ความคิดเห็นที่ 1 IRPC จำได้ว่าเปิดพอร์ตกับโบรกฯ ประมาณเกือบสัปดาห์จึงได้รับ user name & password พอเข้าบัญชีได้ปุ๊บก็จัดการโอนเงินเข้าพอร์ตครั้งแรกจำนวน 50,000 บาท แล้วซื้อหุ้นตัวแรกเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 53 คือหุ้น IRPC ทันทีจำนวน 10,000 หุ้นที่ราคา 4.38 บาท รวมค่าคอมมิชชั่น +VAT. รวมเป็นเงิน 43,870.30 บาท ถ้าจำไม่ผิดครั้งแรกที่ซื้อหุ้นตัวนี้ปุ๊บน่าจะขาดทุนปั๊บทันทีเลยค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นต้องแอบอุทานคนเดียวในใจว่า “เฮ้ยยยย ไรว๊า??” ค่ะ จากนั้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ได้โอนเงินเพิ่มเข้าพอร์ตอีก 50,000 บาท แล้วซื้อหุ้น IRPC ตัวเดิมเพิ่มมาเพื่อถัวเฉลี่ยราคาอีก 12,000 หุ้นที่ 4.28 บาท จึงมีหุ้นรวม 22,000 หุ้นทำให้ต้นทุนและขาดทุนลดลงเล็กน้อย แต่ตอนนั้นน่าจะทนเห็นพอร์ตแดงไม่ได้เนื่องจากเป็นหุ้นตัวแรกที่เพิ่งซื้อ และตัวเลขขาดทุนในพอร์ตยิ่งทำให้มือใหม่ใจเสีย จากที่ได้อ่านกระทู้มักจะพบแต่คำแนะนำว่าถ้าขาดทุนต้องรีบ cut loss จึงได้พยายามจะ cut loss หุ้น 22,000 หุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด โดยรีบทำแบบฝึกหัดแรกที่ได้เรียนรู้มาด้วยการตั้งขายหุ้นทั้งหมดไปที่ราคาหนึ่งทันที!! ปรากฏว่าด้วยความตื่นเต้นและลนตามประสามือใหม่ จึง  key ตัวเลขผิดที่ราคา 3 บาทกว่า ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าเท่าไรแต่เป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ณ เวลานั้น เป็นผลให้ราคา match ทันทีที่ราคาตลาด (market price) ที่ 4.20 บาท มารู้ตัวอีกทีตอน click ดู order browse ตอนนั้นทั้งงงและตกใจมาก นับเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นตกใจมากสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการเป็นครั้งแรก ฮือ ๆๆๆ อ้อ ก่อนที่จะลืม ที่มาของหุ้นตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเพื่อนคนหนึ่งในห้องสินธรที่กรุณาแนะนำให้ซื้อค่ะ ถ้าเพื่อนคนนั้นเผอิญได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็ขอถือโอกาสนี้กล่าวคำขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะคะ สำหรับคำแนะนำและแรงบันดาลใจให้เข้าสู่วงการตลาดหุ้นตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากการซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นตัวนี้หลายครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นผลให้บวกลบแล้ว มีกำไรจริงเป็นเงิน  15,382.65 บาท ปัจจุบันมีหุ้นตัวนี้เหลืออยู่ในพอร์ตจำนวน 58,000 หุ้นที่ราคาเฉลี่ย 4.3981 บาท ราคาตลาดล่าสุดอยู่ที่ 5.50 บาทเท่ากับแสดงกำไรในพอร์ต ณ ปัจจุบันที่ 63,911 บาทหรือ +25.05% แต่เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วราคาวิ่งขึ้นไปถึง 6.10 บาท พอไม่ได้ขายทำให้ขาดทุนกำไรไปหลายหมื่นเลยค่ะ ตอนนี้จึงยังลังเลอยู่ว่าจะขายทิ้งก่อนสิ้นปีนี้ดีหรือถือต่อไปจนกลับไปขึ้นดอยอีกที เอ๊ยยย ถือไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมจนถึงต้นปีหน้า??? สับสน ๆๆๆ เอาไงดี ๆๆๆ จากคุณ : I love U dearly-IRPC! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:02:06

ความคิดเห็นที่ 2 ESSO หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นตัวที่ 2 ที่ซื้อตามคำแนะนำของเพื่อนคนเดียวกับข้างต้น ได้เก็บสะสมหุ้นตัวนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ราคา 5.15-7.0 ทำให้เคยมีหุ้นทั้งสิ้น 70,000 หุ้น ราคาหุ้นตัวนี้ขึ้นลงช้ามากไม่ค่อยหวือหวาและดูเหมือนจะเป็นตัวฉุดพอร์ตให้แดงมาตลอด จึงตัดสินใจ cut loss ไปจำนวน 20,000 หุ้นที่ราคา 6.20 บาท เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ทำให้ขาดทุนจากการขายเพียงครั้งเดียวจากหุ้นตัวนี้ เป็นเงิน 16,025.68 บาท ปัจจุบันมีหุ้นตัวนี้เหลืออยู่ในพอร์ตจำนวน 50,000 หุ้นที่ต้นทุนเฉลี่ย 6.9091 บาท ราคาตลาดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค. อยู่ที่ 7.70 บาท ในพอร์ตแสดงผลกำไรเท่ากับ 39,546 บาทคิดเป็น 11.45% และเช่นเดียวกัน 2-3 วันก่อนหน้าหุ้นตัวนี้ราคาวิ่งไปถึง 8.40 บาท ทำให้ขาดทุนกำไรไปอีกหลายหมื่นเหมียนกัน มีใครคิดแบบนี้แล้วทำให้เครียด ๆ และ กลุ้ม ๆ เหมือนกันบ้างป่าวเนี่ย?? ช่วยแนะนำวิธีคิดที่ ไม่สน ไม่แคร์ ให้กันหน่อยได้ไหมคะ?? จากคุณ : I love U too-ESSO! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:02:55

ความคิดเห็นที่ 3 GLOBAL นี่เป็นหุ้นตัวที่ 3 ที่ซื้อตามคำแนะนำของเพื่อนคนเดิมเช่นกันค่ะ ตัวนี้เริ่มซื้อตั้งแต่ราคาต่ำสุดที่ 2.98 และสูงสุด 9.25 บาท มีการซื้อขายกว่า 10 รายการซึ่งในเดือนกันยายนมีหุ้นจำนวน 43,700 ที่ราคาเฉลี่ย 9.11 บาท แต่ราคาตลาดลดลงแสดงตัวเลขขาดทุนอยู่เป็นสัปดาห์ ทำให้ตัดสินใจ cut loss ขาดทุนไป 2-3 หมื่นและตอนนี้เหลือหุ้นในพอร์ตเพียง 10,000 หุ้น Cut loss ไปได้เพียง 1-2 สัปดาห์ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปสูงสุดที่ประมาณ 11.20 บาท ตัวนี้ทำให้รู้สึกเซ็งมากที่ cut loss ปุ๊บราคาขึ้นทันทีเสียโอกาสทำกำไรแถมยังขาดทุน แต่จากการซื้อ ๆ ขาย ๆ หลายครั้งยังได้กำไรจากหุ้นตัวนี้อยู่ 37,026.52 บาท ปัจจุบันมีหุ้นตัวนี้เหลืออยู่ในพอร์ตจำนวน 10,000 หุ้นที่ราคาเฉลี่ย 9.0645    บาท ราคาตลาดล่าสุดอยู่ที่ 10.30 บาท แสดงกำไรในพอร์ต 12,355 บาทหรือ13.63% กำไรหายไปเกือบครึ่งตอนที่ราคาขึ้นไป 11++ บาท หรือหายไปเกือบแสนถ้าไม่ cut loss ซึ่งจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นอีกมาก!! เฮ้ออออ ก็มัวแต่ยังคิดแบบนี้กับการตัดสินใจทุกครั้งก็สมควรที่จะต้องปวดร้าวหัวใจต่อไป!! (ซ้ำเติมตัวเองก่อนโดนเพื่อน ๆ ซ้ำเติมดีกว่า!!) จากคุณ : U broke my HEART-GLOBAL! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:03:48

ความคิดเห็นที่ 4 HMPRO หุ้นตัวนี้ได้จากการแอบดูพอร์ตของดร. นิเวศน์ที่มีต้นทุนเพียง 5.95 บาทจำนวน 29.8 ล้านหุ้นเมื่อพ.ค. 53 จึงเข้าไปซื้อตามเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. จำนวน 20,000 หุ้นที่ราคา 6.20 บาท ดูเหมือนตัวนี้น่าจะถือนานหน่อยเพราะขายไปตอนราคาขึ้นไปที่ 11 บาทเมื่อ 2 ก.ย. แต่พอเห็นราคาย่อลงมาจึงกลับเข้าไปซื้อใหม่ที่ราคา 9.80 บาทจำนวน 3 หมื่นหุ้น ถือได้ 10 วันก็ขายออกไปอีกที่ราคา 10.30 บาท แล้วกลับเข้าไปซื้อคืนมาใหม่อีกที่ราคา 10.50 & 10.60 บาทรวม 24,800 หุ้น แล้วก็ติดดอยจนถึงวันนี้เนื่องจากราคาปัจจุบันอยู่ที่ 8.65 บาท ติดลบ 12,030.34 บาท -4.59% ตัวนี้ได้ปันผลเป็นหุ้นมา 4,133 หุ้นทำให้ปัจจุบันถืออยู่ 28,933 หุ้นต้นทุนลดเหลือ 9.06 บาท ดูเหมือนว่าหุ้นตัวนี้จะแข่งทำราคาคู่กันมากับGLOBAL แต่ตอนนี้สงสัยจะตามไม่ทันซะแล้ว เพราะ GLOBAL ได้วิ่งแซงหน้าตั้ง Go inter ไปที่ 11.10 บาทเมื่อวันพฤหัสฯ ก่อนจะดิ่งลงมาปิดที่ 10.30 บาทในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่จากการซื้อ ๆ ขาย ๆ ที่ผ่านทำให้เกิดกำไรจริงจากหุ้นตัวนี้ตัวเดียวเป็นเงิน 105,689.36 บาท จากคุณ : Wake up ๆๆๆๆๆ-HMPRO! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:04:33

ความคิดเห็นที่ 5 CFRESH ตัวนี้เป็นหุ้นหนึ่งในจำนวนหุ้นตัวแรก ๆ ที่เข้าไปซื้อตั้งแต่เริ่มเปิดพอร์ตเช่นกัน ได้ซื้อหุ้นตัวนี้ครั้งแรกที่ราคา 3.66 บาทจำนวน 13,500 หุ้นเมื่อวันที่  15 กุมภาพันธ์ 53 แต่เนื่องจากทราบว่าจะขึ้น XD ได้เงินปันผล 0.41 บาทก่อนปลายเดือนพ.ค. ประกอบกับเคยอ่านพบกระทู้และมีความเข้าใจว่าหุ้นเกือบทุกตัวราคาจะตกทันทีหลังขึ้น XD จึงรีบขายออกก่อนวันขึ้น XD หนึ่งวันที่ราคา 4.20 บาท ปรากฏว่าพอประกาศขึ้น XD ราคาย่อลงเพียงไม่กี่วันจากนั้นวิ่งหน้าตั้งขึ้นไปกว่า 6 บาท! ที่จริงหุ้นตัวนี้ไม่มีใครแนะนำแต่ซื้อเองเพราะได้ศึกษาข้อมูลมากจนคิดว่ารู้จักดีกว่าหุ้นทุกตัว แต่ล่าสุดซื้อกลับมาใหม่ในราคาเฉลี่ยที่ 5.70 บาทจำนวนรวม 33,800  หุ้น ตอนหลังติดดอยค่อนข้างนานเพราะราคาดิ่งลงเหลือ 4 บาทกว่าทำให้เคยขาดทุนตัวเลขกว่า 20% สุดท้ายเมื่อวันที่ 9 & 10 พฤศจิกายนตัดสินใจ cut loss ไปที่ราคา 4.80 & 4.82 บาทจนหมด ทำให้ขาดทุนจริงจากการซื้อขายหุ้นตัวนี้คิดเป็นเงินทั้งสิ้น  24,888.88 บาท แต่ก่อนการ cut loss ได้เงินปันผลมาหนึ่งหมื่นบาทเศษเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ขอเล่าที่มาของหุ้นตัวนี้ว่าระหว่างที่ไปสังเกตการณ์ที่ห้องค้าตอนต้นปี 52 เห็นราคา 0.98 บาท แต่พอตัดสินใจไม่สานต่อความตั้งใจที่จะเล่นหุ้นในตอนนั้นจึงไม่ได้ซื้อ สงสัยจะไม่มีวาสนาที่จะได้ครอบครองหุ้นดี ๆ ที่จากนั้นราคาเคยขึ้นไป 6 บาทกว่า ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค. ราคาอยู่ที่ 4.88 บาทแต่ปีหน้าจะทำ ESOP ที่ราคา 6 บาท จ้าวฮะอย่าเพิ่งปั่นราคาตอนนี้นะขอเวลาหาตังค์มาซื้อก่อนแล้วค่อยวิ่ง เพราะตอนนี้ตั้งใจว่าจะกลับเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้กลับเข้ามาประดับพอร์ตใหม่อีกครั้งเร็ว ๆ นี้ นี่ยังเสียดายว่าช่วงที่หุ้นราคาตกลงมา 4.70 บาทเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแต่ไม่มีเงินเข้าไปช้อนซื้อ เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาอยู่ ๆ หุ้นที่เคยนิ่งมาเป็นเดือนกลับวิ่งหน้าตั้งอีกครั้งขึ้นไปที่ 5.05 บาท   ป.ล. เพิ่งจะสังเกตเห็นตอนตรวจสอบข้อมูลก่อนโพสว่าราคาซื้อหุ้น CFRESH รายการหนึ่ง ที่ซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. น่าจะมีปัญหาผิดพลาดทางเทคนิคในเรื่องราคา ซึ่งตอนที่บันทึกรายการไม่ได้สังเกตเห็นแต่พอได้ตรวจสอบตามข้อมูลใบแจ้งยืนยันการซื้อ ก็เป็นตัวเลขเดียวกับที่บันทึกคือซื้อหุ้นจำนวน 15,000 หุ้นในราคาหุ้นละ 6.40 บาทซึ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากจำได้ว่าราคาน่าจะไม่เคยขึ้นไปสูงเท่านี้และค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะซื้อในราคานี้แน่นอน ในขณะที่อีกหนึ่งรายการลงวันที่ 18 พ.ค. ซื้อเพิ่มจำนวน 18,400 หุ้นในราคาหุ้นละ 5.25 บาทซึ่งถูกต้อง ได้ลองกลับไปตรวจสอบราคาปิดของวันที่ 13 พ.ค. กับตลาดหลักทรัพย์แต่มีข้อมูลย้อนหลังแค่เดือน 7 ตอนนี้จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าทางโบรกเกอร์ทำเอกสารผิดหรือไม่ ไม่ทราบว่าเราจะตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างไรคะ? เฮ้อออ ความผิดพลาดในเรื่องนี้เกิดจากความเกียจคร้านในการบันทึกรายวันจึงไม่เห็นข้อผิดแต่เนิ่น ๆ ว่าเป็นความสะเพร่าของตนเองหรือโบรกเกอร์หรือเกิดจากอะไรกันแน่?? ถึงวันนี้ไม่ทราบว่ายังจะสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้หรือไม่และต้องแก้ไขอย่างไร? แต่ถ้าพบว่าเป็นความผิดพลาดที่ตั้งใจจะซื้อหุ้นในราคา 6.40 บาทจริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าเอาหัว (กระบาล) ตัวเองโขกกับกำแพงให้ตื่นจากภวังค์เสียเหลือเกิน!!!   อย่างไรก็ตามช่วงนี้จะต้องหาจังหวะที่หุ้นย่อตัวลงมาและจะกลับไปซื้อมาประดับพอร์ตอีกครั้งหนึ่งแน่นอน ความตั้งใจสำหรับหุ้นตัวนี้คือจะต้องแก้แค้นเพื่อทำกำไรกลับคืนมาให้ได้ โดยจะทยอยเข้าไปช้อนหุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อสักวันหนึ่งจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ให้จงได้!! เอิ๊ก ๆๆๆ จากคุณ : I WILL TAKE OVER CFRESH!! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:05:34

