PANTIP.COM : I10351603 Daily TFEX Discussion 17/3/2011 บ่าย{แตกประเด็นจาก I10350462} [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 21

ตรู....อ่านแต่ละเรื่องแร้ว มีอะไรจุกอยู่ตรงคอมะรู้

น้ำตาจะไหลอ่า cry

--------------------------------------------------------------------------
สิ่งที่ชาวญี่ปุ่นใช้รับมือกับภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษ ติดตามข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุน อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกด้วยความรู้สึกตกตะลึงและตามมาด้วยความน่าสะพรึงกลัวต่อพลังมหาศาลของธรรมชาติด้วย ความสงสาร และ เห็นใจอย่างจับใจ ต่อทุกข์แสนสาหัส ที่ประชาชนญี่ปุ่นประสบอยู่ในปัจจุบัน

ในระหว่างติดตามดูข่าวทางโทรทัศน์ และ อินเตอร์เนตเหล่านี้... ท่ามกลางความโหดร้ายน่ากลัว เรากลับพบความดีงามที่ทำให้เรารู้สึกทึ่งและชื่นชม นั่นคือ ความสงบ นิ่งของชาวญี่ปุ่น ภายหลังเหตุการณ์รุนแรง ที่ทำลายชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพ เราไม่พบข่าวการบุกทุบร้านสะดวกซื้อ เพื่อแย่งชิงอาหาร น้ำ ฯลฯ ทั้งที่ทุกแห่ง ต่างขาดแคลนอย่างสาหัส แต่สิ่งที่เราพบเห็นตามข่าว ก็คือ “วินัย” ของชาวญี่ปุ่น ที่อดทน รอคอย และ ร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้รู้สึกว่าสิ่งนี้นั่นเองที่จะเป็น “เคล็ดลับ” สำคัญที่สุด ที่ชาวญี่ปุ่นใช้เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติร้ายแรงในครั้งนี้
ลองจินตนาการดูนะคะว่า หากปราศจาก ความอดทน วินัย เช่นนี้ สถานการณ์ที่เลวร้ายในปัจจุบัน จะยิ่งเพิ่มความร้ายแรงมากขึ้นเพียงใด ???

วันนี้ OPEN UP ขอเผยแพร่เรื่องราวน่าประทับใจที่ได้ไปอ่านเจอ จากนักเรียนไทยในญี่ปุ่นที่เปิดเผยบรรยากาศหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่และคลื่นยักษ์สึนามิถล่มใน Twitter ของเขา และมีคนนำมาแปลเป็นภาษาไทยค่ะ
เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติการณ์ในประเทศญี่ปุ่น

เรื่องที่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้เห็นเด็กน้อยพูดกับพนักงานรถไฟ “ขอบคุณค่ะ/ครับ ที่เมื่อวานพยายามอย่างสุดชิวิตทำให้รถไฟเดินรถได้อีกครั้ง” พนักงานรถไฟร้องไห้ ส่วนข้าพเจ้าร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว (คืนวันที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟซึ่งเป็นการคมนาคมหลักของชาวญี่ปุ่นหยุดวิ่ง กว่าจะวิ่งได้ก็หลังเที่ยงคืนไปแล้ว)

เรื่องที่สอง ที่ดิสนีย์แลนด์ คนติดกลับบ้านไม่ได้จำนวนมาก และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเที่ยว ก็ได้มีนร.ม.ปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอามาจำนวนมาก มากเกินพอ แว่บแรกที่ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีคือ อะไรวะ เอาไปซะเยอะ! แต่วินาทีต่อมากลายเป็นความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะเด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เด็กๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้เพราะต้องอยู่ดูแลลูกๆ

เรื่องที่สาม ในซุปเปอร์มาร์ทแห่งหนึ่ง ของตกระเกะระกะเพราะแรงแผ่นดินไหว แต่คนซื้อก็เดินไปช่วยกันเก็บของ แล้วก็หยิบส่วนที่ตนอยากซื้อไปต่อคิวจ่ายเงิน ในรถไฟที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการ และคนที่ตกค้างจำนวนมากกำลังเดินทางกลับ ก็ได้เห็นคนแก่คนหนึ่งลุกให้สตรีมีครรภ์นั่ง คนญี่ปุ่นแม้ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ ก็ยังมีน้ำใจ มีระเบียบ

