|
แล้วแต่คนครับ แต่ของอย่างนี้มันบอกไม่ได้หรอกครับ ถ้าใจไม่รักในเรื่องนี้จริง ไม่มีทางจะสำเร็จด้านหุ้นแน่นอน
คนที่ผมรู้จักคนหนึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนรวมเป็นผู้หญิงอายุแก่กว่าผมเกือบสิบปี
เธอไม่ได้จบวิชาทางไฟแนนซ์หรือการเงินเลย แต่จบอักษรศาสตร์ และในหัวก็ไม่เคยความชอบเรื่องการเงินหรือธุรกิจแต่อย่างใด สนใจจะเป็นแต่นักเขียนข่าว เขียนหนังสือพิมพ์ ซึ่งรักและคาดหวังมากที่จะเป็นนักเขียน ในหัวเธอตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตลาดหุ้นคืออะไร จนวันหนึ่งโอกาสพลิกผันได้มีโอกาสมาอยู่ในวงการธุรกิจและหุ้นโดยคำแนะนำของผู้ใหญ่ ทำไปทำมาเกิดชอบและรักในการเงินเข้าจึงได้เข้ามาอยู่ในวงการอย่างจริงจังศึกษาและเรียนรู้จากสิ่งที่เธอไม่เคยสนใจกลับกลายเป็นรักมันเข้า สามารถทำกำไรให้กับกองทุนอย่างมากถึงปีละกว่าหลายสิบเปอเซนต์ กระทั่งช่วงแฮมเบอร์เกอร์ เธอก็ยังคงทำหน้าที่บริหารกองทุน แต่ไม่ได้เข้าลงทุนในหุ้น ช่วงนั้นตลาดเงียบเหงามากเธอจึงตัดสินใจลาออก จากคนบริหารกองทุนหลักพันหลักหมื่นล้าน ทำกำไรให้กับบริษัทได้อย่างมากกว่าปีละหลายร้อยหลายพันล้าน ปัจจุบัน ... ไม่ได้ทำงานนี้แล้ว ได้เงินก้อนหนึ่งจากความสามารถตรงนี้ทั้งจากเงินเดือนและโบนัส แม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินที่มากถึงแปดหลักแต่เธอก็ยังคงขับโตโยต้าโคโรล่าคันเก่าสีน้ำเงินอายุหลายสิบปีของเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่ทำงานจนวันสุดท้ายที่ลาจากกองทุน (ว่ากันว่ากรรมการผู้จัดการถึงกับเสนอโบนัสให้เธอมากถึง 8 หลักให้อยู่และรอช่วงตลาดฟื้นเพื่อทำหน้าที่บริหารกองทุนอีกครั้ง) แต่เธอก็ยังคงปฏิเสธและกลับบ้านเกิดของเธอที่บ้านนอก ทำหน้าที่พัฒนาชุมชนและอยู่กับสิ่งที่มีความสุข คือการได้อยู่กับบทความของเธอเป็นนักเขียนอิสระ และในช่วงเวลาว่างก็พัฒนาชุมชน สอนเด็กๆในชุมชนให้รู้จักการใช้เงินอย่างมีหัวคิด ประหยัด เก็บออม
สุดท้ายแล้วชีวิตของเราคืออะไร? การอยู่บนกองเงินกองทองอย่างมีความสุข, หรือการแบ่งปันรอยยิ้มเพื่อคนรอบข้าง
แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 23:48:19
จากคุณ |
:
venezier
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.พ. 54 23:47:33
|
|
|
|
|