ความคิดเห็นที่ 6 PSL เป็นหุ้นที่ซื้อช่วงเริ่มลงทุนใหม่ ๆ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 53 สาเหตุที่ซื้อหุ้นตัวนี้เนื่องจากอ่านเจอในกระทู้ว่ากำลังจะขึ้นเครื่องหมาย XDในสัปดาห์นั้น ทำให้อยากรู้ว่าการขึ้นเครื่องหมาย XD คืออะไรและจะมีผลกับหุ้นอย่างไร จึงเข้าไปซื้อจำนวน 100 หุ้นเพื่อทดลองดูผล ต่อมาเดือนกว่าได้รับหนังสือแจ้งจากศูนย์ฝากหลักทรัพย์ว่า ได้รับเงินปันผล 54 บาท พอไป update สมุดบัญชีก็มีเงินเข้ามาจริง ๆ ด้วย เป็นหุ้นตัวแรกที่ได้รับเงินปันผลทำให้รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก อิอิ จากคุณ : My first dividend-PSL! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:06:27

ความคิดเห็นที่ 7 ADVANC จำไม่ได้ว่าตอนนั้นหุ้นตัวนี้มีข่าวร้ายอะไรทำให้หุ้นร่วงน่าจะเกือบ 10% คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสทำกำไรได้จึงรีบเข้าไปซื้อที่ราคา 84 บาทแต่พอซื้อแล้วราคายังตกต่อ จึงนำความรู้เรื่องการ cut loss มาใช้อีกครั้งด้วยการรีบขายออกภายใน 1 สัปดาห์ ที่ราคา 78 บาทขาดทุนไป 4,206.74 บาท พอขายได้ไม่นานหุ้นก็ขึ้นและคอยติดตามราคาพบว่าเคยขึ้นไปถึง 100 บาทในช่วงที่ผ่านมา รู้สึกเศร้ามาตลอดและคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องกลับไปซื้อเจ้าหุ้นตัวนี้มาล้างแค้นอีกให้จงได้ เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมาก็มีข่าวร้ายเรื่องจะมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานใหม่ ทำให้ราคาหุ้นตัวนี้เปิดที่ 85 บาทและปิด 86.25 บาท -4 บาทจากวันก่อนเท่ากับ -4.43% วันศุกร์ที่ 17 ธ.ค. ราคาลดลงอีก 1.45% เหลือ 85 บาท กำลังคิดว่าอยากจะกลับเข้าไปซื้อมาประดับพอร์ตอีกครั้งแล้วกอดไว้แน่น ๆ เอารับไว้ปันผล แต่ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปรับเมื่อไรดีหรือจะเสี่ยงเกินไปหรือไม่กับข่าวร้ายที่กำลังเกิดขึ้น?? จากคุณ : R U going to B OK-ADVANC? (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:07:15

ความคิดเห็นที่ 8 GSTEEL มีเพื่อนเก่าที่เคยทำงานด้วยกันแนะนำให้ซื้อหุ้นตัวนี้โดยบอกว่าโอกาสที่ราคาจะขึ้นสูง เนื่องจากกำลังเตรียมเจรจาให้ต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนและถือครองหุ้นของบริษัท จึงรีบซื้อหุ้นจำนวน 290,000 หุ้นที่ราคา 0.42 บาทเมื่อวันที่ 13 พ.ค. แต่ซื้อมาได้เพียงไม่กี่วันหุ้นตัวนี้ติด Turnover List ทำให้ราคาหุ้นตก ตอนนั้นตกใจและไม่ค่อยเข้าใจกับคำว่า Turnover List ที่ต้องซื้อด้วย cash balance ทำให้รีบ cut loss ขายทิ้งไปทั้งหมดภายในไม่ถึงสัปดาห์ เกิดตัวเลขขาดทุนทันที 8,713.96 บาท หลังจากนั้นไม่นานจนถึงปัจจุบันราคาหุ้นตัวนี้วิ่งขึ้นไปอยู่ที่  0.70 บาทแล้ว ฮือ ๆๆๆ เสียใจจัง!! จากคุณ : You made me SAD-GSTEEL! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:08:04

ความคิดเห็นที่ 9 SUSCO ได้ชื่อหุ้นตัวนี้จากกระทู้ของสมาชิกในห้องสินธรอีกเช่นเคย พอตรวจสอบข้อมูลกับตลาดหลักทรัพย์แล้วอยากลองซื้อ จึงเข้าไปตั้งซื้อจำนวน 2 แสนหุ้นที่ราคา 0.48 บาท ตัวนี้ซื้อปุ๊บขาดทุนปั๊บเหมือนกันจึงถือคอยประมาณ 10 วัน พอราคาขึ้นมาเท่าต้นทุนที่ 0.48 บาทจึงรีบขายออกเมื่อวันที่ 13 พ.ค. และซื้อ KH ต่อทันที ตัวเลขใน excel สำหรับหุ้นตัวนี้แสดงผลขาดทุนกำไร = ศูนย์ ทำให้เพิ่งฉุกคิดได้ว่าสงสัยจะตั้งสูตรคำนวณไม่ถูกต้องและน่าทำให้ข้อมูลตัวอื่น ๆ เพี๊ยนเช่นกัน เนื่องจากตัวนี้ถึงจะซื้อและขายในราคาเท่ากัน สูตรควรจะแสดงผลขาดทุน 316.08 บาทจากค่าคอมฯ และ VAT รวมจากทั้งขาซื้อและขาย แต่แก้ไขไม่เป็นจึงปล่อยไปเพราะปวดหมองและขี้เกียจคิด ถ้าท่านใดจะช่วยชี้แนะก็อยากจะแก้ไขให้ถูกต้องค่ะ อ้อ ตัวนี้พอขายปุ๊บราคาก็วิ่งขึ้นเช่นกันและปัจจุบันราคาอยู่ที่  0.76 บาท อกหักกับการรีบตัดสินใจขายแทนการถือให้ยาวขึ้นอีกแล้ว!!! จากคุณ : I don’t love U-SUSCO! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:08:46

ความคิดเห็นที่ 10 KH หุ้นตัวนี้อ่านเจอจากกระทู้ในสินธรว่ากำลังจะจ่ายเงินปันผล จึงรีบเข้าไปซื้อจำนวน 50,000 หุ้นที่ราคา 5.15 บาทเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ตัวนี้ก็เช่นกันพอขึ้น XD และได้เงินปันผลมา 6,750 บาทราคาก็ดิ่ง จึงตัดสินใจขาย cut loss ไปที่ราคา 4.98 บาทเมื่อ 13 พ.ค. เป็นผลให้ขาดทุนคิดเป็นเงิน  8,513.64 บาท (หักปันผลเท่ากับเหลือขาดทุน 8,513.64-6,750 = 1,763.64 บาท) ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 6.55 บาท เศร้าอีกแล้วกับการ cut loss อีกครั้งหนึ่ง!! ฮือ ๆๆๆๆ จากคุณ : I should not let U go-KH! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:09:33

ความคิดเห็นที่ 11 CPF อ่านเจอและรู้จักหุ้นตัวนี้ในกระทู้ห้องสินธร (เชยจัง กินไข่ CP ทุกวันแต่ไม่รู้จักชื่อหุ้น!!) จึงเข้าไปดูรายละเอียดตั้งแต่เริ่มลงทุนใหม่ ๆ ตอนต้นปีซึ่งราคาอยู่ที่ 10 กว่าบาท แต่รู้สึกว่าราคาขึ้นมาสูงแล้วจึงไม่ได้ซื้อจนกระทั่งตอนหลังเห็นว่าน่าจะลองเก็งกำไรกับหุ้นตัวนี้ จึงเข้าไปซื้อเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ราคา 23.90 บาทจำนวน 3,500 หุ้น จำได้ว่าราคาขึ้น ๆ ลง ๆ จึงถือไว้เพียง 1 สัปดาห์และรีบขายตอนที่ราคาขึ้นไปที่ 24.80 บาท ได้กำไรเป็นเงินเพียง  3,135.02 บาท ตัวนี้คิดว่าปีหน้าอยากจะคอยจังหวะซื้อตอนราคาย่อลงมาแล้วถือลงทุนยาว ให้เป็นหุ้น Value Investment ในพอร์ตคอยรับเงินปันผลอย่างเดียวไม่ทราบจะดีหรือไม่คะ? จากคุณ : U will B my VI-CPF! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:10:14

ความคิดเห็นที่ 12 KTB หุ้นตัวนี้ได้มาจากการอ่านกระทู้เช่นกันค่ะ ซื้อมาจำนวน 8,100 หุ้นที่ราคา 15.60 บาท ถือไว้ประมาณ 3 สัปดาห์จึงขายทำกำไรที่ 17.40 บาท   ได้กำไรเป็นเงิน  14,603.40 บาท ตัวนี้ขายปุ๊บราคาวิ่งไปเกือบ 18 บาทภายในวันนั้น หึ ๆๆ ที่แท้อารมณ์ที่รู้สึกว่าขายหมูเป็นแบบนี้นี่เอง!! จากคุณ : I still love U-KTB! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:10:53

ความคิดเห็นที่ 13 PTT หุ้นตัวนี้ก็ได้มาจากการอ่านกระทู้เช่นกัน เข้าไปศึกษาความเคลื่อนไหวของราคาพบว่าขึ้นลงต่อวันหลาย ๆ บาทถึงกว่าสิบบาท ในใจคิดว่าหากซื้อ 1,000 หุ้นแล้วขายเมื่อหุ้นขึ้นสัก 2-3 บาท ก็จะได้ค่าขนมวันละ 2,000-3,000 บาททุกวันก็เพียงพอแล้ว จึงซื้อครั้งแรก 500 หุ้นที่ราคา 255 บาทเมื่อวันที่ 7 พ.ค. และซื้อเพิ่มอีก 500 หุ้นราคาเดียวกันเมื่อ 13 พ.ค. รวมเป็น 1,000 หุ้น ปรากฏว่าซื้อแล้วหุ้นไม่ได้ขึ้นอย่างที่ฝันหวานจะทำกำไรต่อวัน ๆ ละ 2-3,000 บาท แต่ราคากลับตกลงต่อเนื่องและตกไปที่ใกล้ 230 บาท ทำให้มีตัวเลขขาดทุนในพอร์ตนานเป็นเดือนจนสูงถึงสองหมื่นกว่า ตอนแรกตั้งขาย cut loss ที่ราคาประมาณ 233 บาทแต่ไม่ match จึงถือต่อจนราคาขึ้นมาที่ 257 บาทเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. จึงรีบขาย ได้กำไรมาเพียง  2,003.21 บาท พอขายได้ไม่กี่วันหุ้นวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนราคาเคยวิ่งไปถึงเกือบ 350 บาท นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างหุ้นที่รีบตัดสินใจขายทำให้พลาดโอกาสกำไรตอนหุ้นขึ้น เฮ้ออออ เมื่อไรจะจดจำและนิ่งซะทีน๊า?? จากคุณ : U became out of reach-PTT! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:11:34

ความคิดเห็นที่ 14 BTS เหตุผลที่ซื้อหุ้นตัวนี้จากการอ่านจากกระทู้เช่นกันและคิดว่าจะเก็งกำไรระยะสั้น จึงเข้าไปซื้อจำนวน 80,000 หุ้นที่ราคา 0.82 บาทเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ถืออยู่ประมาณ 6 สัปดาห์จึงขายไปเมื่อ 7 ก.ย. ที่ราคา 0.87 บาท ได้กำไรเป็นเงิน 4,060.51 บาท ล่าสุดหุ้นตัวนี้อยู่ที่ราคา 0.82 บาทเท่าที่เคยซื้อเมื่อกว่า 3 เดือนที่แล้ว ที่จริงตอนนี้กำลังคอยจังหวะที่ราคาย่อลงมาเพื่อทยอยซื้อสะสม เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนราคาตกลงไปที่ 0.77 บาทเหมาะแก่การช้อนซื้อมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยมีเงินเหลือค้างพอร์ตไว้สำหรับคอยรับหุ้นราคาถูก ๆ เลย ครั้งนี้จึงน่าจะเป็นบทเรียนว่าจะต้องกันเงินไว้สักก้อนหนึ่งไว้ซื้อหุ้นราคาถูกเสมอ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อไรเราจึงจะรู้ว่าหุ้นไหนราคาถูกแล้ว เพราะเมื่อถูกแล้วก็อาจจะมีที่ถูกกว่าและก็จะมีหุ้นราคาถูกให้รู้สึกเสียดายแบบนี้ตลอดเวลา เนื่องจากพอเจอหุ้นถูกและซื้อจนเงินหมดพอร์ตแล้วก็จะมีหุ้นถูกตัวอื่น ๆ เข้ามาอีก ถ้าเจอความรู้สึกเช่นนี้แล้วเราจะมีวิธีการจัดการกับความรู้สึกของตนเองอย่างไร เราจะตัดใจจากความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไรจึงจะสบายใจไม่เสียดายและไม่ติดยึด?? จากคุณ : Next station is BTS! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:12:17

