ความคิดเห็นที่ 1 การคำนวนผลตอบแทนแบบฉบับของผู้จัดการกองทุนแล้วหลักๆมี 3 วิธีครับ 1. Holding Period Return (HPR) 2. Dollar-Weighted Return (DWR) 3. Time-Weighted Return (TWR) ก่อนที่ผมจะเริ่มขอทำความตกลงเกี่ยวกับ assumption การคำนวนซักเล็กน้อยนะครับ เพื่ิอความเข้าใจตรงกัน 1. มูลค่าของ portfolio คือการรวมมูลค่าของสินทรัพย์ทุกชนิด รวมถึงเงินสด ด้วยนะครับ... เช่นในพอร์ตมีหุ้น 50,000 บาท เงินสด 150,000 บาท ในกรณีนี้ มูลค่าพอร์ตคือ 50,000+150,000 = 200,000 นะครับ 2. ผลตอบแทนจากการลงทุนคือรวมผลตอบแทนทั้งจาก (1) Capital gain (การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น) และ (2) Income (เช่น เงินปันผล, ดอกเบี้ย) ครับ ทีนี้เรามาดูว่าในแต่ละวิธีนั้นมีหลักการแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร และในสถานการณ์ไหนวิธีไหนเหมาะสมกว่ากันครับ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:29:59

ความคิดเห็นที่ 2 1. Holding Period Return สูตร HPR = (V1/V0)-1 หรือ (V1/ต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี)-1 (บางคนคุ้นกับ (V1-V0)/V0 ก็ได้ครับมันคือสูตรเดียวกัน) โดย V คือมูลค่าของพอร์ตการลงทุน (V1= ปลายงวด V0 = ต้นงวด) ซึ่งรวมถึงผลตอบแทนทั้งจาก capital gain และ dividend นะครับ ข้อดีของ HPR คือการคำนวนผลตอบแทนที่ง่ายแต่หยายที่สุดครับ สิ่งที่ HPR บอกเราก็คือผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วงระยะเวลาหนึ่งจากการหา Percentage Change ของมูลค่าพอร์ตนั่นเองครับ ผมเชื่อว่านลท.ส่วนมากใช้วิธีนี้กันอยู่ครับ แต่รู้หรือไม่ว่ามันเป็นการคำนวนผลตอบแทนที่มี bias มากที่สุด เรามาดูในรายละเอียดกันครับว่าทำไมผมถึงบอกเช่นนั้น ข้อจำกัดของ HPR ก็คือ มันสามารถใช้ได้แม่นยำกับพอร์ตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนเท่านั้นครับ ถ้าพอร์ตนั้นมีการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนเช่น มีการฝากเงินเพิ่มเข้าไปในพอร์ตและมีการถอนเงินออกมาในระหว่างปี ตัวเลขที่ได้จะไม่ตรงกับผลตอบแทนที่แท้จริงครับเพราะ HPR ไม่นำหลักการทบต้น (compound) ของผลตอบแทนมาคิดนั่นเอง ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเงินต้น HPR จะคำนวนได้จากสูตร: (V1/ต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี)-1 ข้อสังเกตก็คือ ถ้าเงินที่ใส่เข้าและออกคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเทียบกับมูลค่าพอร์ต (เช่น มูลค่าพอร์ต 1 ล้าน แต่ใส่และถอนเฉลี่ยแล้วเดือนละ 1 พันบาท) ตัวเลขที่ได้จาก HPR อาจจะ bias ไปเล็กน้อยครับ (คำนวนได้มากกว่าผลตอบแทนที่ได้จริงในกรณีที่ใส่เงินเพิ่ม และคำนวนได้ตำกว่าผลตอบแทนจริงในกรณีที่ถอนเงินออก) แต่ถ้าเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงนั้นมีสัดส่วนที่สูงมากเทียบกับมูลค่าของพอร์ต HRP นั้นจะเพี๊ยนไปหนักมากๆครับ เรียกได้ว่าอาจทำให้ นักลงทุนธรรมดาๆคนนึงมีผลตอบแทนเทียบเท่า”เทพ”ได้เลยทีเดียว จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:30:39

