ความคิดเห็นที่ 1 มุมมองผมเงินเฟ้อทำให้คนอยากได้ที่ดินเพื่อปลูกบ้านสร้างลดลง เพราะค่าขนส่งวัสดุกอสร้างแพง,ดอกเบี้ยแพง,กำลังซื้อลดลง ถ้าคิดตามหลัก Demand-Supply ที่ดินน่าจะขายได้ลดลงราคาไม่น่าจะสูงขึ้น กระนั้นขึ้นกับพื้นที่แต่ละแหล่งด้วยว่าความต้องการมากหรือน้อย ยังไงโดยรวมผมคิดว่าราคาไม่น่าเพิ่ม จากคุณ : opar156 เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 09:30:38

ความคิดเห็นที่ 2 แบเบอร์... จากคุณ : มุมม่วง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 09:43:06

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่ม จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 09:57:57

ความคิดเห็นที่ 4 หากเป็นเงินเฟ้อที่คนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น สินค้าเกษตรราคาดี ยาง ข้าว ข้าวโพด ค่าแรง เศรษฐกิจดี ราคาที่ก็น่าจะเพิ่มครับ จากคุณ : Mr Google เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:02:02

ความคิดเห็นที่ 5 ปี 55 มีการประเมินที่ดินใหม่นิ จากคุณ : radiergummi เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:28:12

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่มไม่เพิ่มไม่รู้ ที่นาของแม่ผม ซื้อไว้ 7 ปีที่แล้ว ไร่ละ 1 แสนกว่าๆ ปีนี้มีคนมาขอซื้อไร่ละ 1.5 ล้าน จากคุณ : อนาถา เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:30:53

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่มแน่นอน มาก-น้อยตามทำเล จากคุณ : Mushroom Man เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:32:49

ความคิดเห็นที่ 8 ตามคห.7 อาจจะเพิ่มขึ้นมากหรือราคาอาจจะลดลงมากด้วยถ้าทำเลแย่ลงหรือการคาดการณ์ในอนาคตว่าแถวนั้นจะแย่ลง ตัวอย่าง...บ้านเพื่อนผมอยู่ในหมู่บ้านลึกสุดๆของจว.นนทบุรี 15ปีก่อน3ล้าน(แพงมาก)แต่เดี๋ยวนี้ก็ยัง3ล้าน(เงินเฟ้อเท่าไหร่คิดเอา) แต่บ้านเพื่อนอีกคนดันอยู่ติดถนนใหญ่ 15ปีก่อน1ล้าน(บ้านเล็กติ๊ดเดียว)แต่เดี๋ยวนี้10ล้าน+ สรุป:บ้านมีปัจจัยหลายอย่างครับต้องใช้ตัวแปรหลายตัวคำนวณว่าตัวไหนมีผลมากน้อย จากคุณ : ginju เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:46:27

ความคิดเห็นที่ 9 ที่สวนแถวบ้านผม2-3ปี ก่อน1แสนก็แพงแล้ว ตอนนี้2แสน+ครับ จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 11:20:36

ความคิดเห็นที่ 10 เงินเฟ้อตอนนี้เกิดจากต้นทุนการผลิตเเพง ข้าวของขึ้นราคา เช่นน้ำมันเเพง  อาจจะเพราะรัฐบาลไม่เอาอ่าวเอาทะเล ค้าขายไม่เป็น นโยบายคับเเคบ หาเงินยาก ราคาอสังหาฯ จำพวกที่ดินขึ้นราคายาก หาให้พอกินก็เเถบตายเเล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อที่ดิน ถ้าเงินเฟ้อเเบบสมัยชาติชาย สมัยทักษิณ มันตีฟองสบู่ เงินท่วมประเทศ ใครก็อยากมาค้าขายด้วย ของเเพงเเต่มีเงินซื้อ จับเเสนขายสองเเสนมีคนเก็งกำไร เพราะเงินมันหาง่าย เศษฐกิจเติบโต สนานรบเป็นสนามการค้า รอบบ้านต้องพึ่งพาเรา เป็นพี่เปิ้มในเเถบนี้ เเล้วปัจจุบันเป็นอย่างไร  คอนโดริมรถไฟฟ้า เมื่อก่อนว่างไม่เกินเดือน เเพงเท่าไรก็มีต่างชาติ มาเเย่งเช่า ปัจจุบันนอกจากจำนวนล้นไม่พอ  หาต่างชาติมาอยู่มาลงทุนยังไม่ค่อยเจอ ลดค่าเช่าเเล้ว ยังหาคนเช่าลำบากเลย มันเป็นประสพการจริงของผม แล้วจะให้เชื่อมั่นว่า เราโชคดีที่ได้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายก เหมือนคนใหญ่คนโตของประเทศนี้เขาบอก ได้อย่างไร ฝีมือการบริหารประเทศมันต่างกันเเบบฟ้ากับเหว ไปละขืนบ่นนาน ภัยจะมา จากคุณ : รัตน์ (lanna_rice) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 11:35:15

