|
เล่นเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นๆพอได้ครับ แต่สำหรับการลงทุนระยะยาวผมมองว่ามันมีปัจจัยลบหลายปัจจัย (ขอแสดงความเห็นเนื่องจากมาสาย)
1. ผู้บริหาร ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ด้วยธุรกิจขนาดใหญ่โตแตกแขนงมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าหนี้สินมากมาย อัตราการเจริญเติบโตก็มีอยู่ แต่นานวันเข้าดูเหมือนไม่ได้ช่วยให้อะไรต่อมิอะไรดีขึ้น ข้อนี้ควรปรับกลยุทธ์ในธุรกิจให้เหมาะสม ปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งผมเห็นหลายๆจุดเป็นปัญหา หนี้สินมาก กำไรน้อย เติบโตช้า มองดูแล้วเหมือนบริษัทนี้เป็นของเล่น ของฝึกทักษะให้ลูกของเจ้าสัวซะมากกว่าครับ เค้ารวยจริงอะไรจริง ณ จุดจุดนี้
2. ธุรกิจแตกแยกมากเกินไป ผมคิดว่าธุรกิจที่ดีเจ้าของควรจะมีความเชี่ยวชาญในบริษัทหรือแนวทางของตน หรือที่เราเรียกว่า Professional การที่เอาธุรกิจแตกแขนงออกไปเยอะๆนับว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงออกไปในกลุ่มธุรกิจแบบอื่น แต่มันทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง โดยเฉพาะ CEO CFO (เชื่อมโยงจากประเด็นที่ 1) คนเหล่านี้ต้องดูแลบริษัทในเครือในกลุ่มทั้งหมดให้ทั่วถึง ซึ่งมันเป็นไปได้ยากที่จะทำขนาดนั้น ต่อให้ไม่ได้นอนเลยใช้เวลาทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ผมคิดว่ายังไงก็ไม่สามารถดูแลเครือข่ายของกลุ่มธุรกิจได้ทั้งหมด เท่าที่ผมนับดูกลุ่มธุรกิจ ที่เป็นเจ้าของโดยทรูคอร์ปอเรชั่นมีทั้งหมด 51 บริษัทด้วยกัน มีเพียง 7 บริษัทที่ทรูไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนบริษัทย่อยผมจะยกตัวอย่างใหญ่ๆละกัน
- ทรูอินเตอร์เนต ผมเชื่อว่าหลายๆคนใช้บริการ แน่นอนว่าคุณภาพค่อนข้างโอเคสัญญาณดี ราคาก็พอประมาณ แต่ถ้าแข่งขันกันเรื่องราคาผมคิดว่า ณ จุดจุดนี้ ทรูยังไม่สามารถแข่งขันกับหลายๆเจ้าได้ที่ให้บริการในคุณภาพเท่ากัน แต่ราคาถูกกว่า ส่วนแบ่งการตลาดกำลังถูกแย่งไปเรื่อยๆ
- ทรูมูฟ เครือข่ายเจ้าปัญหา สัญญาณมีบ้างขาดบ้างเป็นประจำ โดยเฉพาะยอดเขายอดดอยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็มักจะโทรไม่ค่อยออกในขณะที่ คลื่นอื่นสามารถโทรออกได้ชัดแจ๋ว แต่ไม่ต้องไปถึงกลางดงพงไพร เอาแค่ในเมืองหลายท่านยังเจอปัญหาโทรติดๆดับๆ ส่วนแบ่งการตลาดนับวันน้อยลง ในคุณภาพที่ "ดีกว่า" เครือข่ายอื่นๆสามารถให้บริการได้ในราคาที่ "ถูกกว่า" ถ้ายังไม่แก้ปัญหาจุดนี้ สงสัยจะเจริญยาก
- เอ็นซีทรู กลุ่มทรูถือหุ้น 40% บริษัทนี้เกี่ยวกับให้บริการเกม ซึ่งผมเองเคยเล่นเกมในค่ายนี้มาก่อน ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ตั้งแต่เครื่องเซอร์เวอร์ Maintainance ทุกสัปดาห์ พนักงาน การโปรโมท รายจ่ายสารพัดส่วนรายได้คือจากบัตรเติมเกมเพียงอย่างเดียว และฐานลูกค้าส่วนใหญ่มีเพียงแค่ วัยรุ่นเป็นส่วนมาก พูดง่ายๆก็คือวัยเรียนส่วนวัยทำงานมีรึจะหาเวลาไปเล่นได้นานๆ และช่วงเวลารายได้คือช่วงปิดเทอมของเด็ก 2 ปีครั้ง แล้วยังไม่นับ ส่วนแบ่งการตลาดจาก AsiaSoft และ Ini3 ที่มีมากมายมโหฬารสารพัดเกม มิหนำซ้ำนับวันเกมนี้ยิ่งมีผู้เล่นน้อยลงทุกที ทุกวันนี้ NCTrue ทำตัวคล้ายๆเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายของกลุ่ม True ที่รอวันจะต้องโดนผ่าตัดครั้งใหญ่