ความคิดเห็นที่ 15 TMB หุ้นตัวนี้ได้จากการอ่านกระทู้ในสินธรเช่นเคย ดูตัวนี้มาตั้งแต่ราคา 1.20++ บาทและช่วงที่ราคาค่อย ๆ ขยับขึ้น ก็มองว่าราคาสูงเกินไปแล้วจึงไม่ได้ซื้อ แต่มาตัดสินใจซื้อตอนที่ราคาอยู่ที่ 1.92 บาทและเคยซื้อที่ราคาสูงสุด 2.58 บาท ซึ่งในระหว่างนี้มีการซื้อ ๆ ขาย ๆ กว่าสิบรายการทำให้เกิดกำไรจริงจากการซื้อขายที่  66,556.65 บาท ล่าสุดตั้งใจจะซื้อเก็งกำไรรายวันจึงกลับไปซื้อที่ 2.30 บาทจำนวน 41,700 หุ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย. พอซื้อแล้วราคาตกจึงไม่ได้ขายทำกำไรรายวันอย่างที่ตั้งใจ วันต่อมาจึง cut loss หุ้น CFRESH ทั้งหมดขาดทุน 3 หมื่นกว่าบาท แล้วรีบซื้อ TMB เมื่อวันที่ 10 & 11 พ.ย. ที่ราคา 2.20 & 2.30 เพิ่มอีกรวม 123,600 หุ้น แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ขายทำกำไรระยะสั้นอย่างที่ตั้งใจไว้เลย เนื่องจากราคาตกตลอดซึ่งช่วงที่ผ่านมาตกไปถึงประมาณ 2.06 บาท แต่ล่าสุดวันศุกร์อยู่ที่ 2.24 บาท ประกอบกับตอนนี้มีข่าวว่าจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในปีนี้ จึงยังไม่ได้ cut loss และอาจจะถือต่อจนกว่าจะได้รับเงินปันผล เฮ้ออออ ไม่เคยได้ทำ Day Trade อย่างที่ตั้งใจซ๊ากกกที เพราะซื้อทีไรกลายเป็น Weeks’ เป็น Months’ Trade อยู่เรื่อย!! จากคุณ : I will DAY TRADE U-TMB! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:13:00

ความคิดเห็นที่ 16 UAC หุ้นตัวนี้ได้มาจากการอ่านกระทู้เรื่องเข้าตลาดใหม่และราคา Ceiling ติดต่อกัน 2-3 วัน ตอนนั้นอยากจะรู้ว่าหุ้นใหม่และทำ Ceiling ติดต่อกันแบบนี้เป็นอย่างไร ประกอบกับคิดว่าถ้าเราเข้าออกด้วยความรวดเร็วน่าจะทำกำไรระยะสั้นพอได้ค่าขนมก็พอ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดคือได้ cut loss หุ้น Global ที่ขาดทุน 3 หมื่นแล้วรีบเข้าไปซื้อหุ้น UAC ทันที ปรากฏว่าซื้อปุ๊บราคาร่วงเร็วและแรงมาก ถือหุ้นตัวนี้อยู่ประมาณ 20 วันจึงตัดสินใจ cut loss ขาดทุน  27,043.34 บาท เท่ากับขาดทุน 2 เด้งไปประมาณ 5 หมื่นบาท!! ฮือ ๆๆ บทเรียนเรื่องหุ้น IPO หุ้นปั่น กับคำว่า Ceiling ทำไมมันแพงอย่างนี้วุ๊ยยยยย!!! ตอนนั้นคิดว่าเจ็บตัวคราวนี้คงจะเข็ดหลาบไปอีกนานนนนนนน ที่จริงไม่ค่อยอยากเอาความโง่และความโลภของตัวเองกับหุ้นตัวนี้มาประจานเท่าไร แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับมือใหม่หลาย ๆ คนที่ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์เหมือนกัน เอาไว้เป็นเยี่ยงแต่อย่าได้เอาเป็นอย่างเป็นอันขาดไม่งั้นก็จะเจ็บตัวแบบนี้นี่แหละ ยังไงถ้าจะหัวเราะเยาะก็ทำกันในใจก็แล้วกันนะ อย่าตอกย้ำให้ขายหน้ามากไปกว่านี้และอย่าซ้ำเติมเหมือนที่ จขกท ในกระทู้นี้ขอไว้ก็แล้วกัน http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10025483/I10025483.html#30 ฮือ ๆๆๆ จากคุณ : What a costly lesson-UAC! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:13:47

ความคิดเห็นที่ 17 GUNKUL หุ้นตัวนี้ก็ได้มาจากการอ่านกระทู้อีกเช่นกัน เป็นหุ้นเข้าตลาดหลัง UAC ประมาณ 2 สัปดาห์ และมามาดเดียวกันกับหุ้น UAC คือทำราคา Ceiling ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เอ แต่น่าจะเป็นความโลภจึงทำให้ลืมบทเรียนจาก UAC ที่เพิ่งผ่านไปแหม็บ ๆ จึงได้กระโดดเข้าไปซื้ออีกแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อนจนด้ายยยยย ผลก็เป็นเหมือนเดิมคือซื้อแล้วราคาดิ่งติดดอยจนต้อง cut loss อีกครั้ง แต่คราวนี้เจ็บน้อยหน่อยเพราะหาเงินมาซื้อได้เพียง 1,100 หุ้นที่ราคา 9.00 บาท ขายที่ราคา 7.75 บาท ขาดทุนไป  1,377.21 บาท โดนแบบนี้ติดกัน 2 ครั้งตอนนี้สำนึกได้และกลัวแล้วจ้า!! จากคุณ : Shame on me-2nd fool-GUNKUL! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:14:39

ความคิดเห็นที่ 18 ITD หุ้นตัวนี้เคยอ่านเจอในกระทู้มานานตั้งแต่ราคา 4 บาทต้น ๆ และขึ้นไป 5 บาทกว่า เร็ว ๆ นี้คิดว่าจะซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นกันจึงเข้าไปซื้อที่ราคา 4.98 บาทจำนวน 13,400 หุ้น ซื้อมาเมื่อ 9 พ.ย. พอเห็นราคาตก 2 วันจึงรีบ cut loss ที่ราคา 4.80 & 4.82 บาทเพื่อเปลี่ยนหุ้นตัวใหม่ ขาดทุนไปเป็นเงิน 2,147.44 บาท ราคาล่าสุด 17 ธ.ค. อยู่ที่ 4.58 บาททำให้ไม่รู้สึกเสียดายแต่กลับรู้สึกดีที่ได้ cut loss ไปแล้ว อิอิ ha จากคุณ : Should I go back 2U again-ITD? (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:15:20

ความคิดเห็นที่ 19 TRUE หุ้นตัวนี้ก็ได้จากการอ่านกระทู้เช่นกัน เข้าไปซื้อครั้งแรกตั้งแต่เดือนพ.ค. ที่ราคา 2.68 บาทต่อหุ้น มีการซื้อขายมากกว่า 10 ครั้ง จำได้ว่าช่วงก่อนประกาศผล 3G ถือหุ้นตัวนี้เกือบแสนหุ้นที่ต้นทุน 5.10 & 5.20 แต่หลังประกาศผลเลื่อนโครงการ 3G ราคาหุ้นดิ่งลงแรงประมาณ 25% ลงไป 4 บาทกว่า อีก 2-3 วันต่อมาราคาขยับขึ้นมาเล็กน้อยจึงรีบ cut loss ไปทั้งหมดที่ 5.05 บาท ขาดทุนจากการ cut loss อีกแล้ว (ไม่อยากกลับไปคำนวณตัวเลขที่แน่นอนให้ต้องช้ำใจอีก) พอ cut loss เสร็จราคาก็วิ่งขึ้นไปที่ 5.25 บาทในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ได้กลับเข้าไปซื้ออีกจำนวน 23,700 หุ้นที่ราคา 4.78 บาท ครั้งนี้ตั้งใจจะเล่นสั้น ๆ เก็งกำไรแต่ราคาตกจึงไม่ได้ขายภายในวันเดียว อีก 4-5 วันต่อมาเมื่อ 9/11 พอราคาขยับขึ้นมานิดหน่อยก็รีบขายไปที่ 4.80 บาท ขายเสร็จราคาวิ่งจู๊ดดดดดดดดดด อย่างต่อเนื่อง วันศุกร์ที่ผ่านมาราคาขึ้นไปอยู่ที่ 6.85 บาทก่อนจะปิดตลาดที่ 6.55 บาท ได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ โทษว่าดวงไม่ดีเพราะถ้าดวงดีต้องไม่ cut loss ไม่รีบขาย น่าจะไม่ขาดทุนและน่าจะทำกำไรจากหุ้นตัวนี้ ได้มากกว่า 130,603.28 บาทที่ได้ทำไว้แล้ว ขอสะอื้นเสียงดัง ๆ อีกสักที ฮือ ๆๆๆ   แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คิดว่าจะกลับไปเล่นตัวนี้แบบเก็งกำไรระยะสั้นอีกแน่ ๆ จากคุณ : U R still my FAVORITE-TRUE! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:16:05

ความคิดเห็นที่ 20 RPC หุ้นตัวนี้เพื่อนคนเดิมเล่าให้ฟังว่าเข้าไปซื้อที่ราคาใกล้ 4 บาท จึงเข้าไปดูข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์และเห็นว่าน่าจะดี ประกอบกับช่วงนั้นราคาเคยขึ้นไป 4 บาทกว่าและตอนนั้นราคาลงมาที่ 3.56 บาท จึงรีบเข้าไปซื้อไว้จำนวน  47,000 หุ้นเมื่อวันที่ 8 ต.ค. และเหมือนทุกครั้งที่ซื้อหุ้นราคาจะต้องตกลงมาให้ปวดใจได้ตลอด (ซิน่า!) ตอนนี้หุ้นตัวนี้ติดลบเกือบจะมากที่สุดในพอร์ตซึ่งแสดงขาดทุนที่ -14,369 บาทคิดเป็น 8.57 % และถ้าจำไม่ผิดเคยแสดงผลขาดทุนถึง 15% แต่ไม่ยอม cut loss ราคาล่าสุดอยู่ที่ 3.26 บาทแต่เคยขึ้นไปสูงกว่าทุนเล็กน้อยซึ่งพอราคาขึ้นก็ลุ้น Let profit run แต่สุดท้ายราคาร่วงลงต่อแบบนี้ทุ๊กกกกกที!! ยังดีที่เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. มีปันผลเข้ามาช่วยลดขาดทุนลงไปเล็กน้อยให้ได้ชื่นใจบ้างเป็นเงิน 3,760 บาท จากคุณ : Wake up B4 I cut U-RPC!! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:16:57

ความคิดเห็นที่ 21 สรุปรวมการซื้อขายหุ้นทั้งพอร์ตตลอดปี 2553 (Stock Trading Transaction Summary for 2010) ขอสารภาพว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีระเบียบวินัยกับการจัดเก็บข้อมูลเลยค่ะ เพราะจำได้ว่าตอนแรก ๆ ที่ได้โหลดตัวอย่าง excel file จากกระทู้หนึ่งในห้องสินธร ซึ่งเจ้าของไอเดียต้นแบบ file เป็นของคุณเทพ ทับช้างและออกแบบโดยคุณ BPC ตอนแรกได้ทดลองคีย์ข้อมูลตามคำแนะนำแต่พบปัญหาข้อมูลไม่สามารถ update ตามคำสั่งและอื่น ๆ จึงได้xลังไมค์และส่ง e-mail สอบถามคุณ BPC ซึ่งได้รับความกรุณาให้คำแนะนำ จนสามารถแก้ปัญหาบางจุดได้แล้ว (ส่วนตารางที่นำมาโพสทั้งหมดเขียนเองโดยนำข้อมูลจาก file ต้นฉบับค่ะ) ขอถือโอกาสนี้ขอบพระคุณคุณ BPC อีกครั้งหนึ่งและขอให้บุญกุศลนี้ ช่วยให้ท่านได้กำไรมากยิ่ง ๆ ขึ้นตลอดปีและตลอดไปด้วยค่ะ ตอนหลังคิดว่าปัญหาเกิดจากการ key ตัวเลขผิดพลาดและเกรงใจไม่กล้าติดต่อกลับไปรบกวนอีก ทำให้รู้สึกเบื่อกับข้อมูลที่คิดว่าน่าจะบันทึกผิดแต่หาไม่เจอจึงหยุดคีย์ข้อมูลแบบดื้อ ๆ จนกระทั่งเร็ว ๆ นี้ได้รวบรวมสมาธิและและตรวจสอบตัวเลขใหม่ พบที่พิมพ์ผิดหนึ่งรายการที่ทำให้ข้อมูลเพี๊ยนจากนั้นก็กลับมาบันทึกข้อมูลการซื้อขายต่อแล้วค่ะ Key ข้อมูลเสร็จไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเพราะ ต๊กกาจาย และงงกับตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง ๆ ค่ะ เพราะเห็นตัวเลขเหล่านี้ ซื้อตลอดทั้งปีอยู่ที่ 5,998,979 บาท ขายตลอดทั้งปีอยู่ที่ 4,849,130 บาท ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 16,322.38 บาท ค่า VAT อยู่ที่ 1,167.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,865,598.67 บาท (สิบล้านแปดแสนหกหมื่นห้าพันห้าร้อยเก้าสิบแปดบาทหกสิบเจ็ดสตางค์) จ๊ากกกก ซื้อขายแบบไม่ลืมหูลืมตาเสียดายค่าคอมฯ บานนนนเลยอ่ะ ต้องสมน้ำหน้าตัวเองที่ไม่มีวินัยขี้เกียจลงบันทึกมาร่วมครึ่งปี พอกลับมาลงบันทึกใหม่เจอตัวเลขข้างบนเข้าทำให้ งง เป็นไก่ตาแตกเลยอ้า!! แต่พอเห็นตัวเลขแสดงกำไรแล้วก็เริ่มหาย งง และทำใจยอมรับกับความมั่วที่เกิดขึ้นไปได้บ้างค่ะ คิดเป็นกำไรจากการซื้อ ๆ ขาย ๆ ทั้งสิ้น 286,103.65 บาท รวมเงินปันผล (โอนเข้าบัญชีส่วนตัวแล้ว) 33,146.89 บาท รวมเป็นกำไรทั้งสิ้น 319,250.54 บาท แต่ไม่แน่ใจว่าคิดเป็นกำไรกี่ % คำนวณไม่เป็นอ่ะ!! เพราะไม่ทราบว่าต้องคำนวณกำไรจากต้นทุนที่ 1.18 ล้านหรืออย่างไร หรือต้องคำนวณเปรียบเทียบกับยอดซื้อขายที่ 10.86 ล้าน?? โอ๊ยยย..ปวดหมอง ๆๆ คิดไม่ออกจริง ๆ นะคะแต่เข้าใจว่าต้องเป็นคนละตัวเลขกันใช่ไหมคะ? ถ้าใครจะกรุณาช่วยอธิบายวิธีคิดให้ก็จะขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ แล้วไม่ทราบว่าในมุมมองของนักวิเคราะห์ตัวเลขข้างต้นเหล่านี้บอกอะไรเราได้บ้างคะ? สำหรับตัวเองตอนนี้คิดได้แค่เพียงว่าหากเราไม่ได้ทำการซื้อ ๆ ขาย ๆ ถี่ ๆ แบบที่ผ่านมา ก็อาจจะประหยัดค่าคอมมิชชั่น + VAT ได้ถึง 15,000 บาทซึ่งสามารถนำไปบวกเป็นกำไรเพิ่มขึ้นได้ด้วย ดังนั้นการถือหุ้นให้ยาวนานด้วยใจที่นิ่งและอดทนมากขึ้นก็ทำให้ไม่ต้องซื้อขายบ่อย ซึ่งน่าจะมีโอกาสทำให้ตัวเลขของพอร์ตแสดงผลกำไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้มากมายนัก หรือท่านผู้รู้มีมุมมองในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?? จากคุณ : Figures drove me CRAZY! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:17:51

