ความคิดเห็นที่ 1 อย่าไปใส่ใจเลยครับ เอาเวลามาอัพเดทบล็อคดีกว่า (รออ่านมา 2 ไตรมาสแล้วครับ) คิดๆ ดูแล้ว แค่คำว่า "สัญญาทาส" ยังมีปัญหา ว่าแล้วก็ขอแก้ข้อความดีกว่า กลัวงานจะงอกเอา แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 54 02:29:11 จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 02:21:20

ความคิดเห็นที่ 2 อืม 5000ล้านใน 6 เดือนนี่  ในพอร์ตประมาณ 40-50 ล้านป่ะ มันก็จริงอ่ะ  นักวิเคราะห์มีสิทธิ์จะแนะนำอะไรก็ได้ คนลงทุนจะเชื่อหรือเอามาต่อยอดอะไรก็เป็นสิทธิ์เช่นเดียวกัน เพื่อตอบสนองความอยากรู้ ขอกลับไปอ่านหน้า 2 ก่อน แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 54 11:00:29 จากคุณ : ArpatAnthakan เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 05:43:37

ความคิดเห็นที่ 3 แม่จ้าว พอร์ทใหญ่มวากกกกกกกก จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 06:03:57

ความคิดเห็นที่ 4 กระทู้นี้ มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลย ^^ จากคุณ : เม่าขั้นเทพ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 06:48:42

ความคิดเห็นที่ 5 หึ หึ หึ จากคุณ : ขี่รถถีบไปจีบเธอ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 07:18:57

