ความคิดเห็นที่ 1 น้ำมันพืชขึ้นกับไม่กี่บริษัท  รวมตัวกันเป็นสมาคม  แล้วรวมหัวขึ้นราคาอะไรเกิดขึ้น  แล้ว ข้าว น้ำตาล น้ำมัน ปูน ทำเหมือนกัน  แค่นี้ก็คงด่ากันสบาย  แต่แน่นๆหุ้นน้ำมันพืชทั้งหมดล่วงแน่นๆ  ผลประกอบการเน่า  เกี่ยวกับเกษตรทุกตัวราคากำลังถอย  ตรวจสอบได้จากตลาดต่างประเทศ จากคุณ : แปลงข้าว เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 12:37:39

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเฉยๆอ่ะนะ ปกติจะพยายามเลี่ยงของผัดๆทอดๆอยู่แล้ว ช่วงนี้ลองหันมากินอาหารแบบต้มๆนึ่งๆกันสักพักบ้างสิ มันดีต่อร่างกายนะ คิดเสียว่าให้เครื่องในเราได้พักผ่อนบ้าง ขนาดเวลาซื้อรถเรายังชอบซื้อแบบที่ไม่กินน้ำมันเลย แล้วตัวเราเองจะกินน้ำมันให้เยอะไปไยเล่า แต่สำหรับใครที่ขาดของผัดๆทอดๆไม่ได้จริงๆ ก็น่าเห็นใจ อดทนรออีกสักพัก ปัญหานี้คงหมดไปเองแหละ ー　ー ー　ー 　く 　－ จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 12:47:37

ความคิดเห็นที่ 3 ประเด็นมันคือเรื่อง เงินเฟ้อ มากกว่ามั้งครับ เพราะ น้ำมันปาล์ม เป็นน้ำมันขั้น "พื้นฐาน" ที่ถูกที่สุด พวกคนขายข้าว ขายของทอด ถือโอกาสเพิ่มราคา ผสมปนเปกันกับเรื่องไข่ด้วย สมมติ ซื้อข้าวราด 3 อย่าง เมื่อก่อน 35 บาท ถ้ามีไข่ด้วย ราคาเพิ่มเป็น 43-45 บาทได้เลย ซึ่งแพงมากเพราะ ไข่ดาว คิด 8 บาท, ไข่เจียว คิด 10 บาท เป็นต้น อันที่จริงมันตั้งแต่ปัญหาไข่ก่อนหน้านี้แล้ว บางร้านแถวบ้านผม ถือโอกาสขึ้นอีก 5 บาทตั้งแต่ช่วงไข่แพงก่อนปัญหาน้ำมันปาล์มอีก แล้วก็คงราคาไว้เลย ผมก็เลิกซื้อร้านนั้น พอเป็นอย่างนี้ พวกคนธรรมดาทั่วไป เจออาหารขั้นพื้นฐานที่แพงขึ้น ก็ไปปรับราคาสินค้าและบริการอย่างอื่นที่ตนเองผลิตอีกต่อนึง คนขับรถสองแถวก็ปรับราคา ไรเงี้ย เพราะคิดว่ารายได้ตัวเองลดลง พอน้ำมันปาล์มแพง คนก็ต้องซื้อน้ำมันอย่างอื่นเพิ่ม เช่นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง ก็โดนกวาดออกไปกักตุนอีก ในขณะที่้ำน้ำมันถั่วเหลืองไม่ได้ผลิตในประเทศมาก คือพวกนี้มันเป็นสินค้าที่ปกติบริษัทจะพยายามไม่ผลิตมากหรือน้อยเกินไป แต่จะผลิตพอดีกับ demand เพราะราคามันขึ้นลงเร็วมาก พอมันขาดกระทันหัน มันก็ผลิตไม่ทัน พอรัฐไปบี้กับบริษัทน้ำมันถั่วเหลือง เขาก็พยายามผลิตมากขึ้น แต่ก็เจอปัญหากากถั่วเหลืองที่ได้จากการผลิตก็ไม่มีคนรับซื้ออีก ปัญหาก็พัวพันไปใหญ่ว่าถั่วเหลืองก็ขาดตลาดด้วย ในอีกทางนึง น้ำมันปาล์มก็ใช้เป็นส่วนประกอบของสินค้าอย่างอื่น เช่น สบู่ ซึ่งใช้น้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบถึง 80% เป็นต้น พวกนี้ชัดเจนว่าจะต้องขอปรับราคาด้วย มันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆนะ แต่อย่างเมื่อวานผมไปซื้อน้ำปั่นแถวบ้าน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้าน lotus เล็ก ซักพักก็มีแม่ค้าเดินมาคุยกัน ประมาณแม่ค้า้ร้านน้ำเป็นสายคอยบอกแม่ค้าคนอื่นว่า น้ำมันปาล์มมาถึง lotus รึยัง จะได้รีบมาซื้อก่อน อะไรแบบนี้ นี่แสดงให้เห็นว่า ชาวบ้านจริงๆรับรู้ได้ถึงปัญหานี้ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 13:03:17 จากคุณ : monomaniac }:-] เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 12:59:16

