|
การเสียบการ์ดจอ 2 ตัว เราสามารถกำหนดการทำงานได้ 2 กรณี
1. เสียบเพื่อต่อแสดงผลมากกว่า 2 จอขึ้นไป สมมติ การ์ดจอที่เป็นแบบ DVI - Dual Link (DVI 2 ช่อง) หรือ DVI 1 ช่อง, D-Sub 1 ช่องก็ได้ เพื่อให้ต่อจอแสดงผล 2 จอแบบแยกการทำงานออกจากกันได้ (อยู่ที่การตั้งค่าด้วย) แต่ถ้าต้องการให้มีการแสดงผลได้มากกว่าเช่น 4 จอ ก็ต้องใช้การ์ดจอ 2 ตัวมาต่อร่วมกัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องดูว่าเมนบอร์ดสามารถรองรับการใช้งานแบบเสียบการ์ดจอได้ 2 ตัวหรือมากกว่าได้หรือไม่ จะเอาเมนบอร์ดที่รองรับการทำ Crossfire หรือ SLI มาใช้ก็ได้ แต่การ์ดจอที่จะเอามาต่อควรจะสนับสนุนกับชิพเซ็ตของเมนบอร์ดด้วย เช่น Crossfire ก็ต้องใช้การ์ดจอที่ใช้ชิพ ATI, SLI ก็ต้องใช้การ์ดจอที่ใช้ชิพ Nvidia
แต่ ณ ปัจจุบันการ์ดจอรุ่นใหม่ๆสามารถแสดงผลได้แบบ 3 หน้าจอแล้ว เพราะบนตัวการ์ดจอ 1 ตัวจะมีช่องต่อมาให้ถึง 3 พอร์ตก็คือ D-Sub, DVI, HDMI เป็นต้น หรือแม้แต่การ์ดจอของ ATI รุ่น Eyefinity 6 สามารถต่อออกจอแสดงผลแบบแยกอิสระได้ถึง 6 จอ แต่ราคาของการ์ดจอรุ่นนี้ก็แพงใช้ได้เลยทีเดียว
2. เสียบการ์ดจอ 2 ตัว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพทีดีกว่า และต่อให้แสดงผลกับ 1 หรือ 2 จอ หรือที่เรียกว่าการทำ Crossfire หรือ SLI และเรื่องของอุปกรณ์ที่รองรับเหมือนอย่างในข้อ 1 แหละครับ แต่วิธีนี้ ถ้าเอาการ์ดจอรุ่นระดับกลางๆมาต่อ 2 ตัวเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพรวมเป็นหนึ่ง (ไม่แนะนำ) เช่น เอาการ์ดจอของ ATI รุ่น HD5770 มาต่อ 2 ตัวสำหรับทำ Crossfire กัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการ์ดในรุ่น HD5850 หรือ HD5870 สู้ซื้อการ์ดระดับสูงมาใช้งาน 1 ตัวเลยดีกว่า ในเรื่องของราคาและพลังงานที่ใช้ก็ไม่ได้หนีจากกันมาก แต่สิ่งที่จะแตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดก็คือเรื่องของความร้อนที่ถูกปล่อยออก มาจากตัวการ์ดทั้ง 2 ตัวมากกว่านะครับ
แต่ทั้งนี้การใช้การ์ดจอ มากกว่า 1 ตัวมาต่อใช้งานร่วมกัน ก็ต้องเลือกเพาเวอร์ซัพพลายวัตต์แท้ที่สามารถจ่ายไฟให้ได้เพียงพอด้วย ไม่งั้นจะเจอปัญหาอื่นๆตามมาอีก
จากคุณ |
:
mr.stock
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ก.พ. 54 15:00:25
|
|
|
|
|