Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วิกฤติเศรษฐกิจของโลกในอดีต ติดต่อทีมงาน

หากมองย้อนกลับไป  จะพบว่าประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ที่น่าขัน  ความคลั่งไคล้ในวัตถุที่นำไปสู่ฟองสบู่ระดับโลก  เราลองมาศึกษาอดีตดูว่า  มนุษยชาติเคยมีฟองสบู่อะไรบ้าง

ปี 1634-1638  วิกฤติดอกทิวลิป
    ฟองสบู่ลูกแรกเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์คือดอกไม้ที่มีรูปคล้ายระฆัง “ดอกทิวลิป”  บางครอบครัวชาวดัทช์ถึงกับนำเงินออมของครอบครัวทุ่มซื้อต้นทิวลิป  ว่ากันว่าบางต้นมีราคาแพงกว่าบ้าน 1 หลังเสียอีก
ภายหลังวิกฤติ ราคาตกลงมาเหลือเท่ากับหัวหอมธรรมดาทั่วไป
ในปี 1953 มีการนำดอกทิวลิปจากตุรกีเข้าสู่ดัชท์ ความสวยของพันธุ์ไม้ใหม่เป็นที่เลื่องลือให้เสาะแสวงหา เมื่อเวลาผ่านไป เกิดมีไวรัสชื่อ masaic สัมผัสกับดอกทิวลิป ทำให้สีสันของดอกเปลี่ยนไป เกิดเป็นเชดสีของกลีบดอกที่แปลกแตกต่าง ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น และเกิดการเก็งกำไรราคาล่วงหน้า ราคาเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็น 10-20 เท่า คนที่มีสติยั้งคิดจะรู้สึกได้เลยว่า มันเป็นเพียงแค่ดอกไม้ธรรมดา ราคาเวอร์เกินไป  ก็เริ่มมีการขายทำกำไร ราคาเริ่มตก ทำให้ฝูงชนเกิดความตื่นตระหนกเทขายออกมาเป็นการใหญ่ แม้รัฐบาลจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ก็ไม่อาจจะช่วยพยุงราคาดอกทิวลิปให้กลับมาเหมือนเดิมได้
ผลจากความคลั่งในดอกทิวลิปทำให้การเก็งกำไรในตลาดหุ้นหยุดชะงักไปพักหนึ่ง นักลงทุนตระหนักแล้วว่า เป็นการดีที่จะเพียงแค่หยุดเดินเพื่อชื่นชมความสวยงามของดอกทิวลิป แทนที่จะเอาอนาคตไปแขวนไว้กับความสวยงาม

ปี 1720  วิกฤติบริษัททะเลใต้
    หุ้นของบริษัทมีราคาสูงสุดถึง 1,000 ปอนด์ หลังฟองสบู่แตก ราคากลายเป็นศูนย์ ในทศวรรษนี้อังกฤษครองความยิ่งใหญ่ทั่วโลก กลุ่มนายธนาคารอังกฤษได้ชักชวนผู้คนลงทุนในธุรกิจค้าขายกับประเทศแถบอเมริกาใต้ซึ่งมีทรัพยากรจำนวนมาก รอแลกเปลี่ยนกับเพชรและทองคำ ความคิดธุรกิจนี้แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน ก็มีบริษัท Mississippi ตั้งขึ้นในฝรั่งเศส ทำธุรกิจให้กับประเทศต่างๆ บนแผ่นดินยุโรป ในลักษณะไม่ใช่การค้าขายอย่างแท้จริง แต่เป็นการสลับเปลี่ยนระหว่างเพชรทองคำกับเงินกระดาษ
ความรุ่งโรจน์ของบริษัทในยุโรปยิ่งกระตุ้นความหยิ่งทะนงของคนอังกฤษ ทุ่มลงทุนอย่างไม่ลืมหูลืมตา ด้วยเชื่อว่า บริษัทอังกฤษจะไม่มีวันล่มสลาย ละเลยต่อสัญญาณบ่งบอกการบริหารจัดการที่ล้มเหลว เรือขนสินค้าแล่นเข้าท่าผิดเมือง ปล่อยให้หนังสัตว์ขนสัตว์เน่าเสีย
ในที่สุด เมื่อฟองสบู่พองโตเต็มที่ ผู้บริหารเริ่มทยอยขายหุ้น เมื่อข่าวรั่วไหล ความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้น ทุกคนต่างวิ่งหาประตูทางออก งานเลี้ยงจบลงด้วยเสียงร้องระงม

