ความคิดเห็นที่ 1 ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า ก็ไปสิครับ จากคุณ : Rovershearer เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:43:50

ความคิดเห็นที่ 2 นั่นสิครับ ถ้าคิดว่าเราเจ๋งพอ ไปที่ไหนใครก็เอา เก่งเลือกได้ ก็รีบออกเลยครับ จะรออะไร???? จากคุณ : Boonggy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:50:13

ความคิดเห็นที่ 3 ทำงานราชการก็เหมือนทำงานเอกชน สิ้นปีก็มีการประเมินผลงาน ไม่ว่าตนเองหรือหัวหน้าของตนก็ต้องถูกประเมิน ถ้าได้รับการปรับขั้นเงินเดือนขึ้นดี  แปลว่าได้รับการประเมินที่ดี   ก็ถ้าไม่ได้รับการปรับขั้นเงินเดือนขึ้นดี ต้องมาดูว่าการประเมินเป็นอย่างไร อีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าทำงานราชการหรือทำงานเอกชน เราจะพยายามศึกษานอกเวลาเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม เมื่อศึกษาได้สำเร็จ เราก็จะแจ้งหัวหน้าให้ทราบถึงความสำเร็จนั้น หัวหน้าก็จะให้งานใหม่ๆที่มีความรับผิดชอบสูงขึ้นเงินเดือนก็จะสูงขึ้นด้วย สุดท้าย ถ้าเรียน ภาคค่ำจนจบ ป โท แต่หัวหน้าก็ยังให้ทำงาน ปวส อยู่อีก หางานใหม่หรือหน่วยงานใหม่ ก็อาจเป็นสิ่งที่ดี จากคุณ : Replica เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:50:19

ความคิดเห็นที่ 4 หนับหนุนทุก คห ครับ เก่งจริง ดีจริง อย่าไปง้อครับ ชีวิตกำหนดเอง จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:51:34

ความคิดเห็นที่ 5 ที่ผมออกมา ตั้ง กระทู้เพราะเบื่อ คนบางคนที่ชอบกัด ไม่อยากให้เงินเดือนขึ้น เงินเดือนขึ้นของแพง อ่านแล้วรู้สึกเซ็งอย่างมากครับ เพราะของมันแพงอยู่แล้วถ้าไม่ให้เงินเดือนขึ้นมันก็แย่สิครับ สำหรับคนที่มีอาชีพรับจ้าง เวลาหุ้นแล้วอยากให้ขึ้นเฮงซวยครับ จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:04:32

ความคิดเห็นที่ 6 ในหน่วยงานเอกชน เงินเดือนจะขึ้นได้ ก็คือคนนั้นจะต้องทำงานสูงขึ้น คือทำเงิน ทำประโยชน์ให้กับองค์กร ได้ผลตอบแทนสูงขึ้นจากการทำงานของตัวเขา ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีเงินมาจ่ายให้ได้ เมือองค์กรอยู่ไม่ได้ ทุกคนในองค์กรก็อยู่ไม่ได้ เดือดร้อนกันไปหมด งานส่วนตัว, ธุรกิจส่วนตัว (สังเกตให้ดี ว่าผมเขียนแยกกัน เป็นของสองอย่างที่ ไม่เหมือนกันแต่ถูกเข้าใจปะปนกันเสมอๆ) ก็เช่นเดียวกัน ถ้าทำงานได้เท่าเดิม มีผลงาน ได้เท่าเดิม จะได้ค่าตอบแทน หรือผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างไร สุดท้าย ชีวิตตัวเอง เลือกได้ เราลืขิตชีวิตตัวเราเองเสมอครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:08:17

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ว่ากันไป จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:20:41

ความคิดเห็นที่ 8 ราชการมีบำนาญด้วยนะ จากคุณ : นางฟ้าเซเลส เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:33:26

ความคิดเห็นที่ 9 เงินเดือนขึ้น ...ราคาของแพงขึ้น...มันเรื่องปกติ แต่การขึ้นเงินเดือน...ควรมาจากการความสามารถที่เพิ่มขึ้นขององค์กร..ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของพนักงาน ไม่ใช่ขึ้นเพราะ...เงินเฟ้อ... จากคุณ : ink (siam) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:40:00

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าข้าราชการผู้น้อยก้อน่าสงสารครับ เพราะเงินเดือนน้อยจริงๆ    แต่ถ้าระดับสูงๆก้ออ่ะนะ       ผมเคยเดินทางติดต่อราชการหลายๆที่ หลายๆกระทรวง เห็นทั้งทำงานแบบวิ่งแทบจะชนกัน  ทำงานแบบเสือนอนกิน  หรืออีกหลากหลายแบบ  ถ้าแบบทำงานแทบจะวิ่งชนกันแล้วเงินเดือนไม่ขึ้นก้อน่าสงสารสุดๆ  แต่ถ้าเป็นเสือนอนกินอันนี้ก้ออ่ะนะ เช่นกัน จากคุณ : Jungfrail เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:47:07

ความคิดเห็นที่ 11 เป็น สส ซิครับ จากคุณ : Hainun Boy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:14:13

ความคิดเห็นที่ 12 ยิ่งสูง ยิ่งหนาวนะครับ จากคุณ : Pop_Pcon เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:25:20

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นนายตัวเองสิครับ ทำธุรกิจส่วนตัว ก็สบายใจออก สนใจอะไรกะอีแค่เงินเดือน มันเป็นแค่"เศษเงิน"จากกำไร ของหน่วยงานหรือบริษัท ที่โยนมาให้พนักงานหรือข้าราชการตาดำๆ ถ้ามีลู่ทางแล้วก็ลงมือเลยครับ อย่ารอให้แก่เสียก่อน 　　ー　ー 　　の　の 　　　も 　　　へ จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:06:34

ความคิดเห็นที่ 14 แล้วเหตุผลแรกที่คุณเลือกเข้าทำงานราชการเพราะอะไรล่ะคะ จากคุณ : หนูภี ณ นางพิมพ์ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:06:43

