|
ข่าวที่ จะทำให้ตลาดคึกคัก เพราะเมิ่อวันอังคาร เป็นเรื่องของSCB
วันนี้
BBL
ธ.กรุงเทพมีกำไรสุทธิ 24,808 ล้าน จากผลการดำเนินงานปี 53
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่านมา ธนาคารยังคงยึดมั่นในแนวทางการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดและเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในธนาคาร โดยการให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2553 ขยายตัวสุทธิ 112,836 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2552 ซึ่งในไตรมาส 4 เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 89,635 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สินเชื่อที่เติบโตได้ดีในไตรมาส 4 อยู่ที่ภาคอุตสาหกรรมเกษตร และภาคธุรกิจอื่นๆ ดังนั้น ในปี 2554 และธนาคารกรุงเทพมีความพร้อมทั้งในด้านสภาพคล่องและเงินกองทุน เพื่อรองรับความต้องการสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์สภาพคล่องสูงของธนาคาร ทั้งเงินสดและรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน มีจำนวน 385,978 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เงินฝากของธนาคารมีจำนวน 1,394,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จาก ณ สิ้นปี 2552 คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่ร้อยละ 90.1 ซึ่งเป็นระดับที่ยังคงต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยในระบบธนาคารไทย และสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ลดลงเหลือ 45,588 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.0 เทียบกับ 55,638 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4 ณ สิ้นปี 2552 ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้และสภาพเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการลดจำนวนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อไปในปี 2554
นอกจากนี้ ธนาคารยังคงแนวทางความระมัดระวังในการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ ณ สิ้นปี 2553 ธนาคารมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวมทั้งสิ้น 72,452 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งมีอยู่ 65,145 ล้านบาท และมีสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 158.9 แม้ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิคงตัวที่ร้อยละ 2.95 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2,986 ล้านบาท ในขณะเดียวกันรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 7,075 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินรอการขายและการขายเงินลงทุนในธนาคารสินเอเซีย ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0 ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมจากการให้สินเชื่อ บริการบัตรเครดิต บริการชำระเงิน และบริการประกันชีวิตผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) ในปี 2554 ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าว รวมถึงบริการวาณิชธนกิจและบริการจัดการเงินสด
ธนาคารสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในระดับที่น่าพอใจ โดยค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 แต่ธนาคารสามารถสร้างรายได้ในอัตราที่สูงกว่าค่าใช้จ่าย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเหลือร้อยละ 49.2 และเมื่อรวมกำไรสุทธิงวด 6 เดือน หลังปี 2553 มีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 17.0 และร้อยละ 13.4 ตามลำดับ ส่วนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มีจำนวน 231,348 ล้านบาท โดยมีกำไรต่อหุ้น 12.9 บาท และมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 120.8 บาท
จากคุณ |
:
rewat..ta
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ม.ค. 54 09:29:48
|
|
|
|
|