แบงก์ใหญ่ฟันกำไรอู้ฟู่ 1.33แสนล้าน กินส่วนต่างดอกเบี้ยอื้อซ่า
|
 |
นักวิเคราะห์คาดยุคดอกเบี้ยขาขึ้นแบงก์ใหญ่รับเต็ม ๆ ฟันส่วนต่างดอกเบี้ยรับอู้ฟู่ คาดปีนี้กำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์พุ่งกระฉูด 1.33 แสนล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วมีกำไร 1.08 แสนล้าน ชี้ดอกเบี้ยยิ่งขึ้นส่วนต่างดอกเบี้ยยิ่งสูงตาม เผยเฉลี่ยทั้งระบบอยู่ที่ 3.72% เกียรตินาคินนำโด่ง 5.22% ตามด้วยทิสโก้ 4.64% ระบุแบงก์ใหญ่ได้ประโยชน์ จับตา 3 หุ้นเด่น กสิกรไทย-กรุงไทยและทหารไทย คาดกำไรเพิ่มกว่าที่คาดการณ์
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดอีก 0.25% เป็น 2.50% ปรากฏว่าธนาคารพาณิชย์ได้ปรับดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากตามทันที นำโดยธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากในวันเดียวกันกับการประชุม กนง. มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ซึ่งประกาศในวันถัดมา อัตราดอกเบี้ยใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.
ในส่วนเงินฝากและตั๋วแลกเงิน (บี/อี) ปรับขึ้น 0.10-0.375% แล้วแต่วงเงินและประเภทเงินฝาก รอบนี้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 0.125-0.13% เป็นครั้งแรกนับแต่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น 0.25%
ทั้งนี้มีการประเมินว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นเต็มที่ เนื่องจากจะมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทันที
นางสาวอุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้การปรับเพิ่มดอกเบี้ยรอบนี้จะเพิ่มทั้งขาเงินกู้และเงินฝาก และขึ้นดอกเบี้ยออมทรัพย์ด้วย แต่จะเห็นว่าการปรับเพิ่มเงินกู้อยู่ในอัตราที่สูงกว่าเงินฝาก ซึ่งธนาคารจะได้ประโยชน์ทันที เพราะ 69% ของสินเชื่อทั้งระบบคิดดอกเบี้ยลอยตัว ขณะที่มีเงินฝากเพียง 21% เท่านั้นที่จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวโดยมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นผลกระทบโดยรวมต่อส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ใน 6 เดือนข้างหน้ายังอยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"เรามองบวกต่อผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากแนวโน้มสินเชื่อที่ยังเป็นไปในเชิงรุก ดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นจะส่งผลบวกต่อกำไรของกลุ่ม" นางสาวอุษณีย์กล่าว
ส่วนต่าง ดบ.พุ่ง-กำไรกระฉูด
การวิเคราะห์ของ บล.เอเซียพลัสพบว่า หากดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น 0.25% NIM ในระบบธนาคารจะเพิ่มขึ้น 0.039% เป็น 3.72% ถ้าดอกเบี้ยเพิ่ม 0.50% NIM จะเพิ่มขึ้น 0.077% เป็น 3.76% ถ้าดอกเบี้ยเพิ่ม 0.75% NIM จะเพิ่ม 0.116% เป็น 3.80% และถ้าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% NIM จะเพิ่มขึ้น 0.154% เป็น 3.84% ด้านกำไรสุทธิคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 133,391 ล้านบาท
ที่ผ่านมาดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้น 0.75% จากข้อมูลข้างต้นคาดว่าธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะมี NIM 4.89%, ธนชาต 3.69%, ทหารไทย 2.52%, เกียรตินาคิน 5.22%, กรุงไทย 3.15%, กรุงเทพ 3.05%, กสิกรไทย 3.83%, ไทยพาณิชย์ 3.49% และทิสโก้ 4.64%
นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นผลบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่ด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ยังมีความเสี่ยง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายสินเชื่อ ตลอดจนการแข่งขันที่มีการตัดราคากันมากขึ้น จะเป็นแรงกดดันให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของธนาคารแต่ละแห่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่มากนัก คือราว 0.10-0.20%
นอกจากนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ระบบเกิดวิกฤตการเงิน ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่หันเข้ามากู้เงินในประเทศมากขึ้น ทำให้ธนาคารพาณิชย์แข่งขันระดมเงินฝากมาก เป็นต้นทุนสะสมมาถึงปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ดึงไม่ให้ NIM ในระบบเพิ่มขึ้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงเป็นกลุ่มที่แนะนำให้ลงทุนมากกว่าตลาดในขณะนี้ โดยปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิของระบบธนาคารจะอยู่ที่ 120,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% จากปี 2553 มีกำไรสุทธิ 108,244 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.3% จากปีก่อนหน้า
| จากคุณ |
:
อมยิ้มไม่หวาน 
|
| เขียนเมื่อ |
:
12 มี.ค. 54 20:21:36
|
|
|
|