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นข้าราชการเจ็บป่วยเบิกได้ ดูแลพ่อแม่ แฟนและลูก ค่าเล่าเรียนลูกก็เบิกได้ เกษียนมีบำเหน็จ บำนาญ ให้ เลือก ไปขอสินเชื่อที่ไหนก็ง่าย เพราะแบงค์คิดว่าข้าราชการ การงานมั่นคง น้าผมเป็นครูอายุ 50 นิดๆ ไต่เต้ามาตั้งแต่ วัยรุ่น ตอนนี้เป็น C7 หรือ C8 นี่แหละ เงินเดือน 4-5 หมื่น น้าผมเป็นคนพอเพียง เพื่อนร่วมรุ่น ไปต่อโท เงินเดือนและ ตำแหน่งไปไกลกว่าน้าผมอีก 6-7 หมื่นมั้ง ไม่เยอะหรอคับ ไหนจะค่าสอนพิเศษอีก ดูแล้วอาจโตช้าแต่ผมว่ามั่นคงนะ จากคุณ : Cattyz3838 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:12:42

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นใจครับ หัวอกเดียวกันเข้ามาทำงานในองค์กรใหม่ๆ นั่งบ่นเรื่องเงินเดือนทุกวัน ปัจจุบันผมศึกษาเรื่องลงทุนควบคู่ไปด้วยยอมรับว่าปัจจุบันมีใจให้องค์กรแค่ 30 % ทำงานแค่เอาตัวรอดเพราะไม่รู้จะทุ่มเทไปทำไมเพราะองค์กรไม่ได้ให้ความ สำคัญกับเรา จนตอนนี้รู้สึกสบายใจมากเพราะเงินทีได้จากการลงทุนตอนนี้มากกว่า เงินเดือนซะอีก จากคุณ : happinezz_is เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:47:59

ความคิดเห็นที่ 17 ทนไม่ไหวก็ลาออกสิ "บ่นทำไม" ข้าราชการงานก็ไม่สบาย ไม่ต้องกลัวโดนไล่ออก เช้าชามเย็นชาม อยู่เอกชนทำงานตั้งแต่ 8 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น ทนได้ไม๊ จะโดนไล่ออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:51:11

ความคิดเห็นที่ 18 ข้าราชการมีหลายหน่วยงาน หลายสังกัด อัตราค่าตอบแทนไม่เท่ากันหรอกครับ ที่หน่วยงานผมหลายคนรับราชการมาจนอายุ 57 - 58 ปี จะเกษียณอยู่แล้ว อายุราชการก็ตั้ง 20 กว่าปีแล้ว ยังได้เงินเดือนแค่ 12,000-13,000 บาท อยู่เลยครับ แล้วบำเหน็จบำนาญก็ไม่ใช่จะได้ง่าย ๆ นะครับ ใครทำงานไม่ถึง 25 ปี ถ้าลาออกก็ไม่มีสิทธิได้รับบำนาญ (เว้นแต่สูงอายุ และมีอายุงานเกิน 10 ปี) และถ้าทำงานไม่ถึง 10 ปี ถ้าโดนให้ออก หรือลาออกเอง แม้แต่บำเหน็จก็ยังไม่ได้สักบาทเดียวเลย ปัจจุบันมีความไม่เท่าเทียมกันเยอะมากในแต่ละประเภทของข้าราชการ กลุ่มไหนมีพลังมาก ก้เรียกร้องเงินเดือนค่าตอบแทนของกลุ่มตน เมื่อได้ก็เงียบ ไม่สนใจกลุ่มอื่น จะเป็นอย่างไรก็ช่าง ก็เลยขอเล่าความจริงเรื่องเงินเดือนค่าตอบแทนของข้าราชการให้ฟังเพิ่มเติมครับ จากคุณ : silptt เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:06:18

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาทำงานด้วยเหตุผลอะไรล่ะคะ ถ้าเป็นข้าราชการ ที่เลือกทำงานข้าราชการก็เพราะ "ความมั่นคง" ไม่ใช่เหรอ สนใจสวัสดิการที่ดี สนใจว่าทำงานห่วยๆยังไงก็ไม่โดนหัวหน้าไล่ออกไม่ใช่เหรอคะ เมื่อเข้ามาทำงานด้วยเหตุผลหนึ่ง แล้วจะมาบ่นอีกเหตุผลเพื่ออะไร รู้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าข้าราชการเงินเดือนน้อยนี่คะ  แต่ก็ยอมทำไม่ใช่เหรอ ที่สำคัญ ถึงแม้จะเป็นข้าราชการแต่ก็มีการปรับเงินเดือนทุกปี จะพูดว่าทำงานเงินเดือนคงที่ก็ไม่ถูก อ้อ ยกเว้น ฝีมือการทำงานแย่เสียยิ่งกว่าแย่ ไม่เคยได้ ขั้นครึ่ง สองขั้นกับเขาเลย เงินเดือนถึงได้คงที่ อันนี้ไม่ต้องไปโทษคนอื่นหรอกค่ะ  หันกลับไปมองตัวเองดีที่สุด จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:10:28

ความคิดเห็นที่ 20 ...อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา... ผมไม่รู้รายละเอียดเรื่องงานของคุณ จขกท นะ แต่อยากให้มองในแง่บวกไว้ก่อน อย่างน้อยคุณก็มีงานทำ มีรายได้ประจำ มีสวัสดิการ มีศักดิ์ศรี คุณยังดีกว่าหลายๆคน ที่เกี่ยงงาน ไม่ได้เงินเดือนที่เรียกก็ไม่ทำ ไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ก็ไม่ทำ...สุดท้ายก็ยังว่างงานอยู่จนทุกวันนี้ แล้วถ้าวันไหนมีโอกาสดีๆผ่านเข้ามา ก็อย่าปล่อยมันผ่านไปเฉยๆซะล่ะ จากคุณ : จิงนะ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:25:32

ความคิดเห็นที่ 21 เข้าใจอารมณ์นะคะว่า ประมาณไหน.... แต่บางครั้งพอใจกับสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งได้ ก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่เหมือนกันนะคะ อย่าคิดในด้านลบโทษโน่น นี่ นั่น แต่คิดในด้านบวก ดีนะ ที่เรายังมี โน่น นี่ นั่น ดีกว่าหลาย ๆ คนที่เค้าลำบากลำบนกว่าเรา ถ้าเงินเดือนน้อย ก็หาทางเพิ่มรายได้ จะเปลี่ยนงาน หาอาชีพเสริม เพิ่มการลงทุน ลองดูนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องเริ่มที่ความคิดด้านบวกซะก่อน แล้วกฎแห่งแรงดึงดูด (คิดดี ทำดี ได้ดี ) มันก็จะเริ่มทำงานค่ะ ขออภัยที่แนะนำค่ะ จากคุณ : สวัสดีจ้ะความสุข (APASAI) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:02:06