ความคิดเห็นที่ 22 การ cut loss จากประสบการณ์การซื้อ ๆ ขาย ๆ ตอนนี้ยังรู้สึกสับสนและเข็ดขยาดกับการ cut loss จริง ๆ ค่ะ ใหม่ ๆ ยึดคติ “ไม่ขายไม่ขาดทุน” ทำไปทำมาเอาคติไปเก็บไว้ที่ไหนทำไมไม่นำมาใช้ก็ไม่รู้?? เอะอะก็จะ  cut loss ท่าเดียว คาดว่าที่ผ่านมาเสียเงินจากการ cut loss ไม่ต่ำกว่าแสนบาทแล้ว ถ้าไม่ cut loss ก็น่าจะเปลี่ยนขาดทุนที่เสียไปเป็นโอกาสที่จะได้ทำกำไรอีกมากหรือไม่หนอ?? สรุปแล้วการ cut loss เป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ยังสงสัยอยู่?? เพราะจากประสบการณ์หนึ่งปีที่ผ่านมามีหุ้นอยู่ 2 ตัวที่ cut loss ไปแล้วรู้สึกไม่เสียใจมาก คือ UAC & GUNKUL หุ้นปั่นตัวแสบ 2 ตัวที่เข้าไปด้วยความโลภและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกนั้นการ cut loss ตัวอื่น ๆ เกือบทุกตัวทำให้รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คิดถึง ใครที่มีประสบการณ์การ cut loss บ่อย ๆ พบข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ช่วยกรุณาแชร์วิธีคิดหรือช่วยปลอบใจให้หน่อยนะคะจะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ แล้วถ้าท่านเจอปอดที่แดงได้ทุกตัวไม่เกรงใจกันเลยแบบนี้จะทำอย่างไรคะ? จากคุณ : CUT LOSS or let LOSS RUN? (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:18:42

ความคิดเห็นที่ 23 Daily Stock Investment Records-November 2010 นี่เป็นตารางบันทึกการซื้อขายประจำวันที่เพิ่งได้รับจากเพื่อนในห้องสินธร เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจึงเริ่มทำการบันทึกข้อมูล เนื่องจากเพิ่งมาเริ่มบันทึกทำให้จำรายละเอียดก่อนหน้านั้นไม่ได้แล้ว แต่จำได้คร่าว  ๆ ว่าต้นเดือนพ.ย. ตัวเลขในพอร์ตบวกหลายหมื่น ตอนนั้นยังนึกเสียดายว่าไม่ได้ขายหุ้นหลายตัวที่เป็นสีเขียวเลยค่ะ หลังกลางเดือน พ.ย. เป็นต้นมาพอร์ตก็เปลี๊ยนไป๋จากสีเขียวเป็นสีแดงให้เศร้าเกือบเดือน!! นึกแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะคะ ซื้อขายมาเกือบปีไม่มีปัญญาคิดทำตารางบันทึกข้อมูลแบบนี้ ถ้าเพื่อนไม่ให้มาก็คงไม่ได้เก็บตัวเลขเหล่านี้ไว้ พอได้บันทึกและพิจารณาข้อมูลดูแล้วก็คิดว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญ ที่ควรจะมีวินัยและทำการบันทึกทุกวันเพื่อการอ้างอิงในภายหลังได้ ไม่เช่นนั้นก็มองไม่เห็นภาพว่าแต่ละวันแต่ละเดือนที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นเป็นอย่างไรและตัวเลขรวมในพอร์ตของเราเป็นอย่างไร นอกจากตัวเลขจากตารางบันทึกนี้แล้ว หากท่านผู้ใดมีคำแนะนำว่าควรจะมีข้อมูลใดบันทึกเพิ่มเติมด้วยก็ยินดีนำไปปฏิบัติตามค่ะ จากคุณ : Thank you so much for the file (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:19:49

ความคิดเห็นที่ 24 Daily Stock Investment Records-December 2010 นี่เป็นตารางบันทึกสำหรับเดือนธันวาคมจนถึงวันศุกร์ที่ 17 นี้ค่ะ สังเกตว่าตัวเลขในพอร์ตเริ่มเป็นสีเขียวตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมแล้ว ตัวเลขค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวอ่อน ๆ เป็นสีเขียวและเข้มขึ้นเรื่อย ๆ อิอิ เห็นแล้วชื่นจายยยย แต่อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับตัวเลขในพอร์ตของท่านที่กำไรเป็นแสน ๆ ล้าน ๆ นะคะ มือใหม่ได้กำไรแค่นี้ไม่ขาดทุนจนหมดตัวก็ดีใจมากมายแล้วค่ะ แฮ่ :P รายงานมาถึงตรงนี้นอกจากคำแนะนำอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวข้างต้นที่ทุกท่านจะกรุณามอบให้แล้ว มีคำถามอยากจะให้ท่านช่วยอธิบายให้หาย งง เพิ่มเติมด้วยค่ะ จากตารางข้างล่างนี้เราน่าจะสรุปได้ว่าในเดือนธันวาคม ณ วันที่ 17 กำไรขาดทุนในพอร์ตคิดเป็น 1) ติดบวก 84,527 บาทตามคอลัมน์ I หรือคิดเป็น +6.03% ตามคอลัมน์ J 2) ติดบวก 340,697 บาทตามคอลัมน์ M หรือคิดเป็น -28.87% ตามคอลัมน์ N ตัวเลขที่แตกต่างกันระหว่าง 1) & 2) ข้างต้นนี้หมายถึงอะไร และเราจะให้คำจำกัดความกับ 2 รายการนี้ว่าอย่างไรคะ?? แล้วรายการที่ 3 จาก Stock Trading Transaction Summary for 2010 ข้างต้น ซึ่งแสดงตัวเลขดังนี้ คิดเป็นกำไรจริงจากการซื้อ ๆ ขาย ๆ ทั้งสิ้น 286,103.65 บาท รวมเงินปันผล (โอนเข้าบัญชีส่วนตัวแล้ว) 33,146.89 บาท รวมเป็นกำไรจริงจากการซื้อขายทั้งสิ้น 319,250.54 บาท สมมุติให้ตัวเลขกำไรตรงนี้เป็น 3) รวมเป็นกำไรจริงจากการซื้อขายทั้งสิ้น 319,250.54 บาท แล้วนำตัวเลขทั้ง 3 รายการมาเปรียบเทียบกันเป็น 1) ติดบวก 84,527 บาทตามคอลัมน์ I หรือคิดเป็น +6.03% ตามคอลัมน์ J (ตัวเลขนี้เท่ากับพอร์ตประจำวันของโบรกเกอร์) 2) ติดบวก 340,697 บาทตามคอลัมน์ M หรือคิดเป็น -28.87% ตามคอลัมน์ N (ตัวเลขนี้ได้จากการนำ Port Value ล่าสุดบวกเงินปันผลลบด้วยจำนวนเงินที่โอนเข้าพอร์ตทั้งหมด) 3) รวมเป็นกำไรจริงจากการซื้อขายทั้งสิ้น 319,250.54 บาทหรือคิดเป็น X% (คำนวณ % ไม่เป็น) (ตัวเลขนี้ได้จากการนำตัวเลขขาดทุนกำไรจริง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการซื้อมาขายไปบวกเงินปันผลแล้ว) คำถามคือ 1. รายการ 1), 2), 3) ต่างกันอย่างไร?? 2. หากมีคำถามว่าปีนี้เราได้กำไรหรือขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นเป็นเงินเท่าไรกี่ % เราควรจะตอบข้อไหนระหว่างข้อ 2) หรือ 3) ??? แล้วทำไมตัวเลข 2 รายการนี้ไม่เท่ากันหรือว่าตั้งสูตรคำนวณผิดตั้งแต่ต้น ถ้าผิดจริง ข้อผิดพลาดอยู่ที่จุดไหนและต้องแก้ไขอย่างไรคะ??? กรุณาช่วยตรวจสอบและให้คำแนะนำด้วยนะคะเพราะตอนนี้มึนจริง ๆ ค่ะ!! ทำไมโง่อย่างนี้น๊า เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ออก ทำเองไม่ได้!! จากคุณ : Why AM I soooo STUPID! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:20:42

ความคิดเห็นที่ 25 เงินปันผล นี่เป็นตารางเงินปันผลที่ได้รับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันคิดเป็นเงิน 33,146.89 บาท หรือคิดเป็น 2.8% (คิดว่าคำนวณถูกนะ) เมื่อเทียบกับเงินทุน 1,180,000 บาท จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ามีหุ้นบางตัวรีบขายก่อนรับปันผลเพราะกลัวว่าหลังปันผลราคาหุ้นจะตก และมีหุ้นบางตัวถือจนได้รับปันผลแต่พอราคาตกก็รีบขาย cut loss เฮ้ออออ ถึงตอนนี้ก็ยังหาแนวทางไม่เจอว่าที่จริงแล้วควรจะทำอย่างไร?? ควรจะถือหุ้นจนรับเงินปันผลแล้วค่อยดูว่าได้เวลาขายหรือไม่?? หรือว่าควรจะรีบขายก่อนวันขึ้น XD เนื่องจากราคาจะตก?? รู้แต่ว่าตัวเลขเงินปันผลที่ได้รับน่าจะถือว่าน้อยนิดเมื่อเทียบเป็นอัตราส่วนกับต้นทุน อีกเรื่องหนึ่งก็คือไม่แน่ใจว่าเราควรจะโอนเงินปันผลทุกครั้งที่ได้รับเข้าไปรวมในพอร์ต เพื่อจะได้คำนวณรวมกันได้ว่ามีขาดทุนกำไรจริง ๆ ที่เท่าไรหรือไม่?? ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เพื่อน ๆ ทำกันอย่างไรบ้างคะ? จากคุณ : Dividend or Selling PIGS? (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:21:32

ความคิดเห็นที่ 26 ตารางหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการเลือกพิจารณาลงทุนในปี 2554 ตอนนี้ได้พยายามรวบรวมรายชื่อหุ้นที่แอบเห็นเพื่อน ๆ ในห้องสินธรถืออยู่แล้วได้กำไรบ้าง และได้อ่านข้อวิเคราะห์จากกระทู้ต่าง ๆ บ้าง จึงไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเท่าที่จะศึกษาให้เข้าใจได้เพื่อนำมาพิจารณาสำหรับลงทุนเพิ่มในปีหน้า ขอนำตารางมาโพสให้ช่วยวิเคราะห์และเลือกหุ้นที่น่าสนใจและควรลงทุนสัก 2-3 ตัวให้ด้วยนะคะ หรือหากเพื่อน ๆ มีหุ้นตัวอื่น ๆ นอกเหนือจากที่รวบรวมมาก็แนะนำเข้ามาได้ค่ะ กำลังคิดว่าตอนเช้าวันนี้หลังจากโอนเงินเพิ่มในพอร์ตอีก 8 แสน 2 แล้ว ตอนบ่ายอาจจะเลือกซื้อหุ้นในตารางเพิ่มไปเลยไม่ต้องคอยถึงปีหน้า หรือจะซื้อหุ้นตัวเดิมที่มีอยู่แล้วในพอร์ตแต่ราคาย่อลงมาเพิ่มอีกดี?? ติ๊กต่อก ๆๆๆ คิดไม่ออกโยนหัวโยนก้อยดีกว่ามั๊ย?? จากคุณ : Best PICKS for 2011?? (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:22:20

ความคิดเห็นที่ 27 Investment Funds for 2011 ตารางนี้แสดงรายการเงินโอนเข้าพอร์ตแต่ละครั้งสำหรับปีนี้ทั้งปี รวมแล้วเป็นเงิน 2 ล้านบาทซึ่งคิดว่า ณ ตอนนี้เพียงพอแล้วที่จะนำไปบริหารจัดการ สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นที่น่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคารเช่นที่เคยทำมาในอดีต อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคมและกันยายนปี 2011 (2554) จะมีพันธบัตรรัฐบาลครบกำหนด 2 รายการ ณ ปัจจุบันคิดว่าเมื่อครบกำหนดก็คงจะไม่ฝากต่อแต่จะนำมาลงทุนต่อในตลาดหุ้น แต่ตอนนี้ยังมีเวลาคิดอีกเกือบ 10 เดือนซึ่งหากตอนนั้นสถานการณ์ไม่ดีหรือพอร์ตขาดทุนมาก ก็คงจะไม่นำเงินจำนวนนี้มาลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นเหมือนกับที่ตั้งใจในตอนนี้ ส่วนอีกหนึ่งรายการของสลากออมสินหากครบกำหนดก็คงจะฝากต่อเหมือนเดิม  เอาไว้ลุ้นรางวัลที่ 1 จำนวน 20 ล้านบาท อิอิ และรายการพันธบัตรของ Property Perfect ก็คงจะไม่นำมาเสี่ยงกับตลาดหุ้นเช่นกัน ยอมได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าแต่ลดความเสี่ยงดีกว่านำไข่ทั้งหมดไปใส่ในตะกร้าใบเดียวกัน หรือท่านมีความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างคะ? จากคุณ : Don’ put all eggs in 1 basket! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:23:59

ความคิดเห็นที่ 28 ขอจบรายงาน “เปลือยหมดปอด แฉทุกเรื่องหมดใจ” แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ใช้เวลาเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นเดือนจนมึนจับต้นชนปลายมั่วไปหมดเลยนะคะเนี่ย ก่อนโพสได้พยายามตรวจสอบข้อมูลหลายรอบแต่ยังหาไม่เจอที่ผิดพลาด แต่คิดว่าตัวเลขน่าจะใกล้เคียงข้อเท็จจริงมากที่สุดซึ่งถ้าผิดก็คงจะเล็กน้อยไม่ทำให้ภาพรวมเพี๊ยนไป จุดประสงค์ก็หวังแค่เพียงว่าจะมีท่านผู้รู้เห็นจุดอ่อนและข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ข้างต้น แล้วช่วยเข้ามาเน้นย้ำเข้ามาชี้ให้เห็นและเคาะหัว (กระบาล) ให้จำแม่น ๆ และอย่าได้ทำอีก ๆๆๆ เพราะบางเรื่องรู้แล้วก็ยังเผลอทำอยู่แบบเจ็บแล้วไม่จำอ่ะ หึ ๆๆๆ ขอเขกหัวตัวเองหน่อย นี่แน่ ๆๆๆๆ แต่บางเรื่องก็ไม่รู้และคิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะว่าผิดหรือไม่และควรจะทำอย่างไร?? เหมือนคนโง่ไงไม่รู้อ่ะทั้งที่บางครั้งรู้สึกว่าตัวเองก็น่าจะฉลาดได้เหมือนกันนี่นา!! สรุปแล้วก็ยังสับสนและงง ๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับอนาคตของตนเองดี?? อ่านจบแล้วไปพักสายตาพักสมองกันก่อนแล้วค่อยกลับมาให้คำแนะนำต่อก็ได้นะคะ ถ้าอ่านแล้วงงเพราะเขียนยาววกวนหรือแสดงความไม่ฉลาดก็อยากจะขอร้องว่าอย่าซ้ำเติม อย่าตำหนิกันตรง ๆ ว่าโง่ว่าเซ่อแต่ขอให้คิดในใจหรือถ้าจะว่าก็ว่าแบบอ้อม ๆ ชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดแล้วยกตัวอย่างสิ่งที่ควรจะต้องทำหนึ่ง สอง สาม ไรแบบนี้ กรุณาช่วยมอบกำลังใจให้กันนิดนึงนะคะเพราะตอนนี้รู้สึกว่าต้องการกำลังใจมาก ๆ เลยจริง ๆ นะ วันหลังถ้าเก่งแล้วจะพยายามนำความรู้และประสบการณ์มาแชร์กับสมาชิกรุ่นใหม่ ๆ ต่อไป เหมือนกับที่กำลังจะได้รับจากทุกท่านในตอนนี้นะคะ แต่ถ้าท่านใดเห็นว่ากระทู้นี้ออกแนวบ่นไร้สาระไม่มีประโยชน์ก็ช่วยกันลบได้นะคะ ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่อดทนอ่านจนจบ ตอนบ่ายจะกลับเข้ามาอ่านคำแนะนำพร้อมกับ update พอร์ตใหม่ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ   จากคุณ : THANK YOU ALL @ SINTHORN! (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:24:57

