ความคิดเห็นที่ 1 ธนาคาร ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกองทุนนะครับ ผู้ที่รับผิดชอบส่วนนี้คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ถูกควบคุมดูแลโดยสำนักงาน กลต. ภายใต้พรบ.หลักทรัพย์ฯ พ.ศ.2535 อีกทีหนึ่งครับ ซึ่งโอกาสที่จะเกิด Default Risk ลองดูในหนังสือชี้ชวนก็ได้นะครับ แต่ผมว่ามีโอกาสน้อยมากกก ๆ ๆ ------------------------------------------------------------------------ ผมว่าคุณน่ะ ตัดสินใจกระจายความเสี่ยงได้ดีแล้ว แต่คนที่บ้านคุณนั้น หวาดระแวงมากเกินไป จนไม่อยากจะรับความเสี่ยงใด ๆ เลย แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 23:45:07 จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 23:39:09

ความคิดเห็นที่ 2 1,เกิดสงครามโลก 2,เกิดโรคระบาดแบบผีชีว่ะ 3,แผ่นดินไหวเมืองจมหาย 4,ผู้บริหารกองทุนไร้ซึ่งวรยุทธ์(เป็นไปได้ยาก) 5,เล่นเจ๊งเองก็ไมได้เงินคืน เท่าที่ทราบมีแค่นี้แร่ะ จากคุณ : นักกฏหมายเล่นหุ้น (ลุยกันโลด) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 23:42:33

ความคิดเห็นที่ 3 http://www.kasikornasset.com/th/pages/K-GOLD.aspx ลองหารายละเอียดเรื่องความเสี่ยงอ่านดูนะครับ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 23:43:50

ความคิดเห็นที่ 4 แปลว่า คนพูดไม่ได้ทำงานธนาคาร คนทำงานธนาคารไม่ได้พูด   ไม่ว่าจะซื้อทองเป็นแท่งหรือซื้อกองทุนทอง ก็อ้างอิงราคาทองโลกเหมือนๆกัน ต่างกันที่ค่าการจัดการร้านทองหรือกองทุนถูกกว่ากัน เก็บรูปแบบไหนปลอดภัยกว่ากัน เลือกได้เลยครับ จากคุณ : opar156 เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 23:44:21

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วคุณคิดว่า บลจ. ที่เป็นบริษัทย่อยของธนาคารจะล้มง่ายๆขนาดนั้นเหรอครับ อย่าลืมว่าธุรกิจธนาคารจะว่าไปก็เหมือนสันหลังของประเทศถ้าธนาคารล้ม ประเทศก็ล้ม ผมว่ากว่าจะถึงตอนนั้น นักลงทุนจะไม่ชิ่งขายหนีซะก่อน นั่งมองเงินตัวเองหายไปก็ให้รู้ไปสิ จากคุณ : dusit014 เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 23:47:42

ความคิดเห็นที่ 6 มันไม่เกี่ยวกันนะ สินทรัพย์ของกองทุน ก็เป็นของกองทุนนั้นๆ ธนาคาร เจ๊ง ก็เจ๊งไปสิ (แต่อย่าเจ๊งเลย เดี๋ยวช้านไม่มีงานทำ เหอะๆ ) กองทุนเจ๊ง ก็อยู่กับการบริหารของฟันด์ เมเนเจอร์ โดนปล้น จากการถือทองไปมา อันตรายกว่าอีก จากคุณ : THADHA เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 00:28:25

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ แบงก์เลยครับ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ก็บริษัทนึง อีกอย่าง ตัวหน่วยลงทุน ก็มีผู้ดูแลผลประโยชน์ เป็น บุคคลที่ สาม ที่ช่วยตรวจสอบให้เราอยู่แล้ว ว่ากองทุน ทำงานถูกต้องมั้ย โอกาสจะเจ๊ง มีแค่ 2 อย่างคือ 1. ฟันเมเนเจอร์ บริหารผิดพลาด 2. ราคาทองคำร่วงลงจนไร้ค่า นั่นหล่ะ ครับ ถึงจะไม่ได้เงินคืน และต่อให้ถือทองคำแท่ง ถ้าราคาทองร่วงจนไร้ค่า ทองก็ไม่ต่างอะไร กับเศษไม้ครับ จากคุณ : tonbabu เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 00:59:44