ความคิดเห็นที่ 3 รูป1: ถ้าพอร์ตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงต้นทุน การคำนวนทั้ง 3 วิธีจะออกมาเหมือนกันครับ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:31:31

ความคิดเห็นที่ 4 รูป2: ถ้ามีการใส่เงินเพิ่มหรือถอนออกในอัตราส่วนที่ไม่มากถ้าเทียบกับมูลค่าพอร์ต การคำนวนด้วย HPR โดยใช้สูตร (V1/ต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี)-1 ก็จะให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนที่ได้จริงครับ (ในแบบที่ bias upward) จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:31:49

ความคิดเห็นที่ 5 รูป3: ถ้าเงินที่เราใส่เพิ่มเข้าไปมีสัดส่วนที่มากเทียบกับมูลค่าพอร์ต ผลตอบแทนต่อเดือนที่ 1% ธรรมดาๆ การเป็นมีผลตอบแทนรายปี 45% ได้สบายๆจากความเพี๊ยนของ HPR ครับ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:32:06

ความคิดเห็นที่ 6 2. Dollar-Weighted Return หลักการและวิธีคำนวนของ DWR นั้นใช้หลักการของ IRR ครับ ใครที่เคยเรียน BBA MBA หรือ Finance คงต้องรู้จักอย่างแน่นอน โดยหลักการของ IRR ก็คือการหาผลตอบแทนเฉลี่ยที่ได้จากเงินลงทุนในแต่ละperiod นั่นเอง โดยวิธีการคำนวนก็ใช้สูตร XIRR ใน Excel ครับ (ดูวิธีคำนวนจากไฟล์ Excel ที่แถมให้ท้ายกระทู้ครับ) โดยในการคำนวนเพื่อหาผลตอบแทนของพอร์ตนั้นส่วนที่ผมจะถือว่าเป็น เงินลงทุนที่เปลี่ยนแปลง ก็คือ “เงินสด”ที่เราใส่เข้าหรือถอนออกจากพอร์ตลงทุนเท่านั้นครับ สูตรคำนวน DWR คือ ((XIRR+1)^(จำนวนงวดของผลตอบแทน/จำนวนงวดทั้งหมดต่อปี))-1 โดย XIRR คือ IRR ของการลงทุนที่คำนวนได้จากสูตร XIRR ใน Excels (ดูไฟล์ที่แถมให้ไปนะครับ) เช่น ถ้าบันทึกผลตอบแทนเป็นรายเดือน แต่บันทึกผลตอบแทนแค่ 8 เดือน (มกรา-สิงหา) สูตรที่ใช้คือ ((XIRR+1)^(8/12))-1 ข้อดีของ DWR เหนือ HPR