รายย่อยเริ่มต้นปีกระต่ายนี้ด้วยความหวังว่า ปีนี้ต้องเกิด January Effect บ้างสิ ไม่เกิดมาตั้งหลายปีแล้วนะ (แต่พอกลับไปอ่านตำรา ปรากฏว่า มันกลายเป็นแค่ทฤษฏีในตำนานไปแล้ว เราก็ยังหวังว่าจะมีใครกลับมากอบกู้ดัน SET Index ให้วิ่งขึ้นไปม้วนด้วยตามเป้าของปีนี้ ซึ่งโบรกฯทั้งหลายก็พร้อมใจกันบอกว่า 1,200 จุด ปีนี้ ฟันธง!
เริ่มปีใหม่ปั๊บ โอ้ววว ...ราคา Commodities ในตลาดปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ทั้งน้ำมันทั้งถ่านหิน แล้วหุ้นอย่างบ้านปูก็วิ่งรวด 50 บาท ทำให้เราอ้างปากค้าง สาเหตุเพราะเกิดน้ำท่วมในรัฐ Queensland ของออสเตรเลียทำให้ Supply ในตลาดลดลงระยะสั้น ราคาถ่านหินจึงปรับสูงขึ้น แล้วก็ตามมาด้วยการไล่ราคา BANPU ขึ้นมาตามราคาถ่านหินอีกที และไล่ราคาหุ้นตัวอื่น ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวกับ BANPU แต่ไม่เป็นไร เราไม่หาเหตุผล เพราะมันเกี่ยวข้องกับเงินในกระเป๋าเรา J
2 วันทำการแรกของปีตลาดดูดีเชียวปิดเขียวแท่งสวยงาม แต่หลังจากนั้น... ชักเริ่มไม่แน่ใจ และเราก็หาเหตุผลกันได้ว่า อ๋อ! เป็นเพราะเงินลงทุนใน LTF สามารถขายได้ในปีนี้เพราะครบเงื่อนไขแล้วมันน่าจะมีประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท โดนเทขายต่อเนื่องทั้งเดือน ม.ค. นี้ล่ะ ไม่เป็นไรๆ ถึงแม้กองทุนจะอยู่ฝั่งขาย แต่ตราบใดที่ต่างชาติยังอยู่ข้างเรา เราก็ยังสู้ไม่ถอย ว่าแล้วก็นั่งเลือกหุ้น ตัวไหนงบจะออกมาดี ตัวไหนยังมี Story ให้เล่นบ้าง ก็ว่ากันไปครับ
แต่ความกังวลก็เริ่มลุกลามมากขึ้นไปอีกระดับ เมื่อมีแรงเทขายอย่างหนักในประเทศเพื่อนบ้านของเราที่ปีที่แล้วช่วยกันวิ่งขึ้นมาทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ให้ผลตอบแทนติดอันดับ TOP 5 ของโลกทีเดียวตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่ว่า ก็คือ ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ครับ ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ เขาเรียกตลาดทั้งสามตลาดนี้เป็นชื่อย่อว่า TIPs พอตลาดเพื่อนบ้านโดนทุบลงมา ปู่เซ็ตของเราก็อยากจะตามเพื่อนๆบ้างไรบ้าง หลังจากนั้นเราก็เห็นการอ่อนค่าของค่าเงินบาทอย่างฉับพลัน และตลาดหุ้นก็ไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ได้ เมื่อนั้นล่ะครับ ที่เราเริ่มมองเห็นชัดเจนขึ้นมา ปีนี้ท่าทางจะเล่นยากกว่าปีที่แล้ว ลองดูตลาดหุ้นอินโดฯ จะเป็น Front Run ให้เราวิ่งตามป่าวหว่า? เสียวจริงๆเยย