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านความเห็นข้างบน เหมือนกับว่าเศรษฐกิจฟองสบู่ดี...เริ่มสับสนอะไรดีตามหลักเศรษฐศาสตร์ จากคุณ : Muay ja เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 11:48:55

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นเหมือน # 11 จากคุณ : tu (I soros) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 12:49:44

ความคิดเห็นที่ 13 เศรษฐกิจฟองสบู่แทบทั้งหมดเกิดจากภาษีที่ดินต่ำไปทำให้คนสะสมกักตุนที่ดินครับ เพราะเก็บที่ดินไว้เฉย ๆ ราคามันก็ขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามความเจริญและความหนาแน่นของชุมชน ราคาสินค้าแพงขึ้นจนคนเห็นว่าเงินไม่มีเสถียรภาพ ก็จะมีส่วนหนึ่งรีบซื้อที่ดินก่อนที่ที่ดินจะแพงขึ้นด้วย ดังนั้น ที่ดินก็จะมีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ภาษีที่คิดจะเพิ่มขึ้นก็เห็นมีแต่จะขึ้นภาษีที่ดิน ถ้าภาษีที่ดินสูง ราคาที่ดินก็จะต่ำ ถ้าสมมุติเก็บภาษีเท่าค่าเช่าที่ควรเป็น ที่ดินก็จะมีราคาเป็นศูนย์ครับ แต่เขาว่ามันเป็นธรรมดีและความเหลื่อมล้ำ ความยากจนจะหมดไปด้วย แต่ต้องค่อย ๆ ขึ้นภาษีที่ดินและชดเชยด้วยการลดภาษีรายได้และภาษีจากการลงแรงลงทุน ที่ก่อผลผลิตและบริการเอามาแลกเปลี่ยนซื้อขายกันนะครับ ซึ่งจะทำให้สินค้าราคาถูกแต่ค่าจ้างเงินเดือนไม่ถูกหักภาษีก็มีกลับบ้านมากขึ้นครับ จากคุณ : สุธน หิญ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 12:51:11

ความคิดเห็นที่ 14 ภาษี 0.5% ที่ดิน 10 ล้าน เสียภาษี ปีละ 50,000 บาท ตกเดือนละ 4,200 บาท มีแค่โก้ๆ ครับ rate ทำอะไรไม่ได้ คนชั้นกลางที่พอมีและคนจนกระทบอีกครั้งครับ ______________________________ จากร่างภาษีที่ดินฉบับใหม่จะทำให้ทุกคนเสียภาษีที่ดินเหมือนกันหมด โดยมีฐานภาษี 3 อัตราที่ต่างกันไปตามขนาดและมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราแรกเป็นอัตราภาษีทั่วไป สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (เชิงพาณิชย์) ไม่เกินร้อยละ 0.5 ของฐานภาษี อัตราที่สองเป็นอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับที่อยู่อาศัยของตน โดยไม่ประกอบเชิงพาณิชย์ ไม่เกินร้อยละ 0.1 ของฐานภาษี อัตราที่สามเป็นอัตราภาษีสำหรับที่ดินที่ใช้ประกอบเกษตรกรรม ไม่เกินร้อยละ 0.05 ของฐานภาษี จากคุณ : Mr Google เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 15:12:39

ความคิดเห็นที่ 15 ราคาที่ดินปรับสูงขึ้นตามเงินเฟ้อครับ แต่จะให้ราคาที่พุ่งพรวดอย่างรุ่นเศรฐ๊นีเก่าๆคงยากแล้วครับ อีกอย่างการตีราคาที่ก็มีหลายแบบยิ่งติดถนนใหญ่หน้ากว้างก็ยิ่งแพงครับ แต่ถ้าเป็นที่ตาบอด(ไม่มีทางเข้าออก)อยู่ลึกมากการคมนาคมสาธาณูปโภคไม่มี การปรับตัวของราคาที่เพิ่มขึ้นก็จะช้ามาก เก็บไว้เถอะครับ อีกหน่อยเงินเฟ้อจะยิ่งรุนแรง ที่ดินก็เป็นทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างจำกัด ราคาที่ดินก็ต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน... จากคุณ : rookieinvestor เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:13:02