ความคิดเห็นที่ 1 1. แบบธนาคารกรุงเทพ (ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. - 16 มี.ค. 2554) เปิดบัญชีฝากประจำ Step Plus 15 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และเมื่อครบกำหนด พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 4.50% ต่อปี ระยะเวลาการฝาก (เดือน)  อัตราดอกเบี้ย (ต่อปี) เดือนที่ 1 - เดือนที่ 6  1.75% เดือนที่ 7 - เดือนที่ 12  2.25% เดือนที่ 13 - เดือนที่ 15  4.50% โทรไปสอบถามแล้วเค้่าบอกว่าให้คิดแยก 1. เป็นช่วงๆ เดือน 1 - 6, เดือน 7 - 12, เดือน 13 - 15 2. คำนวณดอกเบี้ยแต่ละช่วงเดือน หักภาษี ถึงจะได้ดอกเบี้ย 3. เอาดอกเบี้ยที่ได้แต่ละช่วงเดือนรวมกันถึงจะได้ยอดรวม 15 เดือน จากคุณ : PASSENGERS ON BOARD เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 14:37:36

ความคิดเห็นที่ 2 2. แบบธนาคารกรุงไทย (ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้) เป็นเงินฝากประจำ 11 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ในอัตราเฉลี่ย 2.25% ต่อปี ระยะเวลาการฝาก (เดือน)  อัตราดอกเบี้ย (ต่อปี) โดยเดือนที่ 1-3 จ่ายในอัตรา 1.25% ต่อปี   เดือนที่ 4-6 จ่าย 1.50% ต่อปี เดือนที่ 7-8 จ่าย 1.75% ต่อปี เดือนที่ 9-10 จ่าย 4% ต่อปี และเดือนที่ 11 จ่าย 5% ต่อปี โทรไปสอบถามแล้วเค้่าบอกว่าให้คิดแยกเหมือนกับของธนาคารกรุงเทพเช่นกัน จากคุณ : PASSENGERS ON BOARD เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 14:40:33

ความคิดเห็นที่ 3 3. แบบธนาคารธนชาติ แบบฝากประจำ 15 เดือน ให้ดอกเบี้ยสูง 2.75% โทรไปสอบถามแล้วเค้่าบอกว่ามีเสียภาษี 15% จากคุณ : PASSENGERS ON BOARD เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 14:44:01

ความคิดเห็นที่ 4 เค้าบอกสูตรให้คิดเอง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิด คิดได้แต่ของ แบบธนาคารธนชาติ 500000 คูณ 2.75 หาร 12 เดือน คูณ 15 เดือน หาร 100 คูณ 15% ลบออกแล้วเท่ากับ เมื่อครบ 15 เดือน จะได้ดอกเบี้ยหลังหักภาษีแล้ว 14,609.37 บาท ถูกหรือไม่? แบบธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทยคิดอย่างไร? ขอผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินช่วยเหลือคิดดอกเบี้ยให้ด้วย จากคุณ : PASSENGERS ON BOARD เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 15:28:20

ความคิดเห็นที่ 5 เอาอัตราดอกเบี้ยที่ถูกเฉลี่ยมาเป็นต่อปีหลังหักภาษีแล้ว มาเทียบกับจำนวนเดือนที่ฝาก จะทำให้คำนวณได้ง่ายขึ้นนะครับ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 15:44:53

