|
หลักคิดของผมอาจจะผิดนะครับ คุณหวังว่าเงินของคุณจะเพิ่มจากการลงทุน คุณมีเงินลงทุนปีละ 60,000 บาท คนที่มีเงินเหลือปีละ 60,000 บาท คุณเสียภาษีกี่% 1.หากเสียภาษี 10% คุณจะได้กำไรตรงนี้ 600 บาท(จากการลดหย่อนภาษี) 2.และคุณหวังว่ามูลค่าหน่วยลงทุนจะสูงขึ้น คุณต้องตั้งเงิน 60,000 นี้ไว้ 5 ปี ในช่วง 4 ปี ถ้าคุณต้องการใช้เงินก้อน สัก 250,000 บาทเพื่อลงทุน/ซื้อรถ คุณหมดสิทธิเอาเงินก้อนนี้ไปใช้ ต้องกู้เสียดอกเบี้ยมากกว่า 600 บาท ต้นทุนการหาเงินของคุณอาจมากกว่ากำไรจากการลดหย่อนภาษี และหน่วยลงทุนไม่ใช่มีแต่ขึ้นนะครับ มันมีลงเหมือนหุ้นเหมือนกัน และพวกนี้มักล้อตาม SET index(น่าจะรู้จักset indexแล้วนะครับ) ปี 2538 set index ขึ้นไป 1,700 จุด ปี 2540 set index ลงมา 285 จุด ปี 2545 set index 600 จุด ปี 2550 set index 500 จุด ปี 2554 set index วันนี้ 1,000 จุด คุณคิดว่าปี 2559 set index จะเท่าไหร่ ถ้า set index 2,000 จุด คุณน่าจะมีกำไรทบต้นมากกว่า 150 % =90,000บาท ถ้า set index 1,200 จุด คุณน่าจะกำไร 30% =1800 บาท ถ้า set index 700 จุด คุณน่าจะขาดทุน 25%=1500 บาท ถ้า set index 500 จุด คุณน่าจะขาดทุน 50%=30,000 บาท มันไม่ตาม set index ทีเดียวหรอก แต่นี่คือหลักคิดของผมที่เตือนตอนคนจะซื้อที่สุงๆ พวกที่จะขายก็ยกตัวอย่างคนที่ซื้อเมื่อ 5 ปีก่อนว่ากำไรเยอะ แต่ไม่พูดโอกาสเสี่ยงใน 5 ปีข้างหน้า ไม่มีใครรู้จริงหรอกว่า 5ปีมันจะ 2,000หรือ 200
การตัดสินใจ กำไรขาดทุนเป็นเรื่องของคุณ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับลงทุนแบบนี้ แต่จากคำถามเข้าใจว่ายังไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่(แต่ดีใจที่พยายามหาความรู้) เริ่มลงทุนยิ่งเร็วยิ่งดี ไม่จำกัดจำนวนเงินที่จะลง
ผมอาจจะเขียนในแง่เหมือนจะลบ แต่มีคนเขียนแง่ดีเยอะแยะแล้ว ลองพิจารณาดูนะครับ
แนะให้ลงทุนความรู้มากๆด้วยครับ
สนใจอ่านต่อที่ผมเขียนที่ บล็อกอ่านแล้วรวย http://read-for-rich.blogspot.com
จากคุณ |
:
อ่านแล้วรวย
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ม.ค. 54 05:35:53
|
|
|
|
|