|
เรื่องการขอคืนภาษีนี้ ดูวุ่นวายมาก เข้าใจได้ยาก แต่.. นั่นคือแค่ "ดูว่าจะวุ่นวายมาก" แค่นั้นครับ จริงๆ แล้วง่ายมากๆ หลักการคือ "บุคคลธรรมดาจะเสียภาษีเท่าที่ควรจะต้องเสียในอัตราบุคคลธรรมดา"
ดังนั้น สมมติว่า จขกท. ถือหุ้นบริษัท XYZ ที่มีกำไรก่อนหักภาษี 10,000 ล้านบาท และโดนหักภาษีไปในอัตรา 30% เหลือ 70,000 ล้านบาท จากนั้นมติที่ประชุมให้จ่ายปันผลเป็นจำนวน 100% (ว้าว... สมมติแบบนี้จะได้ง่ายนะ) สมมติว่า หุ้นทั้งหมดของบริษัท XYZ นี้มีจำนวน 7,000 ล้านหุ้น ดังนั้นกำไรต่อหุ้นหลัง (จากที่บริษัทโดน) หักภาษีคือ 10 บาท และจ่ายปันผลหุ้นละ 10 บาทเช่นกัน
ทีนี้ ตอนที่ จขกท. ได้ปันผลจริงๆ จะโดนหักไปอีก 10% คือ 1 บาทต่อหุ้น คงเหลือได้เงินปันผล 9 บาทต่อหุ้นเท่านั้น !!
ทำไมจึงมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ก็เพราะว่า จขกท โดนเก็บภาษีสองรอบ รวมแล้วเป็นอัตราที่สูงมากเลยทีเดียวเชียว รอบแรก โดนไปแล้วโดยผ่านการเก็บภาษี 30% ของบริษัท XYZ ของ จขกท อีกรอบคือ โดนอีก 10% รอบหลัง ณ ที่จ่ายอีก ภาษาชาวบ้านเรียกว่าสองดอกเต็มๆ ยิ่ง จขกท เป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีรายได้อื่นเลย และสามารถลดหย่อนอะไรต่างๆ ได้อีก ก็ยิ่งไม่ควรจะเสียภาษีขนาดนี้
ลองคิดดูเล่นๆ สมมติว่า (สมมตินะ) ว่า จขกท. ไม่ต้องจ่ายภาษีเลย เงินกำไรของบริษัท XYZ จำนวน 10,000 ล้านบาทหารด้วยจำนวนหุ้น 7,000 ล้านหุ้น จะได้กำไรต่อหุ้น 1.428 บาทต่อหุ้น เอามาจ่ายเป็นปันผล เทียบดูกับ 0.9 บาทหลังจากโดนหักสองชั้นที่คำนวณมาข้างต้นสิครับ ผิดกันไกลเลย!
วิธีการคำนวณ สมมติว่า จขกท. ถือหุ้นของบริษัท XYZ จำนวน 10,000 หุ้น หากต้องการเครดิตภาษีปันผล สิ่งที่ต้องทำคือ
1) ลืมเรื่องว่าได้รับเงินปันผล (ที่อยู่ในเช็ค หรือโอนเข้าบัญชี) เท่าไรไปก่อน
2) คำนวณหาเงินปันผลที่ควรจะได้ หากไม่โดนหักภาษีสองรอบให้ได้ก่อน วิธีคือดูในใบกำกับเงินปันผลที่ได้จาก TSD นั่นล่ะครับ เขาจะเขียนไว้ว่า ส่วนไหน ที่บริษัทโดนหักไปเท่าไร เราก็ทำการคำนวณย้อนกลับมา เช่น จขกท. ถือหุ้นบริษัท XYZ จำนวน 10,000 หุ้น ด้านบนใบรายการจะเขียนว่า ได้ปันผล ที่ถูกหักภาษีในอัตราร้อยละ 30 เป็นเงิน 100,000 บาท แต่จริงๆ แล้ว ถ้าไม่โดนหักภาษีจะต้องเป็นเงิน 100,000/0.7 = 142,857.14 บาท (ถ้าโดนหักไป 25% ก็หารด้วย 0.75, ถ้าโดนหักไป 20% ก็หารด้วย 0.8, ถ้าโดน หักไปผสมๆ กันหลายส่วน ก็เอาแต่ละส่วนมาหารกันแล้วบวกกลับ สรุปคือต้องคิด ย้อนกลับไปให้ได้ก่อนว่า ถ้าบริษัทไม่เสียภาษีเลย จขกท. จะได้ปันผลเท่าไร)
3) จากนั้น ก็เอาตัวเลขที่ได้ มาเป็น ฐานรายได้ หรือเอามาคำนวณรวมเข้าไปกับ รายได้อื่นๆ ของ จขกท. (ถ้ามี) แล้วก็นำมาคำนวณรวมๆ ดูว่าควรเสียภาษีเท่าไร ถ้า เสียมากไป (แน่นอนล่ะ ในกรณีตัวอย่างนี้) ก็จะได้ภาษีคืน
ข้อควรระวัง - ถ้านำรายได้จากเงินปันผลมารวมคำนวณภาษี จะต้องนำมา "ทุกรายการปันผลที่ ได้รับ" อย่าไปเลือกๆ เอามาเฉพาะอันที่คำนวณรวมแล้วเราได้ประโยชน์ ตัวอย่างเช่น ถ้า จขกท ถือหุ้นบริษัทที่โดนเก็บภาษี 30% กับบริษัทที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่นที่ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนบางประเภท หรือบริษัทน้ำมันบางบริษัทที่โดนเก็บภาษี หฤโหดแบบ 35-40% ถ้าจะเครดิตภาษี ต้องเอารายได้ปันผลจากทุกบริษัทนี้มา รวมกันให้หมด จะไปเลือกเอาเฉพาะบริษัทที่โดนเก็บภาษี 30% หรือมากกว่ามา คำนวณ ไม่ได้ ถ้าไม่เอารายได้จากเงินปันผลมาคำนวณเลย ก็สามารถทำได้เช่นกัน คือถ้าไม่นำมา คำนวณ ก็จะต้องไม่นำมาทั้งหมด
-ถ้ามีรายได้อื่นด้วย แล้วตั้งใจจะเครดิตภาษีปันผล จะต้องนำรายได้อื่นนั้นมารวม คำนวณเป็นฐานรายได้ด้วย จะตัดออกไม่ได้ เพราะในบางกรณีเมื่อรวมแล้วจะทำให้ ฐานรายได้สูงขึ้นและจะต้องจ่ายภาษี (หรือจ่ายสูงขึ้น) ก็ต้องนำมารวมครับ จะงุบงิบ มุบมิบไม่ได้
หลักการก็มีง่ายๆ แค่นั้นครับ
---------------------------------------- http://www.muegao.blogspot.com พื้นฐานความรู้ บทความเกี่ยวกับ หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ โดย มือเก่าหัดขับ ----------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 13:26:10
จากคุณ |
:
มือเก่าหัดขับ
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.พ. 54 23:31:57
|
|
|
|
|