 |
จากนิยาม...
P/E บอกถึงเงินที่เราจ่าย ที่จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 1 บาทต่อหุ้น
P/B บอกถึงเงินที่เราจ่าย ว่าเป็นกี่เท่าของมูลค่าทางบัญชี
D/E บอกว่ามีหนี้มาก/น้อย เป็นกี่เท่าของเงินลงทุนทั้งหมด(หรือเจ้าของ)
ROE บอกว่าเจ้าของ(ส่วนทุน) จะได้ผลตอบแทนกลับมากี่ % ของเงินลงทุน
ROA บอกว่าสินทรัพย์ถูกนำไปสร้างผลตอบแทนได้กี่ % ของสินทรัพย์ที่มี
EPS คือ กำไรต่อหุ้น ครับ
ทีนี้ก็ความหมาย...
P/E, P/B บอกความคุ้มค่าของเงินที่เราจ่าย หรือที่เรียกว่าซื้อถูกซื้อแพง
D/E บอกถึงสุขภาพของบริษัท
ROE, ROA, EPS บอกถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนของบริษัท
เวลาเลือกลงทุน ต้องเลือกก่อนครับ ว่าอยากได้ผลตอบแทนแบบไหน เพราะหุ้นแต่ละตัวมันก็มีค่าพวกนี้ไม่เหมือนกัน บางตัว P/E สูงเพราะบริษัทกำลังโต กำไรโตขึ้นทุกปี P/E ก็เลยสูงเพราะซื้ออนาคต
บางตัว P/E ก็ต่ำ เพราะกำไรมันโตยาก ต้องใช้เงินเยอะในการขยาย
P/B บางตัวก็ซื้อขายต่ำกว่าบัญชี แต่ก็ไม่ถือว่าถูก เพราะทรัพย์สินส่วนใหญ่ไม่จีรัง ราคาจะลดลงเรื่อยๆ บางบริษัทก็เอาสินค้าคงเหลือมาบันทึกเป็น Book Value ทำให้ P/B ต่ำ น่าลงทุน ทั้งที่จริงขายของไม่ออก สินค้าเหลือเยอะ ซึ่งสุดท้ายมันก็ต้องเสื่อมแล้วก็ต้องตัดบัญชีทิ้ง
บางบริษัทก็มี P/B สูง เพราะ Book Value คงที่ตลอดเนื่องจากจ่ายปันผลด้วยกำไรเกือบทั้งหมดที่ได้ บริษัทนี้ราคาหุ้นจะไม่ไปไหน แต่อัตราเงินปันผลจะเยอะมาก ก็น่าลงทุน
บางตัว ROE สูง แต่ก็มี D/E สูงก็ไม่น่าลงทุน เพราะก่อหนี้เก่ง สุดท้ายดอกจะกลับมาทำลายบริษัทจนหมด
EPS ก็อาจโดนหลอกได้ เพราะได้กำไรจริง แต่ยังไม่ได้เงินสด สุดท้ายอาจจะกลายเป็นหนี้สูญได้
ทางที่ดี ให้ดู Cash ของกิจการครับ ถ้าบริษัทมีเงินสดเยอะ มันก็เจ๊งยาก
| จากคุณ |
:
ซาซิมิ แซลมอน 
|
| เขียนเมื่อ |
:
12 ม.ค. 54 03:00:27
|
|
|
|
|
ขอความรู้ด้วยครับ ROE กับ EPS ต่างกันอย่างไร?