คือ DWR จะคำนวนผลตอบแทนโดยนำหลัก Time Value of Money เข้ามาคิดด้วย พูดง่ายๆคือมันนำหลักการทบต้น (compound) เข้ามาคิดด้วยนั่นเอง ซึ่งแบบนี้จะให้ตัวเลขผลตอบแทนที่ตรงกับความเป็นจริงกว่า HPR ครับ ข้อดีอีกอย่างของ DWR ก็คือ ผลตอบแทนที่คำนวนได้จะสะท้อนความสามารถในการจัดสรรเงินลงทุนตามจังหวะของตลาดด้วยครับ แฮ่ๆอ่านดูแบบนี้อาจจะงงนะครับ ทีนี้ลองฟังตัวอย่างนี้ดูครับ... ถ้าสมมุติว่า ณ วันนี้คือวันที่ 31/6/2010 เราคิดว่า6เดือนหลังจากนี้ ตลาดจะเป็นขาขึ้น (ขาลง) อย่างชัดเจน เราก็เลยตัดสินใจเพิ่มเงินลงทุนเข้าไปในพอร์ต (ถอนเงินลงทุนออกจากพอร์ต) เดือนละ 200 บาท... ถ้าตลาดเป็นขาขึ้น (ขาลง)จริงๆตามที่เราคาด การคำนวนแบบ DWR จะสะท้อน performance ตรงนี้ออกมาด้วยครับโดยผลตอบแทนที่ได้จะสูงขึ้นกว่าปกติ ในทางกลับกันถ้าตลาดเป็นตรงกันข้ามกับที่คาด ผลตอบแทนที่คำนวนได้จะลดต่ำลงครับ ปล. ด้วยจากข้อสมมุติฐานที่ (3) ที่ว่าผลตอบแทนของพอร์ตคือรวมทั้ง capital gain และ income ดังนั้นการนำเงินปันผลมา reinvest ผมไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของเงินสดนะครับ แต่ถือเป็นผลตอบแทนซึ่งจะรวมเข้าไปเป็นส่วนนึงของมูลค่าพอร์ตเลยนะครับ อันนี้ต้องบอกก่อนครับว่าจะต่างกับหลักการคำนวนผลตอบแทนแบบที่ Fund Manager ใช้กันครับ เพราะตามหลักการจริงๆแล้ว FM ถ้าจะนำเงินปันผลที่ได้กลับมา reinvest ในพอร์ต จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของเงินสดครับ แต่ในการบริหารพอร์ต VI แบบเราๆแล้ว เงินปันผลที่ได้ผมถือว่านำมา reinvested โดยอัตโนมัติครับ ดังนั้นผมจึงไม่นำมาเป็นการเคลื่อนไหวของเงินสดครับ ยกเว้นในกรณีที่เราได้รับปันผลแล้วไม่นำมา reinvest แต่นำออกไปใช้แบบนี้ ต้องบันทึกเป็นการถอนเงินออกครับ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:33:15