ความคิดเห็นที่ 6 จะบร๊าเหรอ ! นักวิเคราะห์มีเยอะแยะเต็มไปหมด ใครจะวิเคราะห์ยังไงมันก็เป็นสิทธ์ของเขาสิ แม้แต่นักลงทุนก็ต้องนำข้อมูลที่ได้ มาวิเคราะห์เองอีกที คุณ wattanac ไม่ใช่นักวิเคราะห์ เป็นแค่นักลงทุน เหมือนมาพูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นกันในบอร์ดนี้ เหมือนเช่นที่นักลงทุนคนอื่นๆ ทำกัน ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เพื่อจะได้มีมุมมองหลายๆด้านมาแชร์กัน แล้วมันผิดตรงไหน ??? หรือว่าเพราะมาโพส ในเว็บสาธารณะแบบนี้ ?? ถ้าพูดเฉพาะในกลุ่มเพื่อนก็คงไม่มีอะไร ?? คุณ wattanac  อย่าไปแคร์เลยนะ เรามีสิทธ์ที่จะวิเคราะห์และแสดงความเห็นในพื้นที่สาธารณะแบบนี้ ที่สำคัญมันเป็นประโยชน์กับนักลงทุนคนอื่นอีกมาก ที่เขาก็มีสิทธ์จะได้ข้อมูลในด้านอื่นๆ ประกอบ ไม่ใช่ได้ข้อมูลจากด้านเดียว เพราะสุดท้ายแล้ว นักลงทุนก็ต้องนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไปวิเคราะห์และพิจารณาเองอีกทีก่อนตัดสินใจลงทุนอะไร ---- ข้างล่างเป็นข่าวที่อ้างถึงในกระทู้แรก ----    ตำนานใหม่จีสตีล วันจันทร์ที่ 07 มีนาคม 2011 เปิดประเดิมรับปีกระต่ายเป็นต้นมา คงไม่มีดีลซื้อกิจการอะไรยิ่งใหญ่ครึกโครมเท่ากับดีลอาซีลอร์ มิตตัล เข้าซื้อหุ้น40% ในบริษัทจีสตีลแล้ว ไม่ใช่ตำนาน”ไม่มี-ไม่หนี-ไม่จ่าย” แต่สำหรับสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง ก่อนปี 2540 เขาตั้งใจจะให้เป็นโรงงานถลุงเศษเหล็กด้วยไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุด แต่โชคไม่เข้าข้าง โรงงานเสร็จไม่เท่าไหร่ก็เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง จีสตีลรอดพ้นจากการถูกเจ้าหนี้บังคับขายแยกชิ้นส่วนโรงงานมาได้ ก็เพราะโรงงานไฟฟ้าอันเป็นบริษัทลูกมีสัญญาขายไฟระยะยาวให้แก่บริษัทแม่ และก็ถือเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่รายหนึ่งด้วย จึงพลิกฐานะเป็นเจ้าหนี้ฝ่ายข้างมากของจีสตีล เหนือกว่าเจ้าหนี้ทางการเงินและเจ้าหนี้การค้ารายอื่นๆด้วย การปรับโครงสร้างหนี้ครั้งแรก ไม่แข็งแรงนัก  จีสตีลเป็นโรงงานเหล็กทันสมัย ที่ไม่มีเงินสดหมุนเวียนในการทำงานเลย สถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ ต้องอาศัยเงินสดล่วงหน้าจากลูกค้ามาทำการผลิต ผลประกอบการยังคงตกต่ำมาตลอด ราคาหุ้นหลุดต่ำจองจนนักลงทุนให้ฉายาหุ้นเป็น”จีสตริง” วิกฤตครั้งที่ 2 คือการผิดนัดชำระหนี้บอนด์กู้ยืมต่างประเทศประมาณ 5 พันล้านบาท และก็ยังมีหนี้ผู้ค้าเศษเหล็กอีกประมาณ1.1หมื่นล้านบาท แต่ว่าไปแล้ว สำหรับโรงงานเหล็กที่มียอดขายปีละประมาณ 2.5-4.0 หมื่นล้านบาท ขนาดเดินกำลังผลิตแค่ 30-40% หนี้จำนวนนี้ ไม่ได้มากมายอะไรเลย ทางออกของปัญหา ก็คือ ทางออกที่เป็นบทสรุปในวันนี้ นั่นก็คือ บริษัทอาซีลอร์ มิตตัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กหมายเลข 1 ของโลก เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในจีสตีล กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถึง 40% ด้วยเงินประมาณ 7.5 พันล้านบาท มีเงินสดหมุนเวียนสำหรับการรับซื้อคืนหนี้อีก 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,600 ล้านบาท จีสตีลได้รับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐานอย่างหมดจดแล้ว หนี้สินต่อทุนจะลดลงจากระดับ 1 เท่า เหลือเพียง 0.4 เท่า ปัญหากำลังผลิตที่เดินไม่เต็มที่ จากระดับ30-40%เมื่อปีก่อน และระดับ 50-60% ในปัจจุบัน จะเป็น 100% ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ หนี้สินน้อยลงมากๆ กำลังผลิตเดินเครื่องได้เต็มร้อย แล้วทำไมจีสตีลจากคนป่วยจะบินไม่ได้ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างว่า ดีลซื้อขายครั้งนี้เป็น”สัญญาทาส” หนึ่งเป็นการซื้อราคาต่ำเกินไปที่ 63 ส.ต. จากราคาปิดล่าสุดที่ 73 ส.ต. และราคาตามมูลค่าบัญชีที่ 80 ส.ต. แต่ก็อย่าลืมว่า นี่คือ อาซีลอร์ มิตตัล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ1ของโลก ที่มิใช่กองทุนเพื่อแสวงหากำไรส่วนต่างราคาหุ้น หรือตัวบุคคลที่ง่อนแง่นมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบพีพี นี่คือราคาซื้อเพื่อการทำงาน เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์เข้ามาร่วมกันพลิกฟื้นกิจการ สอง.เงินกู้500ล้านเหรียญ เป็นเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยแพงมากถึง12% แต่นี่ก็เป็นเงินกู้เพื่อการรับซื้อหนี้คืนในอัตราส่วนลด 50% สำหรับหนี้การค้าที่มีอยู่1.1หมื่นล้านบาท จ่ายทันที ใครไม่มาขอรับชำระหนี้ เงินก้อนนี้ก็ไม่ต้องจ่าย ตัวเลข 500 ล้านเหรียญเป็นเพียงวงเงินเท่านั้น หนี้การค้าก้อนนี้ ยังไงก็ต้องจ่ายตามกำหนดเดิมภายใน 6 ปี การจ่ายหนี้ในอัตราส่วนลด 50% และภายในระยะเวลาที่สั้นลง ดอกเบี้ย 12% อย่างไรก็คุ้มค่า! สาม.ค่าธรรมเนียมบริหาร 2% ของยอดขายที่มิตตัลคิดกับจีสตีล หรืออั้นเพดานไว้ที่ขั้นสูงสุด 1,284 ล้านบาท คิดให้ดี ค่าธรรมเนียมนี้มีเงื่อนไขที่จะต้อง”ถ่ายทอดเทคโนโลยี”กันทุกเม็ด เพื่อยกระดับการผลิตเหล็กที่มีคุณภาพสูงขึ้นจากผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่หมายเลข 1 ของโลก ถ้าจะเป็น”สัญญาทาส”ก็เป็นสัญญาทาสที่มีอนาคตจะปลดปล่อยทาสได้ในอนาคต แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือ โรคร้ายสำคัญของจีสตีลในปัญหาหนี้และทุนได้รับการปัดเป่าโดยสิ้นเชิงแล้ว ทำไมจีสตีลจะโบยบินไม่ได้ล่ะ http://www.kaohoon.com/daily/index.php?option=com_content&view=article&id=9216:lbrglbrg&catid=71:2010-04-14-07-00-12&Itemid=136 --- แถม... ปิดตำนาน 3ส. เจ้าพ่อเหล็ก !! สวัสดิ์ VS สมศักดิ์ เส้นทางที่แตกต่าง http://www.posttoday.com/หุ้น-ทอง/โปรหุ้น/เปิดหุ้นเด็ด/77840/ปิดตำนาน-3ส-เจ้าพ่อเหล็ก-สวัสดิ์-VS-สมศักดิ์-เส้นทางที่แตกต่าง จากคุณ : มาลัยดำ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 08:29:31