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับ กว่าจะอ่านจบ ตาลายเลยนี่ จับทั้งหมดแล้ว อยากบอกว่าทำการบ้านมาดีพอแล้วครับ แต่จิตใจไม่มั่นคงพอ และไปติดยึดกับคำว่าคัตลอสมากไป หากใช้คติเฮียเอ็นโดที่ว่าถือทนและทนถือนี่กำไรมากกว่านี้อีก แต่อย่างว่าครับ 1ปีทำกำไรขนาดนี้ เรียกว่าเก่งแล้วครับ หากตั้งเป้าว่ามากกว่าดอกเบี้ยธนาคารนี่ ก็ได้มามากกว่าหลายเท่าเลยครับ คำวิจารณ์จากคนไม่เก่งจริงครับ แต่เอาไว้เป็นอีกความเห็นหนึ่งครับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:37:12

ความคิดเห็นที่ 30 สุดยอดเลยครับ นับเป็นประสบการณ์การลงทุนที่สะท้อนรูปแบบการลงทุนของรายย่อยส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยรวบรวมข้อมูลออกมาทำให้คิดและคล้อยตามได้เหมือนการย้อยรอยอดีตและทำให้ผมได้ทบทวนตัวเองเหมือนกันครับ แง่คิดที่สำคัญที่สุดก็คือการ ซื้อ ๆ ขาย ๆ บ่อย ๆ จากสถิติและประวัติศาสตร์ไม่เคยทำให้ได้กำไรสูงสุดได้ นั้งเองทำให้คนที่ลงทุนแนว VI ที่ซึ้อขายเมื่อจำเป็นเท่านั้นมักจะทำกำไรได้สูงกว่า ดังนั้นในส่วนตัวผมมองกว่าการลงทุนที่แท้จริงเราไม่ได้ต่อสู้กับตลาดหรือกิจการแต่เราต้องต่อสู้กับ *ตัวเราเอง* จากคุณ : MR.rank เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 06:50:34

ความคิดเห็นที่ 31 คุณยังดี ผมเข้ามาเกือบสองปี ขาดทุนไปเกือบห้าแสนแล้ว ควายเรียกพี่ ฮือๆๆๆ หลังๆเริ่มดีขึ้น แต่นิสัยไม่ดียังแก้ไม่ค่อยหาย ถ้าแก้ได้น่าจะรุ่ง เพราะเริ่มอ่านกราฟเป็นแล้ว ไม่มีพอร์ตจะให้ดู ค่้อนข้างว่าง ไม่ต้องให้ใครมาแก้ของผมเพราะถ้าผมแก้วินัยตัวเองไม่ได้ ชาตินี้คงไม่เจริญในตลาดหุ้น จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:09:53

ความคิดเห็นที่ 32 เท่าที่ผมสังเกตุคร่าวๆ ดูๆคุณจะเล่นหุ้นตามกระแสนิยมมากเกินไปนะครับ ที่สำคัญฟังเพื่อนมากเกินไปด้วยโดยอ่จขาดการวิเคราะห์ด้วยตนเอง เอากรณี LST ละกันนะครับ ผมเก็บหุ้นตัวนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วในช่วงกระแสที่มันโดนกดโดยการทำ FTA ผมมาประเมินเองว่า LST ไม่นาจะได้รับผลกระทบเพราะเป็นทั้งต้นน้ำปลายน้ำ อีกทั้งยังปันผลได้เกิน 5 % ได้แน่ๆจึงทยอยสะสมตัวเดียวเกือบเต็มพอร์ต ตอนนั้นผมคิดว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าเอาเงินไปซื้อคอนโดปล่อยเช่าแน่ๆจึงกล้าทุ่ม ระหว่างที่เก็บหุ้นก็เข้ามาถามในสินธรด้วยปรากฏแทบไม่มีใครตอบอะไรเลย ทำให้ยิ่งมั่นใจ !!!! เพราะแสดงว่าแรงเก็งกำไรน่าจะน้อยมีโอกาสเป็นหุ้น defensive อีกด้วย ซึ่งต่อๆมามันก็พิสูจน์ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ปรากฏปีนี้ผมรับปันผล 5.7% บวกกำไรไปอีก 25% ครับจากหุ้นตัวนี้ หุ้นตามกระแสส่วนใหญ่มักมีราคาแพงแล้วครับไม่อย่างนั้นไม่มีกระแสแน่ๆ ไม่ใช่ว่าพวก AJ, PTL, IVL และ CPF ไม่ใช่หุ้นดีและไม่ขึ้นต่อนะครับ เพียงแต่ว่า ณ ขณะที่มันดังแล้วราคาที่เข้าไปจะกลายเป็นความเสี่ยงได้ ... จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:10:24

ความคิดเห็นที่ 33 เก่งนะครับ ทำทุกอย่างเก็บไว้เป็นข้อมูลศึกษา ผมไม่เคยนั่งทำข้อมูลหุ้นซื้อขายตัวเก่าๆ แค่ทำว่ากำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ ขาดทุนมากๆ นานๆก็ทำเป็นลืมไปซะ ! แล้วเริ่มใหม่ แล้วก็ขาดอีก ฮ่วย ดีว่าหลังๆ ฝีมือดีขึ้นนิดนึง ได้มากบ้าง เสียมากบ้าง เลยไม่อนาจมากนัก หลังจากนี้คาดว่าจะไม่เอาเงินมาลงเพิ่มแล้ว เล่นเท่าที่มี ดูสิ จะโตได้มั๊ย หุ้น ถ้าซื้อไว้แรกๆ ถือยาว รวยแน่นอน หุ้น ถ้าซื้อขาย ตามกราฟ รวยแน่นอน ทำไม่เคยได้เลยฮือๆๆ จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:13:16

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องการเล่นตามบทวิเคราะห์ของตนเองจะช่วยป้องกันการ Panic Cutloss ได้ด้วยนะครับหากเราเป็นคนมั่นใจในตัวเอง จะตายก็ขอตายด้วยดาบของตัวเองอะไรประมาณนั้น. จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:14:33

ความคิดเห็นที่ 35 จิตใจมั่นคง ok  ครับ พอร์ต+6.03% SET+40% จากต้นปี  ผลตอบแทนพอร์ตแพ้ตลาด แก้ไขโดยทำการบ้านไห้หนักขึ้น..หัดดูกราฟ efinancetha...ดูสินทรัพย์เปรียบเทียบกับราคาหุ้น...ความสามารถในการกำไรของกิจการก่อนที่จะซื้อหุ้น โชคดีครับ รวยๆ Good อิอิ. จากคุณ : Cycle..คิด เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:21:55

ความคิดเห็นที่ 36 ขอชื่นชมคุณยากแท้ฯ อย่างมาก กับความวิริยะ อุตสาห จิตตะ วิมังสา ที่สรุปที่ผลการดำเนินงานในรอบปีมาให้ดู เป็นประโยชน์มากกับทุกท่านที่อ่าน จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ที่คงมีใครไม่กี่คนกล้าเอามาเปิดให้ดู เห็นถึง อิทธิบาท 4 ในตัวคุณยากแท้ฯ ปีถัดๆ ไปก็คงประสบความสำเร็จ และอย่างน้อยก็คงอยู่รอดปลอดภัย ในสมรภูมิแห่งนี้ในยามที่คลื่นลมแปรปรวน หลังจากนี้คงมีผู้รู้และเซียนใหญ่น้อย มาวิจารณ์มากมายกว้างขวาง ขอตามคอยอ่านเก็บความรู้ด้วยนะครับ จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:32:28

ความคิดเห็นที่ 37 ลูกสาวสวัสดีครับพี่ยากแท้ จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:36:27

ความคิดเห็นที่ 38 นับถือค่ะ...เก็บข้อมูลละเอียดสุดยอดมาก                                                   มาให้กำลังใจพี่ยากฯ สำหรับการลงทุนในปีต่อๆไปค่ะ ขอหนูนั่งฟังเพื่อนๆเข้ามาชี้แนะด้วยคนนะคะ จากคุณ : Mali_Mama เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:58:26

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้จบปฐมแล้ว  ดูหนังสือสอบเข้ามัธยม   คือศึกษาอดีตแล้วหาข้อมูลเพิ่มเติม  แล้วตั้งเป้าหมายและทำให้ได้  คุณเข้าใจตัวเองแล้ว  ดีกว่าคนอื่นเยอะ   ความพยายามจะนำมาซึ่งความสำเร็จ จากคุณ : แปลงข้าว เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 07:59:47

ความคิดเห็นที่ 40 โอย ดูแล้วปวดหัวครับ ไว้ว่างๆจะมาอ่านใหม่นะครับ แต่ผมดูผ่านๆ ไม่รู้คิดถูกป่าวนะ แต่ว่ากำไรคงไม่ใช่ 6% มั้งครับ อันนั้นมัน %unrealized ปัจจุบันป่าวคับ? ผมเดาว่า กำไรจากการซื้อมา/ขายไป คือ 3 แสน ตาม คห 21 แต่ยังเหลือเงินติด port อีก 5.9 - 4.8 = 1.1 ล้าน ตามหัวกระทู้ ซึ่งยังมีกำไรที่ unrealized อีก 8 หมื่น ดังนั้น ถ้าผมรวมกำไร = 3แสน8หมื่น เงินต้น จาก คห 27 นับเงินที่ใส่เข้าไป ถ้าไม่นับที่จะเข้าอีก 8 แสนที่จะเข้าวันนี้ ก็จะ = 1.18 ล้าน ดังนั้น รวมกำไรจริงๆของปีนี้ น่าจะ = 380000 / 1180000 = 32% ครับ จริงๆ อยากจะชมว่า ทำกำไรได้ไม่เลว เพราะโปะเงินเข้าไปเรื่อยๆ ทำให้ %กำไร มันลดลงแน่ๆ ถ้าจะเทียบกับ %กำไรของตลาด ที่ 40% ในปีนี้ คงไม่เหมาะ ... แต่ถ้าไปดูยอดเงินที่โปะจริงๆ มัน = 1 ล้าน ตั้งแต่เดือน 5 แล้ว หลังจากนั้นโปะน้อย ถ้าคิด SET ณ วันที่ 4 เดือน 5 = 796 จุด วันนี้ 1022 จุด ดังนั้น %กำไรของตลาด = 1022 / 796 = 28% สรุปคร่าวๆ คุณชนะตลาด หรือ กำไรใกล้เคียงกับตลาด แล้วหละครับ ปรับปรุงฝีมือต่อไปครับ จากคุณ : monomaniac }:-] เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:11:14

ความคิดเห็นที่ 41 แฮะ แฮะ กระทู้ยาวมาก    อ่านจนหมดไม่ไหว คุณยากแท้หยั่งถึง ลองเปลี่ยนจาก ซื้อหุ้นจากการอ่านกระทู้ มาเป็น ซื้อหุ้นโดยไม่ได้อ่านกระทู้ แต่อ่านการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียนด้วยตัวเราเอง บวกกับวิธีที่เราใช้แล้วได้ผลครับ + แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 53 09:19:37 แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 53 08:33:29 จากคุณ : คลาย เครียด เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:19:30

ความคิดเห็นที่ 42 ขอคารวะ จากคุณ : 9595 (bhurinut) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:20:43

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นวิทยาทาน กรณีศึกษา เป็นความใจกว้างของ จขกท. ที่นำมาเรียบเรียง เผยแผ่ประสบการณ์ แด่น้องๆผู้หาประสบการณ์ จากของจริง ขอบคุณครับ จากคุณ : นายไทยไฝ่รู้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:21:26

ความคิดเห็นที่ 44 . จากคุณ : นายไทยไฝ่รู้ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:22:18

ความคิดเห็นที่ 45 หลังจากอ่านเสร็จ(คร่าวๆ) มีข้อเสนอแนะสองอย่าง ผมคิดว่าคุณยากแท้ฯ ควรจะเลือกให้ได้ก่อนว่าจะเป็น สายไหน เทคนิค หรือ พาณิชย์ หรือลูกผสม (ผสมเท่าไหร่) สองสายนี้กลยุทธไม่เหมือนกัน ก็คงต้องเลือกให้ตรงกับ "พื้นฐานตัวเอง" คงตอบแทนกันไม่ได้ แล้วเราก็ไม่มี หมวกคัดสรร ในแฮรี่พอตเตอร์ ที่จะกำหนดให้ใครไปอยู่ สลิเธอรีน หรือ  กริฟฟินดอร์ คงต้องใช้เวลาสำหรับหาตัวเองหน่อย แต่ยิ่งรู้ตัวเร็วยิ่งดี ข้อที่สอง การเลือกธุรกิจและประเมินคุณภาพหุ้นที่ลงทุน ธุรกิจแต่ละแบบมีความแตกต่างกันมากๆ ในการลงทุน ใช้วิธีการเดียวกันไม่ได้ การที่มีธุรกิจหลายลักษณะในพอร์ตลงทุน อาจจะมีความยุ่งยากในการจัดการพอสมควร คงต้องกำหนดกลยุทธสำหรับหุ้นแต่ละตัวในพอร์ต ถัดมาก็คือการประเมินคุณภาพหุ้น คงเคยอ่านที่เฮียเอ็นโดฟิน กรุณาเขียนไว้โดยละเอียด เกี่ยวกับชนิดของหุ้น หุ้น สองขีด สามขีด ฯลฯ (ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ตกผลึกและสุดยอดมากๆ ของเฮียเอ็นโดฯ) ความเห็นที่ 5 ในกระทู้ข้างล่าง http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10022800/I10022800.html หากพอประเมินได้ว่ากำลังอยู่ในหุ้นแบบไหน เราจะพอกำหนดกลยุทธที่เหมาะสมกับหุ้นนั้น ก็คงประมาณว่ารู้เขา รู้เรา แม้จะไม่รู้ทั้งหมด ควบคุมไม่ได้ทุกอย่าง บางที่รู้แล้วก็ลืมไปบ้าง เมื่อความกลัวกับความโลภมาเยือน แต่ก็ทำให้เราควบคุมบางอย่างได้ มีสติและจะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากนัก ปล.จะสารภาพว่า ส่วนตัวเองแล้ว ไม่ค่อยได้มาประเมินความสำเร็จความเสียหาย แบบที่คุณยากแท้ฯ ทำ ขืนทำสงสัยว่าจะต้องเลิกเล่น เพราะปีแรกๆ ของการลงทุนในตลาดหุ้น เลวร้ายมากๆ ติดดอยกับขายหมู ก็ยังทำอยู่จนทุกวันนี้ ถ้ามีหมวกคัดสรรจริง สงสัยจะถูกคัดไปอยู่ที่บ้าน "ห้ามเล่นหุ้น" ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 53 08:32:47 จากคุณ : โชคดีนะครับ (gongort2) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:27:54