ความคิดเห็นที่ 6 แบบแรก อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี 2.125% ต่อปี ระยะเวลา 15 เดือน ดอกเบี้ยรับ 13,281.25 บาท ดอกเบี้ยรับ(เทียบต่อหนึ่งปี) 10,625 บาท แบบที่สอง อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.25% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี 1.9125% ต่อปี ระยะเวลา 11 เดือน ดอกเบี้ยรับ 8,765.63 บาท ดอกเบี้ยรับ(เทียบต่อหนึ่งปี) 9,562.50 บาท แบบที่สาม อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.75% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี 2.3375% ต่อปี ระยะเวลา 15 เดือน ดอกเบี้ยรับ 14,609.38 บาท ดอกเบี้ยรับ(เทียบต่อหนึ่งปี) 11,687.50 บาท ทั้งหมดสามทางเลือกนี้ ผมไม่แนะนำเลยสักทางเลือกเดียวครับ แต่หากจำเป็นต้องเลือกจริง ๆ ให้เลือกทางเลือกสุดท้าย สาเหตุที่ไม่แนะนำให้เลือกเลย เพราะเป็นเงินฝากประจำที่ออกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้สภาพตลาดเงินเปลี่ยนแปลงไป ดอกเบี้ย RP ที่ถือว่าเป็นดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะปรับขึ้นอีกในการประชุมกนง.วันพุธหน้า ซึ่งน่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับสูงขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่อีก และโดยทั่วไปแทบทุกครั้งที่ธปท.ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ย RP ธพ.ส่วนใหญ่มักออกเงินฝากประจำระยะยาวล๊อคอัตราผลตอบแทน เพื่อดึงยอดเงินฝาก รออีกสักนิดช่วงปลายเดือน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากน่าจะปรับขึ้นอีก ระหว่างนี้ลงทุนพักเงินไว้ในกองทุนรวมตลาดเงิน (MMF) ก็ได้ครับ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 15:56:39

ความคิดเห็นที่ 7 การประชุมกนง.วันพุธหน้า ซึ่งน่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับสูงขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่อีก รออีกสักนิดช่วงปลายเดือน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากน่าจะปรับขึ้นอีก ระหว่างนี้ลงทุนพักเงินไว้ในกองทุนรวมตลาดเงิน (MMF) คืออะไร? ไม่มีความรู้ด้านการเงิน - การลงทุนเลย ถ้าจะให้ศึกษาคงยากไป ขอเป็นคำแนะนำเพิ่มเติมดีกว่า จากคุณ : PASSENGERS ON BOARD เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:19:59

ความคิดเห็นที่ 8 ผมบอกก่อนครับว่าที่ผ่านมา หลังจากที่กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย RP แล้ว อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธพ. ก็จะปรับขึ้นตาม ในครั้งนี้ก็เช่นกัน มีการคาดการณ์ไว้ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับตัวขึ้น และดอกเบี้ยเงินฝากจะปรับขึ้นตามภายในไม่กี่วัน หากดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น หมายความว่าต้นทุนของธนาคารนั้นได้สูงขึ้น แล้วธพ.ก็จะไม่มีการออกโปรโมชั่นเงินฝากระยะยาว ยิ่งถ้าเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์หรือไม่มีภาระภาษี ภาษีหัก ณ ที่จ่ายของดอกเบี้ยเงินฝาก จะทำให้ส่วนผลตอบแทนลดลงไปอีก ความเห็นผมส่วนตัวนะครับ การศึกษาด้านการลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย ค่อยๆขยับขยายกันไป เป็นการปล่อยให้เงินทำหน้าที่ของมันเองอย่างสมบูรณ์ เป้าหมายของการลงทุนเบื้องต้นคือ เอาชนะเงินเฟ้อ ไม่งั้นฝากเงินเท่าไร เงินเฟ้อเอาไปกินหมด ซึ่งอาจจะเริ่มต้นจากกองทุนรวมตลาดเงินก่อน หรือถ้ายังไม่อยากศึกษาตอนนี้ ผมเสนออีกทางเลือกหนึ่งให้ลองพิจารณาดู เป็นหุ้นกู้ของบริษัท ช.การช่าง ครับ อายุ 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.80% หักภาษีแล้วเหลือ 3.23% ต่อปี เปิดจำหน่ายวันจันทร์นี้ที่ธนาคารกรุงไทยครับ http://www.ktb.co.th/th/news_promotion/wealth_be_chor.jsp จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 18:54:39