ความคิดเห็นที่ 7 โวลุ่มเทรดขนาดนี้ ไปไหนก็มีแต่คนอ้าแขนรับ แต่ผมว่ามาร์ฯ คงกรี๊ดเลยแหละ ถ้าพี่ย้าย ส่วนบริษัทที่นักวิเคราะห์ต้องเขียนเชียร์อย่างเดียว ก็อย่าไปสนใจเลย เป็นอารมณ์เปล่าๆ ครับ จากคุณ : รอเวลา เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 08:46:10

ความคิดเห็นที่ 8 ผมลองไปดูในงบกำไรขาดทุนของ gsteel ที่เพิ่งส่งงบไปเห็นว่า ส่วนของค่าใช้จ่าย gsteel มีค่าใช้จ่ายในการบริหารในปี 53 อยู่ 1,407,513,552 บาท การจ่าย 2 % หรือเพดานไม่เกิน 1,284 ล้านบาทไม่น่าจะเป็นประเด็นในทางลบมากเกินไปนะครับ ลองเอาอนาคตที่ไม่มี AM กับปัจจุบันที่เข้ามาเทคแล้วลองวิเคราะห์ดูว่าอย่างไหนจะเป็นผลเชิงบวกต่อหุ้นมากกว่ากัน จากคุณ : kunmae เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 09:13:59

ความคิดเห็นที่ 9 ให้กำลังใจครับ  ติดตามผลงานคุณ wattanac  ตลอด ผมอ่านข่าวที่ทาง gsteel ปล่อยออกมาก็พอเดาได้แล้วว่าเขาจะทำอะไร คงได้เห็น ticker gsteel จนตาลาย...หุหุ จากคุณ : หนุ่มชุมชน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 09:18:55

ความคิดเห็นที่ 10 เจ้า gsteel สงสัยเป็นขาใหญ่มาก ออกสื่อได้ขนาดนั้น เม่าอย่างเราต้องลอง^_^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (opar156) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 09:33:26

ความคิดเห็นที่ 11 ออกข่าวมาแก้ทุกเม็ดที่จขกท.เคยเขียนไว้ในกระทู้ก่อน เชื่อเลยว่าโดนบีบจริงๆ จากคุณ : nonsaint เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 10:00:16

ความคิดเห็นที่ 12 ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย สู้ๆครับ พี่ ^^ จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 10:26:34