เรื่องที่สี่ ในคืนแรกที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟไม่วิ่ง ทำให้คนจำนวนมากต้องเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถไฟ ขณะที่ข้าพเจ้าต้องเดินกลับจากมหาวิทยาลัยมายังที่พัก ร้านรวงก็ปิดหมดแล้ว ข้าพเจ้าได้ผ่านร้านขนมปังร้านหนึ่งซึ่งปิดไปแล้ว แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้เอาขนมปังมาแจกฟรีแก่คนที่กำลังเดินกลับบ้าน ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ น้ำใจที่มีให้กันทำให้หัวใจข้าพเจ้าอบอุ่น ตื้นตัน

เรื่องที่ห้า ในขณะที่รอรถไฟให้กลับมาวิ่งได้ ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่ในอาคารสถานีอย่างเหน็บหนาว โฮมเลสก็ได้แบ่งปันแผ่นกล่องกระดาษให้ โฮมเลสที่ข้าพเจ้ามองด้วยหางตาทุกวันที่มาใช้สถานี คืนนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

เรื่องที่หก (เรื่องราวคืนรถไฟไม่วิ่งเยอะหน่อยนะครับ) ด้วยระยะเวลาสี่ชั่วโมงที่ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ก็ได้ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่ง ตาก็ไปสะดุดกับแผ่นกระดาษที่เขียนว่า “เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ” หญิงสาวท่านหนึ่งได้เปิดบ้านตัวเองให้แก่คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้ใช้ วินาทีที่ได้เห็นแผ่นกระดาษนั้น น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง น้ำใจคนญี่ปุ่น

เรื่องที่เจ็ด แม้ว่าไฟดับ ก็ยังมีคนที่สู้ทำงานให้ไฟกลับมาติด น้ำไม่ไหลก็ยังมีคนไม่ยอมแพ้ทำให้น้ำกลับมาไหล เกิดปัญหากับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีคนที่พร้อมจะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้กลับมาสู่สภาพปกติด้วยตัวมันเอง ขณะที่พวกเราอยู่ในบ้านอันอบอุ่นแล้วก็พร่ำบ่นว่าเมื่อไรไฟมันจะติด น้ำจะไหลน้า ก็มีคนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บกำลังพยายามสู้อยู่

เรื่องที่แปด ในจังหวัดจิบะ คนลุงคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรน้า เด็กหนุ่มม.ปลายก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน (ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคต!!!)

เรื่องที่เก้า ขณะที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ หลังจากที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านมากว่า 42 ชั่วโมง คุณลุงก็ได้กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ เคยมีประสบการณ์สึนามิที่ชิลีมาแล้ว ต่อจากนี้ไปพวกเรามาช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันนะ” แกกล่าวด้วยรอยยิ้ม (สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคือ ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรต่างหาก)

OPEN UP หวังว่าเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ จะสะท้อนใจให้เราเห็นถึงสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สถานการณ์ที่เลวร้ายคลี่คลายและผ่านพ้นไป นั่นก็คือ น้ำใจ วินัย และสปิริต ค่ะ สำหรับใครที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นในครั้งนี้ มีหลายหน่วยงานนะคะที่พวกเราจะสามารถไปร่วมบริจาคเงินหรือสิ่งของ ตลอดจนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้เรามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือค่ะ ถ้ามีกำลังและโอกาส...ก็ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ

จากคุณ : joey69

เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:19:27

ความคิดเห็นที่ 30

ความคิดเห็นที่ 131

อัพเดทแผ่นดินไหว...16/03/2011 (10:30)...By Hayashi Kisara In Japan

http://hayashikisara.exteen.com/20110316/m-m-16-3-2011-10-30/page/2

...........................................................

:ก็อปปี้เนื้อหาตามลิงค์:

ผ่านไปอีกวันสองวันแบบเลวร้ายลง จริงๆมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่แล้วล่ะ เพราะนะ... ของที่มันเสียหรือละลายไปแล้วมันกลับมาไม่ได้แล้ว (แต่ไม่มีความจำเป็นต้องรีบกักตุนเบตาดีนแต่ประการใด

เอาสถานการณ์แบบสรุปๆเลยก็คือ...
ความร้ายแรงของเหตุการณ์โรงงานนิวเคลียร์ที่ฟุคุชิม่า น่าจะอยู่ระหว่างเชอโนบิล (ระดับ 7) กับทรีไมล์ (ระดับ 5) ค่ะ (ดังนั้นน่าจะได้อัพเลเวลเป็นเลเวล 6 เร็วๆนี้ เหอ เหอ) หลังจากที่เกิดอะไรมากมายวิบากกรรมมากกับเครื่องที่ 1,2,3,4 ยังกับโอชิน (เกิดการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนที่สะสมจนผนังและเพดานของตัวกล่องซีเมนต์ที่ครอบเสียหายบ้างล่ะ ไฟไหม้บ้างล่ะ ปั๊มไม่ทำงานบ้างล่ะ etc.) ตอนนี้ความร้อนของเครื่อง 1,3 ค่อนข้างจะอยู่ในระดับที่สงบแล้ว แต่ยังประมาทไม่ได้