- ทรูมันนี่ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามันนี่ มันต้องเกี่ยวกับธุรกิจการเงิน ธุรกิจนี้เกี่ยวกับบัตรเติมเงิน บัตรทรูมันนี่และรูปแบบการเงินครบวงจรของทรู ที่เคยวาดฝันไว้ว่าจะทำให้สามารถชอปปิ้งออนไลน์ได้ทั่วไป ใช้แทนกระเป๋าเงิน แทนบัตรเครดิตได้ พูดง่ายๆคือจะทำออกมาเป็นเงินรูปแบบใหม่ที่สะดวกขึ้น สุดท้ายก็ตีตลาดไม่สำเร็จตามที่ฝัน ซ้ำยังมีรายจ่ายมากมาย แต่ปัจจุบันลดไปได้มากแล้ว แต่ด้วยความที่ทรูมันนี่คิดค่าธรรมเนียมโหดเกินเหตุผู้ใช้บริการ จึงไม่มีใครอยากจะใช้ เอายกตัวอย่างกันง่ายๆ สมมติว่าคุณเติมเงินเข้าบัญชีทรูมันนี่ 10,000 บาท ถ้าคุณต้องการถอนออกเลิกใช้งาน คุณจะเหลือเงิน เพียงแค่ 9,200 บาท (โดนหักค่าธรรมเนียมตั้ง 8%) และต้องรอกว่าเกือบเดือนกว่าเงินจะเข้าบัญชี / แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวกรวดเร็วสามารถ กดเงินได้ผ่านตู้กรุงศรี ส่วนค่าธรรมเนียมจะถูกหัก 12% ก็เหลือเงินกลับบ้าน 8,800 บาท มันบ้าไปแล้ว ใครจะไปใช้คิดเงินโหดบ้าเลือดขนาดนี้
- ทรูวิชั่น ชื่อที่คุ้นเคยในนาม UBC บริษัทนี้ทำกำไรพยุงให้กับกลุ่มทรูเพราะผูกขาดตลาดทีวีเพียงเจ้าเดียวในไทย ใครอยากดูทีวีชัดๆ ดูช่องต่างประเทศ ดูหนังฟรี ดูเพลงอะไรไป ก็ดูได้เลยที่นี่ เพราะบริการที่เดียว ส่วนช่องดาวเทียมอื่นๆก็แล้วแต่จะสัญญากันไป จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นพอควร แต่เชื่อไหมว่าในไม่ช้า UBC จะกลายเป็นหนามตำใจของทรูเพราะจะถูกทดแทนด้วย internet TV แทน
- ทรูคอฟฟี่ ผมไม่แน่ใจว่าทรูคอฟฟี่อยู่ในเครือของบริษัทย่อยไหนเพราะมันมากมายเหลือเกิน แต่ผมอยากจะรู้เหลือเกินว่าทรูคอฟฟี่มันดีมากตรงไหน ถึงได้คิดอยากจะทำร้านกาแฟ ผมเชื่อว่าในราคาที่เท่ากัน ถ้าเลือกกินกาแฟระหว่างสตาร์บัคส์ กับทรูคอฟฟี่ คนส่วนใหญ่จะกินร้านไหน คงไม่ต้องบอก เค้าคงเดินเข้ากาแฟร้านเขียวกันเป็นแถว แล้วเทือกเถาเหล่ากอของบริษัททรูก็ไม่เคยประกอบธุรกิจกาแฟ เมล็ดกาแฟ หรืออะไรเกี่ยวกับกาแฟ อยู่ๆมาทำกาแฟแถมมีสาขามากมาย ผมเองก็เคยมีโอกาสไปทานกาแฟที่ทรูคอฟฟี่อยู่บ่อยครั้ง บอกได้คำเดียวว่ายังสู้สตาร์บัคส์ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ที่บอกมามีแต่ข้อเสียนะครับ จริงๆข้อดีของเขาก็มีอยู่บ้าง แต่ข้อเสียของกลุ่มธุรกิจนี้คือมันใหญ่เกินไป ดูแลไม่ทั่วถึง และยังไม่มีความเชี่ยวชาญ ในธุรกิจบางประเภทที่ตนเองไม่เคยทำ หรือทำไม่ถนัด (แต่ดันทุรังอยากทำ) ดังนั้นสิ่งที่บริษัทนี้ต้องทำอย่างมากคือ ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งหมด ปรับปรุงแผนงาน และกลุ่มบริษัทย่อยของตัวเองให้มากขึ้น ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง (ที่ผ่านมาผมเห็นบริษัทในเครือมีรายจ่ายไร้สาระค่อนข้างมาก) และหันมาเพิ่มรายได้โดยการพัฒนากลุ่มธุรกิจที่ตนเองถนัดให้มีความแปลกใหม่ หลากหลาย และน่าสนใจมากขึ้น เมื่อนั้นหุ้นทรูจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจ สำหรับผมและนักลงทุนมากๆเลยทีเดียว เพราะพื้นฐานเขาค่อนข้างแข็งแกร่งจากธุรกิจที่เขาถนัด แต่ดันไปตายเอาธุรกิจเนื้อร้ายทั้งหลาย
ผมเคยคิดเล่นๆเหมือนกันว่าถ้าเป็น CEO True Corp. ผมจะทำอะไรบ้าง และผมเชื่อว่าคงทำให้มันไปได้ไกลและดีกว่าที่เป็นอยู่ได้แน่ๆ (ฝันๆ)
*** คห. ส่วนตัวล้วนๆ ***
จากคุณ |
:
venezier
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ม.ค. 54 02:29:02
|
|
|
|
|