ความคิดเห็นที่ 1 6 กองทุน เลือกปรับเปลี่ยนได้ตามภาวะ และอารมณ์รวมถึงความการยอมรับความเสี่ยงในช่วงเวลาต่างๆ โดยอาจจะสามารถแบ่งเป็น 2 รูปแบบตามความเสี่ยง ในรูปของความผันผวน เสี่ยงน้อย ด้วยลักษณะกองทุนที่ออกแบบมา เพื่อลดความผันผวนจากหุ้นให้ต่ำลง SCBLT1 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 :: มีนโยบายการจ่ายปันผล :: จะมีสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 70% ที่เหลือจะเป็นตราสารหนี้ SCBLTS - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท :: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล :: มีการลงทุนใน SET50 Index Futures ในทิศทางที่ใช้หักล้างกับตลาดหุ้น ทำให้ลดความผันผวนจากตลาดหุ้นได้เกือบ 40% ครับ เสี่ยงมาก ด้วยลักษณะการลงทุนในหุ้นอย่างเต็มที่ แต่ในบางช่วงเวลาก็จะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนบ้างเล็กน้อย SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส :: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล :: ลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ประมาณ 90% SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ :: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล :: กระจายการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย   : กลุ่มหุ้น SET50 ประมาณ 40%   : กลุ่มหุ้นที่อยู่ในกลุ่มล่างของ SET100 และ MAI ประมาณ 40%   : ที่เหลือประมาณ 20% จะปรับเปลี่ยนตามสภาวะการณ์ รวมถึงมีการลงทุนใน SET50 Index Futures ด้วยครับ SCBLT4 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ :: มีนโยบายการจ่ายปันผล :: มีการกระจายไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศประมาณ 5 - 10% (SCBPGF, SCBAEM, SCBCE) SCBLTT - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต :: มีนโยบายการจ่ายปันผล :: เป็นรูปแบบผสมที่หลากหลายการลงทุน เหมือนเป็นตัวรวมของ LTF ทั้ง 5 กองทุนข้างต้นครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 23:14:41

ความคิดเห็นที่ 2 AYFLTFDIV ให้ผลตอบแทนดีสุด ของปีนี้ ลองหาข้อมูลเองด้วยนะครับ http://search.pantip.com/cgi-bin/ss?query=AYFLTFDIV&group=%CA%D4%B9%B8%C3&grp=&search=&submit=&age=all&x=25&y=23 จากคุณ : murmur เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 00:24:47

ความคิดเห็นที่ 3 http://mychart.tk/fund-compare/LTF ถ้าถามแค่ 2 ตัวนี้ก็คงต้องเป้น TMBAM อะครับ แต่ถ้าถามมากกว่านี้ก็เป็น kbank ด้วยก็ดี AYF ไม่ค่อยแนะนำเพราะหุ้นขึ้นเยอะกำไรเยอะจิง แต่ตอนนี้หุ้นมาไกลแล้วหมายความว่าโอกาสขาดทุนเมื่อหุ้นลงก็มากด้วย จากคุณ : Define เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 00:40:12

ความคิดเห็นที่ 4 เอาเจ้าที่คุณสามารถสลับสับเปลี่ยนง่ายๆ ดีกว่าไหมครับ เพื่อตอนขาลง จะได้ สลับไปกองที่มีหุ้นในกอง น้อยๆ จากคุณ : CP_Card เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 08:50:16

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะถามมา จึงตอบค่ะ ใช้ SCB ชอบตรงที่ สลับกองได้ง่ายๆ ทางเนท ไม่ได้ดูผลประกอบการเปรียบเทียบกับกองคนอื่น เพราะเน้นลดภาษี ก็ได้มากแล้ว ที่เหลือ ขอความสะดวกและทันสมัย จากคุณ : ใบโหระพา เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 09:18:01

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนตัวไม่ค่อยมีเวลาในการตาม  ซึ่งซื้อ LTF เพื่อหวังแค่ใช้สิทธิลดภาษีเท่านั้น จึงเลือกของ SCB เพราะซื้อขายง่าย (อาจเพราะชิน ) และที่สำคัญ หากมีปัญหาอะไร โพสต์ไว้ เดี๋ยวพี่pjuk ก็มาช่วยอย่างรวดเร็ว จากคุณ : Pharmkid เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 10:28:38