ความคิดเห็นที่ 8 K-GOLD มีธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ดูแลครับ โอกาสเกือบจะเป็นศูนย์ครับ ไม่ต้องกลัวกองทุนเจ๊งหรอกครับ เล่นไม่ดีเราจะเจ๊งแทน ศึกษาให้ลึกๆครับ ก่อนลงทุน โชคดีกับการลงทุนครับ จากคุณ : ORIGINAL.E.M. เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 01:50:43

ความคิดเห็นที่ 9 สงสัยคนในนี้แหละมั้งที่ประมาท ประวัติศาสตร์ก็มีไว้แล้วครับ ถ้าใครยังจำได้สมัยปี 40 หลายกองทุนก็ล้มละลาย หลายคนก็สูญเสียเงินฝากไปกับกองทุนนี่แหละครับ หรือเมื่อปีที่แล้ว AIG ที่เป็นบริษัทฯยักษ์ใหญ่ในอเมริกาก็เคยล้มมาแล้ว ไม่งั้นเขาจะมีคำเตือนไว้ทำไมละครับ การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดสังเกตคำเตือย ผมว่าการกระจายความเสี่ยงโดยส่วนหนึ่งไปลงทุนด้านอื่นด้วยน่าจะดีกว่าครับ ไม่มีใครตอบได้หลอกครับอนาคตจะเกิดไรขึ้น บทเรียนก็มีแล้ว จากคุณ : กรรมกรปริญญา เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 02:17:04

ความคิดเห็นที่ 10 เหอะๆๆ ถ้าทองคำ หมดมูลค่า ก็อย่าได้หวัง ว่าเงินในบัญชี ของคุณจะมีค่านะครับ จะกระจายความเสี่ยงไปไหน ก็เจ๊งหล่ะ ทองคำ เป็นสิ่งที่สุดท้ายแล้วหล่ะที่ สูญสิ้นมูลค่าบนโลกใบนี้ รึถ้า กลัวนัก ก็เอาเงินไปใส่ดินฝังไห ไว้ที่บ้านเถอะครับ รับรองไม่หายไปไหนเหมือนปี 40 แน่ จากคุณ : tonbabu เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 03:30:22

ความคิดเห็นที่ 11 ทองคำแท่ง ดีกว่า ทองคำกระดาษ ... เพราะ ทองกระดาษ ก็สุดท้าย ต้องแลกเป็นเงินกระดาษ (นับวันจะมีแต่เสื่อมค่าลง) แต่ทองคำแท่ง จะมี มูลค่าในตัวของมันอยู่ ยิ่งถ้ามีเงินซื้อได้ แบบ 99.99 เปอร์เซนต์ ยิ่งดีใหญ่ เพราะ ซื้อขายได้ทั่วโลก จากคุณ : kasimasi เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 09:27:11

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าจะเจ๊ง ก็ต้องกองทุนที่เขาไปลงทุนเจ๊ง ... อันนี้แหละ รับประกัน เงินต้น สูญ แน่นอน จากคุณ : kasimasi เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 09:28:35

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้แบ่งความเสี่ยง ซื้อทั้งทองแท่งและกองทุน พอเจอราคาทองแท่งของสมากั๊ก เลยจะหันไปซื้อแต่กองทุนแล้ว จากคุณ : คนจนเงินแต่รวยน้ำใจ เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 09:33:39