ความคิดเห็นที่ 9 MMF เป็นพวกกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตร  กองทุนที่คุณลงทุนอยู่นั่นก็น่าจะใช่ครับ ลิงค์แรกในกระทู้ก่อนที่ผมให้คุณไป รายชื่อพวกนั้นคือกองทุนแบบ MMF ทั้งหมดครับ ในสภาวะที่ดอกเบี้ยยังไม่นิ่ง ถ้าดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น กองทุนพวกนี้จะมีแนวโน้มทำกำไรได้มากกว่าฝากประจำครับ เพราะถ้าดอกเบี้ยขึ้น ดอกเบี้ยฝากประจำจะไม่ขึ้นด้วย เริ่มต้นฝากดอกเบี้ยเป็นเท่าไร จะเท่านั้นตลอด หรือเป็นไปตามเงื่อนไขตั้งแต่เริ่มเปิดบัญชี ในขณะที่กองทุนจะมีลงทุนในพันธบัตรระยะสั้น ๆ ซึ่งจะมีพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยดี ๆ ออกมาให้ลงทุนเรื่อย ๆ ครับ พอดอกเบี้ยนโยบาย(ดอกเบี้ยที่ประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (จริง ๆ คือ กนง. แต่ให้เข้าใจง่าย)ขึ้น พันธบัตรที่ออกมาใหม่ ๆ จะให้ดอกเบี้ยที่สูงตามไปด้วยครับ ถ้าเป็นดอกเบี้ยขาลง พันธบัตรที่กองทุนลงทุน ก็จะมีแนวโน้มที่จะให้ดอกเบี้ยลดลงด้วยครับ ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนของฝากประจำจะดีกว่า ที่นักวิเคราะห์ นักวิชาการ นักการเงิน ฯลฯ เขาคาดกันไว้ว่า ปีนี้ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นอีกประมาณ 2 ครั้งครับ คงเพิ่มอีกประมาณ 0.5-1% จะฝากประจำ หรือลงทุนในกองทุน ก็ขึ้นอยู่กับว่า ชอบความแน่นอน หรือชอบความผันผวน (ไม่มากเท่าไร) ครับ อ้ออีกอย่างสภาพคล่องของกองทุนสูงกว่าฝากประจำครับ ฝากประจำถอนได้ตามกำหนด (แต่ได้เงินเลย) กองทุน MMF พวกนี้ขายได้ทุกวัน (รอเงิน 1-3 วันแล้วแต่กองทุน แต่ส่วนใหญ่วันเดียว) ในลิงค์ผลตอบแทนกองทุนที่ให้ไป จะมีกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนที่คุณเคยลงทุนอยู่ครับ ถ้าจะลงทุนต่อแนะนำให้ย้ายไปซื้อกองทุนอื่นครับ จากคุณ : ชาวไร่ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 19:57:55

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบ คห.7 แนะนำให้ไปดูพวกร้านหนังสือตรง การเงิน การลงทุน เราได้หนังสือเรื่อง บริหารเงินเก็บผ่านกองทุนรวม  หรือชื่อหนังสือแนวๆบริหารเงินออม เราเข้าร้านซีเอ็ดนะ  หนังสือพวกนี้มีเยอะเลย  เขียนแบบเข้าใจง่าย อ่านแล้วจะเข้าใจเรื่องการบริหารเงินออมได้ดีขึ้นและมั่นใจในการลงทุนค่ะ แล้วถ้าไม่เข้าใจตรงจุดไหน ก็มาถามผู้รู้ในนี้ได้ ใจดีหลายท่านเลยค่ะ เพิ่มเติม  พอดีไม่ได้อ่านกระทู้เก่านะคะ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 54 11:00:27 จากคุณ : and then เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 10:54:41

ความคิดเห็นที่ 11 tahnk จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 15:02:33