ความคิดเห็นที่ 14 อ้าว ตัวหนังสือยับเฉยเลย จะบอกว่า กินเองไม่เชียร์ 8 มีนาคม 2554       MARKET ON THE MOVE ( ข่าวเด่นประเด็นร้อน )  . KELIVE_GSTEEL (No rating) ประกาศผลประกอบการปี 2553 ขาดทุนหนักถึง 10,114 ล้านบาท   GSTEEL ประกาศผลประกอบการปี 2553 มีผลขาดทุนสุทธิหนักถึง 10,114 ล้านบาท (ขาดทุนต่อหุ้น 0.73 บาท) เทียบกับที่ขาดทุนสุทธิในปี 2552 เท่ากับ 10,315 ล้านบาท   ในปี 2553 ยังเป็นปีที่มีรายการพิเศษต่างๆมาก ซึ่งสุทธิแล้วติดลบเท่ากับ 4,694 ล้านบาท  โดยมีรายการหลักๆ คือ  1.) ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 11,267 ล้านบาท  2.) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 2,057 ล้านบาท และ  3.) กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 3,187 ล้านบาท   ถ้าหากตัดรายการพิเศษต่างๆออก GSTEEL จะยังมีผลการดำเนินงานปกติปี 2553 ที่ขาดทุนเท่ากับ 5,420 ล้านบาท  ดีขึ้นจากปี 2552 ที่มีผลการดำเนินงานปกติขาดทุนเท่ากับ 11,149 ล้านบาท   การขาดทุนอย่างหนักมาสองปี ได้ทำให้มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นของ GSTEEL ณ สิ้นปี 2553 ลดลงเหลือ 0.706 บาท  จาก 1.31 บาท ในปี 2551   ประเด็น Arcelor Mittal เข้ามาลงทุนใน GSTEEL   ก่อนหน้านี้ GSTEEL ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า Arcelor Mittal ผู้ผลิตเหล็กอันดับหนึ่งของโลก ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรธุรกิจ ด้วยการ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 11,920 ล้านหุ้น ราคาไม่ต่ำกว่า 0.63 บาท หรือ คิดเป็น เงินประมาณ 7,500 ล้านบาท   นอกจากนี้ ทาง Arcelor Mittal จะจัดหาเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระเจ้าหนี้การค้าประมาณเกือบ 1 หมื่นล้านบาท และ เป็นเงินทุนหมุนเวียน   ก่อนหน้านี้ GSTEEL ได้เพิ่มทุนจำนวน 5,100 ล้านหุ้น เพื่อแปลงหนี้เป็นทุน 170 ล้านเหรียญ   หลังจากที่เพิ่มทุนให้กับ Arcelor Mittal แล้วจำนวนหุ้นของ GSTEEL จะเพิ่มขึ้นเป็น 29,798 ล้านหุ้น เทียบกับจำนวนหุ้นในอดีต 13,099 ล้านหุ้น  ดังนั้น ผลของ Dillution effect จะสูงมาก   เรามองว่า ราคาที่ Arcelor Mittal ซื้อเพียง 0.63 บาท ต่ำกว่าการคาดหวังของตลาด และ ราคาตลาดในปัจจุบันมาก ที่ 0.73 บาท  คาดจะเกิดแรงขายหลังจากที่ปลด SP   นอกจากนี้หากประเมินภายใต้สถานการณ์ปกติที่ดีของ GSTEEL จะมีกำไรประมาณ 1,500 – 2,000 ล้านบาท ต่อปี (คำนึงถึงดอกเบี้ยจ่ายที่จะลดลงแล้ว)  ถ้าหากหารด้วยจำนวนหุ้น 29,798 ล้านหุ้น จะมีกำไรต่อหุ้นเพียง 0.05 – 0.067 บาท  ดังนั้น หากให้ราคาเหมาะสม P/E = 10 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมประมาณ 0.5-0.67 บาท   อย่างไรก็ตามถ้าหากใช้สมมติฐาน ราคาต้นทุนเศษเหล็กปัจจุบันที่ 480 เหรียญ/ตัน  และ ราคาขาย เหล็กรีดร้อนปัจจุบันที่ 750 เหรียญ/ตัน  GSTEEL จะมีกำไรเพียงเล็กน้อย 300-500 ล้านบาท   Best Regards, Surachai Pramualcharoenkit  Research Department  KimEng Securities (Thailand) Plc.  Tel 02-658-6300 Ext 1420  Fax 02-658-6381  http://kelive.kimeng.co.th จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:15:34

