นายจ้างที่ฉลาดจะจ้างหัวหน้างานที่รู้จักกระจายงานให้ลูกน้องทำ
เพราะถ้าเขาทำงานนั้นเองโดยไม่กระจายงาน
ก็หมายความว่าเขามีเวลาและศักยภาพพอที่จะทำงานนั้นเองได้
บริษัทจึงไม่จำเป็นต้องจ้างลูกน้องอย่างเรา
มาให้เขาใช้เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณเปล่า ๆ
หลาย ๆ องค์กรจึงจ้างหัวหน้างานมาเพื่อ...
ให้คิด
ให้กระจายงาน
ให้ติดตามงาน
จากนั้นก็รวบรวมงาน
และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาขั้นสูงถัดไปรับทราบ
หากผลของงานออกมาดี
แน่นอนไม่เพียงแต่เขาแต่ทั้งทีมงานที่จะได้รับเครดิตหรือได้หน้า
แต่หากผลออกมาไม่ดีหรือล้มเหลว
เขาจะถูกดิสเครดิตหรือเสียหน้าแต่เพียงผู้เดียว
โทษฐานที่ไม่สามารถดูแลควบคุมทีมงานให้ทำงานบรรลุเป้าหมายตามที่ได้รับมอบหมายได้
(สงสัยวัน ๆ มัวแต่นั่งเล่นพันทิปและดูหุ้น
จึงไม่ได้สนใจติดตามการทำงานของลูกน้องทำให้เกิดความผิดพลาด!!)
หากเรามองแค่เพียงผิวเผินแล้ว
ก็อาจจะมองเหมือนที่ จขกท กำลังมองหัวหน้าเช่นที่กล่าวมา
แต่หากเราลองมองอีกมุมหนึ่งว่า
ถ้าหัวหน้าของเราประพฤติปฏิบัติตนเช่นนั้นจริง ๆ ตลอดเวลา
ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบที่ใคร ๆ หรือกระทั่งผู้บังคับบัญชา
สามารถมองเห็นได้เช่นกันแล้ว
หัวหน้างานคนนี้คงจะถูกเลิกจ้างไปตั้งนานไม่ปล่อยให้ลอยนวลอยู่เป็นแน่
การที่หัวหน้าสามารถนำรายงานไปเสนอในที่ประชุมได้
แสดงว่าเขาจะต้องเข้าใจและรู้เรื่องงานนั้นเป็นอย่างดี
จึงสามารถตอบคำถามผู้บริหารในที่ประชุมและได้รับการมอบหมายให้ทำงานชิ้นนั้น
หัวหน้างาน ผู้บริหาร หรือกระทั่ง CEO ในองค์กรใหญ่ ๆ แท้จริงแล้ว
มีหน้าที่เพียงแค่
Get things DONE through others
เท่านั้น
วันหนึ่งถ้าเรามีลูกน้องเราก็จะเข้าใจ
วันนี้ถ้าเรายังไม่เข้าใจและทำใจไม่ได้จริง ๆ กับสิ่งที่เราคิดว่าไม่ถูกต้อง
ถ้าไม่รีบลาออกไปทำงานที่อื่นให้สบายใจแล้ว
ก็ลองเลื่อยขาเก้าอี้สั่งสอนหัวหน้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แล้วเราก็ใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะตัวขึ้นแท่นนั่งเก้าอี้แทนก็หมดเรื่อง
พอเขี่ยหัวหน้าออกและขึ้นมาเป็นหัวหน้าเองแล้ว
ก็สามารถตั้งปฏิญาณว่าเราจะเป็นหัวหน้างานที่ดี
จะเอาแต่เยี่ยงแต่ไม่เอาอย่างหัวหน้างานที่แย่ ๆ คนนั้นเด็ดขาด!!!
ถ้าทำได้เช่นนี้เราก็สบายใจไม่ต้องเครียดแล้วใช่ไหมล่ะ??
ขอให้โชคดีและมีความสุขในการทำงานค่ะ