ความคิดเห็นที่ 7 รูป4: จะเห็นว่า DWR จะสูงกว่า TWR ครับเพราะผลตอบแทนที่คำนวนได้จาก DWR จะ reward จากการที่เราเพิ่มเงินเข้าไปในช่วงที่ผลตอบแทนสูงกว่าเฉลี่ย จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:33:33

ความคิดเห็นที่ 8 รูป5: ในขณะเดียวกันถ้า เราใส่เงินเพิ่มเข้าไปในขณะที่ตลาดมีผลตอบแทนต่ำกว่าเฉลี่ย การคำนวนที่ได้จาก DWR จะสะท้อนความผิดพลาดตรงนี้ออกมาด้วยครับ โดยผลตอบแทนที่คำนวนได้จะต่ำกว่า TWR ข้อสังเกตุในรูป 4, 5 ก็คือตัวเลขที่ได้จาก HPR นั้นเพี๊ยนได้ใจเลยครับ เพราะสาเหตุจากเงินที่เราฝากเพิ่มไปนั้นมีสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับมูลค่ารวมของพอร์ตนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 18:38:50 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:33:49

ความคิดเห็นที่ 9 3. Time-Weighted Return TWR นั้นคือการคำนวนผลตอบแทนโดยเอา HPR ของแต่ละ period ย่อยๆมาหาค่าเฉลี่ย geometric mean นั่นเองครับ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากการคำนวนด้วย geometric mean นั้น ทำให้ตัวเลขที่ได้เป็น compounded return ครับ วิธีการคำนวน TWR นั้นเราจะต้องหา HPR ของในแต่ละ period ย่อยๆออกมาก่อนครับ โดยความพิเศษเหนือ HPR ปกติก็คือ เราจะหัก/เพิ่มเงินที่เราฝาก/ถอน ระหว่าง period ย่อยๆนั้นออกจากมูลค่าของพอร์ตก่อนครับ เหตุผลที่ทำไมต้องหักหรือบวกเงินที่เราฝากหรือถอนด้วยก็เพราะว่า เราต้องจากจะหาผลตอบแทนใน period นั้น โดยไม่สนใจเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงครับ โดยจะสนใจแต่มูลค่าที่เปลี่ยนไปของพอร์ตจากการเปลี่ยนแปลงของหุ้นหรือเงินปันผลที่ได้รับเท่านั้น เมื่อได้ HPR ของแต่ละเดือนมาแล้ว ก็ให้หา geometric average ของ HPR ในแต่ละ period ครับ (เพิ่มความไม่งง ผมขอเรียกว่า HPRi นะครับ) โดยสูตรที่ใช้คือ TWR =(GEOMEAN(HPRi0:HPRi1)^จำนวนงวดของผลตอบแทน)-1 ;ในขณะที่ HPRi = (V1-เงินฝากเพิ่ม+เงินถอนออก)/V0 ในกรณีที่ไม่มีการเพิ่มหรือถอนเงินออกจากพอร์ตลงทุน หรือมีการเพิ่ม/ถอนเงินลงทุนในขณะที่ทิศทางตลาดไม่มีความเคลื่อนไหวที่ correlate กับการเคลื่อนไหวของเงินต้น ผลที่ได้จากการคำนวน DWR และ TWR ควรจะเท่ากันครับ (ดูจากรูป 1, 2, 3 ได้ครับ) โดยถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนระหว่างวด ผลต่างทีได้ระหว่าง DWR และ TWR ก็จะเป็นไปตามที่ผมอธิบายไปแล้วในส่วนของ DWR ด้านบน (รูป4, 5)ครับ ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ข้อดีของ TWR ก็คือ ผลตอบแทนที่คำนวนได้จะไม่นำความสามารถในการ allocate เงินทุนเมือเทียบกับ performance ของตลาดมาคิดนั่นเองครับ ... บางคนอาจะสงสัยว่าแล้วทำไมเราถึงไม่อยากเอาตรงนี้มาคิดล่ะ ในเมื่อถ้าตลาดดีเราใส่เงินเพิ่ม หรือตลาดแย่เราถอนเงินออกเราก็น่าจะได้รางวัลตรงนั้นด้วยนี่นา :?:  ลองดูตามตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงดูครับ เช่น ถ้าผมเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วผมจะแบ่งเงินเดือน 50% เข้าพอร์ตทุกเดือนๆ ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร ดังนั้นผลตอบแทนที่คำนวนออกมาก็ไม่ควรจะนำทิศทางของตลาดที่มีต่อทิศทางการเพิ่ม/ลดของเงินลงทุนจริงมาคิดจริงมั้ยครับ นี่แหละครับผมถึงนิยมใช้ TWR ในการวัดผลตอบแทนมากกว่าการใช้ DWR ซึ่งอาจจะทำให้ผลตอบแทนที่คำนวนได้ผันไปตามทิศทางของตลาดเมื่อเทียบกับการเพิ่มหรือถอนเงินลงทุนของเรา ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการที่เราใส่เงินเพิ่มหรือถอนออก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการคาดเดาหรือวิเคราะห์ตลาดแม้แต่นิดเดียว แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 18:40:33 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:39:51