ปี 1848  ยุคคลั่งทอง 1
     หลังจากที่มีการพบทองในตอนเหนือของรัฐแคลิฟฟอร์เนีย  คลามคลั่งไคล้ก็แผ่ไปทั่ว  ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปแสวงโชค  ผลักดันให้ประชากรรัฐแคลิฟฟอร์เนียพุ่งจาก 15,000 คน เป็นมากกว่า 300,000 คน ในปี 1854

ปี 1860-1873  ทางรถไฟ
     การก่อสร้างทางรถไฟพุ่งทะยานหลังสงครามกลางเมืองในสหรัฐสงบลง  มูลค่าของหุ้นรถไฟทั้งหมดสูงถึง 40%ของมูลค่ารวมของตลาดหุ้นนิวยอร์ค  วิกฤติการเงินในปี 1873 ทำให้บริษัทเดินรถไฟนับสิบแห่งต้องล้มละลาย

ทศวรรษ 1890  รถจักรยาน
     ในช่วงนั้น  บริษัทและโรงงานกว่า 300 แห่ง แข่งกันผลิตจักยาน  ต่อมาเมื่อมีรถยนต์เกิดขึ้น บริษัทผู้ผลิตจักรยานของสหรัฐลดลงเหลือเพียง 12 แห่ง ในปี 1905

ทศวรรษ 1920  วิทยุ
     การกำเนิดเทคโนโลยีวิทยุได้รับความนิยมเช่นเดียวกับการหลงใหลในธุรกิจดอทคอม  ตัวอย่างที่ชัดเจนในช่วงนั้นคือ  หุ้นของบริษัท RCA ( Radio Corp.of America ) ราคาได้พุ่งทะยานจาก 1 เหรียญไปเป็น 573 เหรียญระหว่างปี 1921-1929  และต่อมา  หลังฟองสบู่แตก  ราคาหุ้นได้ลดลงกว่า 95%

ปี 1926 ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ฟลอริดา
    ที่ดินจากราคาสูงสุด 800,000 เหรียญ พุ่งเป็น 4 ล้านเหรียญในชั่วระยะเวลาเพียงปีเดียว ในทศวรรษ1920 รัฐฟลอริดาเป็นสวรรค์ของคนอเมริกันที่ต้องการหลบเลี่ยงอากาศหนาวเหน็บ จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น เกิดธุรกิจการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์
แต่กฎยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าคุณจะลงทุนมากน้อย เร็วหรือช้า สักวันก็ต้องขายทำกำไร แต่ปัญหาคือคุณไม่สามารถจะหาคนที่โง่กว่ามาซื้อสินทรัพย์ต่อจากคุณ ราคาจึงตกลง ยิ่งกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายอย่างตื่นตระหนก จนถึงกับต่ำกว่าราคาเริ่มแรกก่อนเกิดฟองสบู่

The Great Depression (1929)
     วันที่เกิดเหตุการณ์ 21, 24 และ 29 ตุลาคม 1929 ในช่วงของวันเลวร้าย หุ้นตกลงมากกว่า 40% นับจากเดือนกันยายน  จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 1929 ที่จริงแล้ว ตลาดหุ้นยังคงถดถอยลงต่อไปอีกจนถึงกรกฏาคม 1932 และเมื่อเริ่มฟื้นตัว พบว่า ดัชนีหุ้นตกมากกว่า90% จากจุดสูงสุดในปี 1929
แม้เพิ่งจะผ่านวิกฤติฟลอริดา แต่ความโลภไม่ปราณีใคร ตลาดหุ้นได้สร้างความหวังให้ทุกคนมีความร่ำรวยเป็นรางวัลจากชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 1และยุคอุตสาหกรรมเฟื่องฟู สร้างความหรูหราฟุ้งเฟ้ออย่างล้นเหลือ เป็นช่วงเวลาความสุขที่ได้เป็นคนอเมริกัน
ด้วยความเชื่อว่า ตลาดหุ้นปราศจากความเสี่ยง และอยู่ในโลกไร้สติที่ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะมีแต่การเดินหน้า คนจำนวนมากนำเงินเก็บมาลงทุนโดยไม่มีการเรียนรู้เกี่ยวกับหุ้นหรือธุรกิจของบริษัท
ในช่วงนี้เกิดการปันหุ้น โยกย้ายเงิน อย่างแพร่หลาย เป็นวัฏจักรสร้างราคาเกินความเป็นจริง รอบแล้วรอบเล่า จนกระทั่งฟองสบู่แตก เศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำเป็นเวลานานถึง 12 ปี วิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุด และสิ้นสุดเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

 
 

จากคุณ : WindReturn
เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 53 11:14:46




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com