Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พฤติกรรมผู้บริหาร : ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ติดต่อทีมงาน

พฤติกรรมผู้บริหาร : ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โลกในมุมมองของ Value Investor            18 ธันวาคม 53


   การวิเคราะห์ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งแต่เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก  ผู้บริหารสองคนตัดสินใจทำเรื่องคล้าย ๆ  กันแต่ความหมายอาจจะแตกต่างกันไปคนละโลก  ในบทความสั้น ๆ  ที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้  จะเป็นเรื่องของการแยกแยะพฤติกรรมผู้บริหารที่ไม่ดีออกเป็นกลุ่ม ๆ  และถ้าเราพบว่าผู้บริหารบริษัทไหนทำอยู่เรื่อย ๆ  ก็อาจจะเป็นสัญญาณได้ว่าผู้บริหารคนนั้นอาจจะไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีที่เราอยากจะเข้าไปซื้อหุ้นหรือร่วมลงทุนกับเขา

   กลุ่มแรกคือ  พฤติกรรม “ไซฟ่อนเงิน”  นี่คือการที่ผู้บริหารอาจจะผ่องถ่ายเงินของบริษัทเข้ากระเป๋าตัวเองหรือพวกพ้องอย่าง “ถูกกฏหมาย”  วิธีการมีหลายแบบ  ตัวอย่างที่ใช้กันแพร่หลายก็เช่น  การทำรายการที่เกี่ยวโยงกันระหว่างผู้บริหารกับบริษัท  เช่น  ซื้อธุรกิจหรือหุ้น  ซื้อที่ดิน  เช่าอาคาร  การจ่ายเงินค่าจ้างหรือโบนัสแก่ผู้บริหารในอัตราที่สูงเกินกว่าแนวปฏิบัติทั่วไปหรือมากเกินกว่าขนาดธุรกิจหรือกำไรของบริษัท  เหล่านี้แม้ว่าบางครั้งอาจจะต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องและมีการประเมินโดย  “ผู้ประเมินอิสระ”  แต่ในความเป็นจริงก็คือ  ไม่มีใครบอกได้จริงว่ามันเป็นราคาหรืออัตราการจ่ายที่ยุติธรรม  ในความรู้สึกของผม  โอกาสที่บริษัทจะได้เปรียบนั้นมีน้อยมาก  ในหลาย ๆ  ครั้งผมรู้สึกว่าผู้บริหารกำลัง  “ไซฟ่อนเงิน” ของบริษัทอย่างน่าเกลียด  ดังนั้น  ในความเห็นของผม  ผู้บริหารที่ดี  ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ  ไม่ควรทำ  อย่าทำอะไรที่เกี่ยวโยงระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องของบริษัทจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

   กลุ่มที่สองคือ  พฤติกรรม “สร้างอาณาจักร”  นี่คือการที่ผู้บริหารมีการจัดสรรเงินหรือทรัพยากรของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม  ทำการลงทุนในโครงการต่าง ๆ  ที่ให้ผลตอบแทนต่ำหรือโครงการที่ดูเหมือนว่าจะให้ผลตอบแทนสูงแต่ตนเองไม่มีความรู้หรือความสามารถหรือเคยทำมาก่อน  ลงทุนอย่างสุ่มเสี่ยงหลากหลายโครงการจนเป็นคน  “เจ้าโปรเจ็ค”  ทั้งหมดนั้นเพียงเพื่อที่จะขยายขนาดของบริษัทออกไปและทำให้ตนเองมีรายได้หรือมี “บารมี” หรือ “ศักดิ์ศรี” สูงขึ้น  แทนที่จะส่งเงินคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นเมื่อมีเงินสดเหลือและธุรกิจหลักของบริษัทไม่ได้ต้องการเงินลงทุนมากมายนัก  นอกจากนั้น  การที่ผู้บริหารสร้างสำนักงานหรูเกินความจำเป็นหรือใช้จ่ายสิ้นเปลืองเกินกว่าเหตุเช่นบริษัทมีเครื่องบินส่วนตัวโดยไม่จำเป็น  หรือผู้บริหารนั่งเครื่องบินชั้นหนึ่งทุกครั้งผมก็คิดว่าเป็นเรื่องของการ “สร้างอาณาจักร” เหมือนกัน  ในกรณีเหล่านี้  ผมคิดว่าผลประโยชน์คงจะตกอยู่กับผู้บริหารมากกว่าผู้ถือหุ้นแม้ว่าในระยะสั้นบางทีก็ทำให้หุ้นวิ่งได้เหมือนกัน

