|
ณ เวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะกล่าวถึง ศาสตร์ที่สำคัญซึ่งถึงว่าเป็นศาสตร์แห่งโลกอนาคต เนื่องจากเราได้เข้าสู่สหัสวรรษมาแล้วและเวชศาสตร์อายุรวัฒน์เป็นสาขาเฉพาะทางของแพทย์ที่เติบโตเร็วที่สุดในขณะนี้ มีสมาชิกประกอบด้วยแพทย์จากทั่วโลกมาร่วมกันช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความชราหรือความเสื่อมของสังขาร
ผู้ที่เริ่มมีปัญหาที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายในขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมาหรือที่ฝรั่งเรียกว่า กลุ่ม “Baby boomer” (ผู้ที่เกิดในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1946 – 1964) ซึ่งถือได้อีกอย่างว่าเป็นผู้ที่เกิดในยุคใหม่แห่ง Anti-aging medicine ซึ่ง
รู้หรือไม่?
กระบวนการด้านการชะลออายุนั้นไม่ได้หยุดนิ่งหากแต่วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนบางที เราอาจไม่ได้สังเกตว่า อายุขัยของมนุษย์เปลี่ยนไป
ในปี ค.ศ. 1796 อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ เพียง 25 ปีเท่านั้น
ในปี ค.ศ. 1896 อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์เพิ่มขึ้นจนเกือบเป็นสองเท่า คือ 48 ปี ภายในเวลาหนึ่งร้อยปี
ในปี ค.ศ. 1996 อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงถึง 70 ปี หรือเกือบ 80 ปี ในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นจะเห็นว่าอายุขัยมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด จนผู้เชี่ยวชาญทางเวชศาสตร์อายุรวัฒน์สามารถทำนายได้ว่า มนุษย์จะมีอายุขัยถึง 120 -150 ปี ได้แน่ก่อนที่จะถึงปี ค.ศ. 2050
Anti-Aging madicineเป็นสาขาแพทย์เฉพาะทางที่รวมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้ามาใช้ในการยืดอายุชะลอความชรา ป้องกันโรค และที่เหนือไปกว่านั้นคือ โรคที่เกิดจากความเสื่อมที่เราเคยคิดว่ารักษาไม่ได้ ได้แต่ประคับประคองอาการกันไปและเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนเช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง , โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ หรือโรคพาร์กินสัน สามารถรักษาได้
Credit :http://www.student.chula.ac.th/~51373270/What's%20Anti-aging.htm
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 02:03:34
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 02:02:47
จากคุณ |
:
shine-rise
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ม.ค. 54 01:54:30
|
|
|
|
|