัฟเฟตต์  ตัวจริง นั้น  มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่เราควรรู้

           ข้อแรก ก็คือ  ระยะเวลาการลงทุนของ “วอเร็น ข้างบ้าน”  นั้น มักจะสั้นกว่ามาก  ส่วนมากก็มักจะไม่เกิน 10 ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง  ส่วนใหญ่อาจจะลงทุนมาแค่ 5-6 ปี  แต่ผลตอบแทนอาจจะสูงกว่าที่บัฟเฟตต์ทำได้ในเวลา 10 ปี  พูดง่าย ๆ   บัฟเฟตต์นั้น  “ชิดซ้าย”  ไปได้เลย  อย่างไรก็ตาม  ผลตอบแทนที่ทำได้สูงลิ่วนั้น  ส่วนมากมาจากเงินต้นจำนวนที่ค่อนข้างต่ำ  ดังนั้น  พวกเขาก็ยังมักจะไม่รวยมาก  แม้ว่าบางคนก็อาจเข้าข่าย “เศรษฐี”  ย่อย ๆ  ได้เหมือนกัน

           ข้อสอง  ผลตอบแทนของ วอเร็น ข้างบ้าน ที่ทำได้สูงลิ่วนั้น  มักจะทำได้ในช่วงที่ตลาดหุ้นบูมมากและต่อเนื่องยาวนาน  ถ้าจะมีการปรับตัวก็เป็นการปรับตัวในระยะเวลาสั้น ๆ  ถ้าคิดถึงตลาดหุ้นไทยก็คือช่วงเวลานี้ที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมานับสิบปีแล้วหลังจากวิกฤติในปี 2540 ที่ดัชนีหุ้นเคยตกต่ำลงไปเหลือแค่ 200 จุดต้น ๆ จนถึง 1,000 จุดในช่วงนี้   ในขณะที่ บัฟเฟตต์ ตัวจริงนั้น  ผ่านสถานการณ์ตลาดหุ้นมาทุกสถานการณ์  ตั้งแต่ดีสุดถึงร้ายสุด  ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี  

           ข้อสาม  ผลตอบแทนของ วอเร็น ข้างบ้าน  ปีต่อปี นั้น  มักจะไม่สม่ำเสมอ  บางปีก็ได้ไม่มากและบางปีอาจจะถึงกับขาดทุน  แต่ในบางปีโดยเฉพาะในปีท้าย ๆ  ของการวัดผลงานนั้น  พวกเขามักทำผลตอบแทนได้อย่างมโหฬารคิดเป็นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์  ซึ่งทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงลิ่ว  ในขณะที่     วอเร็น ตัวจริง  นั้น  ผลตอบแทนค่อนข้างสม่ำเสมอ  น้อยครั้งที่พอร์ตของเขาจะขาดทุน  ในช่วงเวลากว่า 50 ปี  เขาเคยขาดทุนไม่น่าจะเกิน 5 ปี  นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า การลงทุนของบัฟเฟตต์ตัวจริงนั้นมีความเสี่ยงต่ำกว่ามาก

           ข้อสี่  หุ้นที่ บัฟเฟตต์ ข้างบ้าน ลงทุนนั้น  มักจะเป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังร้อนแรง  หรือเป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรร้อนแรง  ซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนสูงลิ่วในระยะเวลาสั้น ๆ   ในขณะที่หุ้นที่ บัฟเฟตต์ ตัวจริง ลงนั้น  มักจะเป็นหุ้นในอุตสาหกรรมปกติที่มีความได้เปรียบที่ยั่งยืน  มีผลประกอบการดี  และให้ผลตอบแทนที่สูงสม่ำเสมอต่อเนื่องยาวนาน

           ข้อห้า  วอเร็น ข้างบ้าน  นั้น  มักจะมีการซื้อขายหุ้นในระยะเวลาที่สั้น  โดยทั่วไปมักจะถือหุ้นเฉลี่ยไม่เกินหนึ่งปี  พวกเขาทำกำไรโดยการ  “หมุนหุ้น”  ซื้อหุ้นที่มีโอกาสดีดตัวอย่างแรงจากปัจจัยบางอย่าง  เมื่อหุ้นขึ้นถึงจุดหนึ่งก็ขาย  แล้วไปจับหุ้นตัวใหม่ที่น่าจะมี  “Upside” หรือโอกาสในการวิ่งขึ้นสูงกว่า  ในขณะที่ บัฟเฟตต์ ตัวจริง  นั้น  ซื้อหุ้นแล้วแทบไม่ขาย  ปล่อยให้ผลตอบแทนของหุ้นโตตามผลประกอบการของบริษัท

