ความคิดเห็นที่ 1 http://www.google.com/search?ie=tis-620&oe=tis-620&q=Daily+VI+discussion&sitesearch=pantip.com/sinthorn&x=0&y=0 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 08:51:56

ความคิดเห็นที่ 2 ... จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 08:52:09

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว วันว่างอยู่บ้านเปิดสมุดบันทึกเกี่ยวกับหุ้นขึ้นมาอ่านเล่นๆ (ปกติผมมักจะเขียนข้อมูลต่างๆลงไว้ในนี้) เปิดผ่านๆไป แล้วไปสะดุดอยู่หน้าหนึ่งที่เขียนไว้เมื่อเดือนพฤษภา ปี2550 เป็นรายชื่อหุ้นที่มีเงื่อนไขคือ 1. P/E < 10 2. P/BV < 1.0 และ 3. %Yield > 6% มีรายชื่อหุ้นที่เข้าข่ายรวมทั้งหมด 11 ตัว หากเทียบราคาหุ้นปัจจุบันกับ ณ ตอนนั้น บางตัวได้ผลตอบแทนมากกว่า 5 เด้ง บางตัวได้มากกว่า 1 เด้ง บางตัวราคาไม่ไปไหน น้อยตัวที่ราคาต่ำกว่าอดีต ยกขึ้นมาให้อ่านเล่นกันเฉยๆ เพราะความคิดที่เขียน ณ ตอนนั้น (ความคิดเด็กน้อย)ก็คือ หุ้นที่มี p/e <10 ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าไม่แพง และมี p/bv <1.0 อย่างน้อยที่สุด ราคาหุ้นยังต่ำกว่าสินทรัพย์ (หุ้นจำพวกนี้ มีโอกาสทำกำไรแบบเด้งได้ง่ายกว่าตัวอื่นๆ) และปันผลมากกว่า 5% ต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าโอเค เลยเป็นที่มา ของรายชื่อหุ้นข้างต้นครับ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:38:54

ความคิดเห็นที่ 4 มาดูลายมือคนรวย ฮิฮิ จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:41:36

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดียามสายครับ พี่คนที่รวย จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:42:43

ความคิดเห็นที่ 6 หวัดดีครับพี่จิ้งจกเขียว ลายมือผมเป็นไงบ้างครับ โหวงเฮ้งพอจะเป็นคนรวยได้ไหม อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:43:53

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีค่ะ คุณฯอยากรวยและท่านอื่น ๆ ที่กำลังจะเข้ามา วันนี้ขาหมูอาการไม่ค่อยดีเลยค่ะ เจ็บคอ+ไอแห้ง ๆ ระวังกันด้วยนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อย เหมือนดัชนีตลาดยังไงยังงั้น จากคุณ : ขาหมู (Ooh 1234) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:44:54

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นลายมือแล้ว บอกได้ว่า เป็นคนใจเย็น เพราะผมลายมือหวัดมาก (มือช่างเขียนช้าไม่ทันใจเลย เลยออกมาหวัดมาก) บางทีตัวเองยังอ่านลายมือตัวเองไม่ออกเลย ว่าแต่ว่า ทำไมมี WG ของผมไปอยู่ในรายการด้วยล่ะ แล้วตัวเลข 53 คืออะไร (หวยเปล่า) แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 09:53:14 จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:52:14

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวเลข 53 คือราคา ณ ตอนนั้นครับ พี่เดาว่าผมเป็นคนใจเย็นหรอ งั้นผมก็เป็นนักลงทุนในหุ้นได้สิ เพราะว่าผมเป็นคนใจเย็น 555 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:55:21

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับคุณฯรวย ถ้าเลือกหุ้นตามนั้น ซื้อแล้วถือถึงตอนนี้ เริ่ม ปัจจุบัน ผลตอบแทน% Choti 167 175 4.8 IFEC 1.12 1.72 53.6 Thana 1.58 2.4 51.9 Maco 2.94 3.9 32.7 Wg 53 67 26.4 Becl 18 18.9 5.0 Tcoat 16.2 20.2 24.7 Thip 30 38.75 29.2 Aj 4.18 27.75 563.9 Tmd 60.75 73 20.2 เฉลีย 81.2 ได้ capital gain ตามข้างต้น 81% ไม่รวมเงินปันผล ชนะตลาดแล้วครับ ทั้งหมดนี้มาจากหุ้น AJ เจอไป 5 เด้ง สุโก่ยครับ เดี๋ยวมาอ่านต่อครับ จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:56:24