ความคิดเห็นที่ 10 สรุปนะครับ HPR เหมาะกับพอร์ตที่มีการเคลื่อนไหวของเงินต้นทุน (ถอนเงินออก/ฝากเวินเพิ่ม) ต่ำมากเทียบกับมูลค่ารวมของพอร์ต และคนที่ขี้เกียจในการอ update มูลค่าพอร์ตลงทุนเป็นประจำครับ ส่วนตัวแล้วไม่แนะนำเลยครับสำหรับคนที่มีการใส่เงินเพือ่น ถอนเงินออกครับ DWR เหมาะกับนลท.ที่ต้องการวัด performance ของพอร์ตลงทุนโดยนำทิศทางของการจัดสรรเงินลงทุนที่มีต่อperformance ของตลาดเข้ามาคิดด้วยครับ (ถ้าคาดว่าหุ้นจะตกก็เลยล้างพอร์ต หรือ”ลดสัดส่วน”ของหุ้น โดยที่ไม่ถอนเงินออกจาก”พอร์ตลงทุน” แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการ “ถอนเงินออก”นะครับ และ DWR ก็จะไม่ capture ตรงนี้ เพราะตาม assumption ที่กล่าวไว้แต่ต้น “มูลค่าพอร์ต” รวมทั้ง หุ้นและเงินสดครับ ซึ่งในกรณีที่นลท.ชอบชักเงินเข้าๆออกๆ เดี๋ยวเต็มปอด เดี๋ยวล้างปอด โดยเก็งตามสภาวะตลาดแบบนี้จะควรต้องวัดผลด้วย Bogey Portfolio Technical ครับ ซึ่งในถือเป็น Performance Appraisal ครับ โดยมันจะ advance เข้าไปอีก ไว้วันหลังจะมาต่อให้ถ้าต้องการนะครับ ^^’) ส่วนตัวนะครับวิธีนี้เหมาะกับนลท.ที่ขี้เกียจ update มูลพอร์ตในระหว่างปีแต่ update ไว้เฉพาะความเคลื่อนไหวของเงินต้นทุน (ใส่เพิ่ม/ถอนออก)ครับ TWR โดยส่วนตัววิธีนี้แม่นและเหมาะสมกับนลท.แบบเราๆท่านๆมากที่สุดครับ เหตุผลก็คือมันวัดที่ผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุนล้วนๆเพรียวๆโดยไม่มีปัจจัยอื่นมากระทบ กองทุนรวมทั่วโลกส่วนมากก็ใช้วิธี TWR ในการคำนวนผลตอบแทนครับ แต่ข้อจำกัดคือนลท.ต้องบันทึกทั้งมูลค่าพอร์ตและความเคลื่อนไหวของเงินต้นทุนไปพรอ้มๆกันครับ คำแนะนำเพิ่มเติมของการคำนวนผลตอบแทนด้วย DWR และ TWR ก็คือ เราควรบันทึกพอร์ตลงทุนเราให้บ่อยที่สุดครับ โดยส่วนตัวแล้วการบันทึกเป็นรายสัปดาห์ถือว่าเหมาะสมดีกับนลท.รายย่อยครับ (ถ้าเป็นกองทุนเปิดจะบันทึกทุกวัน) เพราะถ้าเราบันทึกผลตอบแทนห่างเกินไปแล้ว (เช่นรายเดือน) เงินที่ฝากเพิ่มหรือถอนออกระหว่างวด อาจะส่งผลทำให้การคำนวนผลตอบแทนออกมาเพี๊ยนได้ครับ ลองนึกภาพตามครับเช่น นาย A มีพอร์ตมูลค้า 1 ล้าน เป็นหุ้นล้วนๆ แล้วในวันที่ 10 สิงหาได้โบนัส 5 แสนใส่เพิ่มเข้าในพอร์ต จากนั้นวันที่ 12 เอาเงิน 5 แสนนี้ไปซื้อหุ้นได้กำไร 300% ใน 14 วัน ในกรณีนี้ถ้านาย A บันทึกพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือนการคำนวนทั้งจาก DWR และ TWR จะเพี๊ยนไปมากครับ เพราะในงวดเดือนนั้นการคำนวนมันจะมองว่า 5 แสนที่เราใส่ไปนั้นเป็นของวันที่ 30 (หรือถ้าเรา conservative จะตั้งให้เป็นการใส่เงินต้นงวดก็ได้ แต่ก็จะให้ผลตรงกันข้ามในกรณีที่ขาดทุนอยู่ดี) และกำไร 1.5 ล้านที่ได้มาจะเป็นการทำกำไรของเงินต้น 1 ล้านแรกครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 18:53:14 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 18:50:29 จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:41:23

ความคิดเห็นที่ 11 แฮ่ๆๆ จบแล้วครับ หวังว่าที่นำมาแชร์ตรงนี้จะทำให้เพื่อนๆพี่ๆ ที่ยังงงๆกับวิธีการคำนวนผลตอบแทนได้เข้าใจกับวิธีการ รวมถึงข้อจำกัดและเบื้องหลังฉากของการคำนวนผลตอบแทนด้วยวิธีต่างๆกันไม่มากก็น้อยนะครับ   ถ้าอ่านตรงไหนไม่เข้าใจแล้วมีคำถาม หรือมีข้อแย้งติชมใดๆ ก็โพสลงไปได้เลยครับ ยังไงผมก็ขอขอบคุณและขออภัยกับ feedback ที่มีให้จากเพื่อนๆพี่ๆเสมอครับ :D จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:41:58

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคร้าบบบ จากคุณ : Heinz เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:50:55