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่มเติม  #10#  ครับ ทุกสิ่งมีความเสียงทั้งนั้นครับ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีเด็กนอนกับพ่อแม่อยู่ในบ้าน มีลูกกระสุนของไอ้..วาย ตัวหนึ่งตกเข้ามาเจาะกระโหลกตาย อีกคนแค่โดนแขนถาก ๆ หรือไงเนี่ย  แต่ในโลกนี้มีมนุษย์อยู่ 6000 ล้านคน อาจะเกิดแบบนี้สัก 1000 คนทั่วโลก ซื้อของอยู่ใน 7-11 ดี ๆ อาจได้ลูกกระสุนนิรนามจากเด็กเทคนิคก็ได้ นอนอยู่ในบ้าน (สถานที่ ที่มันควรจะปลอดภัยสำหรับมนุษย์ทุกคนแล้ว) เครื่องบินหรือวัตถุอื่น ก็มาตกใส่ได้ครับ ต่อให้อยู่กลางป่ากลางเขาก็เถอะ ดวงดีก็ไม่เป็นไรมาก ดวงกุดสุด ๆ อาจถึงตาย ก็ต้องดูสัดส่วน ว่ามันเท่าไหร่ (อย่ามาพูดเรื่องความประมาทเลย) เอาทองหยอง มาเก็บไว้ในบ้าน วันดีคืนอีก อาจมีผู้ที่มีอาชีพเอาทรัพย์คนอื่นไปเป็นของตน เขามางัดได้ เผลอ ๆ ยิงเจ้าของทรัพย์ตายอีก อีกอัน ผู้หญิงอายุ 50 กว่า ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่  นั่งให้อาหารหมาอยู่หน้าบ้านในซอย ห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 200 เมตร  แต่มีรถบรรทุกล้อหลุด จากถนนพหลโยธิน กลิ้งหลุน ๆ เข้ามาทับผู้หญิงคนนี้ ไปนอนไอซียู 3 วันก็ตาย ที่เกิดขี้นกับตัวเอง เมื่อปีก่อน สายเอเชียแถวบางปะหัน วิ่งออกจากกทม. ปรากฏว่ามีล้อรถ(คงรถใหญ่อีกแหละ) ไม่ปรากฎสัญชาติ ลอยละลิ่วสวนทางออกมาจากเกาะกลาง กำลังจะ่ตกในเลน 3 (ที่ตูวิ่งอยู่นี่แหละ) เลยเปลี่ยนไปเลน 4 เกือบครูดแผงกั้นเหมือนกัน โชคดีไม่มีรถวิ่งตามมาในเลน 4 แล้วรู้หรือปล่าวว่า จุดตกของยาง มันตกตรงไหน (ด้านซ้ายน่ะ) บริเวณกระจกหน้าครับ ท่านผู้อ่าน ถ้าเป็นตอนกลางคืน แน่นอน อาจไม่ได้มานั่งพิมพ์อย่างนี้หรอก สรุปเฉียดตาย 1. ปี 20 เป็นผู้ซ้อนท้ายมอไซด์ (ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่ารถสิบล้อเบียดซ้ายมา) ผลปรากฎผู้ขับขี่ขาหัก ผู้ซ้อนกระดอนไปลงข้างทาง ญาติบอกว่าสลบไป 2 วัน 2. ปี 29 ขณะขี่มอไซด์ด้วยความเร็วปรมาณ 80 ก.ม. มีเด็กวิ่งข้ามถนน หักหลบไปลงรางน้ำรูปตัววี แล้วกระดอนกับเข้ามา สามารถควบคุมรถให้วิ่งต่อไปได้ 3. ปี 33 ที่พหลย่านรังสิตกำลังขยายช่องทางนั่นแหละ ด้วยความร้อนของแสงแดด จึงขี่ไปหลบแดด กลางรถพ่วงด้านซ้าย ระหว่างข้อต่อมันน่ะแหละ กะว่าพอรถเริ่มขยับจะออกไป แต่บังเอิญมีรถโดยสารขนาดใหญ่มาตีคู่ด้านซ้าย ต้องเข้าใจว่าเวลาทำทางเนี่ย รถมันจะห่างกันไม่เกินเมตร พยายามโบกมือให้คนนั่งในรถไปบอกคนขับรถโดยสาร ให้ทางหน่อย ไม่มีใครเห็น วิ่งอยู่ระหว่างพ่วงนั้นทั้งชลอทั้งเบรค 15 นาทีจึงออกมาได้ 4. ปี 35 อันนี้เกิดจากความประมาทอย่างแท้จริง เสียดายยาแก้ไอ กินเกินขนาดแล้วไปขี่ มอไซด์ ไม่อยากจะเชื่อว่า จะหลับในได้ แต่หลับไปรู้สึกตัวเมื่อมันไปลงหลุมขนาดเล็ก ลืมตาขึ้นมา เบื่องหน้าระยะ 3 เมตรเป็นท้ายรถบรรทุก 5. ปี 43 อันนี้ก็เกิดจากความประมาทอย่างแท้จริง ตั้งใจว่าจะเดินทางในวันรุ่งขึ้น(ง่วงและเพลียมาจากการขับรถทั้งวัน ญาติเมียเยอะก็งี้) แต่ผู้อาศัยรถเรา เป็นพี่เมียมารบเร้า จะไปทำธุระวันนี้ให้ได้ ตัดรำคาญ เอาไปก็ไป ขับมาได้แค่ 40 ก.ม. ความเร็วน่าจะย่าน 100 ก.ม. นี่แหละ แน่นอน หลับใน ลงไหล่ทางไปแล้ว คู่เขย(ผัวพี่เมียนี่แหละ) ดึงพวงมาลัยกลับเข้ามา ลืมตาขึ้นมาก็มาปั๊มนอนเลย พี่เมียปากไม่มีเลยทีนี้ 6. ก็ยางไม่ปรากฎสัญชาติน่ะแหละ #9# ครับ ปี 40 กับ aig เป็นความเลวของผู้บริหารและคนเลวบางกลุ่ม ที่คนปกติไปหลงเชื่อมันกันเอง แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 54 14:13:27 จากคุณ : totobest เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 14:06:41