ความคิดเห็นที่ 11 เงินทองไม่กระเด็นรั่วไหลเลยนะครับ ถ่อมตัวไม่ค่อยโลภเกินกำลัง เลขศูนย์เพรียวแคบและหัวปิดทุกเม็ดเลย 555555+ คนรวยลายมือแบบนี้เอง อิอิ จากคุณ : modpon เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:58:29

ความคิดเห็นที่ 12 โอว พี่ modpon เก็บทุกรายละเอียด ถูกใจมากกับประโยคที่ว่า "เลขศูนย์เพรียวแคบและหัวปิดทุกเม็ด"   ลายมือคนรวยเป็นอย่างไร หากมีโอกาส จะเอาลายมือ ดร.นิเวศน์ มาให้ได้ชมกันนะครับ อิอิ (เคยเจอ ดร.ที่งานจิบเบียร์ thaivi หนึ่งครั้ง และให้ ดร.เซ็นต์ชื่อลงบนหนังสือตีแตกของผม) จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:05:12

ความคิดเห็นที่ 13 ได้ยินมาว่า ดร. ก็เป็นคนใจเย็นอันดับต้นๆ เลยครับ จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:06:30

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ผมเจอตัวจริงเสียงจริง ตอนไปนั่งกินข้าวพร้อมกับอาจารย์ไพบูลย์ อาจารย์เสน่ห์ ผมมีความรู้สึกส่วนตัวว่า อาจารย์ไพบูลย์กับอาจารย์เสน่ห์   นิ่งกว่าท่านดร.นิเวศน์ครับ + แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 10:14:46 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 10:14:19 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:14:02

ความคิดเห็นที่ 15 อยากเห็นลายมือเฮียเอนโดครับ ขอกันโท่งๆ แบบนี้เลยแหละ 55 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:17:08

ความคิดเห็นที่ 16 พี่ gongort2 ผมมีความคิดว่า หากเงื่อนไขของเราคือการซื้อด้วย กฎสามข้อข้างต้น เป็นไปได้ว่า ผลตอบแทน ณ ปัจจุบันอาจไม่ได้เท่ากับที่พี่คำนวณไว้ (81% ไม่รวมปันผล) จะต้องมีหลายๆตัวที่เผลอขายทำกำไรออกไป เหตุผลเพราะ เงื่อนไขเกินขอบเขตจำกัดของ กฎสามข้อมามากแล้ว ยกตัวอย่างเช่น AJ เป็นต้น 555 แต่ก็อย่างว่าครับ หากเราซื้อหุ้นโดยไม่รู้ปัจจัยพื้นฐาน มันก็คือนักพนันที่โชคดีที่ได้กำไรเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 10:32:04 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:26:32

ความคิดเห็นที่ 17 ลายมือเขียน และ เส้นลายมือ เปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลาและความรู้สึก บ่งบอกตัวตนของแต่ละบุคคลได้ส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่รู้ลายมือเปลี่ยนตามคนหรือคนเปลี่ยนตามลายมือ แต่การกระทำณ.ปัจจุบันสำคัญสุดมีผลมากสุดต่ออนาคตไม่ใช่ดวงหรือลายมือ จากคุณ : modpon เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:28:24

ความคิดเห็นที่ 18 คุณฯอยากรวย   ขนาดจะเซนต์หนังสือที่ไล่แจก เอ๊ยที่ขาย ยังไม่ค่อยอยากจะเซนต์ เพราะมีคนบอกความจริงให้รู้ว่า   ลายมืออย่างกับเด็ก ป.๔ คนที่บอกคือ ภรรยาผมเอง เอาลายมือภาษาจีนไปแทนก็แล้วกัน คงไม่มีใครดูออกว่า  ลายมือแย่หรือดี เขียนผ่านปากกาวาดภาพ + จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:45:08

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับล มาเติมอีก 1กล่อง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:51:14