ความคิดเห็นที่ 15 ง่ายๆ มองหุ้นไม่ดี ก็อย่าไปสนใจใส่ใจ มองหุ้นดี ถูกใจสนใจก็ซื้อ จากคุณ : 17247c เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:32:41

ความคิดเห็นที่ 16 OMG! แม้ยังเป็นบวก ดีสำหรับคนที่ถืออยู่ แต่สงสารแมงเม่า เข้าไล่ซื้อเมื่อเช้า ดู ticker  ตลาดพุ่งขึ้นชัน แต่ GSTELL ดิ่งพสุธาชันตรงข้าม ข้อมูลล่าสุด 08 มี.ค. 2554 11:34:26 เครื่องหมาย ล่าสุด  0.78 เปลี่ยนแปลง +0.05 %เปลี่ยนแปลง +6.85 วันก่อนหน้า 0.73 เปิด 0.84 สูงสุด 0.87 ต่ำสุด 0.77 ปริมาณ (หุ้น) 1,036,700,300 มูลค่า ('000 บาท) 853,313 ราคาเฉลี่ย* 0.82 * เฉพาะการซื้อขายแบบ Auto-matching บนกระดานหลักเท่านั้น ราคาพาร์ (บาท) 1.00 ราคา Ceiling 0.94 ราคา Floor 0.52 จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:38:39

ความคิดเห็นที่ 17 cheer จขกท. ครับ จากคุณ : yingheng (yingheng) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 13:46:04

ความคิดเห็นที่ 18 อืม... รับทราบครับ หุ้นพึงระวังเพิ่มขึ้นอีก 1 ตัว จีสตริง... แต่เม่าน้อยพอร์ตย่อม ๆ แบบผม เขาคงไม่สนหรอกมั้ง.. จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 14:01:58

ความคิดเห็นที่ 19 ซื้อขาย 5000 ล้านใน 6 เดือน เป็นลูกค้าขนาดกลาง ของผม ปีนึง ไม่เกินแสน จะอยู่ระดับไหนเนี่ย จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:30:31

ความคิดเห็นที่ 20 ยังเล่นกี่อีกหลายวันครับ.....ผมอยู่ที่ 0.80 ยังรู้สึกเฉยๆ พรุ่งนี้กดต่ออีกวัน  หุ้นหลังปลด SP ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ  เล่นเหมือนหุ้น IPO กราฟราคาในอดีตใช้ไม่ได้แล้วครับ จากคุณ : วิญญาณเทวดา เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 17:15:53

ความคิดเห็นที่ 21 หลังจากอ่านหลายๆความเห็นจากหลายกระทู้ สรุปว่า เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทแบบนี้ยังไงก็คงน่าจะโชคดีกว่าเป็นเจ้าหนี้เงินกู้กับเจ้าหนี้การค้าหล่ะครับ โดนเบี้ยวหนี้กันดื้อๆ(ภาษาสุภาพเขาเรียกประนอมหนี้แบบหักคอ) ไม่รู้ทำการค้ายังไงขาดทุนบักโกรกได้แทบทุกปี รอบตัวมีแต่คนเสียตังค์ แล้วใครได้กะตังค์หว่า จากคุณ : ปอป้อง เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:53:44

ความคิดเห็นที่ 22 จขกท.......................good จากคุณ : goldengun เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 15:10:11

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้านู๋เป็นมาร์  นู๋ย้ายตามเฮีย อ่ะ เฮียไปไหน นู๋ไปด้วย จากคุณ : นู๋...มิ เอ่ะ (mi_ae') เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 21:09:25

ความคิดเห็นที่ 24 เรียนด้วยความนับถือ GSTEEL เขากลัวว่า มีใครตามเขาทันครับ ขนาดสื่ออย่างผมพอโทรไปขอข้อมูล เพื่อวิเคราะห์เขายังบ่ายๆเบี่ยงๆ ไม่รู้ว่ากลัวเหล็กขึ้นราคา หรือว่ามีปั่นหุ้นกันภายในกันแน่ ต้องจับตาดูกันต่อไป จากคุณ : GTNEWSTHAILAND เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 18:49:56