ความคิดเห็นที่ 22 ชีวิตลิขิตเองครับ มองหาโอกาสที่จะเข้ามาในชีวิต แล้วรับโอกาสนั้นมาต่อยอดครับ สู้สู้ จากคุณ : Pannaton เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:48:16

ความคิดเห็นที่ 23 เออ คุณรู้ไหมครับว่า เงินเดือนที่คุณได้รับมาทุกวันนี้หน่ะ มันมาจากพวกเราทั้งสิ้น ไม่ใช่เงินของคุณอภิสิทธิ์ คุณเนวิน คุณบรรหาร คุณทักษิณ หรือใครทั้งนั้น มันคือเงินที่พวกเราจำยอมต้องจ่ายภาษี การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการนั้น ถ้าคุณจำได้ ไม่มีใครว่าเลย มีแต่บ่นพวกพ่อค้าที่ประกาศขึ้นราคาสินค้าอย่างเอารัดเอาเปรียบทั้งนั้น แต่พวก สส สันหลังยาว สว สันหลังหวะต่างหาก ที่ประชาชนผู้เสียภาษีต่างกรีดร้องบอก ไม่ให้เว้ย ไม่ให้ขึ้นเงินเดือนเว้ย งานการไม่ทำ เอาแต่ฉุดรั้งให้ประเทศชาติถอยหลังลงคลอง แถมผลาญเงินภาษีเราไปสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ให้พวกมันนอนเล่นเวลาประชุมสภาหน่ะ สุดท้ายของความเห็น ณ ตรงนี้คือ คุณอาสาเป็นข้า ในราชการ ซึ่งรู้อยู่แล้วว่า เงินเดือนมันต่ำมาก แต่ก็แลกด้วยสวัสดิการที่เลิศหรูไปจนคุณแก่ตาย มันสมควรแล้วหรือ ที่จะบอกว่า เงินเดือนฉันน้อยนะ เห็นใจกันบ้าง เราไม่ได้ให้คุณไปทำหน้าที่ตรงนั้นนะ คุณเดินไปสมัครและสอบ กพ เอง ในเมื่อ ณ ขณะนี้คุณเป็น ข้า ในราชการแล้ว คุณควรทำหน้าที่ให้เต็มที่ แล้วประชาชนตาดำๆ อย่างพวกผมจะสรรเสรฺยพวกคุณเอง ทำงานติดทองหลังพระ แม้คนจะไม่เห็น ณ ตอนนี้ แต่มันจะล้นออกมาข้างหน้าเอง เพราะประเทศชาติจะก้าวเดินได้ ไม่ใช่เพราะนักกินบ้านกินเมือง แต่เป็นเพราะพวกเรา ประชาชน และ ข้าราชการ ถูกต้องไหมครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:09:35

ความคิดเห็นที่ 24 อายุเยอะแล้ว จะออกไปลุยกับเด็กๆ ก็คงไม่ไหว ทนทำไปเรื่อยๆ ดีกว่าตกงาน เงินเดือนเท่าที่ได้ก็พอกินพอใช้ ไม่ถึงกับเดือดร้อน แต่ก็ไม่ค่อยเหลือ จากคุณ : ชายอ้วนเสื้อลายดอก เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:29:17

ความคิดเห็นที่ 25 เฮ้ยๆๆ .... เงินเดือนที่ข้าราชการได้ ก็มาจากภาษีพวกผมทั้งนั้น แล้วคุณคิดว่าประชาชนผู้เสียภาษี ไม่เดือดร้อนจากค่าครองชีพหรือไง ต้องขวนขวาย ทำงานหนัก ต้องผจญความเสี่ยง ต้องพัฒนาตัวเอง มากกว่าคนทำงานราชการ ถึงจะมีรายได้เพิ่ม แถมต้องมาแบกรับภาระภาษี จากการขึ้นเงินเดือนข้าราชการอีก เพราะสุดท้าย งบประมาณที่เอาจ่ายเงินเดือน ก็ต้องเป็นภาระของพวกผม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่างพวกผม ที่ต้องรับกรรมไปอีกยาว เพราะรายจ่ายตรงนี้ ปรับขึ้นแล้ว ไม่มีลง คุณไม่คิดเห็นใจเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานคุณที่ต้องรับภาระภาษีในอนาคต ที่เกิดจากการกระทำตรงนี้หรือไงครับ ทั้งค่าใช้จ่ายสวัสดิการของพวกคุณ ทั้งการขึ้นเงินเดือน ถามจริงๆ ถ้าราชการได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น พวกคุณจะขยันทำงานขึ้นหรือเปล่า หรือพวกคุณ ยังทำงานเหมือนเดิม คำตอบนี้ คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ แล้วคุณคิดว่า ประชาชนผู้เสียภาษีเค้าคิดยังไงหละ (ช่วงนี้ผมอาจจะดุหน่อย เพราะกำลังอารมณ์เสียกับสรรพากร) แล้วคุณเจ้าของกระทู้ ใน คห5 ได้มาพูดไว้ว่า "ที่ผมออกมา ตั้ง กระทู้เพราะเบื่อ คนบางคนที่ชอบกัด ไม่อยากให้เงินเดือนขึ้น เงินเดือนขึ้นของแพง อ่านแล้วรู้สึกเซ็งอย่างมากครับ เพราะของมันแพงอยู่แล้วถ้าไม่ให้เงินเดือนขึ้นมันก็แย่สิครับ สำหรับคนที่มีอาชีพรับจ้าง เวลาหุ้นแล้วอยากให้ขึ้นเฮงซวยครับ " ใช่ครับ หุ้นขึ้นมันเฮงซวย ยังไงขอก็ขอให้หุ้นที่ กบข. มันลงๆๆ ชาวบ้านขึ้น ก็ขอให้ขึ้นน้อยกว่าชาวบ้าน เพราะหุ้นขึ้นมันเฮ็งซวยอย่างที่คุณว่า เวลาพวกคุณเกษียณ ก็จะได้มีเงินน้อยๆ ได้เงินเยอะมันไม่ดี เพราะหุ้นขึ้นมันเฮ็งซวย จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 19:13:47