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อเช้านายก  ก็แจงหน่อย ๆ ทางทีวี  พอได้เข้าใจ จากคุณ : สมดั่งฤทัย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 13:02:12

ความคิดเห็นที่ 5 มันสื่อถึงการร่วมมือร่วมใจกันทำงานของทีมปกครองประเทศครับ เข้าห้างสรรพสินค้า  ชั้นน้ำมันพืช ว่างโล่ง ชั้นน้ำตาลทราย มีป้ายควบคุมจำนวนการซื้อ ไข่ไก่ แก้กันตั้งนาน ก็ยังราคาแพงอยู่ .....เลือกมาได้ สมดั่งฤทัย  กันจริงๆ .......... จากคุณ : ตี๋แก้มยุ้ย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 13:37:47

ความคิดเห็นที่ 6 คือ ไม่แปลก ที่ ห้องสินทร จะใช้ปั่นหุ้นได้ ทำให้คนอยากซื้อ เยอะ และทำให้ของน้อย ยังไงราคาก็ขึ้น ไม่ยาก เหมือนหุ้น จากคุณ : You'll never walk alone เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 13:49:56

ความคิดเห็นที่ 7 พ่อค้าแม่ค้า  และบ้านที่คนอยู่เยอะทำอาหารทอดๆ บ่อยๆ เดือดร้อนค่ะ น้ำมันถั่วเหลืองสำหรับผัด ก็ขาดตลาดตามไปด้วย ที่บ้านใช้ถั่วเหลือง กับทานตะวันก็ขาดตลาดตามไป 2 อาทิตย์ 1 ขวด - 1.5 ขวด   น้ำมันปาล์มไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ   น้ำมันมะกอก ก็มีใช้บ้างแต่คนแก่สมัยก่อนเค้าไม่นิยมน่ะค่ะ  มีเราใช้คนเดียวขวดนึงก็3 เดือนมั้งกว่าจะหมด ฮุฮุ จากคุณ : mmtaro (MMTaro) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 13:52:01

ความคิดเห็นที่ 8 ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศไม่เท่ากับราคาโลก (ในบ้านเราราคาแพงกว่า) แถมยังไม่ยอมนำเข้าเสรีอีก (ไม่รู้ว่าเกรงใจใคร) คนที่ได้รับผลกระทบก็ทุำกๆคนที่บริโภคทางตรงและอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มด้วยน่ะครับ จากคุณ : Papiruz เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 13:53:19