ความคิดเห็นที่ 12 ทุนการฝากอยู่ที่ 5 แสนบาท 1. แบบธนาคารกรุงเทพ (ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. - 16 มี.ค. 2554) บัญชีฝากประจำ Step Plus 15 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และเมื่อครบกำหนด พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 4.50% ต่อปี ระยะเวลาการฝาก (เดือน)  อัตราดอกเบี้ย (ต่อปี) เดือนที่ 1 - เดือนที่ 6  1.75% เดือนที่ 7 - เดือนที่ 12  2.25% เดือนที่ 13 - เดือนที่ 15  4.50% แบบแรก อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี 2.125% ต่อปี ระยะเวลา 15 เดือน ดอกเบี้ยรับ 13,281.25 บาท ดอกเบี้ยรับ(เทียบต่อหนึ่งปี) 10,625 บาท 2. แบบธนาคารกรุงไทย (ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้) ฝากประจำ 11 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ในอัตราเฉลี่ย 2.25% ต่อปี ระยะเวลาการฝาก (เดือน)  อัตราดอกเบี้ย (ต่อปี) โดยเดือนที่ 1-3 จ่ายในอัตรา 1.25% ต่อปี   เดือนที่ 4-6 จ่าย 1.50% ต่อปี เดือนที่ 7-8 จ่าย 1.75% ต่อปี เดือนที่ 9-10 จ่าย 4% ต่อปี และเดือนที่ 11 จ่าย 5% ต่อปี แบบที่สอง อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.25% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี 1.9125% ต่อปี ระยะเวลา 11 เดือน ดอกเบี้ยรับ 8,765.63 บาท ดอกเบี้ยรับ(เทียบต่อหนึ่งปี) 9,562.50 บาท 3. แบบธนาคารธนชาติ ฝากประจำ 15 เดือน ให้ดอกเบี้ยสูง 2.75% มีเสียภาษี 15% แบบที่สาม อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.75% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี 2.3375% ต่อปี ระยะเวลา 15 เดือน ดอกเบี้ยรับ 14,609.38 บาท ดอกเบี้ยรับ(เทียบต่อหนึ่งปี) 11,687.50 บาท แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 15:27:37 จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 15:24:43

ความคิดเห็นที่ 13 บัญชีฝากประจำ ทีเอ็มบี อัพ แอนด์ อัพ บัญชีเงินฝากประจำประเภท 24 เดือนรูปแบบใหม่ ที่มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และเพิ่มขึ้นทุกๆ 6 เดือน พร้อมข้อเสนอที่แตกต่างจากบัญชีเงินฝากประจำแบบเดิมๆ โดยมอบอิสระทางการเงินให้เจ้าของบัญชีสามารถถอนได้ก่อนกำหนด และยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตามระยะเวลาที่ฝาก มอบความอิสระให้ลูกค้าสามารถถอนก่อนกำหนดได้ เต็มจำนวนในกรณีที่ลูกค้าต้องการนำเงินไปใช้ โดย ยังคงได้รับดอกเบี้ยเงินฝากประจำตามระยะเวลาที่ฝาก ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกๆ 6 เดือนสูงสุด 5.25% ต่อปี สะดวกยิ่งขึ้น ทุก 3 เดือน ธนาคารจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันของ TMB ตามที่ลูกค้าแจ้งไว้เมื่อเปิดบัญชี อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับ (ต่อปี) บัญชีเงินฝากประจำ TMB Up & Up บัญชีเงินฝากประจำอื่น ๆ ถอนก่อนครบกำหนด.ถอนก่อนครบกำหนด.ถอนเมื่อครบกำหนด                             เดือนที่ 1-6     1.00 %          1.00 %              0.62 % เดือนที่ 7-12   2.00 %          2.00 %              0.62 % เดือนที่ 13-18 2.25 %          2.25 %              0.62 % เดือนที่ 19-24 5.25 %          5.25 %              0.62 % http://www.tmbbank.com/personal/deposits/timeDeposits/upandup.php จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 16:38:04

ความคิดเห็นที่ 14 บัญชีเงินฝากประจำ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยด่วน ประเภท 3 เดือน รับดอกเบี้ย 1.8 % ประเภท 12 เดือน รับดอกเบี้ย 2.7 % ด่วนจริง สูงจริงๆ รับดอกเบี้ยทั้งก้อนใน 7 วัน ต้อง ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยด่วน ฉีกกฎฝากประจำ 7 วัน รับดอกเบี้ยสูง ทั้งก้อนไปใช้เลย จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 17:14:04