ความคิดเห็นที่ 26 อาชีพราชการก็เสียภาษีนะครับ แล้วรายได้ก็มาจากหยาดเหงื่อแรงงานเหมือนกัน เป็นแรงคนหนึ่งเหมือนกัน ญาติพี่น้องผมก็อาชีพใช้แรงงานเหมือนกัน  มันไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่ค่าแรงคงที่ เป็น 10 ปีก็ไม่ขึ้น  ถ้าคุณหาได้ผมจะกราบคุณงามๆๆ  แล้วไอ้ที่มาด่าว่าของขึ้นเพราะค่าแรงขึ้น กลับไปดูใหม่นะครับ เมื่อก่อนทานข้าวจานล่ะ 20 เดี๋ยวนี้ 30 แล้วครับ ช่วงนั้นถึงช่วงนี้เงินเดือนผมยังไม่ได้ปรับเลยครับ   นะครับคุณ shine-rise จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 19:55:50

ความคิดเห็นที่ 27 ข้าราชการก็เสียภาษี ผมไม่เถียงครับ แต่รองนับ ดูหน่อยว่า ภาษีที่คุณจ่ายให้รัฐ กับเงินที่คุณรับภาษีประชาชน อะไรมากกว่ากัน และรายได้ของราชการ ก็ฐานภาษีไม่สูง ยกเว้นพวกระดับบน เดือนละเป็นแสน หรือ ทำงานเป็นหมอ กับข้าราชการระดับ ถามหน่อยว่า มีข้าราชการกี่คนที่เสียภาษีฐาน 30% แต่ประเด็น คือ ถ้าคุณทำงานหนัก คุณก็ควรได้ค่าแรงเพิ่ม คุณมีฝีมือ คุณเก่ง ก็ควรได้ค่าจ้างเพิ่ม อันนี้ผมสนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้าจ่ายค่าแรงเพิ่ม แต่ก็ยังทำงานเช้าชามเย็นชาม อันนี้ผมไม่เห็นด้วย เพราะมันเป็นภาระภาษีของคนทั้งชาติ คนที่เหนื่อยคือ คนเสียภาษีหนักๆ ทั้งบริษัทต่างๆ คนรายได้สูง และดีไ่ม่ดี รัฐอาจจะผลักภาระ โดยการขึ้น VAT อันนี้โดนทั้งประเทศ ซึ่งมองว่า ในไม่ช้า มันอาจจะต้องเกิด การขึ้นเดือน ผมไม่เห็นด้วย แต่ถ้าขึ้นตามผลงาน หรือให้เบี้ยยังชีพพิเศษสำหรับข้าราชการที่เงินเดือนน้อยจริงๆ เพิ่มเบี้ยกันดาล สำหรับข้าราชการ ที่ไปลำบากในชนบท หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ให้ กับคนที่มีผลงาน ไม่ใช่ทุกคนได้เท่ากัน แบบนี้คนเก่ง คนขยัน ก็หมดแรงจูงใจไปซะเปล่าๆ และผมถามคุณเพิ่ม คุณกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวผับ หรือเปล่า คุณเคยคิดมั้ยว่า ถ้าคุณใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นจริงๆ เงินตรงนี้อยู่ได้มั้ย ส่วนใหญ่ที่เงินไม่พอใช้ ผมเห็นพวกนี้ ไปอาบอบนวด ไปดื่มกัน สังสรรกัน หรือถ้าคุณไม่ทำ ก็ดี แต่ถ้ายังไม่พอ ลองถามตัวเองว่า ใช้อะไรเกินตัวหรือเปล่า รถคันใหญ่ไปมั้ย บ้านหลังใหญ่ไปหรือเปล่า ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเกินความจำเป็น ถ้ายังไม่พออีก คุณเคยคิดหาอาชีพเสริมมั้ย เสาร์อาทิตย์ ว่างๆ เคยเอาของไปขายตามตลาดนัด เคยคิดหาลู่ทางทำการค้า เคยหางาน Part time ทำ เพิ่มจากงานประจำหรือเปล่า ผมเห็นคนที่ตั้งใจเก็บเงิน เค้ามัธยัสถ์ เค้าหางานพิเศษทำ เค้าละอบายมุขทุกอย่าง เค้าไม่มานั่งบ่นแบบนี้ ต่อให้มี ก็ไม่เป็นกิจลักษณะ และเค้าเลือกที่จะทำ มากกว่าที่จะพูด เพราะการบ่น การพูด มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น พวกนี้ถึงเงินเดือนน้อย จะก็มีเงินเก็บกันหลักแสน บางคนขยันจนร่ำรวยก็มี แทนที่คุณจะมานั่งบ่น ขอเพื่อส่วนแบ่งจากเงินภาษี ของคนอื่น ทำไม ไม่เอาความรู้สึกนี้ แปลเปลี่ยนเป็นพลัง ในการหาช่องทางหารายได้พิเศษ และสร้างวินัยในการใช้เงินหละครับ จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 23:38:07

ความคิดเห็นที่ 28 เข้าใจอารมณ์ค่ะ บางทีเห็นหลายคนชอบจิกกัดการขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็เซ็งอยู่เหมือนกัน และเห็นด้วยกับการขึ้นเงินเดือนหรือปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการ เพราะบางหน่วยงานเงินเดือนก็ต่ำเกินไปมาก จริงๆ แล้วส่วนตัวเห็นว่าควรมีการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการให้เยอะกว่านี้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เราได้คนเก่งๆมาทำงานราชการด้วยซ้ำไป จากคุณ : Flying Duckman (Flying Duckman) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 01:23:00