ความคิดเห็นที่ 46 ดูข้อมูลแบบเร็วๆ ผลตอบแทนน่าจะชนะตลาดนะครับ ไม่ก็ใกล้เคียง เพิ่งเข้ามาเล่นปีแรก ทำได้งี้ เก่งกว่า fund manager บางคนซะอีก ขอให้ชนะตลาดได้เรื่อยๆ ในปีหน้าและปีต่อๆไปครับ จากคุณ : joey69 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:28:12

ความคิดเห็นที่ 47 มั่นใจว่า คห. 35 ไมไ่ด้อ่านเนื้อหาในกระทู้ จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:32:07

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีค่ะพี่ยากแท้หยั่งถึง  เท่าที่หนูอ่านดู พี่ยากแท้ฯ ซื้อหุ้นตามกระแสอยู่พอสมควรค่ะ ลองหยิบเอาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นที่เคยอ่านไปแล้วมาอ่านใหม่และจดวิธีคิด หลัก ๆ ในการคัดเลือกหุ้น และจังหวะการลงทุน   ทำเป็นโน้ต (หรือจะเรียกว่าคัมภีร์) เอาไว้เตือนตัวเอง ให้คิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกลงทุนหุ้นแต่ละตัวนะคะ เรื่องหุ้น IPO หนูอ่านหนังสือแนว value investment เซียนทั้งหลายมักจะแนะนำว่า ให้อยู่ห่าง ๆ ค่ะ เรื่องขายไปแล้วและราคาหุ้นวิ่งไปต่อ ทำให้ขาดทุนกำไร และทำให้เจ็บใจ คงต้องใช้วิธีศึกษาดูกราฟช่วยในการตัดสินใจหาจังหวะขายหุ้นค่ะ เรื่องเงินปันผล วิธีของหนูคือนำจำนวนเงินปันผลที่ได้มาหักออกจากต้นทุนเงินลงทุนหุ้นค่ะ ก็จะได้ว่าเงินลงทุนที่เราใช้ไปน้อยลง ต้นทุนเฉลี่ยต่อหุ้นราคาถูกกว่าเดิมค่ะ จากคุณ : หวานใจกัปตัน เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:34:32

ความคิดเห็นที่ 49 เยียมเลยครับพี่ยากแท้ฯ จากคุณ : halogen เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:40:25

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับพี่ยากแท้ เห็นหัวกระทู้อะไรเปลือยๆเลยเข้ามาอ่าน ยาวเลยอ่านหมดไม่ไหวตครับ จากคุณ : อมหุ้นแล้วยิ้ม เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 08:53:01

ความคิดเห็นที่ 51 โอ๊ะ โอ๋  เล่นได้แบบนี้  ดูหุ้นทุกวันหรือเปล่าเนี้ย.....อิอิอิอิ จากคุณ : Duo-Core เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:03:03

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่เห็นมีวิเคราะห์พื้นฐานอะไรเลย?? จริงๆน่าจะบอกวิธีคิดเรื่องการวิเคราะห์เป้าหมายราคา ทำไมถึงซื้อ??? ตั้งคำถามและตอบกับตัวเอง ผมเห็นแต่การบันทึกราคาหุ้น เพราะความจริง ผมว่าราคาหุ้นไม่ได้เป็นทุกอย่างของการลงทุน สไตล์ เกร็งกำไร แบบแมงเม่า ครับ เหอะๆ แนะนำอ่านคอมเมนต์คุณเอนโดฯครับ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 53 09:11:16 จากคุณ : STARLU75 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:07:27

ความคิดเห็นที่ 53 ขอให้ใช้ข้อมูลที่ทำไว้ นำไปใช้ประโยชน์ในการลงทุนปีต่อๆไปครับ จากคุณ : neetnoskub เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:08:49

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบ..... จากคุณ : สุดดำ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:13:44

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ จากคุณ : Lupikante เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:14:06

ความคิดเห็นที่ 56 ตาลายมากกกกกกกกกกก แต่ก็ยินดีด้วยจ้า ที่กำไรใกล้เคียงตลาด แจ๋วไปเล้ย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:21:36

ความคิดเห็นที่ 57 หุ้นIPOบางตัวก็สมควรถือลงทุนระยะกลาง-ยาวครับ อย่าไปกลัวกันมาก แต่ไม่ใช่ว่าเข้าไปลุยในวันแรกๆ ที่แย่งกันซื้อขายปานฟ้าจะถล่ม เพราะนั่นจะกลายเป็นการเก็งกำไร แบบวัดดวง ซึ่งผมก็ทำบ้างแต่ถ้าพลาดก็ไม่เป็นไร เพราะใช้เงินไม่มาก และพร้อมที่จะคัทลอสเผ่นเร็ว จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:35:10

ความคิดเห็นที่ 58 เยี่ยม จากคุณ : whattheboy69 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:36:41

ความคิดเห็นที่ 59 รู้แต่ขยันเขียนมากๆ..... จากคุณ : PureLife เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:42:02

ความคิดเห็นที่ 60 อ่านเรื่องของ จขกท ตั้งแต่เรื่องการวิเคราะห์บัตรเครดิต เป็นคนที่เขียน essay ได้ดีนะครับ รวมถึงการจดบันทึกและทบทวนในสิ่งต่างๆ (สมกับที่เป็นเลขา แล้วก็มีหนังสือเป็นของตัวเองด้วยนี่เนอะ - ถ้าผมจำไม่ผิด) ผมได้แต่เมียงๆมองๆ ว่าจะเป็น Investor หรือ Speculator ดี ตอนนี้เลยทำได้แค่ฝากให้คนอื่นทำแทน ด้วยการซื้อแต่ LTF / RMF ขอให้สนุกกับการลงทุนต่อไปครับ จากคุณ : TheKop78 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:54:02

ความคิดเห็นที่ 61 มีความอุดสาหะและขยันเก็บข้อมูล  ทำไปเรื่อยๆนะครับ เพราะอีกไม่นานเราจะเข้าใจตนเองว่า เราเหมาะกับหุ้นแบบใด และหุ้นใดเป็นหุ้นที่ เรา...ซื้อแล้วได้ กำไรอยู่เสมอ การ กำไร และ ขาดทุน มีอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราได้ถือหุ้นที่ดี มีปันผล คนเล่นตลอด เข้าถูกจังหวะ และ..ขายเมื่อมีกำไรตามเป้าหมาย (แบ่งขายเป็นขั้นบันได)และไม่ตามยามราคาเกินเป้าหมายนักวิเคราะหฺ์ต่างๆ  คุณยากแท้ทุ่มเทให้..หุ้น ขนาดนี้ อีกไม่นานคุณ..จะเอาตัวรอดจากตลาดได้  สำหรับผม ยังต้องเรียนรู้อีก....ไม่มีวันจบ  ดังนั้น ข้อมูลที่คุณขยันทำ ขยันเก็บ จะช่วยคุณได้ครับ ... อีกไม่นานคุณยากแท้ก็จะเป็นพี่เลี้ยงของรุ่นต่อไป   โชคดี ร่ำรวย สุขภาพดี มีจิตเบิกบานครับ จากคุณ : kimwater (kimwater) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 10:09:26

ความคิดเห็นที่ 62 เก่งจัง จากคุณ : อ้วนตุ้ยนุ้ย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 10:10:01

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณครับ ผมดูแล้วก็อยากจะทำบัญชีการซื้อ-ขายบ้างจัง สงสัยต้องหาสาวที่เรียนบัญชีซะแล้วว >< จากคุณ : ภูมิทัศน์ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 10:44:42

ความคิดเห็นที่ 64 ความคิดเห็นของผมนะครับ > จะดูง่ายขึ้นอีก ถ้ามีตัวเลข... เงินลงทุน, มูลค่าหุ้นในพอร์ทฯ, เงินสดคงเหลือ,  เงินปันผล เพราะจะได้หากำไรขาดทุนได้ง่าย...อาจไม่ต้องย้อนไปตรวจสอบราคาซื้อขายย้อนหลัง เพียงแต่ตรวจสอบความถูกต้องของราคาเมื่อมีการซื้อขายเท่านั้น เช่น เงินลงทุน = มูลค่าหุ้นในพอร์ทฯ + เงินสดคงเหลือ + เงินปันผล > เพิ่มตัวเลขในส่วนของกำไรขาดทุนลงไปอีก...เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น เช่น วันนี้มีการซื้อขาย แล้วกำไร +5000 บาท ก็ใส่ตัวเลขเดี่ยวๆ ลงไป พออีก 1 เดือนถัดมา มีการซื้อขายอีก และขาดทุน -500 บาท ก็นำไปลบกับตัวเลขนั้น ก็จะเป็น +4500 บาท --> พอสิ้นปี ก็จะทราบในทันทีว่า กำไรขาดทุนเท่าไหร่ ...แต่ถ้าซื้อ แล้วยังไม่ขาย ก็ยังไม่ต้องใส่ตัวเลข (รอให้มีการซื้อขายกันก่อน) > จากกระทู้ด้านบน แสดงว่าเทรดแบบซื้อขายตามข่าว ซึ่งอย่างนี้ต้องเน้นไปที่ราคาตลาดอย่างเดียว ดังนั้นควรศึกษาเรื่องเทคนิคอลเพิ่มครับ ...อย่างไรก็แล้วแต่ ควรศึกษาเรื่องพื้นฐานด้วย เพื่อให้ทราบราคาตามมูลค่าของบริษัท แล้วเข้าซื้อขายด้วยเทคนิคอล เพราะว่าโดยส่วนใหญ่แล้วราคาตลาดจะแพงกว่าราคาตามมูลค่าอยู่แล้ว > ลิ้งก์ด้านล่างเป็นวิธีการ stop loss ลองประยุกต์ใช้ดู ได้ทั้งเทคนิคอล และพื้นฐาน ไม่เข้าใจก็โทรฯ สอบถามผมได้นะครับ...แต่จะตอบได้หรือเปล่านั้นไม่รับประกันนะ http://www.tasimplified.com/joomla/index.php?option=com_content&view=article&id=50&Itemid=261 หมายเหตุ เป็นเพียงข้อคิดเห็นเท่านั้นนะครับ จากคุณ : สมาร์ท อินเวสเทอร์ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 11:13:13

ความคิดเห็นที่ 65 ผมจะยอมรับว่า ผมคนนึงล่ะที่เล่นหุ้นแบบไม่เคย cut loss เลย แล้วก็ไม่เล่นหุ้นขาขึ้น ใช้เทคนิค ลงซื้อ-ขึ้นขาย (ไม่ขึ้นก็ไม่ขาย สักวันมันต้องขึ้นล่ะน่า) ถึงจะได้มาไม่มากไม่มาย แต่นึกในใจว่าอย่างน้อยก็ไม่เคยเสียล่ะว๊า เพื่อนผมบอกว่าเล่นหุ้นไม่เป็น เสียโอกาส แต่ผมคิดว่าเสียโอกาสกับเสียเงิน ผมเสียโอกาสดีกว่าครับ เพราะโอกาสน่ะ มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโอกาสที่ดี 100% เสมอไป จริงๆแล้วผมคิดว่าการเล่นหุ้นก็เหมือนกับการเล่นกับใจของตัวเองแหละครับ ว่าใจเรากับใจเจ้ามือ ใครมันจะแข็งกว่ากัน 5555 จากคุณ : Nib เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 11:41:26

ความคิดเห็นที่ 66 สู้ต่อไปค่ะ คุณยากแท้ ฯ จากคุณ : harmony (Harmony) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 11:49:59

ความคิดเห็นที่ 67 สุดยอดเลยครับพี่ยากแท้ ขอบคุณมากๆครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยครับ ^^ มีการสรุปวิเคราะห์สิ่งที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนใหม่ๆ ถึงจะคล้ายกับบ่นเยอะ แต่รายละเอียดผมว่ามากกว่าคำบ่นซะอีก ^^ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 12:22:28

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณค่ะที่นำมาแชร์.. แป่ะไว้ก่อนอ่ะ เมื่อเช้าอ่านไปค่อนแล้วค่ะ จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 12:34:27

ความคิดเห็นที่ 69 กล้ามากเจงๆ จากคุณ : Pok88 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 12:40:58

ความคิดเห็นที่ 70 ลองไปหาเล่มนี้มาอ่านดูค่ะ   แล้วค่อยปรับไปเรื่อย ๆ จากคุณ : boozy bird เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 12:43:59

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นการสรุปการลงทุนที่ดีมากเลยครับ ในที่สุดปีแรกนี้ก็พบจุดอ่อนของการลงทุนแล้วใช่มั้ยครับ ถ้าไม่ใช่ช่วงกระทิงคงลำบากมากกว่านี้แน่ๆ ตัวผมเองก็พึ่งเข้ามาลงทุนยังไม่ถึงปี คงแนะนำอะไรไม่ได้หรอกครับ และการบันทึกก็ไม่เรียบร้อยแบบนี้ด้วย ยังไงก็ขอให้พยายามต่อไปนะครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 13:15:15

ความคิดเห็นที่ 72 ยอดเยี่ยมครับ ขอสนับสนุน เรื่องที่ว่า CUT LOSSไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเสมอไป มือใหม่ติดกับดักเรื่องนี้กันเยอะ ทั้งๆตลาดเป็นขาขึ้น หุ้นดี ผลประกอบการดี แต่กลับคัทไป เสียดายครับ Cut loss เหมาะกับตลาดหมีมากกว่า จากคุณ : gload เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 13:30:15

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณที่แชร์กันค่ะ กำไรแบบนี้ เขียวมากกว่าแดง เรียกว่าประสบความสำเร็จได้แล้วค่ะ ของเราเล่นก่อนคุณครึ่งปีได้ ซื้อๆ ขายๆ กำไรรวมๆ แทบไม่มี ขายหมูแล้วไล่ซื้อราคาแพงกลับมาสุดท้ายคือติดดอย ที่ร้ายโดนเดย์เทรดกินหมด ปอดก็แดงแจ๋ เห็นแล้วนับถือที่คุณทนถือมาได้นาน จนกำไรมากกว่า 10 % ขนาดนี้ได้ไง ของเราไม่กี่เปอร์เซ็นต์ขึ้นมาหน่อยก็ขายแล้ว ไม่เคยได้เห็นกำไร 20 up โดยเฉพาะ irpc คุณเก่งมากที่ถือมาจนป่านนี้ได้ ตอนนี้เราต้องมาทบทวนการเล่นของเราใหม่แล้ว พยายามที่จะให้เป็นการลงทุน  เพิ่งซื้อ "ตีแตก" ของ ดร.นิเวศน์มาอ่าน  แม่เจ้า!  เราเล่นผิดพลาดมาตลอด มิน่าปอดจึงแดงขนาดนี้ เห็นทีปีใหม่ต้องเริ่มวีธีใหม่แล้ว แต่จะเริ่มเป็น vi ตอนนี้จะทันการณ์ไหมนะ ขอให้ปีหน้าเป็นปีแห่งโชคและผลสำเร็จ(เหมือนปีนี้)ของคุณยากแท้ฯ นะคะ  อย่าให้ทุนหายกำไรหด  คงความเขียวของปอดได้ดีแบบนี้ตลอดไปค่ะ เราก็จะพยายามให้ปอดมีสีเขียวมากกว่าแดง % กำไรเยอะๆ แบบนี้มั่ง จากคุณ : เจ้าชายน้อย (^-^) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 13:36:54