ความคิดเห็นที่ 7 การจะซื้อ LTF ในช่วงที่คิดว่าหุ้นขึ้นมาเยอะัแล้ว นอกจาก performance ของแต่ละ บลจ.แล้ว ก็ต้องดูว่า กองทุนนั้นขึ้นมาเยอะหรือยัง ตอนนี้มีบาง บลจ. บางกองทุน ที่แม้หุ้นจะขึ้นมาเยอะแล้ว แต่ NAV กลับไม่ค่อยขึ้น ซึ่งแปลความได้ 2 แบบ 1. ผู้จัดการกองทุนห่วย performance ไม่ดี บริหารแพ้ set 2. จะได้กองทุน LTF ที่ราึคาถูกกว่าความเป็นจริง ลองพิจารณาดูนะครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 10:48:07

ความคิดเห็นที่ 8 ระหว่างของตัวนี้ เราก็เลือก SCB คะ ทั้งที่ก็สนใจ TMBAM อยู่เหมือนกันนะคะ เพราะเราเองก็เลือกซื้อกองทุนที่เราสะดวกคะ ซึ่ง SCB เราสะดวกมากๆ ทั้งมีทั้งบัญชีเงินที่จะซื้อ บัตรเครดิต EasyNet มีครบเลยคะ ทำให้การซื้อง่ายมากๆ แต่ถ้า TMBAM เราก็เหมือนต้องไปติดต่อแบงค์เริ่มต้นใหม่หมดเลย ซี่งไม่ค่อยสะดวก แล้วเราเอง ก็แค่หวังผลลดหย่อนภาษีเป็นหลักด้วยคะ แต่ตอนนี้ LTF ก็ขึ้นเอาขึ้นเอา ปีนี้เรายังซื้อไม่ถึงยอดที่ตั้งใจว่าจะซื้อเลย เลยก็คิดหนักอยู่เหมือนกัน ว่าเอาไงดี แต่สุดท้ายก็คิดว่า ก่อนสิ้นปีจริงๆ คงต้องซื้อเพิ่มอีกซักหน่อย ไว้ลดหย่อนนะ ยังมีเวลาตัดสินใจอีก 2 อาทิตย์ ว่าจะซื้อตัวไหนของ SCB ดีนะ ^__^ จากคุณ : pompmm เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 12:36:30

ความคิดเห็นที่ 9 ของเดิมที่ซื้อไว้แล้วมีรากฐานที่ราคาต่ำ ... แม้ซื้อเพิ่มใหม่ที่ช่วงนี้ที่ราคาสูง มองในรูปของการลงทุนด้วยค่าเฉลี่ยการลงทุนแล้ว ถือว่ายังซื้อได้ที่ราคาต่ำ กว่าราคาปัจจุบันอยู่มากครับ .... ยิ่งปล่อยให้วันเวลาผ่านไป โอกาสในการ หาจังหวะลงทุนยิ่งน้อยลงเรื่องๆ ครับ .... ทำรายการซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต ผ่านทาง SCB Easy Net ได้ที่ขั้นต่ำ 1,000 บาท สำหรับกองทุนที่มีการลง ทุนมาแล้ว .... ทำให้สามารถกระจายความเสี่ยงด้านราคาไปได้อย่างมาก อีก 20 วัน (2 สัปดาห์) ก็จะสิ้นปีภาษี 2553 แล้ว .... ลุยแบบท้าทายตลาด หุ้น .... แล้วตรวจสอบด้วยรายงานใน SCB Easy Net ถึงผลตอบแทนที่ได้ จากการลงทุนจริง แล้วค่อยสับเปลี่ยนย้ายเก็บใน SCBLTS ที่ผันผวนน้อยๆ ในภายหลังก็ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 53 14:40:49 จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 14:39:49

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ พี่ pjuk นะคะที่มาช่วยออกความเห็น ก็คิดอยู่นะคะ ว่าก็คงซื้อตัวเดิมที่เคยซื้อไว้แล้ว จะได้มาเหมือนเฉลี่ยราคากับที่เคยซื้อไปแล้ว แล้วก็ต้องวางแผนการซื้อด้วยคะ เพราะพอดีช่วงนี้ค่าใช้จ่้ายเยอะมากๆๆๆ เพิ่งเอารถไปซ่อม ยังไม่รู้เลยว่าต้องจ่ายไปอีกเท่าไหรสำหรับค่าซ่อมรถคะ จากคุณ : pompmm เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 16:42:54

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อถึงตอนที่ได้รับเงินคืนจากสรรพากร ก็จะหายเหนือยได้มากเลยครับ ... สู้ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:43:58