ความคิดเห็นที่ 13 โหลดแล้วเปิดไม่ได้อ่ะคร้าบ คาดว่าเป็นความ low tech ของ excel บ้านผมเอง รบกวนขอ save as เป็น Version Excel 2002 ด้วยนะคร้าบบ ขอบคุณคร้าบบ จากคุณ : Heinz เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 19:04:50

ความคิดเห็นที่ 14 อืม เอามาจาก thaivi นิ จากคุณ : diabloth เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 19:38:17

ความคิดเห็นที่ 15 เยี่ยมครับ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่แบ่งปันกันครับ จากคุณ : CP_Card เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 19:45:08

ความคิดเห็นที่ 16 คห.14 ผมเป็นคนเขียนเองโพสเองทั้ง 2 เว็บน่ะครับ เลยไม่ได้ให้เครดิตเว็บ Thaivi ครับ ^^ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:11:03

ความคิดเห็นที่ 17 ครับผม แบบว่าจำได้ว่าเคยอ่านใน thaivi ครับ เห็นว่าคล้ายๆกันเลยทักครับ เพราะคิดว่า จขกท อาจลืมให้เครดิต มิได้มีเจตนาอะไรครับ (@*_*@) จากคุณ : diabloth เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:42:05

ความคิดเห็นที่ 18 แจกกีบ + โหวต แล้วผมจะกลับมาอ่านครับ ^^ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:45:00

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับความรู้คะ มาเก็บข้อมูล ^^ จากคุณ : Princess Moo เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 21:52:07

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาแนะนำค่ะ จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 22:14:23

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์ดีคับ ชอบๆ รบกวนช่วยอธิบาย Bogey Portfolio Technical เพิ่มนิดหน่อยได้ไหมครับ คือพอดีผมกะลังนอนคิดเลยว่าจะหาวิธีวัด performance พอร์ตตัวเองได้ยังไง ซึี่งพอร์ตผมจะไม่ 100% หรือ 0% อยู่ตลอดเวลา  ถ้าอย่างกรณีนี้เราใช้ bogey เหมาะไหมครับ? ขอบคุณครับ จากคุณ : kagi เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 08:38:36

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ภูมิทัศน์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 13:49:51

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ จขกท. มากๆ ครับ อ่านไปยังงงๆ เล็กน้อย แต่พวกศัพท์แสงทุกตัวก็คุ้นๆ อยู่ ถ้าได้อ่านตอนกำลังเรียน MBA อยู่จะเข้าใจมากกว่านี้แน่นอน อิอิ ตอนนี้จบมานาน ไม่ค่อยได้ใช้เลยลืมๆ ไปบ้าง จากคุณ : sirnung เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:27:34

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : xiaopangmei เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:28:56

ความคิดเห็นที่ 25 ลงชื่อเข้ามาอ่้านครับ แต่จะกลับมาอ่านอย่างละเอียดอีกครั้ง อยากทราบเพิ่มเติมว่า สูตรการคำนวณที่ว่า สามารถคำนวณผลตอบแทนจากการเล่นแชร์ได้หรือไม่ กำลังอยากจะหาสูตรคำนวณตัวนี้ดูน่ะครับ จากคุณ : NutzGuru เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 01:52:08

ความคิดเห็นที่ 26 คือไม่แน่ใจอ่ะครับว่าแชร์เล่นยังไง ได้เสียกันยังไงอ่ะครับ ห่ะๆ คำถามนี้คงต้องให้คนอื่นๆ ช่วยตอบแล้วล่ะครับ จากคุณ : GeneraX เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:14:14

ความคิดเห็นที่ 27 ลองไปโหลดมาแล้วครับ ต้องขอบคุณ จขกท.มาก แต่อยากรู้ว่าในไฟล์ ในหน้าตาราง มันจะมี 2 ตาราง ตารางแรก ให้ใส่มูลค่าพอร์ต ตารางสอง ให้ใส่ HPR อยากรู้ว่าตาราง 2 นี่มีไว้ทำไมอ่ะครับ ขอบคุณมากๆ เลยครับ จากคุณ : sirnung เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 12:24:23