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีรอบบ่ายค่ะทุก ๆ ท่าน เพิ่งกลับเข้ามาเปิดกระทู้และดีใจที่หลาย ๆ ท่านให้กำลังใจค่ะ ขอบพระคุณมากสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำที่ทำให้เกิดความมั่นใจ และแรงบันดาลใจที่จะต้องพยายามเรียนรู้ อดทน และเอาชนะใจตัวเองให้ได้สำหรับการลงทุนในปีหน้าค่ะ เย็นนี้หากมีเวลาจะเข้ามาตอบความคิดเห็นของทุกท่านอีกครั้งหนึ่งนะคะ เช้านี้ไปธนาคารธกส. สาขานางเลิ้งเพื่อถอนสลากที่ครบกำหนด 3 ปีมาค่ะ (คนเยอะมากกกก ไม่ทราบได้ไปกระทบไหล่กับท่านใดในห้องสินธรมาบ้างหรือเปล่าคะ?) ซื้อสลากไว้ 1,612 ฉบับ ๆ ละ 500 บาทเป็นเงิน 806,000 บาท ได้ดอกเบี้ยฉบับละ 40 บาทเป็นเงิน 64,480 บาท ถูกรางวัลทั้งสิ้นตลอด 3 ปีเป็นเงิน 29,200 บาท คิดเป็นผลตอบแทนเท่ากับ (ดอกเบี้ย + รางวัล) 64,480+29,200= 93,680 บาท คิดเป็นผลตอบแทนต่อปีเท่ากับ 93,680x100/806,000/3 yrs.=3.87% (ไม่รู้คำนวณถูกหรือเปล่านะ อิอิ ไม่เก่งเลขอ่ะ) ถ้าเป็นเมื่อก่อนสลากครบกำหนดก็คงจะฝากต่อแต่พอมาเข้าตลาดหุ้นก็เริ่มเกิดอาการโลภ คิดว่าน่าจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าจึงย้ายเงินมาเข้าพอร์ตเรียบร้อยแล้วเช้านี้ค่ะ จากประสบการณ์เท่าที่เคยคบค้าสมาคมกับสลากธกส. มากว่า 10 ปี ไม่เคยถูกรางวัลมากกว่าเลขท้าย 2 ตัวเลยซึ่งต่างกับสลากออมสินที่ถูกรางวัลที่ 3,4,5 หลายครั้ง (รางวัลที่ 3=20,000, รางวัลที่ 4=10,000, รางวัลที่ 5=5,000 บาท เลขท้าย 150-400 บาท) สาเหตุหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสลากออมสินราคาฉบับละ 50, 100 บาท หากเป็นจำนวนเงินต้นทุนที่เท่ากันก็จะได้จำนวนหมายเลขสลากมากกว่าจึงมีโอกาสถูกมากกว่า (ในกรณีคิดเปรียบเทียบในทางสถิติหรือวิทยาศาสตร์) ระหว่างปี 2549-2552 มีการฝากสลากออมสินครบกำหนดแล้วได้ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 4.58% แต่ในทางไสยศาสตร์ถ้าโชคดีซื้อหมายเลขเดียวก็สามารถถูกรางวัลที่ 1 ได้ อิอิ ด้วยสาเหตุนี้และจากการทดลองมากว่า 10 ปีจึงคิดว่าต่อไปนี้จะเลิกคบกับธกส. แน่นอนแล้ว แต่อาจจะคบกับออมสินต่อไปถ้ายังคงโชคดีถูกรางวัลอีกสำหรับครั้งนี้ แล้วถ้าครบกำหนดยังได้แค่ประมาณ 4.58% หรือไม่เกิน 5% ก็คงจะเลิกคบเช่นกัน (แต่ตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นถูกรางวัลใหญ่น้อยลงสงสัยจะต้องเลิกคบดีกว่า เอิ๊กกก) ha นี่คือหน้าตาของพอร์ตล่าสุดนับตั้งแต่มีการซื้อขายวันแรกเมื่อ 29 มกราคม 2553 จนถึงวันนี้หลังจากโอนเงินเข้าพอร์ตอีก 820,000 บาทเช้าวันที่ 20 ธันวาคม 2553นี้ค่ะ เท่ากับตอนนี้มีการโอนเงินสดเข้าพอร์ตจริง ๆ เป็นเงิน 2 ล้านบาทถ้วน ตัวเลขที่เกินกว่าเงินทุน 2 ล้านจึงน่าจะถือว่าเป็นกำไรสำหรับปีนี้ใช่ไหมคะ? (ตัวเลขยังไม่ได้รวมเงินปันผลอีก 33,146 บาทที่อาจจะถอนออกจากพอร์ตตามคำแนะนำของคุณหวานใจฯ ค่ะ) ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะรีบซื้อหุ้นตัวไหนเข้าพอร์ตบ่ายนี้ดี หรือว่าควรจะรอดูสถานการณ์ภายในสัปดาห์นี้แล้วค่อยซื้อก่อนสิ้นปีในปลายสัปดาห์ หรือทิ้งเงินไว้ในพอร์ตไปก่อนแล้วคอยจนถึงปีหน้าในเดือนมกราคมดี?? สุดท้ายนี้ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุข มีความเจริญรุ่งเรือง มีสุขภาพที่แข็งแรง มีพอร์ตที่เขียวขจีตลอดปีและเติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นในปีใหม่นี้และตลอดไปค่ะ จากคุณ : ขอบคุณทุก ๆ ท่านมากค่ะ (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 14:26:02

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณค่ะที่แชร์ประสบการณ์ ดิฉันกำลังหาข้อมูลเพื่อจะลงสนามค่ะ จากคุณ : PP (แม่น้องปูรณ์) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 15:45:46

ความคิดเห็นที่ 76 คนที่ขยันและมีวินัยเช่นนี้ อนาคตดีแน่นอนครับ จากคุณ : เทพบุตรเขาหวงซาน เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 16:04:08

ความคิดเห็นที่ 77 ขอนับถือครับ ขอบคุณที่แชร์ความรู้ด้วย จากคุณ : PureLife เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 16:08:16

ความคิดเห็นที่ 78 สุดยอดแล้วครับ เงินมาใหม่น่าจะถอย hmpro อีกหน่อย เพื่อเพิ่มสัดส่วน+อนาคตยังมีครับ จากคุณ : Mushroom Man เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 18:45:54

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณที่แบ่งปันครับ ผมก็เพิ่งเข้ามาศึกษาในห้องนี้ไม่นาน กระทู้นี้ได้ความรู้พอสมควรเลย และขอชมว่าคุณ จขกท. แจงข้อมูลได้ละเอียดดีมากเลยครับ ไม่ทราบคุณยากแท้หยั่งถึงใช้เวลาพิมพ์นานมั๊ยครับเนี่ย และโปรแกรม excel สามารถหาได้ที่ไหนป่าวครับ ปล.ผมอยากมีวันที่ทำกำไรในหุ้นบ้างแล้ว จากคุณ : uroman เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 19:28:23

ความคิดเห็นที่ 80 การคัทลอสใช่จะเป็นวิธีที่ถูกเสมอไปจริงๆ ค่ะ  ถ้าหุ้นตัวนั้นเป็นตัวที่ดีเด๋วมันก็กลับมา  รอหน่อยเท่านั้น ที่ผ่านมาเราประสบว่า การคัทลอสทำให้เสียหายมากกว่าการรอ  เพราะคัททีไร มันวิ่งขึ้นทุกที นอกจากหุ้นมันจะห่วยจริง เช่น หุ้นที่ไม่กระดิกเป็นปีๆ  หลังๆ มานี่คัทลอสบ่อย  ก็พบความเสียหายพอสมควร ปีนี้ตลาดหุ้นดีกว่าปีที่แล้ว แต่ปอดของเราจึงแย่กว่าปีที่แล้วมากค่ะ คุณยากแท้ฯ ใจถึงมากที่ซื้อหุ้นเพราะอ่านเจอใน "สินธร"  เหมือนจะเสี่ยงมาก  แต่ก็น่าแปลกที่ผลตอบแทนค่อนข้างดี  อ่านของคุณแล้วรู้สึกว่า ซื้อแล้วทำไมได้กำไรตลอด(ยกเว้นบางตัวที่คัทลอส ซึ่งถ้าไม่คัทเลย กำไรคงมากกว่านี้อักโข) สำหรับ cfresh เพื่อนเราซื้อ 6 บาทกว่า ตอนช่วงราคากำลังพีคๆ และตอนนี้ก็ติดลบมหาศาล  และเป็นชนวนที่ทำให้เพื่อนสองคนกำลังจะเกิดควาหมางใจกัน เพราะปกติคนที่ซื้อนี่ชอบเล่นหุ้นใหญ่อย่าง PTT ได้เป็นรอบๆ  ไม่รู้จักตัวเล็ก เพราะอยู่นอกตลาด  แต่เพื่อนที่อยู่ในตลาดหวังดี อยากให้เพื่อนได้กำไร เห็นกำลังวิ่งก็แนะให้ซื้อ ผลคือติดดอยเกือบปี สร้างความเครียด และตอนนี้มีความจำเป็นต้องเอาเงินตรงนี้ออกไป  เพื่อนที่แนะนำจึงต้องรับซื้อมันมาไว้เอง...ตอนนี้ยังไม่รู้จะลงเอยอย่างไร แต่มิตรภาพของเพื่อนก็ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้วโดยตลาดหุ้น เรายังเสียวๆ จะเกิดเหตุการณ์นี้กับเราในภายภาคหน้าเหมือนกันนะ(จริงๆ  ก็ทำให้เพื่อนคนหนึ่งที่เราแนะนำให้เข้าตลาดห่างเหินไปแล้วเหมือนกัน ค่าที่มันต้องการการตัดสินใจเป็นเอกเทศ ไม่อยากให้เราแทรกแซง เข็ดเลย) cfresh ในความเห็นเรา ไม่ควรค่าแก่การหวนหาอาลัยเลยค่ะ  ต่อให้ราคามันวิ่งไปแค่ไหนก็จะไม่ซื้อเด็ดขาด  ถือแล้วคงไม่สบายใจ  นี่ยังนึกเห็นใจเพื่อนอยู่ เข้าแล้วเมื่อไหร่จะได้ออกไม่รู้ มีคณะผู้บริหารดูหมกเม็ดแบบนี้  กระทั่งการลงคะแนนประชุมก็ไม่ชอบมาพากล http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9944178/I9944178.html แก้ไขการสะกด cfresh ให้ถูกต้อง ดูซิ  สะกดยังผิด แสดงว่าไม่ได้อยู่ในความสนใจจริงๆ อิอิ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 53 19:37:06 จากคุณ : เจ้าชายน้อย (^-^) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 19:32:14

ความคิดเห็นที่ 81 เข้ามาอ่านเก็บความรู้จริงๆ เราเองก็ไม่ได้ซื้ออะไรขนาดนี้ ซื้อบางตัว  เก็บเป็นปี แต่ซื้อตอนติดดอยก้เคยบ่อย   พอขึ้นหายขาดทุน ก็รีบขาย กำไรไม่ได้มากเท่าไหร่ แค่ได้ปันผลมา ปลอบใจ คำนวนว่า ปันผล ได้มากกว่าดอกเบี้ย ฝากแบงค์ มากกว่า เงินเฟ้อ ก็ดีใจจะแย่แล้ว ปอดเล็กๆ จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 20:24:24

ความคิดเห็นที่ 82 ในความเห็นที่ 9 ที่ถามว่าสูตรผิดตรงไหน ผิดที่ช่อง total ของการขายค่ะ ถ้าซื้อ 96,000 บาท เราต้องจ่ายให้โบรก มากกว่า 96,000 บาท เพราะต้องแถมค่าคอมฯไปให้โบรกด้วย แต่เวลาขาย 96,000 บาท โบรกจะหักค่าคอมฯออกไป ทำให้เราได้เงินน้อยกว่า 96,000 บาท ค่ะ คือ ขายได้ 96,000 บาท เงินจะเข้าบัญชีจริงที่ 96,000 ลบค่าคอมฯ ( 144+10.08 ) ทางคุณ ยากแท้หยั่งถึง จะได้เงินจริงๆ ที่ 95,845.92 บาท ไม่ใช่ 96,154.08 บาท ค่ะ พูดง่ายๆว่า สูตรที่ผิดนั้น คุณ ยากแท้หยั่งถึง เอาค่าคอมฯที่ควรจะเป็นของโบรก มาเป็นกำไรให้คุณ ยากแท้หยั่งถึง เองด้วยน่ะค่ะ ^^ เท่าที่เราย้อนดูคร่าวๆ ( ความเห็นที่ 7 และ 8 ) ก็เป็นเช่นเดียวกันค่ะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นในทุกการซื้อขายที่คุณ ยากแท้หยั่งถึง บันทึกมาเลยนะคะ จากคุณ : Runaway Train เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 20:37:25

ความคิดเห็นที่ 83 กระทู้นี้ดีนะครับ แสดงถึงผลลัพธ์จากการลงทุนเมื่อเราไม่พร้อม ถ้าปีนี้ซื้อกองดินเดกซ์ก็กำไรไม่ต่ำกว่า30% จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 00:52:37

ความคิดเห็นที่ 84 ชื่นชมคุณจขกท.จังค่ะ เรานี่ได้แต่เก้ๆ กังๆ แล้วก็มาบ่น..รู้งี้ ตลอดเลยค่ะ แฮะๆ ^^' จากคุณ : แมวจอมกวน เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 00:58:56

ความคิดเห็นที่ 85 ขอให้ประสบความสำเริจ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆครับ จากคุณ : ลงทุนด้วยใจ เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 06:46:47

