ความคิดเห็นที่ 1 http://www.richerstock.net/stock/summary.php ดูฝั่งซ้ายคับ จากคุณ : mdtech เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 12:53:17

ความคิดเห็นที่ 2 หุ้นปันผลในดวงใจของผม ควรต้องมาจาก 1. มีนโยบายปันผลที่ชัดเจน เช่น มากกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ 2. มีผลการดำเนินงาน(eps)เติบโตต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ    เหตุผลเพราะ หาก eps เพิ่ม สัดส่วน yield ก็จะแปรผันตรงตาม    (ซึ่งจะสอดคล้องกับข้อที่ 1) 3. ควรเป็นหุ้นที่มีค่า p/e ที่ stable อยู่ในช่วง 8-10    p/e ไม่ควรสูงมาก เพราะราคาอาจวิ่งนำผลประกอบการได้ เป็นต้น 4. ดูความสามารถในการจ่ายปันผลย้อนหลัง ว่า 4.1 จ่ายปันผลทุกปี 4.2 แนวโน้มจ่ายปันผลเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า นี่แหละครับคือนิยามของ "หุ้นปันผลในดวงใจ" ของผม หมายเหตุ ยิ่งถ้าเป็นหุ้นที่เราสามารถเข้าใจในตัวธุรกิจได้ จะยิ่งช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้นตลอดการถือครองหุ้น 15 ปี ตามความประสงค์ของ จขกท. ครับ ;)) แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 12:59:20 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 12:54:54

ความคิดเห็นที่ 3 ไปดูที่กระทู้เก่าผมครับ แล้วเลือกเอา http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2011/01/I10097534/I10097534.html จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 13:04:22

ความคิดเห็นที่ 4 เลือกได้แล้ว กระซิบบอกบ้างน่ะครับ เผื่อจะซื้อตาม จากคุณ : WindReturn เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 13:15:06

ความคิดเห็นที่ 5 หลักการเลือกคล้ายๆ กับ คนจนที่อยากรวยค่ะ ตอนนี้ที่ชอบอยู่ก็มี BLS, THANI กับ AIT ค่ะ จากคุณ : register เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 13:25:44

ความคิดเห็นที่ 6 SC จากคุณ : sueto (sueto) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 13:33:17

ความคิดเห็นที่ 7 CSL หรือ CPNRF จ่ายปันผล ไม่ต่ำกว่า ปีละ 8 % CSL จ่ายปีละ 2 ครั้ง CPNRF จ่ายปีละ 4 ครั้ง จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 13:36:13

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นนะค่ะ ได้มาเยอะเลย ;-) คุณ คนจนที่อยากรวย มีอย่างอื่นก็แนะนำได้อีกนะค่ะ (ไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าข้อ 2 แปรผัน จะมีผลต่อข้อ 1 ..ลืมคิดตรงจุดนี้) คุณ WindReturn เดี๋ยวคัดได้แล้วจะหลังบ้านไปบอกนะ จะได้ถามไอเดียด้วย === แต่เราสงสัยหน่อยอะค่ะ ว่าเวลาเข้า ค่อยๆ เข้าได้ แต่เวลาจะออก นี่ให้ออกยังงัยอะค่ะ ต้องค่อยๆ ปล่อยแบบตอนเข้ารึป่าว? หรือว่า คนที่จะซื้อหุ้นปันผลต้องไม่มีความคิดที่จะขายเลย (เราจะได้ไม่ต้องมองทางออก ก่อนเข้าอะค่ะ) === แก้ไข : พอดีติดนิสัย Speculator ที่ก่อนเข้าจะต้องมองทางออกนะค่ะ แต่ถามเพราะไม่รู้จริงๆ ว่า หุ้นปันผลเค้าเล่นกันยังงัย อย่าเคืองเราน้า แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 13:58:42 จากคุณ : [[[Ruby Deep Ocean]]] เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 13:52:00

ความคิดเห็นที่ 9 หุ้นปันผลบางตัวเหมือนไม่อยากรับคนแปลกหน้า จากคุณ : netaddict เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 14:02:45