ความคิดเห็นที่ 29 ผมขอเถียงนิดครับที่บอกว่า ข้าราชการก็เสียภาษีเหมือนกัน ที่เถียงนี่ เพราะผมก็เข้าใจว่า ข้าราชการฐานเงินเดือนน้อยมาก ยกเว้นพวกตำแหน่งสูงๆ ถ้าว่ากันตามประมวลรัษฎากรแล้ว คนที่เงินเดือนไม่เกิน 20,000 บาท หรือรายได้ทั้งปีไม่เกิน 240,000 บาท จะไม่เสียภาษีเลย ทำไมผมถึงพูดเช่นนั้นนะเหรอครับ ก็เพราะว่า ถ้าเงินได้ทั้งปีแค่ 240,000 บาท หักค่าใช้จ่าย 40% ไม่เกิน 60,000 บาท หักค่าลดหย่อน 30,000 บาท ไม่ต้องจะต้องเสียประกันสังคมที่ให้คุณภาพการรักษาพยาบาลต่ำกว่าบัตรทองอีก 9,000 บาท นะ จะเหลือเงินได้พึงประเมินที่ใช้ในการคำนวณภาษีแค่ 150,000 บาทเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเสียภาษีที่ 0% คือไม่ต้องเสียภาษีเลย ผมไปเปิดดูในพระราชกฏษฎีการ ปี 2550 ว่าด้วยการปรับเงินเดือนข้าราชการ พบว่า ข้าราชการพลเรือน อันดับ ท.5 ขั้น 16.5 ยังมีเงินเดือนน้อยกว่า 20,000 บาทต่อปี ผมเข้าใจว่า อันดับ ท.5 นี่ น่าจะตำแหน่งระดับผู้บริหารระดับล่างๆ ถึง กลางๆ แล้วนะ แสดงว่า ยังมีข้าราชการชั้นผู้น้อยอีกจำนวนมาก ไม่ได้เสียภาษี ผมเข้าใจว่า คุณ เก่ง-ชุมแสง น่าจะมีชั้นยศ เป็นหัวหน้าคนแล้ว เงินเดือนน่าจะเกิน 20,000 บาท จึงต้องเสียภาษี เป็นหัวหน้าคนในสถานที่ราชการนี่ ต่อให้คนรวยแค่ไหน ก็ต้องยกมือไหว้ เพราะมีเกียรติมาค้ำคอ หากเทียบกับหัวหน้างานในโรงงานอุตสาหกรรม มันเทียบกันไม่ได้เลย แม้เงินเดือนจะเท่ากัน หลายๆ ที่ แม้แต่คนที่ได้ตำแหน่งผู้จัดการ มันก็ไม่ได้มีเกียรติเยี่ยงข้าราชการไทย แถมต้องทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย ไม่งั้นแล้วอาจถูกเลิกจ้างได้ ไม่เหมือนข้าราชการไทย ที่ไม่กระทำความผิดร้ายแรงจริงๆ ไม่มีวันตกงาน ขอให้คุณ เก่ง-ชุมแสง ภูมิใจเถอะที่ได้รับหน้าที่เป็นข้าฯของแผ่นดิน อย่ามาป่าวร้องขอขึ้นเงินเดือน ภายใต้ประสิทธิภาพการทำงานที่เท่าเดิม ในสายตาชาวบ้าน ถ้าคุณมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน อย่างกรมที่ดิน ที่เห็นภาพการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ไม่มีชาวบ้านคนไหนจะมาแย้งการขึ้นเงินเดือนพวกคุณหรอก แต่ถ้าข้าราชการไทยยังทำงานเช้าชาม เย็นชาม ประชาชนตาดำๆ มาติดต่อราชการที เหมือนมาขอทาน ใครอยากจะให้ขึ้นเงินเดือนละครับ ก็อย่างที่ผมบอก ข้าราชการไทยได้ขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากเห็นด้วย (แสดงว่ามีส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยนะ) แต่อย่างพวก สส สันหลังยาว โดนการประชุม หรือทำให้การประชุมล่มแล้ว ล่มอีก ประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการขึ้นเงินเดือน คุณ เก่ง-ชุมแสง เป็นข้า ในราชการ ได้ทำหน้าที่แบบไหนละครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 08:39:27

ความคิดเห็นที่ 30 ^ พิมพ์ผิดไปบ้าง ขออภัย อยู่ที่ทำงาน เข้าไปแก้ไขข้อมูลไม่ได้ (ฟังก์ชันบางอย่างไม่ทำงาน) จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 08:45:26

ความคิดเห็นที่ 31 ผลประโยชน์ที่ได้ปรับครั้งนี้ ไม่เฉพาะผู้คนเงินเดือนสูงๆๆนะครับคุณคิดให้ดี  ค่าจ้างรายวันก็ขึ้น  แล้วข้าราชการเริ่มต้นที่เงินเดือนไม่กี่พันนะครับ  ค่าล่วงเวลาไม่มี ไม่มีโบนัส งานไม่เสร็จหอบกลับมาทำที่บ้าน หลายคนเป็นแบบนี้ขอให้มองใหม่ครับข้าราชการขี้เกียจอ่ะ ไม่มีแล้ว อาจมีแค่บางหน่วยงานคุณเล่นพูดรวมเหมาไปหมด  มันไม่ดีครับ มันกระทบคนที่เขาตั้งใจทำงาน  ส่วนพวกที่ทำงานไม่คุ้มกับค่าเงินมันมีอยู่ทุกที่ในสังคมนะครับ คุณต้องใจกว้างแล้วกลับไปมองใหม่  ข้าราชการหลายๆๆคนเสียสละมากกว่าที่พวกท่านคิดครับอย่าเหมารวมหมด  ส่วนเรื่อง อบายมุข มันเป็นเรื่องของแต่ระบุคคล สำหรับผมเหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวร้านอาหาร รถเป็นแค่มอเตอร์ไซค์เก่าๆๆ  ตัวคนเดียว  แต่ถ้าข้าราชการคนไหนมีครอบครัวรายจ่ายจะเพิ่มขึ้น มันไม่ใช่แค่ตัวคนเดียว มันเป็นครอบรัวหัวงว่าคงเห็นใจข้าราชการบ้างครับ  ไม่ใช่อะไรก็ซ้ำเติมเข้าไป จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 16:51:33

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยค่ะ ข้าราชการนี่ฐานเงินเดือนต่ำมากเกินไปมาก ขนาดจบโทมาแล้วยังได้ไม่ถึงสองหมื่น แล้วก็เห็นข้าราชการเดี๋ยวนี้ทำงานหนักกันแทบทั้งนั้น ทำงานเย็นย่ำยังกับเอกชน กลางคืนก็เอางานกลับมาทำ เสาร์อาทิตย์บางทีก็ต้องทำงานอีก จากคุณ : Flying Duckman (Flying Duckman) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 00:43:29