เครื่อง 4 เมื่อวานนี้เกิดไฟไหม้ ไฟไหม้ได้ไงทั้งที่ไม่ได้เดินเตา? (คือทุกเตาเนี่ย พอแผ่นดินไหวแรงปั๊บ มันก็จะมีเซนเซอร์หยุดตัวเองอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกวันก่อนว่าความร้อนมันจะยังสะสมอยู่ และความร้อนก็เป็นอุณหภูมิที่สูงมาก ปกติแล้วถ้าระบบหล่อเย็นไม่มีความเสียหาย หรือถึงเสียหายก็มีระบบสำรอง ก็จะทำให้มันเย็นได้ในเวลาสองสามวัน ความซวยชิบหา_ของคราวนี้ก็คือ ระบบหล่อเย็นเสียหายหมดทั้งสำรงสำรอง ทั้งแบบใช้แบตเตอรี่หรืออะไร)

ทีนี้เครื่อง 4 (และ 5,6) นี่ มันไม่ได้เดินเตาอยู่เลยตอนที่เกิดแผ่นดินไหว (เดินแค่เครื่อง 1-3) แต่ก็จะมีเชื้อเพลิงเหลือเก็บในกล่องเก็บเชื้อเพลิงเหลือ (คือในตัวเตาปฏิกรณ์ไม่มีแท่งเชื้อเพลิง แท่งเชื้อเพลิงนี้ใช้ไปแล้ว เค้าก็เลยย้ายไปไว้ในกล่องที่สำหรับเก็บเชื้อเพลิงเหลือ) และคาดว่าจากที่มีก๊าซไฮโดรเจนไปสะสมกัน ก็ทำให้มันเกิดระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนอีก และเกิดเพลิงไหม้แถวกล่องเชื้อเพลิงเหลือตรงนี้ขึ้น ทีนี้อิเชื้อเพลิงในกล่องนี้ถึงจะเป็นเชื้อเพลิงใช้แล้วก็มีกัมมันตภาพรังสีเจือปนอยู่กับเขาด้วย ดังนั้นจึงได้มีกัมมันตภาพรังสีหลุดออกมาพร้อมไฟไหม้ด้วย ตอนนั้นวัดที่ชั้น 4 ภายในตึก (ซีเมนต์กล่องๆที่ครอบตัวถังเนี่ย) ได้ประมาณ 4 แสนไมโครซีเวิร์ต ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงและมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ (คือหน่วยนี้มันจะเป็นต่อชั่วโมงนะ หมายความว่าต้องไปยืนตรงนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะเริ่มมีอาการอึดอัด แต่จะไปยืนทำไม) ปกติแล้วถ้ามนุษย์เรารับสารที่ว่านี้ประมาณ 1 ล้านไมโครซีเวิร์ต/ชั่วโมง จะรู้สึกคลื่นไส้วิงเวียน (เหมือนที่สตาฟที่ปฏิบัติงานบางคนรู้สึก และต้องไปส่งโรงพยาบาล เพราะตรงนั้นความเข้มข้นของสารมาก)

เครื่อง 2 อาการหนักสุด เพราะมีการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนอีกและสร้างความเสียหายให้ซัพเพรสชั่นพูล ซัพเพรสชั่นพูลนี้เป็นตัวรักษาความดันและช่วยหล่อเย็นได้ในยามที่ปั๊มในระบบทำงานไม่ปกติ (อธิบายง่ายๆนะ) ดังนั้นในนี้จะมีน้ำอยู่มหาศาลบานตะไท และก็จะมีสารกัมมันตภาพรังสีปนๆอยู่เช่นกัน ทีนี้การที่มันเสียหายโดยการคาดว่าจะมีรูรั่ว และความดันตอนนี้ข้างนอกกับข้างในเท่ากันเนี่ย ก็เท่ากับว่าสารกัมมันตภาพรังสีมันจะออกมาตลอดเวลา (ซึ่งจะมากน้อยอะไรยังไงแล้วแต่ความเสียหายของมัน) ก็มีการสั่งคนที่อาศัยในเขตนั้นให้ลี้ภัยเพิ่มเป็นในเขต 30 กิโลเมตร (แต่เป็นการลี้ภัยในบ้าน คือไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน) จริงๆตอนหลังที่วัดก็ตัวเลขลดลงแล้ว (ตอนแรกที่ตัวเลขสูงเพราะวัดที่ชั้น 4 ในตัวตึกด้วย) แต่ก็ยังไม่รู้สภาพภายในของมันอย่างละเอียดน่ะนะ

