ต้องดูภาพใหญ่ เช่น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ คือ เครื่องพิมพ์ดีด แต่ เวลานี้ไม่มีคนใช้พิมพ์ดีด แล้วหันไปใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทำให้รายได้ลดลง กำไรก็ลดลง เนื่องจาก เป็นสินค้าที่กำลังจะถูกทดแทนด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่
อีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งผมประสบมากับตัวเอง เมื่อปลายปีที่แล้วผมดูรายงานทางการเงินของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง พบว่า รายได้ และ กำไร ของสามไตรมาสเติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผมจึงซื้อหุ้นตัวนี้ไว้ เพราะคิดว่า บริษัทฯ จะเติบโตต่อไป แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้นสองไตรมาส รายได้ของบริษัทฯ และกำไรของบริษัทฯลดลงจนเกือบขาดทุน ผมจึงตัดสินใจขายทิ้งไป
ต่อมา เมื่อไม่นานมาปรากฏว่า บริษัทฯที่ว่า ได้สร้างโรงงานเพิ่มและออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ซึ่งผู้บริหารบอกว่า จะทำให้รายได้ของบริษัทฯ กลับมาเติบโตได้ดี
จากที่เล่ามาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญสองอย่าง คือ หนึ่งผลิตภัณฑ์เดิม ไม่ทำกำไรอีกต่อไป จากข้อมูลที่ว่า รายได้และกำไรตกลงมากจนเกือบขาดทุนถึงสองไตรมาสติดต่อกัน สองบริษัทฯได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้และกำไร
แต่ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่ก็ไม่ใช่ ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ เป็นแต่เพียงเข้าสู่อีกตลาดหนึ่งที่มีผู้ค้าอยู่แล้ว เท่านั้น ดังนั้น การจะลงทุนในบริษัทฯที่ว่า ก็ต้องติดตามผลงานสักสองไตรมาส แล้วค่อยมาว่ากัน
อีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งผมเพิ่งศึกษา คือ ตลาดกระเบี้อง ไม่รู้ว่าพวกเราได้สังเกตุอะไรบางอย่างหรือเปล่า ข้อสังเกตุที่ว่าคือ เจ้าตลาดเดิมนั้นรายได้และกำไรลดลง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมเลยไปศึกษา พบว่า คู่แข่ง อีกสองรายได้ผ่านขบวนการ ฟื้นฟู และ เริ่มกลับมาทำตลาดอีกครั้ง มีบริษัทฯหนึ่ง จ่ายเงินทำการตลาดสูงมาก ประมาณหลายสิบเปอร์เซนต์ของยอดขาย เลยทีเดียว ส่วนคู่แข่งอีกรายก็ทำรายได้ดีขึ้นมาก แม้จะจ่ายเงินทำการตลาดไม่มากนัก แต่ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์ที่ดีทีเดียว
นั่นแสดงถึงว่า ตลาดกระเบี้อง ณ บัดนี้ได้เปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อเทียบกับเมื่อหกเดือนก่อนแล้วครับ การแข่งขันคงดุเดือดมากทีเดียว
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 53 18:52:02
จากคุณ |
:
จิ้งจกเขียว
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ธ.ค. 53 18:48:44
|
|
|
|