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเชิญอากู๋มาเป็นล่าม ผมบอกเขาเป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้เขาแปลเป็นภาษาจีน ไม่รู้ว่าผมจ้างเขามาคุ้มไหม 555 抱歉 我不明白 等待一分鐘 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:56:17

ความคิดเห็นที่ 21 อยากรู้เหมือนกันว่าชื่อตัวเอง ภาษาจีน เขียนยังไง ชื่อ เอี๊ยบเป็งเฮง จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:07:02

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับเฮียเอ็นโดฯ กล่อง 18 แปลว่าอะไรครับ ตัวบนซ้าย ไม่เข้าใจความหมาย บนขวา เหมือนแปลว่า พิกัด ล่างซ้าย เพิ่ม ล่างขวา น้ำมัน ขอเรียนภาษาจีนกับเฮียอีกแล้ว จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:12:39

ความคิดเห็นที่ 23 pantip ระบบขัดข้องหรืออย่างไรครับ ? จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:19:49

ความคิดเห็นที่ 24 เป็น indicator ว่าสมาชิกพันทิป ลงทุนใน SVI เยอะมังครับ จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:22:52

ความคิดเห็นที่ 25 ผมขอเห็นต่างว่า factor P/BV น้อยกว่า 1 ไม่ใด้เป็นตัวเลือกที่ดีเสมอไป ถึงแม้จะเป็นตัวกรองหนึ่งที่อาจจะจำเป็นสำหรับการลงทุนแบบ Conservative โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจจะทำให้คุณพลาดที่จะลงทุนในกิจการที่มีความสามารถในการทำกำไรสูงไปได้ครับ เช่น กิจการประเภท trading company ที่มีอัตราหมุนของสินค้าสูง ๆ (ยิ่งถ้า margin ดีก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก) ถ้ามองในแง่ร้าย P/BV เป็นตัวบอกถึงความไร้ความสามารถของฝ่ายบริหาร ในการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปใช้หาประโยชน์ (ยกเว้นบริษัทที่ต้องมีการลงทุนใน fixed assets หรือบางอุตสาหกรรม) ความเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:28:36

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ gongort 2 股票加油   อ่านเป็นภาษาจีนกลางคือ กุ่ เพียว เจีย อิ๋ว กู่เพียวแปลว่าใบหุ้น  เจียอิ๋วถ้าแปลตามตัว หมายถึงเติม น้ำมัน เป็นภาษาที่กองเชียร์จีนใช้เชียร์กีฬา หมายถึงว่า สู้สู้ เร่งมือ ซึ่งก็คือให้เหยียบคันเร่ง  เพื่อเร่งความเร็วรถครับ กู่เพียวเจียอิ๋ว ก็คงเป็นการเชียร์ให้หุ้นในพอร์ตสู้ตาย  ไว้ลาย ประมาณนั้น       แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 11:40:45 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 11:39:36 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:35:55

ความคิดเห็นที่ 27 วันนี้กลายเป็นกระทู้เรียนภาษาแล้วนะคะเนี้ย ขาหมูขออนุญาตขอคำแนะนำนะคะวันนี้ เรื่อง...... ...การคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต... ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากสำหรับขาหมูมากเหลือเกิน มองไม่ออกเลยค่ะ ยกตัวอย่าง นะคะ หุ้นเหล็ก ที่ซื้อบิลเล็ดมา แล้วมาผลิตเหล็กรีดเย็นที่ไทย แล้วขายที่ไทย ไม่ได้ส่งออก เป็นเหล็กกลุ่มก่อสร้าง ต่อมาขาหมูก็พยามยามหาข้อมูลภายนอกมาช่วยประกอบ หลังจากดูข้อมูลบริษัทแล้ว ทราบว่าบริษัทซื้อ raw mat มาจากไหน ผลิตยังไง ขายยังไง ซื้อมาราคาตลาดโลกที่เท่าไหร่ ขายที่ราคาประมาณเท่าใด แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์อนาคตอีก 1 ปีหรือ 2 ปีออกเลยค่ะ -_-" หากบอกว่าจะต้องหาข้อมูลย้อนหลังไปเป็น 5 ปี 10 ปี ว่าช่วงไหนบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง มันก็ยากเย็ญเหลือเกิน พอดีได้ web ที่คุณฯอยากรวยให้มา ก็เข้าไปดู แต่ก็มึน ๆ อยู่ค่ะ จึงอยากรบกวนถามว่า หากต้องการที่จะคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคตสัก 2 ปี ควรที่จะศึกษาปัจจัยใดบ้างค่ะ? ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : ขาหมู (Ooh 1234) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:57:31

