|
ไม่ใช่ กูรู แต่อยากตอบ
มีเงินเก็บ 3แสน ลงในความเสี่ยงต่ำ มีเงินออมอีก เดือนล่ะ 25,000 - 30,000 (ฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน เดือนละ 2 หมื่น)
สิ่งที่ผมนึกถึงคือ ๑. ศึกษาตนเองว่า เป็นคนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงไร ๒. พร้อมจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรือมี เวลา(ติดตาม) หรือไม่ ๓. กำหนดเป้าหมาย และ ระยะเวลาลงทุน (น่าจะช่วยบอกได้ว่า ควรจะทำอะไรบ้าง) ๔. บอกตัวเองเสมอๆว่า high risk มักจะ high return (ผมใช้คำว่า"มักจะ"เพราะผมเชื่อว่า มีบางอย่าง high risk low(no) return ครับ) ๕. ตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะบางช่วงเวลา การลงทุนบางอย่างคุ้มค่ากว่า การลงทุนอีกอย่าง
ยกตัวอย่างคือ มีช่วงเวลาหนึ่งที่ การฝากธนาคาร คุ้มค่ามาก แต่มาถึงตอนนี้ ผมว่า การฝากธนาคาร เป็นการลงทุนที่แย่มาก เพราะ ไม่สามารถ ชนะได้แม้แต่อัตราเงินเฟ้อ(ยิ่งฝาก เงินยิ่งลด)หากไม่รู้จักปรับเปลี่ยน ก็ถือว่าลงทุนเสียเปล่า
หรือบางช่วงเวลาควรลงทุนในหุ้น แต่บางช่วงเวลา ไม่ควรมีหุ้นอยู่เลย(แม้ต่อในกองทุนหุ้น) ก็ต้องคอยติดตามสิ่งเหล่านี้ด้วย
ที่ผ่านมา ได้ผลตอบแทน กี่%ต่อปี ผมไม่รู้นะ จขกท. คงต้องคำนวนเองว่า
๑. 3แสน แบ่งไปลง พันธบัตร, หุ้นกู้(ที่มีความน่าเชื่อถือ), หรือลงกองทุนตราสารหนึ้ จะได้ผลตอบแทนดีกว่าหรือไม่? ๒. ฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน เดือนละ 2 หมื่น เทียบกับ RMF(ที่ลงทุนในตราสารหนี้)เมื่อรวมกับการลดหย่อนภาษีแล้ว ให้ผลตอบแทนดีกว่า หรือไม่? ๓. ยอมรับตวามเสี่ยงได้ขนาดไหน? มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือไม่? ถ้ามี อาจจะแบ่งมาสัก 10% เพื่อเริ่มลงทุนในกองทุนหุ้น ปัญหาคือ หุ้นมีพฤติกรรมของมัน มีขึ้นและมีลง หากดูพฤติกรรมไม่เป็น อาจจะได้กำไรน้อย หรือถึงขั้นขาดทุน
อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าควรจะแบ่งเงิน เพราะในมุมมองผม รับความเสี่ยงได้น้อย คือ เล่นหุ้นน้อย(10-20%ของเงินลงทุน) และรู้จักแบ่งตามสภาพคล่อง (มีเงินเก็บที่สภาพคล่องสูง กรณีฉุกเฉิน และสภาพคล่องต่ำ ที่น่าจะให้ผลตอบแทนสูงกว่า)
ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ หาความรู้(เรื่องการลงทุน, ข่าวสาร, จังหวะเวลา) และหาตัวเอง(ว่าเราเหมาะกับการลงทุนลักษณะใด) ไม่ใช่ ลงทุนมาก ได้ผลตอบแทนเยอะ แต่เสี่ยงหัวใจวาย ก็ไม่คุ้ม นะครับ
จากคุณ |
:
ยังอยากเป็นคนไทยอยู่
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ก.พ. 54 14:15:25
|
|
|
|
|