ความคิดเห็นที่ 15 เคส AIG ให้ไปดูหนังเรื่อง Wall Street ภาค 2 ครับ นั่นหล่ะครับ จงใจ เอามาแสดงเลย แล้วจะรู้ว่า ความเลวของผู้บริหาร ทุรเศแค่ไหน จากคุณ : tonbabu เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 14:30:05

ความคิดเห็นที่ 16 เราว่าซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ที่บ้าน มีความเสี่ยงสูงกว่าซื้อกองทุนอีกค่ะ -โจรขึ้นบ้าน -ที่บ้าน ญาติ ขอยืม(ตลอดกาล) -ถึงเวลาอยากขายร้านทองไม่รับซื้อ เห็นอยุ่บ่อยๆตอนทองขึ้นราคา ส่วนเรื่อง AIG เรายังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายๆคนถึงยังคิดว่า AIG ล้ม ทุกวันนี้ AIG ก็ยังอยู่ดีมีสุข ไม่ได้ล้มหายตายจากหรือโดน take over แต่อย่างใดนะคะ แม้กระทั่งบริษัทที่เป็นบริษัทลูก AIG อย่าง AIA ก็ยังเติบโตรุ่งเรืองอยุ่ตลอด จนถึงวันนี้ แต่ก็ช่างเถอะค่ะ ความคิดคนมันเปลี่ยนไม่ได้หรอก อยากเชื่อแบบไหน ถึงจะมีเหตุผลหรือข้อโต้แย้งยังไง ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 20:10:23

ความคิดเห็นที่ 17 AIG ไม่ได้ล้มครับ ยังยืนเด่นอยู่ในประเทศ สหรัฐอเมริกา เพราะใช้เส้นสายทางการเมือง บังคับไม่ให้ล้ม เพราะ ถ้าล้มมาจิงๆ รับรองว่า อเมริกา แทบจะพินาศแน่นอนครับ AIG ถือว่าโชคดีมากในกรณีนี้ ต่างจาก เลห์แมน บราเธอร์ ซึ่ง เกิดปัญหาด้วยเหตุผลเดียวกัน แต่ เลห์แมน โดนสั่ง ล้มละลาย แต่ AIG ไม่  เค้าก็กล่าวหากันนะครับ ว่า ทำไม เลห์แมน ปล่อยให้ล้มได้ แล้ว AIG ถึงห้ามล้ม เสียงตอบกลับมาว่า ถ้ารู้ว่า เลห์แมน ล้มแล้วเป็นแบบนี้ ไม่ปล่อยล้มหรอก อุ้มไว้ เหมือน AIG นี่แหล่ะ จบ... จากคุณ : tonbabu เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:18:09