ความคิดเห็นที่ 28 หวัดดีครับพี่  Morning Star ถ้าเงื่อนไขคือกฎ 3 ข้อ ประจวบกับจังหวะที่พอเหมาะ ผมคงร่ำรวย กินอิ่มนอนหลับ รับปันผลสบายใจได้แบบพี่ครับ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 12:11:14 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:07:04

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณเฮียมากครับ กู่เพียวเจียอิ๋ว ให้พอร์ตผมด้วยคนครับ ที่จริงอยากตอบคุณขาหมูมาก แต่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องเหล็กเลย ขออนุญาต แสดงทัศนคติแบบเม่า เกี่ยวกับการคาดการณ์ผลประกอบการอนาคตหน่อยนะครับ หุ้นตัวที่มีอยู่ในพอร์ตตอนนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกิจการที่พอจะประมาณการได้ว่า ผลประกอบการในอีกปี สองปีข้างหน้าจะเป็นสักเท่าไหร่ ผมขอยกตัวอย่างหุ้นตัวนึงที่ตอนนี้ราคาขึ้นมาพอควรที่พอจะมีข้อมูลอยู่ เป็นบริษัทพัฒนาที่ดินเป็นศูนย์การค้า ตอนนี้มีพื้นที่ให้เช่า สักสองแสนตารางเมตร แต่ปี 55 มีโครงการใหญ่ที่มีเนื้อที่ให้เช่าเพิ่มเป็น สามแสนตารางเมตร อย่างนี้ก็อาจจะพอคาดเดาได้ว่า น่าจะมีรายได้เพิ่มอีกอย่างน้อย 50 เปอร์เซนต์ แล้วลักษณะรายได้ก็จะค่อนข้างมั่นคง เพราะคงไม่มีใครเสียค่าตกแต่งร้านค้าเป็นล้านๆ เพื่อที่จะเช่าในระยะสั้นๆ หุ้น auto บางตัว มีการขยายโรงงาน เพิ่มกำลังการผลิตได้ อีก 30-40 เปอร์เซนต์ ถ้าธุรกิจ auto เป็นขาขึ้น ก็น่าจะคาดเดาได้ว่า น่าจะได้รายได้เพิ่มอีก 30-40 เปอร์เซนต์ ส่วนหุ้นที่คาดเดาไม่ได้ ไม่ลงทุนครับ ผมถือคติ Buffett ว่า "ไม่หาอุปสรรค 7 ฟุต เพื่อข้าม แต่ให้หาอุปสรรค 1 ฟุต เพื่อข้าม " จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:18:59

ความคิดเห็นที่ 30 ก่อนจะแวบไปจากการโพสต์กระทู้ เอาชื่อจีนมาฝากคุณเตร็ดเตร่ ชื่อจีนคุณเตร็จเตร่ น่าจะเขียนแบบนี้ พยายามหาตัวอักษรในกู่เกิ้ล ก็หาไม่ได้ ก็เลยต้องใช้ปากกาเขียนแบบเลอะๆ ให้ดู + จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:21:27