ความคิดเห็นที่ 9 เดิมทีเราสามารถผลิตน้ำมันปาล์มได้พอความต้องการในประเทศครับ แต่ช่วงที่ผ่านมา มีัปัญหา ผลผลิตลดลงมาก เนื่องจากแล้งมาก จากนั้น ก็น้ำท่วม และมีศัตรูพืชอีกด้วย และเรายังนำน้ำมันปาล์มบางส่วนไปผลิตไบโอดีเซลเพื่อใช้กับรถอีกด้วย (ถ้าน้ำมันปาล์มเหลือใช้ เหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่มีปัญหา) ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกก็ถีบตัวสูงขึ้นมากๆ จนทำให้การที่จะนำเข้า จะมีผลให้ราคาต้นทุนจริงๆ สูงขึ้นมาก โดยที่รัฐเองไม่ยากจะให้ราคาสูง มากกว่าเดิมนัก (แต่ในที่สุดก็สูงขึ้น แม้จะไม่มาก โดยรัฐชดเชยให้) และผลผลิตของเราจะกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นปกติในเดือนหน้า ซึ่งน่าจะมีผล ให้น้ำมันปาล์มไม่ขาดแคลนอีก (นอกจากจะมีวิกฤตอะไร มาซ้ำเติม) ถ้าเรานำเข้ามากๆในช่วงนี้ เดือนหน้าเกษตรกรก็อาจจะประท้วง เพราะทำให้ ราคาปาล์มตกลงมาก (ผลผลิตปาล์ม จะมีช่วงที่ขึ้นๆ ลงๆ ตามฤดูกาล) ปัญหาคืิิอ เราพยายามไปทำอะไรที่ขัดแย้งกัน จะใช้น้ำมันปาล์มราคาถูก โดยจะให้เกษตรกรขายได้ราคาดีๆด้วย ทั้งๆที่ตามหลักแล้ว คนที่ใช้มาก ก็ควรจะจ่ายมาก ตามสัดส่วนไป คนที่ใช้น้ำมันน้อยๆ ถึงราคาจะแพงขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีภาระอะไรเพิ่มขึ้นเลย คนที่ใช้มาก ก็ขายของแพงขึ้นก็ได้ คนที่ซื้อของ ก็อาจจะซื้อน้อยลงเอง และน้ำมันก็จะถูกใช้ลดลง กำไรก็ ลดลงบ้าง ซึ่งต้องยอมรับ กราฟราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกครับ ... 3,600 RM ประมาณ 1,200 USD จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 15:03:11

ความคิดเห็นที่ 10 ก่อนรัฐจะนำเข้าน้ำมันปาล์ม ช่วงที่มีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบคือทะลายปาล์มนั้น ราคาปาลืมทะลายขึ้นพรวดๆจากห้าบาทกว่าขึ้นไปถึงสิบเอ็ดบาท โรงงานเรียกร้องให้ขึ้นราคาน้ำมันเพราะ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รัฐจึงประกาศขึ้นราคาน้ำมันปาล์มรวดเดียวลิตรละเกือบสิบบาท พร้อมทั้งสั่งนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ ผลที่เกิดคือ ราคาปาล์มทะลายหล่นทีเดียวกลับไปโลละหกบาท แต่... ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดกลับราคาไม่ลดลงเลย การนำเข้า เพิ่มปริมาณสินค้า ราคาสินค้าไม่ลด แต่ต้นทุนลด p คงที่ q เพิ่ม แล้วmargin เพิ่ม กำไรเพิ่มบาน ชาวสวนปาล์มขายไม่ได้ราคา ผู้บริโภคก็ยังต้องซื้อแพงอยุ่เหมือนเดิม แล้วใครได้ประโยชน์จากส่วนต่าง มันก็ละครเดิมๆที่หากินบนความทุกข์ยากของคนทั้งประเทศ เพียงแค่เปลี่ยนฉากในเรื่อง ฉายวนไปเวียนมา ซ้ำๆกันมาหลายสิบปี ตั้งแต่ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง เสียดายที่ละครเรื่องนี้ไม่เคยมีพระเอก จากคุณ : nirvanine เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 15:58:13