ความคิดเห็นที่ 10 ขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มเติม เหนือสิ่งอื่นใด ต้องมั่นใจอย่างแน่นอนก่อนว่า ปันผลที่ได้รับมานั้น มาจาก "กำไรจากการดำเนินงาน" เป็นหลัก ส่วนเรื่องการขายนั้น ตามความคิดผม คงจะขายก็ต่อเมื่อ "ราคา" วิ่งเกิน eps ที่จะตามได้ทัน ซึ่งจะทำให้ yield น้อยลง หากเทียบกับราคา แต่สิ่งที่ทดแทนมา ก็คือส่วนต่างของ capital gain ก็คงขึ้นอยู่กับความพอใจของ จขกท. ล่ะครับ ถ้าเป้าหมายคือรับปันผลไม่ต่ำกว่า 5-8% ต่อปี แต่ yield ค่อยๆลดลง เพราะ price เพิ่ม อาจจะขายหุ้นส่วนหนึ่ง ไปซื้อตัวอื่นที่ให้ yield ที่สูงกว่า เป็นต้น ได้อย่าง เสียอย่างครับ อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 14:07:05

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะ คุณคนจนที่อยากรวย ที่กลับมาเพิ่มเติม ตลาดจะเปิดแล้ว เดี๋ยวเราไปเกาะติดตลาดก่อนนะ แล้วเย็นๆ จะมาขอความรู้ #10 อ่านแล้วมีคำถามคาใจ... === ขออนุญาตแจกกิ๊บ "เฉพาะกล่อง" แล้วนะค่ะ === จากคุณ : [[[Ruby Deep Ocean]]] เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 14:18:03

ความคิดเห็นที่ 12 เยี่ยมครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 14:42:38

ความคิดเห็นที่ 13 SCC จากคุณ : ชนชนะ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 14:43:12

ความคิดเห็นที่ 14 TMT จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 15:14:15

ความคิดเห็นที่ 15 epco  เกิน 10% จากคุณ : NAI-A SIKHIU เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 15:35:31

ความคิดเห็นที่ 16 ปีนี้ ยก หุ้นโบรก เกือบทุกตัว จากคุณ : Untrue เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 16:47:49

ความคิดเห็นที่ 17 มาแล้วค่ะ... พยายามคิด และลองอิงกับตัวหุ้นดู ถ้าเราเข้าใจผิด ...ช่วยปรับแนวคิดให้เราหน่อยนะค่ะ... การซื้อหุ้นปันผลก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ เพื่อหวังผลมากิน มาใช้ (เหมือนที่เค้าว่าเลี้ยงห่านทองคำ ใช่มั้ยค่ะ) ถ้าเราสามารถซื้อต้นไม้ต้นนั้นมาปลูกได้ตั้งแต่ตอนยังเป็นต้นกล้า (ได้ของราคาถูก แต่ก็เสี่ยงต่อการไม่รอด อาจจะตายก่อนโต) แต่ถ้ารอด มันก็จะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่จะให้ดอก ให้ผลกับเรา ซึ่งเราก็จะไม่โค่นต้นไม้นั้นลง เพราะเท่ากับว่า เราจะไม่มีผลให้ได้เก็บเกี่ยวอีกแล้ว งี้...ตามที่เราเข้าใจ ก็คือ เงินก้อน หรืออาจจะซอยซื้อไปเรื่อยๆ ติ่งต่างว่าเป็นเงินก้อนนะ แต่ซื้อต่างวาระ ก็คือการซื้อสิทธ์ในการถือครองหุ้นนั้น แบบซื้อขาดเลย มองในแง่นี้ได้มั้ยค่ะ แล้วปันผลที่ได้ ก็รับไปเรื่อยๆ ถึงจุดคุ้มทุนเมื่อไหร่ ที่เหลือก็คือกำไร ปล่อยให้มันวิ่งไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างนะ หุ้นรพ.ราม สมมุติว่า ถ้าซื้อตอน 100.00 ตอนนี้ราคา 660.00 เราก็จะยังคงถือต่อไปเรื่อยๆ ใช่มั้ยค่ะ เพราะเราจะไม่โค่นต้นไม้ของเรา เราพอใจระดับปันผลที่ได้ ณ ระดับราคาที่ซื้อ (ตอนนั้น)เพราะเงินปันผลก็จ่ายเท่าเดิมทุกปี ถ้าเราไม่ขายหุ้นออกไป %ปันผลก็ต้องเท่าเดิมด้วย ไม่ใช่ว่าจะน้อยลงตามราคาตลาดที่สูงขึ้น ก็เราไม่ได้ซื้อเพิ่มตอนราคาสูงนิ ทีนี้ถามว่า ถ้าเราไม่ได้ซื้อตอนราคา 100.00 แต่มาซื้อตอน 660.00 %ผลตอบแทนในแง่ของปันผล ก็ต้องน้อยลงตาม อันนี้แหงอยู่แล้ว ดอยอีกต่างหาก... ก็คือไม่คุ้มที่จะเลือกหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นรับปันผล ณ ระดับราคาเท่านี้ ก็ต้องคัดออก === เราหัวช้า คิดไม่ค่อยออก เลยต้องยกตัวอย่างในแบบที่ตัวเองเข้าใจ ช่วยตรวจการบ้านให้ด้วยนะคะ ถ้าเราคิดถูกต้อง จะได้ไปเลือกหุ้นได้ซะที === จากคุณ : [[[Ruby Deep Ocean]]] เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 17:39:22