ความคิดเห็นที่ 31 คุณขาหมูครับ ตามความคิดของผม ต้องดูก่อนว่า หุ้นที่เราสนใจนั้นอยู่ในอุตสาหกรรมกลุ่มใด ยกตัวอย่างหุ้นของคุณขาหมู น่าจะเป็นหุ้นกลุ่มเหล็ก จะพูดให้แคบลงหน่อยก็เป็นกลุ่มก่อสร้าง หุ้นกลุ่มก่อสร้าง ตามความคิดผม มันคือหุ้นที่รายได้มาจาก "งานที่ได้รับ" หรืออาจจะเรียกว่าหุ้น "กลุ่มรับเหมา" ก็ได้ นั่นคือ ถ้าได้งานก็ได้รายได้ ถ้างานน้อย รายได้ก็ลดลง โดยส่วนตัวมองว่า คาดการณ์แนวโน้มยาก นอกเสียจากรอฟังข่าวการได้งานจากทีมผู้บริหาร แต่ก็ไม่ใช่อย่างนี้ทั้งหมด คุณขาหมูต้องลองอ่านแบบ 56-1 เพื่อดูว่าบริษัทนั้นมีลูกค้ารายใหญ่ หรือลูกค้าประจำที่ได้ส่วนแบ่งงานอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ (คล้ายๆกับหุ้น คห.28) หากเป็นเช่นนั้น ก็พอช่วยให้อุ่นใจได้ระดับหนึ่ง ว่าอย่างน้อยรายได้จะไม่ผันผวนนัก รวมถึง ลองศึกษาไปถึง capability ในการ line การผลิตว่าใกล้เต็มแล้วหรือยัง ถ้าหลายปีที่ผ่านมา cap การผลิตถูกใช้อย่างคุ้มค่า (เต็มการผลิต) อย่างนี้สบายใจได้ แต่ถ้า cap การผลิตยังเหลืออีกมาก อย่างนี้ดูไม่ค่อยดี และถ้าบริษัทไหน cap ใกล้เต็ม และมีโครงการขยายฐานการผลิต อย่างนี้ฟันธงได้เลย ว่ารายได้ต้องเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอย่างแน่นอนครับ แค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวจะโม้มากเกินไป แหะๆ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:28:11

ความคิดเห็นที่ 32 อ้าวเฮีย แล้วของผมอะ แงๆ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:29:13

ความคิดเห็นที่ 33 ชื่อคุณเตร็ดเตร่ ตัวนี้ใช่มั๊ยครับเฮีย 葉柄興 จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:31:34

ความคิดเห็นที่ 34 อ้าว  คุณฯอยากรวย นึกว่าตัดแปะมาให้ดูเฉยๆ น่าจะแปลว่า ขอโทษด้วย ผมไม่ค่อยเข้าใจ รอซักหนึ่งนาที ไปจริงๆแล้วครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาแจมใหม่ ใช่แล้วครับ คุณ gongort หาตัวอักษรได้เก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ + แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 12:36:29 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:34:16

ความคิดเห็นที่ 35 ผมปะชื่อคุณเตร็ดเตร่ใหม่ ตัวใหญ่กว่าเดิม จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:40:16

ความคิดเห็นที่ 36 ゴンゴッドさんは日本語も中国語も上手ですね。 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:50:00

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่ทราบภาษาจีนหรอกครับ ได้ก็แค่ หว่อ อ๊าย หนี่ ประมาณนี้เท่านั้น ผมหาคำจีน จากคันจิ ภาษาญี่ปุ่นต่างหากครับ พอทราบความหมายกับคำอ่านของชื่อคุณเตร็ดเตร่ 葉     柄     興 ใบไม้ ลาย  เฮง(โชคดี) แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 13:07:39 จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:06:49

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ คุณฯอยากรวย หุ้นที่ผลิตยังไม่เต็ม capability เหตุใดจึงเห็นว่าไม่ค่อยดีค่ะ? การที่ cap ไม่เต็มหากเราสามารถหาเหตุผลได้ว่าเพราะเหตุใด และอนาคตอันใกล้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ จะเป็นการตอบโจทย์ข้อนี้ได้หรือยังค่ะ? **ที่จริงปัญาหาคือการหาคำตอบในอนาคตอันใกล้นี่ละค่ะ เพราะหากดูหุ้นส่วนใหญ่แล้ว การที่บริษัทจะผลิตเต็มกำลังและจะมีการขยายการลงทุนนั้น ไม่ได้มีบ่อยนัก หากเป็นเช่นนี้แล้ว หุ้นที่เข้าข่ายน่าสนใจก็จะน้อยลงไปอีก **ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกไหมนะคะ -_-" คุณ gongort2 ช่วยอธิบายขยายความ ประโยคที่ว่า "ไม่หาอุปสรรค 7 ฟุต เพื่อข้าม แต่ให้หาอุปสรรค 1 ฟุต เพื่อข้าม " ให้ด้วยค่ะ ^_^ ขอบคุณค่ะ ปล. ปราจีนบุรีร้อนมาก จากคุณ : ขาหมู (Ooh 1234) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:08:43