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบ คห 10 คุณ nirvanine จัง .... ตนเป็นที่เพิ่งแห่งตัวดีที่สุดคับ จากคุณ : chat156 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 16:59:10

ความคิดเห็นที่ 12 ผมคุ้นๆคำพูดนี้ของคห.10จังครับ   หรือคุณคือคุณพิชัย จาวลา? 555+ จากคุณ : ginju เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 18:48:04

ความคิดเห็นที่ 13 ที่บ้านผมปลูกปาล์มครับ แล้วก็เป็นผู้บริโภคน้ำมันปาล์มด้วย เราขายวัตถุดิบได้ถูก แต่ต้องซื้อกลับมากินแพงๆ รับร้อยบาท จ่าย ร้อยยี่สิบบาท ไม่ต้องถามนะครับว่าทำไมเกษตรกรไทยถึงจน ยิ่งสินค้าเกษตรตัวอื่นๆ กลไกราคาบิดเบือนยิ่งกว่านี้ นานกว่านี้ อย่างชาวนา อยุ่ในสภาพแบบนี้มาเป็นสิบๆปีแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่าทำไมเกษตรกรถึงต้องจน ถ้ามองย้อนกลับไปเรื่องน้ำมันปาล์มแพงแล้วปาล์มทลายถูกนี่กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย แต่ก่อนผมเคยดูข่าว ที่ชาวสวนชาวไร่ประท้วง เอามันสำปะหลัง เอาสับปะรด เอาอะไรต่ออะไรไปเททิ้งปิดถนนกัน ยังคิดว่าเอามาเททิ้งทำไม น่าเสียดาย ตอนนี้เข้าใจเหตุผลเลยว่าทำไม จะเอาไปขายโรงงานหรือไม่ ก็ไม่ได้กำไรอยุ่ดี จะขาดตลาดหรือล้นตลาด ประชาชนก็ซื้อกินแพงอยู่ดี แล้วจะเอาไปขายโรงงานให้พวกมันกำไรทำไม จากคุณ : nirvanine เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:55:08

ความคิดเห็นที่ 14 คห 8 เดิมทีเราสามารถผลิตน้ำมันปาล์มได้พอความต้องการในประเทศครับ แต่ช่วงที่ผ่านมา มีัปัญหา ผลผลิตลดลงมาก เนื่องจากแล้งมาก จากนั้น ก็น้ำท่วม และมีศัตรูพืชอีกด้วย คำพูดนี้ไม่จริง ครับ ผลผลิต โดยรวม เพิ่มมากขึ้น ดูได้จากยอดการผลิตรวมของแต่ละปี 2553 มีผลผลิตมากกว่า 2552 ปัญหา คือ เราส่งออก น้ำมันปาล์ม มากเกินไปในช่วงเดือน ก.ย. ต.ค  2 เดือน เท่ากับส่งออกตลอดปี2552 ซึ่งหมายถึงส่งออกมากเกิน เดือน พ.ย.-ธ.ค. ยังคงส่งออกอีก ทั้งๆที่ ปัญหาขาดแคลน น้ำมันปาล์ม เริ่มมีแล้ว ไม่มีการประสานงา(น) ระหว่าง กรรมการนโยบายน้ำมันปาล์ม คณะกรรมการ ต้องการให้เกิดภาวะขาดแคลน แต่ว่า ไม่คิดว่า ปัญหามันจะบานปลาย โดยรวม รัฐบาล บริหารงานแย่ ครับ ทำงานให้เกิดปัญหา แต่ว่า ควบคุมไม่ได้ น้ำมันปาล์ม ไทยผลิตได้มาก ส่งออกทุกปี ซึ่ง มี.ค. จะเริ่มมีผลผลิตออกมา ราคาถูก ดังนั้น พออนุมัติให้นำเข้า เริ่มรู้ว่า กระทบกับฐานเสียงของรัฐบาล ก็เลยแก้ปัญหาไม่ถูกจุด รัฐบาล อนุมัติให้ขึ้นราคาก่อน ที่จะใช้มาตรการนำเข้า ทำให้มีการกักตุนสินค้า ที่จริงปัญหาก็น่าจะคลี่คายไป แล้ว แต่ว่า สร้างกระแสว่า จะมีการขึ้นราคาอีก ทำให้มีการกักตุน ระลอก 2 แต่ว่า คนที่กักตุนระลอก 2 คงต้องขาดทุนแน่ เพราะว่า ผลผลิตใหม่ เริ่มออกมา แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 20:00:54 จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:58:34