           ข้อหก  ในแง่ของจำนวนหุ้นที่ถือในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ  บัฟเฟตต์ ข้างบ้าน  มักลงทุนตามแบบ บัฟเฟตต์ ตัวจริง  นั่นก็คือ  ถือหุ้นน้อยตัวหรือลงทุนแบบ  Focus  เพียงแต่ว่า  วอเร็น  ข้างบ้าน  นั้น  มักจะถือหุ้นน้อยตัวยิ่งกว่า  หลายคนถือหุ้นเพียงตัวเดียวหรือสองสามตัวในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ  หรือหุ้นตัวสองตัวก็คิดเป็น 80-90%  ของพอร์ตไปแล้ว  ในขณะที่ บัฟเฟตต์ ตัวจริง  นั้นน้อยครั้งที่เขาจะมีหุ้นตัวใดตัวหนึ่งคิดเป็น 40-50%  ของพอร์ต  และนั่นคือช่วงเวลาที่พอร์ตของเขายังไม่ใหญ่มาก  ในช่วงปัจจุบัน  ผมคิดว่าหุ้นแต่ละตัวน่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 10-20% ของพอร์ตของบัฟเฟตต์

           ข้อเจ็ดและเป็นข้อสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ  ในกรณีของ บัฟเฟตต์ ข้างบ้าน นั้น  กำไรหรือผลตอบแทนที่ทำได้สำหรับบางคนก็เป็น  “กระดาษ”  นี่คือกรณีที่มีการแสดงผลการลงทุนของพอร์ตที่ไม่ได้ใช้เงินจริงแต่เป็นการ  “แข่งขัน”  ลงทุนระยะยาวตามเวบไซ้ต์ในต่างประเทศ  ในกรณีแบบนี้เจ้าตัวอาจจะไม่ได้ลงเงินจริง ๆ  ก็ได้  และสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนจริง ๆ  คนส่วนมากก็มักจะไม่ได้เก็บสถิติอย่างละเอียดถี่ถ้วน  และมักจะมีการเติมเงินและถอนเงินเป็นระยะ ดังนั้น  ผลตอบแทนที่อ้างว่าทำได้ก็อาจจะไม่ถูกต้อง  เหนือสิ่งอื่นใด  ข้อมูลผลตอบแทนที่มีการอ้างถึงก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนและเป็นข้อมูลที่เปิดเผยพิสูจน์ได้  ตรงกันข้าม  ในกรณีของ บัฟเฟตต์ ตัวจริง นั้นผลตอบแทนที่ทำได้เป็น “ข้อมูลสาธารณะ”  ที่เขาต้องประกาศทุกปีในฐานะห้างหุ้นส่วนและต่อมาเป็นบริษัทมหาชน

           กล่าวโดยสรุปสำหรับความแตกต่างระหว่าง วอเร็น บัฟเฟตต์ ตัวจริง กับ วอเร็นบัฟเฟตต์ ข้างบ้าน ก็คือ  วอเร็น ตัวจริง นั้น เขาประสบความสำเร็จในฐานะที่เป็นนักลงทุนระยะยาวที่เน้นการลงทุนในหุ้นของกิจการที่มีผลประกอบการที่ดีสม่ำเสมอและปลอดภัยจริง ๆ  ในทุกสถานการณ์  เขาไม่เก็งกำไรและมีการกระจายความเสี่ยงโดยการถือหุ้นในระดับที่เหมาะสมไม่น้อยหรือมากตัวเกินไป  ในขณะที่ วอเร็น ข้างบ้านนั้น  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีเท่าหรือเหนือกว่าบัฟเฟตต์ตัวจริง  แต่ความเสี่ยงก็สูง  จำนวนมากนั้นมีลักษณะแบบนักเก็งกำไร  ในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นบูมปัญหาก็ไม่มี  อย่างไรก็ตาม  โชคอาจจะไม่ดีเสมอไป  ดังนั้น  เมื่อมาถึงจุดที่ตลาดไม่เอื้ออำนวย  ผลงานของบัฟเฟตต์ ข้างบ้าน ก็มักจะด้อยลงไปมาก  เช่นเดียวกัน  พอร์ตที่ใหญ่ขึ้นมากก็มักไม่เอื้อให้ บัฟเฟตต์ ข้างบ้าน สามารถดำเนินกลยุทธ์เดิม ๆ  ได้ง่าย  และนั่นเป็นเหตุให้  วอเร็น บัฟเฟตต์ ข้างบ้าน  ส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงแบบเดิมต่อไปได้นานพอที่จะทำให้เขารวยมากจนเป็นที่สังเกตของคนในสังคมวงกว้างได้

จากเว็บบล็อกใน www.settrade.com

 
 

จากคุณ : น้ำปั่นกับวันฟ้าใส
เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 17:27:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com