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณเฮียเอ็นโด และ คุณ gongort มากครับ ใจรึแอบโกรธตัวเองที่สมัยเด็กๆ เป็นจีนขบถ แม่พูดภาษาจีนใส่ไม่ฟัง มันเชย มันไม่เท่ห์ มาตอนนี้ เสียดายโอกาสจริงๆ มาช่วยคุณขาหมูไขข้อข้องใจ ผมมองแบบนี้นะครับว่า เหล็กที่ขายในประเทศ ขายให้กับ segment ไหน ถ้าขายให้กับพวกก่อสร้างเยอะๆ ก็ต้องดูอัตราการเติบโตอสังหาริมทรัพย์ ว่าปีนี้ ปีหน้าเป็นอย่างไร ถ้าขายให้กับโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ ก็ดูอัตราการเจริญเติบโตภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์ ถ้าขายให้กับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ อย่างรถไฟฟ้าสีต่างๆ ก็ดูนโยบายการก่อสร้างรถไฟฟ้าและระยะเวลาดำเนินการ สิ่งที่ผมจะดูอีกอย่างก็คือ Inventory Turnover ว่ามีสูงต่อเนื่องหรือเปล่าด้วยครับ และต้องดูประกอบกับ Cash Flow ว่ากระแสเงินสดยังดีหรือไม่ ที่ดู 2 ตัวนี้ประกอบ เพราะ เข้าใจว่า อุตสาหกรรมเหล็กน่าจะมีต้นทุนสูง อายุไม่มาก ถ้าอาจเกิดสนิมได้ง่าย ถ้า turnover ต่ำ โอกาสที่จะต้องเกิดค่า rework repair จะตามมาโดยใช่เหตุ และอาจจะเกิดอาการขาดสภาพคล่อง ทำให้การดำเนินงานติดขัดได้ ความรู้น้อยนิดของผมคิดได้เท่านี้ครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:15:03

ความคิดเห็นที่ 40 ปะหนังสือ Tao of Warren Buffett คุณขาหมูลองอ่านดู เดี๋ยวค่อยมา discuss กัน จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:22:36

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณพี่ gongort2 มากครับที่นำข้อมูลมาแบ่งปันให้ได้อ่านกัน Keyword คือ 1.จะรอตีเฉพาะลูกสวยๆที่ถูกขว้างมาให้เขาตีได้ง่ายๆเท่านั้น 2.ผลิตภัณฑ์ต้องไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยังคงอยู่ต่อไปในอีก 20 ปีข้างหน้า คำถาม คือ หาผลิตภัณฑ์นั้นเจอหรือยัง และถ้าเจอแล้ว คำถามคือ คุณรอตีเฉพาะลูกสวยๆได้หรือไม่ ? จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:44:02

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณ คุณเตร็ดเตร่ ค่ะ เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากทีเดียว เห็นทีขาหมูต้องย้อนกลับไปดูประเด็นนี้ในอดีตบ้างแล้วค่ะ ว่าเคยมีปัญหานี้หรือเปล่า คุณ gongort2 หลังจากอ่านแล้วเข้าใจว่า การที่ไม่พยายามข้ามรั้ว 7 ฟุตเพราะมันสูงเกินไป หมายถึง ไม่ซื้อหุ้นที่มีราคาสูงแล้ว แต่พยายามหารั้ว 1 ฟุตเพื่อข้าม หมายถึง หุ้นราคาถูก ๆ ใช่ไหมค่ะ? -_-" หรือหมายถึงว่า การที่ไม่ข้ามรั้วที่สูง 7 ฟุต เพราะไม่สามารถมองเห็นอะไรหลังรั้วนั้นได้เพราะมันสูงเกินไป แต่พยายามหารั้ว 1 ฟุตเพื่อข้าม เพราะมันไม่สูงและสามารถมองเห็นได้มาหลังรั้วนั้นมีอะไรอยู่ มองเห็นอนาคตของหุ้นตัวที่ซื้อได้ชัดเจน ใช่หรือไม่ค่ะ? -_-" ปล. การพูดเป็นปรัชญาเป็นการทำให้ประโยคสั้นลงและเข้าใจยากขึ้นนะคะเนี้ยยยย จากคุณ : ขาหมู (Ooh 1234) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:49:21