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้างั้นก็อยากให้ปรับเงินเดือนขึ้นเฉพาะคนที่ ทำงานจริงจังครับ ไม่ใช่พวกเช้าชามเย็นชาม ได้เงินเพิ่มด้วย ส่วนข้าราชการที่รายได้น้อยกว่า 12000 ก็น่าเห็นใจ ก็ควรได้เป็นเบี้ยยังชีพพิเศษไป จะจำกัดการใช้งบประมาณได้ ไม่ใช่เหวี่ยงแห ส่วนตัว ผมชอบระบบ ที่ใครทำดี ใครเก่ง ก็ควรได้มาก ไม่ใช่คนสองคน คนนึงทำดี อีกคนขี้เกียจ แล้วได้เงินเพิ่มเท่ากัน เห็นใจคนขยันครับ ผมมองว่า การขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ มันกลับไม่ยุติธรรมกับคนขยัน แถมสร้างภาระงบประมาณโดยใช่เหตุ และที่ซวย ก็คือประชาชนผู้เสียภาษี ก็ตามที่บอกนะครับ พอดีช่วงนี้หัวเสียกับสรรพากร ผมเลย anti พวกนโยบายประชาวิบัติเป็นพิเศษ คุณรู้หรือเปล่า ว่าภาคเอกชนรู้สึกยังไง กับสรรพากร รู้สึกเหมือนปรสิตครับ วันๆเอาแต่รีดไถ แต่ภาคราชการให้อะไรบ้าง ข้าราชการทีดีก็มีครับ แต่ความรู้สึกแย่ๆมันเยอะกว่า ธุรกิจ เจ้ง ไม่เคยคิดจะมาช่วยหรือดูดำดูดีครับ แต่พอมีกำไร ก็จะมารีดเอาภาษี ติดต่อธุรกิจกับราชการ ก็กะเอาใต้โต๊ะ งานภาครัฐกะกินทุกทาง ไม่จ่ายใต้โต๊ะ ไม่มีน้ำมันหล่อลื่นงานก็ไม่เดิน ถ่วงเวลาไว้ จัดซื้อจัดจ้าง ไม่ต้องพูดถึง เสนอซื้อคอมพิวเตอร์ เสนอไปเป็นปี พอคอมตกรุ่น งบไม่ลด เบิกงบมาเท่าเดิม แต่ซื้อจากเอกชนในราคาถูก ที่เหลือก็กินกันเอง เวลาไปดูงาน ถามจริงๆ ไปดูงานจริงๆซักเท่าไหร่ ไป 3 วัน ดูงานจริงวันเดียว ที่เหลือก็ไปเที่ยว เงินภาษีพวกผมทั้งนั้น เป็นเอกชน ทำแบบนี้ โดนไล่ออก แถมโดน blacklist ไปแล้ว ส่วนที่ข้าราชการตั้งใจทำงาน ซื้อสัตย์สุจริต ก็น่าเห็นใจจริงๆครับ แต่ส่วนใหญ่ พวกนี้ไม่ค่อยโต เพราะไม่มีเส้นสาย ต้องเก่งมากจริง ถึงโตได้ คนกลุ่มนี้ต่างหาก ที่ควรได้รับเงินเพิ่ม ไม่ใช้ให้แบบเหวี่ยงแห จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 02:39:45

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่า คุณพี่เก่ง-ชุมแสง น่าจะเขียนถึงพี่ shine-rise นะ ไม่น่าจะเกี่ยวกับผม หรือเปล่าหว่า เอาครับ มุมมองของทั้ง 2 ท่านก็ดีทั้งนั้น สะท้อนให้เห็นภาพทั้ง 2 ฝั่ง แต่ที่แน่ๆ การปรับเงินเดือนข้าราชการไทยยังไงก็ปรับแน่ และยังไม่เห็นมีใครส่งเรื่องให้ศาลปกครองเลยสักคน แถมโพลก็ตอบรับในเรื่องนี้ คุณพี่เก่ง-ชุมแสง น่าจะดีใจ ที่คนส่วนใหญ่เห็นชอบกับเรื่องนี้ ใครที่เห็นแย้ง ก็เป็นกระจกอีกด้านที่สะท้อนภาพปลาเน่าในข้องข้าราชการไทย หากคุณพี่เก่ง-ชุมแสงมีอำนาจวาสนาเป็นใหญ่เป็นโต ก็อยากจะให้ช่วยขจัดปลาเน่าๆ ออกจากข้องนี้ จะได้ไม่มีเสียงกร่นด่าข้าราชการไทยให้คุณพี่เก่ง-แสงชุมต้องเสียความรู้สึกอีก ดีกว่า คุณพี่เก่ง-ชุมแสงจะมาตอบโต้พวกผม ประชาชนตาดำๆ ที่ต้องเสียภาษีเป็นเงินเดือนของพี่ๆน่ะ (ปีนี้ผมเสียเท่าไหร่ว่า อ้อ 1 แสนนิดๆ เอง T.T") จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 09:46:18

ความคิดเห็นที่ 35 อะไรที่แรงไปหน่อย ผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยละกัน พอดีว่ายังวัยรุ่นอารมณ์ร้อนครับ ก็อย่างที่บอกอะครับ ว่าพอทะเลาะกับสรรพากรทีไร แล้วใครมากระตุก เรื่องภาษี ผมหละขึ้นทุกที เพราะไม่ใช่ผมทะเลาะคนเดียวนะ ผมทะเลาะให้คนอื่นด้วย ทั้งเพื่อนผม ญาติผม เหอๆ มันก็เลยออกจะแรง เวลาแสดงความเห็นพวกนี้ (ปกติ ผมจะเรียบร้อยนะ อิๆ) สำหรับภาษี ของผมตกที่ฐาน 20% ปีนี้ ปี 54 น่าจะโดนฐาน 30% ญาติๆผม ก็ตกฐาน 20% กัน แต่คิดว่าอีกไม่นาน ก็จะโดน ฐาน 30% ส่วนเพื่อนๆส่วนใหญ่ ก็ฐาน 10% และมีแนวโน้วต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อย (พวกนี้ทำงานหนักมาก กลับบ้านตี2 เกือบทุกวัน เสาร์อาทิตย์ก็ต้องเตรียมงาน แต่ก็ได้โบนัสคุ้มครับ บางคนได้ไป 10 เดือน) อย่างล่าสุด กำลังช่วยเพื่อนอีกคน ที่ปีนี้กำลังจะโดนภาษีฐาน 30% กำลังไปช่วยวางแผนภาษีให้อยู่ จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 12:30:37