   กลุ่มที่สามคือ  พฤติกรรม  “สร้างราคาหุ้น”  นี่คือพฤติกรรมที่อาจจะเกิดขึ้นมากในยามที่ตลาดหุ้นกำลังบูม  ผู้บริหารในกลุ่มนี้มักจะมีการตัดสินใจหรือพฤติกรรมอยู่ในแนวต่าง ๆ  ต่อไปนี้คือ  การคุยหรือโอ้อวดผลการดำเนินงานของบริษัทมากกว่าปกติ  มีการให้ข่าวว่าบริษัทกำลังได้งานใหม่หรือคาดว่าจะชนะการประกวดราคา  มีการประมาณว่ากิจการจะกำไรก้าวกระโดดและเติบโตมหาศาลด้วยผลิตภัณฑ์บางอย่าง  มีการคาดการณ์หรือให้ความเห็นว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปสูงนั้นเป็นเพราะ “พื้นฐาน”ของบริษัทที่ดีขึ้นมาก เป็นต้น   นอกจากนั้น  ในบางกรณีที่มีพฤติกรรมรุนแรง  ผู้บริหารก็อาจจะทำการ  “แจกวอร์แรนต์” หรือ  “แตกพาร์”  ทั้ง ๆ  ที่ไม่มีเหตุผลและราคาพาร์ของเดิมก็ต่ำมากอยู่แล้ว  พฤติกรรมการสร้างราคาหุ้นนั้น  บางทีก็ยากที่จะแยกออกจากการให้ข่าวสารข้อมูลปกติของบริษัท  แต่ถ้าติดตามไปนาน ๆ  เราก็มักจะรู้ได้เอง  แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ๆ  ที่มักจะ “หลงใหล” ไปกับคำอวดอ้างของผู้บริหารที่มักจะ “มีเสน่ห์” และฟังดูน่าเชื่อถือ

   กลุ่มสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ  พฤติกรรม  “อาณาจักรส่วนตัว”  นี่คือผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนที่มักจะอยู่ในตลาดมานาน  บริษัทมักอยู่ในธุรกิจที่อิ่มตัวหรือเป็นธุรกิจตะวันตกดินแล้ว  ผู้บริหารเลิกสนใจหุ้นของบริษัทที่มักจะมีสภาพคล่องต่ำมาก  ดังนั้น  เขาจึงคิดว่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าที่จะอยู่อย่าง “เงียบที่สุด”  ทำตัวให้เหมือนกับบริษัทส่วนตัวไม่ใช่บริษัทมหาชน  และด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถใช้ชีวิตที่สบายขึ้น  สามารถใช้เงินหรือสิทธิประโยชน์จากบริษัทโดยไม่ต้องมีใครมาคอย  “ตรวจสอบ”  หรือมาสอบถามให้กวนจิตใจ  ผู้บริหารเหล่านี้ไม่ได้สนใจว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร  ว่าที่จริงถ้าหุ้นขึ้น  บางทีเขาก็ไม่ดีใจด้วยเนื่องจากราคาที่ขึ้นไปจะไปสร้างความคาดหวังที่สูงขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่อาจจะมาเรียกร้องปันผลเพิ่มขึ้น  พวกเขาอาจคิดว่าปันผลเป็น  “ต้นทุน”  ที่เขาจะต้องจ่ายและผู้ถือหุ้นรายย่อยนั้นเป็นคนนอกที่เอาเงินมาให้ “เช่า”  ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นที่มีศักษ์เป็นเจ้าของบริษัทเหมือนกับเขาเหมือนกัน  ถ้าผมเจอผู้บริหารที่มีพฤติกรรมแบบนี้  ส่วนใหญ่แล้วผมก็มักจะไม่สนใจแม้ว่าบางบริษัทก็อาจจะดูว่ามีราคาต่ำกว่าพื้นฐานเป็นหุ้นคุณค่าได้เหมือนกัน

   ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงบางส่วนของพฤติกรรมที่ไม่ดี  น่าจะมีพฤติกรรมอื่น ๆ  อีกที่ไม่พึงประสงค์  อย่างไรก็ตาม  ไม่ใช่ว่าผู้บริหารทำบางเรื่องที่เข้าข่ายก็แสดงให้เห็นว่าแย่แล้ว  เราคงต้องดูถึง “ดีกรี” ว่ารุนแรงแค่ไหนและ/หรือบ่อยแค่ไหน   บางทีทำครั้งเดียวแต่รุนแรงและชัดเจนมาก  เช่น  บริษัทให้ผู้บริหารหรือ “โนมินี”  กู้เงินจำนวนมากและกลายเป็นหนี้เสีย  แบบนี้ก็ต้องเรียกว่ามีพฤติกรรมไซฟ่อนเงินชัดเจนและเราต้องหนีห่างเลย   ในบางกรณีผู้บริหารทำพฤติกรรมดังกล่าวในสี่กลุ่มแต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อบริษัทหรือเป็นการเอาเปรียบบริษัทชัดเจนแบบนี้เราอาจจะยกประโยชน์ให้กับ “จำเลย” ได้   แต่ถ้าทำบ่อย ๆ  หรือทำหลายกรรม  แบบนี้เราก็ต้องสงสัยและระวังมากขึ้นถ้าจะเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัท

สำหรับผมแล้ว   การพิจารณาหรือวิเคราะห์ผู้บริหารนั้น  ผมแยกเป็นสามสี่กลุ่มคือ  กลุ่มแรกเป็นกลุ่มผู้บริหารที่ผมมั่นใจว่าดีร้อยเปอร์เซ็นต์  กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่ผมรู้ว่าไว้ใจไม่ได้หรือมีพฤติกรรมที่ผมไม่ชอบดังที่กล่าวไว้ในตอนต้น   ส่วนกลุ่มที่สามคือกลุ่มผู้บริหารที่  “สีเทา ๆ”  คือมีพฤติกรรมที่ยังพอรับได้แต่ต้องระมัดระวังว่าจะทำอะไรไม่ดีร้ายแรงหรือไม่  และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่ผมยังไม่รู้จักหรือยังไม่ได้ติดตามเนื่องจากผมอาจจะยังไม่ได้สนใจในตัวธุรกิจของบริษัท

   คำเตือนสุดท้ายของผมก็คือ  เราต้องวิเคราะห์ผู้บริหารจากการกระทำไม่ใช่วิเคราะห์จากการได้พูดคุยหรือสัมผัสกับผู้บริหารอย่างเดียว  เพราะนั่นอาจจะเป็นอันตรายเนื่องจากการได้พบและรู้จักผู้บริหารอาจจะทำให้เกิดความ “ลำเอียง”  เนื่องจากบุคลิกภาพส่วนตัวของผู้บริหารได้  ในเรื่องนี้ เบน เกรแฮม ถึงกับบอกว่าเราไม่ควรไปพบผู้บริหาร  เพราะเรามักจะถูก “หลอก” หรือล่อให้หลงมากกว่าได้ข้อมูลที่แท้จริง

จากคุณ : shine-rise
เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 18:49:47




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com