ความคิดเห็นที่ 43 ลุงบัฟเขียนไว้ น่าจะต้องการบอกว่า "อย่าลงทุนอะไรเกินความรู้ความสามารถของตัวเอง" อะไรที่ดูง่ายๆ เดินก้าวข้ามได้อย่างง่ายๆ อย่างนั้นแหละ ที่ลุงบัฟชอบ ในทางกลับกัน อะไรที่ดูยากๆ ต้องคิด/วิเคราะห์มากๆ ก้าวข้ามลำบาก อย่างนี้แหละ ลุงบัฟไม่สน พี่ gongort2 ตีความได้เหมือนผมไหมครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 13:58:02 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:56:10

ความคิดเห็นที่ 44 #42 การข้ามรั้วที่สูงเกิน 7 ฟุตหมายถึง การฝืนทำเรื่องที่เกินความสามารถตนเองครับ ให้เลือกข้ามรั้วที่สูง 1 ฟุตก็คือเลือกลงทุนในเรื่องที่ตนเองมีความเข้าใจเป็นอย่างดีครับ นี่เลยเป็นสาเหตุที่ปู่บัฟไม่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีครับ จากคุณ : ภูมิทัศน์ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 14:53:52

ความคิดเห็นที่ 45 กลับมาแล้ว โค ตะ ระ ยุ่งเลยวันนี้ เหมือนกับคุณภูมิทัศน์และกับคุณฯรวยครับ การข้ามรั้ว 7 ฟุตตามที่ผมคิดคือ การลงทุนในธุรกิจที่ยุ่งยากซับซ้อน เข้าใจยาก คาดเดาได้ยาก เช่น บัฟเฟต ไม่ลงทุนในหุ้น technology หรือ dot com เลย เพราะไม่เข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร ซึ่งทำให้สามารถเลี่ยงฟองสบู่ dot com ได้ในราวต้นปี 2000 ส่วนการข้ามรั้ว 1 ฟุต ก็คงลงทุนในธุรกิจที่เข้าใจเป็นอย่างดี ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีอีกคำกล่าวประมาณว่าควรจะลงทุนในธุรกิจที่ แม้กระทั่งคนโง่ ก็บริหารได้ เพราะวันหนึ่งมันอาจจะเป็นอย่างนั้น สมมุติว่ามีคนโง่มาเป็นผู้บริหารโค้ก คนก็คงยังดื่มโค้กอยู่ดีมั๊ยครับ คล้ายๆ ว่าสินค้าและบริการนั้นดูแลธุรกิจเอง เพราะคนส่วนใหญ่จำเป็นและอยากจะบริโภค และถ้าผู้บริหารดี ก็ยิ่งดีเจริญรุ่งเรืองไปกันใหญ่ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 15:23:30 จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 15:22:07

ความคิดเห็นที่ 46 อืม.......เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุ๊ณหลาย ๆ เปิดหน้า set.or.th เจออันนี้พอดีเลยค่ะ ต้องรอติดตามซะหน่อยแล้ววววว จากคุณ : ขาหมู (Ooh 1234) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 15:27:30