ความคิดเห็นที่ 36 บางทีถ้าคนเรามองออกไปจากตัวเองบ้าง ก็จะรู้สึกดีกับการเสียภาษีมากกว่านี้ ไม่อยากให้มองว่าการเสียภาษีเป็นภาระ แต่มันเป็นการคืนอะไรให้สังคมให้คนอื่นบ้าง จริงอยู่ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินภาษีบางส่วนเข้าไปอยู่ในกระเป๋านักการเมืองซึ่งปัญหามันคือการคอร์รัปชั่น มันไม่ใช่เรื่องของภาษี ภาษีไม่ใช่สิ่งผิด ไม่ใช่การรีดไถ และที่สำคัญเงินภาษีของเราส่วนนึงก็ทำหน้าที่ให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ เข้าไปช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา โครงสร้างภาษีแบบอัตราก้าวหน้าเกิดขึ้นมาก็เพื่อวัตถุประสงค์นี้ เมื่อเรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น ก็ควรตอบแทนและคืนอะไรให้สังคมบ้าง จากคุณ : Flying Duckman (Flying Duckman) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 21:03:41

ความคิดเห็นที่ 37 ผมอยากรู้สึกดีกับการเสียภาษีนะ แต่.. มันยาก เพราะการเมืองก็อย่างที่เป็นอยู่ การคอรัปชั่น ระบบข้าราชการที่ไม่ทันสมัย ระบบสวัสดิการต่างๆ ก็ยังแย่อยู่ และอื่นๆ มันทำให้ประชาชน(ไม่นับข้าราชการ)ยากที่จะยอมรับ พูดตามตรง ยังไม่เคยเห็นเอกชน ที่ยินดีกับการเสียภาษี คนยิ่งทำงานหนัก ยิ่งมีภาระภาษีเยอะ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ ที่เห็นดีเห็นงาม ก็มีแต่ข้าราชการทั้งนั้น ถ้าคุณไม่เคยเจอสรรพากร มาไถ่ อย่างพ่อเพื่อนผม เค้าทำถูกต้องทุกอย่าง แต่สรรพากร ก็ไม่เชื่อ มาตรวจ 3 รอบ กะทำเอาเงินเพิ่มให้ได้ เพราะมีเป้าภาษีไว้ หรือบางที ขอใต้โต๊ะกันเลย แต่พ่อเพื่อนผมเค้าทำถูกต้อง เลยไม่กลัวอะไร คนเป็นข้าราชการ คงไม่เคยรับรู้สิ่งเหล่านี้หรอก โลกแห่งความจริง มันคนละเรื่องกันเลย มีอะไรอีกเยอะ ที่คนเสียภาษีอย่างพวกผมต้องเจ็บช้ำน้ำใจ และไม่รู้สึกดีกับการเสียภาษี ถ้าอยากให้ทำเพื่อสังคม ให้ภาคเอกชนจัดทำมูลนิธิกันเอง ยังมีประสิทธิภาพและให้ประโยชน์ต่อสังคม มากกว่าภาครัฐทำกันเองอีก ไม่มีรั่วไหล แถมเค้าตรวจสอบเข้ม ไม่ปล่อยให้ใครมากินเงินพวกนี้ง่ายๆ ขนาดนมโรงเรียน ยังโกงกันได้ เหนื่อยใจนะครับ เวลาผมบริจาคเงิน ผมจะไม่บริจาคผ่านหน่วยงานรัฐเลย ผมไม่ไว้ใจว่าเงินของผม จะถึงมือผู้ที่เดือดร้อนกี่ % ถ้าระบบการเมืองบ้านเราดี ระบบข้าราชการของเราเยี่ยม ระบบสวัสดิการภาครัฐยอด ผมก็คงจะยินดีกับการเสียภาษี หวังผมจะเห็นมันซักวันนะ ผมก็อยากจะรู้สึกดีกับการจ่ายภาษี เพราะมันเป็นอะไรที่ผมเลี่ยงไม่ได้ เพราะผมต้องจ่ายทุกปี ก็หวังพวกคุณจะช่วยให้เกิดความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นนะครับ การกระทำเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนความคิดคนได้ จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 02:37:16

ความคิดเห็นที่ 38 ผมทำงานราชการ แต่ผมรังเกียจการฉ้อราชบังหลวงมากที่สุด  เกียจการโกงทุกประเภท แต่คนดีคนเลวมีอยู่ทุกสังคมครับ  ผมไม่ค้านที่จะเพิ่มโทษพวกข้าราชการหรือนักการเมืองเป็น 2 เท่า และไม่มีอายุความ แต่อยากให้คนที่ทำงานเงินเดือนน้อยๆๆ ได้เพิ่มค่าแรงเพราะภาระเขาเยอะ เพราะของแพงขึ้น แล้วเพิ่มครั้งนี้ 5% สำหรับคนฐานเงินเดือนต่ำๆ ผมว่ามันไม่มากเท่าไร เพราะคนเหล่านี้จะทำงานจริงๆๆๆ  เขามีภาระที่ต้องจ่ายมากมายครับ ก็อยากให้เห็นใจคนเหล่านี้มากๆๆหน่อยอ่ะครับ แล้วพวกลูกจ้างชั่วคราว ทำงานเท่าข้าราชการแต่เงินได้รับน้อย แต่พวกนักการเมืองท้องถิ่นที่ขึ้นเงินเดือนเท่าตัว ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงครับ ก็หวังว่าคงเข้าใจนะครับ จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 14:31:01