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าสมมติว่า จขกท. ซื้อหุ้น A ได้ในราคา 2 บาท และจ่ายปันผลปีละครั้ง ต่อเนื่อง 0.1 บาท จะได้ yield = 5% หุ้น 2 บาท เปรียบเสมือนห่านน้อย เราจะไม่ฆ่าและเลี้ยงดูอย่างดี เวลาผ่านไป บริษัททำกำไรได้เติบโตสม่ำเสมอ eps เพิ่ม ทำให้ปันผลเพิ่มเป็น 0.2 ถ้าต้นทุนเท่าเดิม นั่นคือเราได้ yield เพิ่มมากขึ้นเป็น 10% (ไข่โตขึ้น) อย่างนี้ถือว่าดี เว้นเสียแต่ว่า มาคิดซื้อเพิ่มทีหลัง ก็จะทำให้ yield ที่ได้น้อยกว่า case 2 บาท กรณีถ้าเราได้หุ้นราคาถูก จริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นต้องขายทิ้งครับ ถือไปเรื่อยๆเลย อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 18:50:45

ความคิดเห็นที่ 19 เท่ากับว่าจุดแรกที่เราต้องพิจารณาก่อน คือ ความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผล ตามด้วยดู eps ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือลดลง ซึ่งต้องดูถึงลักษณะของธุรกิจด้วย สุดท้ายก็หาจุดเข้าซื้อ ถือ แล้วสวดมนต์ ให้มันโต โต้ โต อิอิ ขอบคุณค่ะ คุณคนจนที่อยากรวย ฟังดูไม่น่าจะยาก แค่งานที่มากหน่อยเท่านั้นเอง จากคุณ : [[[Ruby Deep Ocean]]] เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 19:10:34

ความคิดเห็นที่ 20 ถูกต้องครับ และสิ่งที่ยากที่สุดก็คือขั้นตอนของการ หาจุดเข้าซื้อ ถือ แล้วก็สวดมนต์ครับ อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 20:17:44

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 19     เท่ากับว่าจุดแรกที่เราต้องพิจารณาก่อน คือ ความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผล ตามด้วยดู eps ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือลดลง ซึ่งต้องดูถึงลักษณะของธุรกิจด้วย สุดท้ายก็หาจุดเข้าซื้อ ถือ แล้วสวดมนต์ ให้มันโต โต้ โต อิอิ ขอบคุณค่ะ คุณคนจนที่อยากรวย ฟังดูไม่น่าจะยาก แค่งานที่มากหน่อยเท่านั้นเอง จากคุณ : [[[Ruby Deep Ocean]]]   --------------------------------------- ตามนั้นล่ะครับ ไม่ยาก แต่ น่าเบื่อ ไม่ตื่นเต้น และ ทำใจได้ไหม ที่หุ้นขึ้นไป สองเท่า แล้วยังไม่ขาย (ถ้าขาย อาจจะขึ้นไป 3-4 เท่า) นั่นล่ะ ยากที่สุดครับ Update บทความวันนี้ (17 ก.พ. 54) ต่อในเรื่องการวิเคราะห์เชิงตัวเลข (งบการเงิน - งบกำไรขาดทุน) เข้า blog แล้ว คลิ๊กที่ "การลงทุนโดยพิจารณามูลค่าของบริษัท(Value Investment)" ทางด้านขวามือนะครับ ---------------------------------------- http://www.muegao.blogspot.com พื้นฐานความรู้ บทความเกี่ยวกับ หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ โดย มือเก่าหัดขับ ---------------------------------------- จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 22:09:54