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดียามเช้าค่ะทุก ๆ ท่าน เมื่อคืนได้พิมพ์ตอบความเห็นของทุกท่านไปส่วนหนึ่งแล้วแต่ยังไม่จบเช้านี้จึงมาพิมพ์ต่อ ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านสำหรับทุกคำแนะนำและความคิดเห็น และปลื้มมากสำหรับ Give ที่มอบให้กันอย่างล้นหลามเลยค่ะ ขอตอบทุกท่านดังนี้ค่ะ ความคิดเห็นที่ 29 คุณฮะ ว่าไงนะ รู้สึกว่าตนเองติดยึดกับคำว่า cut loss จริง ๆ ค่ะคุณฮะฯ การทำบันทึกทำให้เราได้เห็นตัวเลขซึ่งช่วยให้มองเห็นข้อผิดพลาดได้ดีจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำเตือนให้ถือคติคุณ endophine เรื่องการถือทนและทนถือหุ้นเพื่อกำไรที่ดีกว่า ต่อไปจะต้องพยายามจดจำและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดค่ะ ความคิดเห็นที่ 30 คุณ Mr.rank ดีใจที่ข้อมูลที่รวบรวมขึ้นมาแชร์เป็นประโยชน์ค่ะ ตอนนี้เริ่มรู้สึกแล้วว่าการเล่นหุ้นระยะสั้น ๆ ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นบ่อย ๆ ทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรที่ควรจะได้ที่มีพื้นฐานดีด้วยความอดทนค่ะ ความคิดเห็นที่ 31 & 33 คุณ kopbirt ยินดีด้วยนะคะที่เริ่มอ่านกราฟเป็นแล้วและขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนเร็ว ๆ นะคะ อยากจะอ่านกราฟเป็นด้วยเหมือนกันแต่ติดปัญหาเรื่องความเกียจคร้านในการอ่านหนังสือ เร็ว ๆ นี้เคยได้ไปฟังสัมมนาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีสอนเรื่องการอ่านกราฟอย่างสังเขปด้วย พยายามตั้งใจและเข้าใจในระหว่างการอบรมแต่พอกลับถึงบ้านลืมหมด หวังว่าสักวันหนึ่งจะต้องพยายามเรียนรู้ให้ได้ค่ะ ความคิดเห็นที่ 32 & 34 คุณ everandever เป็นข้อสังเกตที่ถูกต้องเลยค่ะที่เล่นหุ้นตามกระแสนิยมและตามเพื่อน ๆ ค่ะ เนื่องจากไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นศึกษาหุ้นตัวไหนจึงอาศัยอ่านเอาจากกระทู้ แล้วหาข้อมูลหุ้นตัวนั้น ๆ เพิ่มเติมซึ่งพอเห็นว่าเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีจึงเข้าซื้อ แต่ยังไม่สามารถศึกษารายละเอียดแบบเจาะลึกจริง ๆ ได้ค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่มีหุ้นปันผลดีในพอร์ต แต่การที่เราจะเลือกซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเกือบเต็มพอร์ตแบบที่ทำนั้นไม่เป็นการเสี่ยงเกินไปหรือคะ? กลัวว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวที่เราถือก็หมายถึงการขาดทุนที่อาจจะแก้ไขไม่ทันอ่ะค่ะ ส่วนเรื่อง panic sell นั้นคิดว่าบทเรียนที่ผ่านมาจะช่วยให้เริ่มนิ่งและอดทนได้มากขึ้นแล้วค่ะ ความคิดเห็นที่ 35 คุณ Cycle..คิด ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในเรื่องการทำการบ้านเพิ่มขึ้นค่ะ เป็นความตั้งใจว่าจะศึกษาอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้นสำหรับการลงทุนในปีหน้าเลยค่ะ ความคิดเห็นที่ 36 คุณ gongort2 ขอบคุณมากสำหรับคำชมค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ จะต้องขยันและตั้งใจมากกว่านี้ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าปีหน้าจะขาดทุนแน่ ๆ ใช่ไหมคะ อิอิ ความคิดเห็นที่ 37 คุณ yai-cho สวัสดีค่ะคุณ yai-cho ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและทักทายกันค่ะ ความคิดเห็นที่ 38 คุณ Mali_Mama ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะคุณมะลิ น่าอิจฉาจังค่ะที่ได้ไปเที่ยวพัทยากับคุณมดและคุณซันนี่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่าลืมเอารูปสวย ๆ มาโพสให้ดูให้กระทู้คุยโขมงฯ ด้วยนะคะ ความคิดเห็นที่ 39 คุณแปลงข้าว ขอบคุณสำหรับคำชมและกำลังใจค่ะ กำลังคิดว่าตัวเองเข้าใจตัวเองอย่างที่คุณบอกมาจริง ๆ หรือ? ความคิดเห็นที่ 40 คุณ monomaniac }:-] ขอบคุณที่ช่วยกรุณาวิเคราะห์ตัวเลขและคำนวณให้ด้วยค่ะ แต่เอ ถ้าได้กำไร 380000 / 1180000 = 32% แบบที่ช่วยคำนวณให้จริง ๆ แล้วเงินหายไปไหนเพราะตั้งแต่เปิดพอร์ตยังไม่เคยถอนเงินออกมีแต่เติมเข้าไปค่ะ คงต้องตั้งสมาธิดี ๆ และหาเวลาตรวจสอบสูตรที่ทำและคำนวณใหม่อีกครั้งตามที่แนะนำมาค่ะ ความคิดเห็นที่ 41 คุณคลายเครียด ไม่ทราบว่าจะทำตามคำแนะนำของคุณ endophine ได้จริง ๆ หรือไม่ ที่ไม่ให้ซื้อหุ้นจากการอ่านกระทู้ เพราะตอนนี้กำลังคิดจะเข้าไปศึกษาและซื้อหุ้น MCS ตามคุณ endophine อีกแล้วค่ะ อิอิ แต่กำลังจะพยายามตัดความคิดที่ว่า “คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต” ออกจากความเชื่อให้ได้ค่ะ เพราะตราบใดที่ยังเชื่อแบบนี้ก็จะทำให้ไม่อยากที่จะทำการบ้าน และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามฟ้าลิขิตอยู่ตลอดเวลา ทำให้รุ้สึกเหมือนย่ำอยู่กับที่ไม่ยอมไปไหนสักทีค่ะ ความคิดเห็นที่ 42 คุณ 9595 (bhurinut) ขอน้อมรับการคารวะจากท่านค่ะ ความคิดเห็นที่ 43 & 44 คุณนายไทยไฝ่รู้ หากกระทู้จะเป็นกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์จริง ๆ ก็ยินดีมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับเสียงโหวตค่ะ ความคิดเห็นที่ 45 คุณ gongort2 ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาโพสความคิดเห็นและให้คำแนะนำอีกครั้งหนึ่ง คิดว่าคงจะต้องขอเวลาอีกสัก 1 ปีในการค้นหาตัวเองค่ะว่าเหมาะสมกับการลงทุนแนวไหน แต่ยิ่งได้อ่านคำแนะนำยิ่งรู้สึกว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องที่ยากมากจริง ๆ ก็คงต้องใส่ใจและอดทนเป็นอย่างมากจึงจะสามารถเรียนรู้และนำมาปฏิบัติให้ได้ผลค่ะ ความคิดเห็นที่ 46 คุณ joey69 ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจแต่ไม่ขอรับคำชมค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าผลที่ได้รับนั้นดีและเกิดจากความเก่งกาจไร แต่ถ้าเห็นว่าดีก็ขอยกให้เป็นเรื่องของความฟลุ๊คมากกว่าค่ะ อิอิ ความคิดเห็นที่ 47 คุณ Laganus แฮะ ๆๆ สงสัยกระทู้ยาวมากเกินไปก็เลยอ่านผ่าน ๆ น่ะค่ะ วันหลังจะพยายามรวบรัดให้สั้นลงเอาแต่ใจความค่ะ แต่ก็คงทำได้ยากกว่าการเฟ้นหาหุ้นดี ๆ แน่ ๆ  อิอิ ความคิดเห็นที่ 48 คุณหวานใจกัปตัน ใช่ค่ะ ซื้อหุ้นตามกระแสจริง ๆ เพราะส่วนมากจะได้มาจากการอ่านกระทู้ในห้องสินธรแทบทั้งสิ้น ตอนนี้พยายามจะขยันทำการบ้านและตั้งใจให้มากขึ้นสำหรับปีหน้าแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำเรื่องการหักจำนวนเงินปันผลออกจากต้นทุน คิดว่าเป็นไอเดียที่ดีที่จะนำไปใช้ได้ทันทีสำหรับปีหน้าเลยค่ะ ความคิดเห็นที่ 49 คุณ halogen ขอบคุณมากค่ะ หลายวันนี้ราคา IRPC ย่อลงมาแล้วได้กลับไปซื้อเก็งกำไรอีกหรือเปล่าคะ? ความคิดเห็นที่ 50 คุณอมหุ้นแล้วยิ้ม ขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิดแล้วต้องผิดหวังออกไป เพราะไม่เจออะไรที่เปลือย ๆ แบบที่จั่วหัวกระทู้ เอิ๊ก ๆๆๆ ความคิดเห็นที่ 51 คุณ Duo-core “โอ๊ะ โอ๋ เล่นได้แบบนี้ ดูหุ้นทุกวันหรือเปล่าเนี้ย.....อิอิอิอิ” แฮะ ๆๆ ไม่เข้าใจมุกอ่ะ แต่เกาะติดหน้าจอมอนิเตอร์ท๊างงงงวันเลยค่ะ ขนาดเกาะติดยังทำได้แค่เนี๊ยย อิอิ ความคิดเห็นที่ 52 คุณ STARLU75 ที่ไม่มีข้อวิเคราะห์พื้นฐานและวิธีคิดมาโพสในกระทู้เนื่องจากไม่มีความรู้จริง ๆค่ะ จึงตั้งกระทู้เพื่อขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ในนี้อ่ะค่ะ อย่างที่เรียนไว้เสมอว่าเป็นมือใหม่และยังไม่มีหลักในการซื้อขายหุ้น และที่ผ่านมาก็เลือกหุ้นตามกระแสตามเพื่อน ๆ ในห้องสินธรมาตลอด ไม่ได้คิดและวิเคราะห์เองเลยค่ะ แต่ต่อไปจะพยายามเอาจริงเอาจังกับการเรียนรู้และศึกษาให้มากขึ้นแล้วค่ะ ความคิดเห็นที่ 53 คุณ neetnoskub ขอบคุณค่ะและจะพยายามทบทวนสิ่งที่ได้ทำไปเพื่อปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ในเรื่องการลงทุนในหุ้นต่อไปค่ะ ความคิดเห็นที่ 54 คุณสุดดำ ขอบคุณที่ชอบค่ะ ความคิดเห็นที่ 55 คุณ lupikante ขอบคุณสำหรับช่อดอกไม้ค่ะ ความคิดเห็นที่ 56 คุณแม่น้องอะตอม ขออภัยที่ทำให้ตาลายยยยยยยยยยยย เพิ่งจะสังเกตว่าใช้ตัว Pantip Toy สุรุ่ยสุร่ายมากไปทำให้ตาลายจริง ๆ ค่ะ ชอบคำพูดนี้จังค่ะ แจ๋วไปเล้ย อิอิ ความคิดเห็นที่ 57 คุณ baby_naked พอดีเผ่นช้าเพราะแก่แล้วก็เลยเจ็บตัวเพราะหุ้น IPO เลยค่ะ ฮือ ๆๆๆๆ ความคิดเห็นที่ 58 คุณ whattheboy69 ขอบคุณที่ชมค่ะ ความคิดเห็นที่ 59 คุณ Purelife ช่วงนี้ว่างค่ะก็เลยมีเวลาขีด ๆ เขียน ๆ รวบรวมเป็นรายงานให้พี่น้องสินธรค่ะ ความคิดเห็นที่ 60 คุณ TheKop78 == อ่านเรื่องของ จขกท ตั้งแต่เรื่องการวิเคราะห์บัตรเครดิต เป็นคนที่เขียน essay ได้ดีนะครับ รวมถึงการจดบันทึกและทบทวนในสิ่งต่างๆ (สมกับที่เป็นเลขา แล้วก็มีหนังสือเป็นของตัวเองด้วยนี่เนอะ - ถ้าผมจำไม่ผิด) == Oops เจอแฟนพันธ์แท้ตัวจริงซะแร้ววว ขอบคุณที่ติดตามกระทู้มาโดยตลอดค่ะ ความคิดเห็นที่ 61 คุณ kimwater โห อ่านคำชมและกำลังใจแล้วใจพองโตเลยค่ะ จริง ๆ แล้วก็คงจะต้องเรียนรู้ต่อไปไม่มีวันสิ้นสุดเช่นเดียวกับคุณเหมือนกัน และจะยินดีมากหากต่อไปจะสามารถตั้งหลักและมีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อนำมาแชร์กับนักลงทุนรุ่นใหม่ ๆ ต่อไปค่ะ ความคิดเห็นที่ 62 คุณอ้วนตุ้ยนุ้ย ขอบคุณค่ะแต่ไม่ได้เก่งอย่างที่ชมจริง ๆ ค่ะ กำลังอยู่ในช่วงเรียนรุ้และจะต้องตั้งใจให้มากกว่านี้ค่ะ ความคิดเห็นที่ 63 คุณภูมิทัศน์ == ผมดูแล้วก็อยากจะทำบัญชีการซื้อ-ขายบ้างจัง สงสัยต้องหาสาวที่เรียนบัญชีซะแล้วว >< == โปรดทราบ!! สาวท่านใดที่เรียนบัญชีมาโปรดติดต่อคุณภูมิทัศน์ด่วนนนนนน อิอิ ความคิดเห็นที่ 64 คุณสมาร์ท อินเวสเทอร์ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำเรื่องรูปแบบการสร้างตารางข้อมูล หลังจากหมดภารกิจตอบกระทู้นี้แล้วคงจะเข้าไปศึกษาและออกแบบตามคำแนะนำ สำหรับไว้ใช้กรอกข้อมูลการซื้อขายปีหน้าเลยค่ะ ส่วน link stop loss จะเข้าไปศึกษาด้วยเช่นกันค่ะ หากมีข้อสงสัยจะxลังไมค์ไปเรียนปรึกษานะคะ ความคิดเห็นที่ 65 คุณ Nib น่าเสียดายที่ไม่ได้นำคติ “ไม่ขายไม่ขาดทุน” ออกมาปฏิบัติใช้อย่างเคร่งครัดในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดตัวเลขขาดทุนจากการ cut loss ไปจำนวนมากอย่างน่าเสียดาย ถ้าได้อ่านความคิดเห็นของคุณที่ไม่เคย cut loss มาเตือนความทรงจำก่อนก็จะไม่ขาดทุนขนาดนี้ ฮือ ๆๆๆ เข็ดแล้วจ้า ความคิดเห็นที่ 66 คุณ Harmony ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ระยะหลังไม่ค่อยเห็นในกระทู้เลยสบายดีนะคะ ความคิดเห็นที่ 67 คุณ SundayroyaL ยินดีมากค่ะหากกระทู้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ เพราะการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของผู้อื่นทำให้เราไม่ต้องไปเสี่ยงกับความผิดพลาดนั้นเองค่ะ ความคิดเห็นที่ 68 คุณ nusarathi ดีใจค่ะถ้าข้อมูลให้ประโยชน์ได้จริง ๆ อย่าลืมกลับมาอ่านต่อให้จบนะคะ ความคิดเห็นที่ 69 คุณ Pok88 == กล้ามากเจงๆ == แต่อยากเก่งและโชคดีเหมือนคุณในกระทู้นี้จังค่ะ http://pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10045696/I10045696.html ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จด้วยค่ะ จากคุณ : ขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็นค่ะ (ยากแท้หยั่งถึง) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 08:10:49