ความคิดเห็นที่ 39 ู^ ^ ^ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมเห็นด้วย และสนับสนุนครับ ทั้งการปราบคอรัปชั่น และช่วยเหลือราชการที่รายได้น้อบจริงๆ โดยเฉพาะคนที่รายได้ ต่ำ 12000 อันนี้น่าเห็นใจจริง แต่นโยบายที่ออกมามันเหวี่ยงแห และฉาบฉาย พวกนักการเมืองมันต้องการหาเสียงโดยใช้เงินภาษีประชาชนครับ แทนที่จะออกกฎเกณฑ์ให้ชัดเจน แต่กับรีบเพิ่มเงินเดือน และเพิ่มให้ทุกคน มันหาเสียงชัดเจนเลยครับ และจากข้อมูลวงใน ของเพื่อนผมที่เป็นคณะทำงานของคุณกรณ์ ปชป มีแผนยุบสภาครับ เพราะโพลที่ทำกันภายใน กำลังชี้ว่า ปชป กำลังมีความนิยมเหนือ พรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยตอนนี้ไม่มีหัวหน้าที่ชัดเจน ปชป ต้องการฉวยโอกาสนี้ ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ก่อนที่ พรรคเพื่อไทยจะแข็ง พวกนี้เค้าเตรียมการล่วงหน้า เริ่มออกนโยบายประชานิยม (ไม่ขอใช้ชื่อใหม่นะครับ เพราะว่าเขาอิเหนาเป็นเอง) หาเสียงก่อนเลือกตั้ง แถมแจกตังกระจาย และสุดท้ายคนที่ซวย ก็พวกผม ที่ต้องรับภาระภาษีในอนาคตไปตามระเบียบ ยังไงก็ถ้าเป็นข้าราชการที่ดี ผมก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ก็อย่างที่บอก อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการราชการ จาก 1 ความเห็น ของประชาชนผู้เสียภาษี ปล. ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนนะครับ ยังไงก็ขอโทษบางเรื่อง ในส่วนที่ออกจะแรงไปด้วยนะครับ บางที ผมอาจจะตรง มันก็เลยแรงไปนิด เหอๆ จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 00:07:29

ความคิดเห็นที่ 40 คุณพี่เก่ง-ชุมแสงนี่ ยังยึดติดอยู่กับเรื่องขึ้นเงินเดือนของข้าราชการจริงๆ แห่ะ อ่านความเห็นของพี่ shine-rise ก็ไม่ได้มีอคติกับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการดีๆ หนิครับ คุณพี่เก่ง-ชุมแสงน่าจะสบายใจ เรื่องปราบคอรัปชั่น จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ปัญหาเดียวของการคอรัปชั่นคือ มันมีอายุความ ผมว่า ถ้าแก้เรื่องอายุความได้ก็น่าจะดีขึ้น คอรัปชั่นในหมู่ข้าราชการและนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็น สส สว สจ อบต อบจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการการเมือง ที่ปรึกษานักการเมือง ฯลฯ ให้ไม่มีอายุความ และถ้าตรวจพบการคอรัปชั่นจำนวนเงินเท่าไหร่ ให้สามารถไล่เบี้ยได้ 7 ชั่วโคตร ทำไมถึงไล่เบี้ยได้ 7 ชั่วโคตรหรือครับ แหม่ ใครเป็นพ่อแม่คน ก็จะรู้ ทำงานได้เท่าไหร่ เข้าบัญชีลูกเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับลูก ให้เงินพ่อแม่ เพื่อตอบแทนพระคุณ แล้วพวกคอรัปชั่น มันก็ต้องมีโยกย้ายเงินไว้กับ พ่อแม่ ลูก และคู่สมรสบ้างละน่า หรือไม่งั้น ที่พวกเขาได้ดิบได้ดี ได้มีเงินใช้ ได้มีการศึกษา ก็มาจากการคอรัปชั่นเงินของแผ่นดิน มันก็สมควรเรียกคืนมาให้ครบทุกบาททุกสตางค์ พร้อมดอกเบี้ยด้วย แต่ไม่มีสิทธิเอาความผิดทางอาญานะ เพราะเขาอาจจะไม่เกี่ยวข้องจริงๆ ดูสิ พวก สส สว สจ อบต อบจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการการเมือง ที่ปรึกษานักการเมือง ฯลฯ ยังคิดอยากจะโกงบ้านโกงเมืองกันไหม ถ้าออกกฏหมายแบบนี้ ยังอยากจะมีถนนควายเดินไหม ยังอยากจะมีรถเมล์นรก ไหม จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 10:58:47

ความคิดเห็นที่ 41 ผมชอบวิธีของสิงค์โปร์ ครับคุณเตร็ดเตร่ ที่สิงค์โปร์ เค้าออกจะตรวจดูว่าข้าราชการคนไหนร่ำรวยผิดปกติหรือเปล่า ถ้าร่ำรวยผิดปกติ แล้วชี้แจงไม่ได้ ยึดทรัพย์ส่วนที่ไม่ปกติทันที หรือสมมุติ คนรายได้เดือนละ 2 หมื่น แต่ซื้อ BMW ขับได้ ต้องชี้แจงที่มาของเงิน ถ้าซื้อแจงไม่ได้ ยึดทรัพย์อย่างเดียว ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะการฟอกเงินทำง่าย เค้าเลยใช้วิธีนี้ ถ้าเมืองไทยเอามาใช้บ้าง รับรองยึดทรัพย์กระจาย (แต่คงโดนขวาง) ลองคิดถึงพวกนายพลบ้านเรา เงินเดือนๆละ 5 หมื่น แต่มีบ้านหลังละ 10 ล้าน 20 ล้าน เมียนายพลใส่เครื่องเพชรเป็นแสน นั่งรถหรู เห็นชัดๆ ว่า โคตรแดกครับ แต่พวกนี้กลับได้รับการยกย่อง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้รับการชื่นชม (เพราะปากบอกว่ามีจริยธรรม และคนไทยก็เชื่อแบบง่ายๆ) ผมเห็นแล้ว รู้ขยะแขยงครับ และที่รู้มา พวกนี้มันเก็บส่วย และธุรกิจเถื่อนตามชายแดน รวมทั้งเงินใต้โต๊ะและเงินค่าคุ้มครองจากธุรกิจหนีภาษี ค้าผู้หญิง ค้ายา เพราะธุรกิจที่ทหารคุม ตำรวจจะไม่กล้ายุ่งครับ จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 12:42:57