ความคิดเห็นที่ 15 เอาคนที่ถนัดแต่น้ำมันจิ้งเหลนมาแก้ปัญหา จากคุณ : พีทีดี เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:00:35

ความคิดเห็นที่ 16 กำลังทำวิจัยกันครับว่า จะเอาน้ำมันดีเซลบีห้ามาทอดกล้วยแขกได้อย่างไร จากคุณ : นิรนาม เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:46:42

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วทำไมน้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันถั่งเหลือง ถึงได้หายไปด้วยล่ะ งง จากคุณ : โดน เต็มเต็ม เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:52:52

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 17     แล้วทำไมน้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันถั่งเหลือง ถึงได้หายไปด้วยล่ะ งง จากคุณ : โดน เต็มเต็ม   เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:52:52     ----------------------------------------------------------------------- มันเป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่ดีเห็นเพื่อนหายไปก็คงออกไปตาม  เราเลยไม่เห็นมันอยู่บนชั้นขายของห้างนะครับ จากคุณ : พาชื่น เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:15:51

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าน้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันอื่นๆ ไม่หายไปด้วย ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม มันก็จะไม่มีความหมาย แล้วพวกโรงงานผลิตกับเจ้าของสวนปาล์ม บางคน จะรวยได้หรือ จากคุณ : FeeL HaPPY เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:38:05

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหาที่เกิดขึ้น มี ประเด็นเท่านั้น ที่สามารถทำให้ราคา และสินค้าขาดตลาดได้ ในภาวะไม่ใช่สงครามหรือเหตุปัจจัยที่รุนแรง สาเหตุที่1.  รัฐบาล หรือฝ่ายจัดการฝ่ายบริหาร มีส่วนได้เสียอันสำคัญ เล่นแร่แปรธาตุ เพื่อเข้ากระเป๋าอย่างน่าเกียจ สาเหตุที่2. รัฐบาล หรือฝ่ายจัดการฝ่ายบริหาร ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ดี ไม่สามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวจนลุกลามและรุนแรงขึ้นถึงระดับเหมือนอยู่ในภาวะสงครามเลยทีเดียว 2 สาเหตุเท่านั้น คุณคิดว่ามาจากสาเหตุได้หรือ จากคุณ : เข้ามา (เทวาลิขิต) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 06:01:17

ความคิดเห็นที่ 21 ลองอ่านดูนะครับ ... ข่าวเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาน้ำมันปาล์มปี 53 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ http://www.ryt9.com/s/bot/1073486 มีตอนหนึ่งบอกว่า ... ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว (2) อุปทานตึงตัวจากปัญหาภัยแล้งตั้งแต่กลาง ปี 2553 และน้ำท่วมในช่วงปลายปี ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันของไทยต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยผลผลิตปาล์มทะลายที่ โรงงานสกัดรับซื้อในไตรมาส 4 ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 27.5 เป็น ปริมาณที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่าสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศ ณ สิ้นเดือนธันวาคม จะเหลือ เพียงประมาณ 80,000 ตัน (ปกติอยู่ที่ระดับ 1.2 แสนตัน) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 66.7 ของการความต้องการใช้ในประเทศ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 11:21:00 จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 11:20:47