ความคิดเห็นที่ 47 คุณขาหมูครับ 1 ฟุต 7 ฟุต ไม่ใช่ราคาหุ้นครับ ผมยกตัวอย่างหุ้นตัวนี้ก็แล้วกัน ผมไม่มีหุ้น แต่ผมคิดว่ามันดี และถ้าราคาลงมาถึงจุดที่พอใจคิดว่าจะลงทุนเช่น หุ้น PB ขายขนมปังฟาร์มเฮาส์ อาจจะดูโง่ เม่าที่ ไม่ได้ดูงบการเงิน ROE ROA NPM สินค้าคงคลังฯลฯ สักเท่าไหร่ แต่ผมคงถามตัวเองว่า อีกสิบปี คนจะยังกินขนมปังมั๊ยครับ อีกสิบปี คนจะกินขนมปังเพิ่มมากกว่าตอนนี้มั๊ยครับ ตอนเดินเข้าไป ผมเดินเข้าไปที่ชั้นฟาร์มเฮาส์นี้ก่อนเพื่อนเลยหรือเปล่า เมื่อแป้งสาลี ราคาเพิ่ม พอจะผลักภาระ ไปให้ผู้บริโภคเพิ่มได้มั๊ยครับ มีคู่แข่งที่จะพอสูสี ที่จะมี logistic ดีพอจะสู้ กับฟาร์มเฮาส์, 711 s&p ฯลฯ เรื่องราคาในการซื้อหุ้น ด้วยความที่ใจยังไม่นิ่งเท่าไหร่ ส่วนใหญ่พอราคาที่คิดว่าสมเหตุผล ไม่ต้องถูกมาก ก็เข้าแล้วครับ (อันนี้เป็นข้อเสียหลักของผมเลยครับ ผมว่าใจแข็ง รอ panic หน่อยก็ดี) จึงมักเกิดปรากฏการณ์ติดดอยอยู่บ้างในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มเข้าในหุ้นแต่ละตัว คิดแต่ว่าเมื่อมอง time frame ที่ยาวเป็นปีๆ ผลประกอบการที่ดี จากสินค้าและบริการที่เป็นที่ต้องการจะดูแลราคาหุ้นเอง ตรงนี้หากเป็นธุรกิจที่คาดเดาได้ยากพวกวัฏจักรทั้งหลาย ก็อาจจะรวยมากหรือจนมาก อย่าง AJ ตามที่คุณฯรวยเลือกไว้ในกล่อง 3 และถ้าถืออยู่ตอนนี้ก็ 5 เด้ง ในเวลาไม่ถึงปี แต่อีกสองสามปี ห้าปี สิบปี ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมจะเลือกที่ไปช้าๆ แบบที่เข้าใจมากกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 15:46:25 จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 15:45:45

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณ คุณพี่ gongort2 มาก ๆ เลยนะคะ พูดซะเห็นภาพเลย จากคุณ : ขาหมู (Ooh 1234) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 16:24:01

ความคิดเห็นที่ 49 พูดให้ฟังเฉยๆ หากมองว่า PB แพง ก็อาจจะซื้อลงทุนโดยผ่านหุ้นอีกตัวหนึ่งก็ได้นะครับ ขนมปังกำไรดีมากเท่าไหร่ ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ได้รับผลตอบแทนผ่านเงินปันผลมากขึ้นเท่านั้น อิอิ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 16:38:54 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 16:37:39

ความคิดเห็นที่ 50 โห ราคาแอบแพงนะเจ้า PR นี่ 238 บาท %yield ที่จ่ายในปี 53 (ไม่ใช่งบการเงิน 53 นะ) อยู่ที่ 5.17% PE 9 เท่า Highest - ค่าสูงสุด      290.00      08/07/2010 Lowest - ค่าต่ำสุด       203.00      22/02/2010 แต่ผลประกอบการปีนี้ไม่โดดเด่นเลยนะ                                    สรุปผลการดำเนินงานของบจ. (F45-2)                                 บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)                                                 สอบทาน                                            (หน่วย : พันบาท) งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย                                      ไตรมาสที่ 3               งวด 9 เดือน        สิ้นสุดวันที่                 30 กันยายน                30 กันยายน              ปี              2553         2552         2553         2552 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ           90,883       91,652      220,314      226,953 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ             7.57         7.64        18.36        18.91      ต่อหุ้น (บาท)     จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:00:49

ความคิดเห็นที่ 51 แพงไหม ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล (ราคาพาร์ 10) ผลประกอบการโตขึ้นเรื่อยๆนะ แต่ช่วงนี้น่าจะเจอปัญหาราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวสูงขึ้น ช่วงปี 51 หุ้นตัวนี้ก็เข้าข่ายกฎ 3 ข้อเช่นกัน ใครซื้อแล้วถือลงทุนจนถึงวันนี้ก็รับไป 3 เด้ง ปล.เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ผมเสียใจที่ไม่ได้ถือครอง จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:19:02