รัฐบาลได้มีคำสั่งให้แต่ละเมืองแต่ละจังหวัดวัดปริมาณสารกัมมันภาพรังสีในอากาศทุกวันวันละสองครั้ง ที่โตเกียวและเมืองใหญ่ ๆ ก็วัดเมื่อวานนี้ ตัวเลขก็มากกว่าปกติตอนแต่ก่อนที่ไม่มีอะไร แต่ไม่ได้เป็นตัวเลขที่จะมีผลอะไรกับร่างกายคน (ปกติคนเราก็รับจากธรรมชาติกันอยู่ประมาณหนึ่งแล้ว และเวลาขึ้นเครื่องบินหรือเอ็กซเรย์เราก็จะรับมันอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขตอนนี้ยังต่ำกว่าตัวเลขพวกนั้นมากอยู่)

ตัวเมืองฟุคุชิม่าที่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 70 กิโลเองก็วัดปริมาณรังสีในอากาศได้ตัวเลขเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติหลายเท่า แต่ก็ยังไม่ใช่ตัวเลขที่อันตรายเช่นกัน ดังนั้นคนที่อยู่จังหวัดอื่น คนโตเกียวก็ไม่ต้องกังวลอะไรให้มากไป

ถึงจะพูดวัดกันเป็นตัวเลขไมโครซีเวิร์ต แต่จริงๆในสารกัมมันตภาพรังสีนี่ ก็รวมไปด้วยสารหลาย ๆ อย่าง บางอย่างสลายตัวเร็ว บางอย่างสลายตัวช้า บางอย่างอันตรายกับร่างกายมาก บางอย่างเป็นอันตรายต่อร่างกายน้อย บางอย่างถ้าอยู่ข้างนอกจะสลายตัวภายในเวลาเท่านี้ แต่ถ้าเข้าไปในร่างกายจะสลายตัวเป็นเวลาเท่านี้ คือมันมีรายละเอียดอยู่อีกเยอะ จะดูแต่ตัวเลขไม่ได้ ต้องดูรายละเอียดของสารแต่ละตัวว่ามีตัวไหนอยู่เท่าไหน เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไม่ตรวจเจอยูเรเนียมเท่านั้นเอง (แต่นักวิชาการก็เรียกร้องให้เปิดเผยตัวเลขของสารแต่ละตัวด้วย จะสั่งอพยพคนได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น แต่ตอนนี้เขตที่ตั้งไว้ถือว่ายังเหมาะสมอยู่)

สำหรับบางคนที่รู้ว่าไอโอดีนสามารถที่จะขับไล่สารกัมมันตภาพรังสีออกจากร่างกาย ก็ไม่ได้หมายความว่าซื้อมากินเองตามชอบใจหรือเอาเกลือมาเปิบกินกัน (มันคนละอย่างกันเน่อ) กินคอมบุเยอะ ๆ ช่วยได้ แต่เฉพาะเด็กเท่านั้น สำหรับผู้ใหญ่มันไม่พอ ต้องกินไอโอดีนสกัดเป็นเม็ด ซึ่งมันไม่ใช่วิตามินซีตามร้านขายยาที่กินกันเล่นจนลิ้นส้มได้ ต้องกินโดยได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ว่าแต่คนไทยไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะมันไปถึงไทยยากอยู่แล้ว ความหนาแน่นของสารมันก็จะน้อยลงไปตามระยะทาง และขึ้นอยู่กับแรงลมด้วย ซึ่งแรงลมตอนนี้ไปทางรัสเซีย เมื่อวานรัสเซียกับจีนเค้าก็วัดกัน แต่ไม่เจอตัวเลขว่ามันสูงผิดปกติอะไร

แล้วคนที่โทรมาหลายคนจะบอกว่าโรงงานนิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นระเบิดแล้ว (ห้ะ?? ไอ้ระเบิดน่ารักๆนั่นน่ะนะ ระเบิดนิวเคลียร์ ไม่รู้เคยเห็นภาพระเบิดนิวเคลียร์กันหรือเปล่า คือทำเหมือนว่าเราถูกปิดหูปิดตาอยู่ที่ญี่ปุ่น จริงๆมันระเบิดไปแล้ว แหม มันจะปิดได้ไง ญี่ปุ่นไม่ได้ปิดประเทศ คนแม่มเข้าเน็ทอ่านข่าวได้ทุกที่ โทรศัพท์จากต่างประเทศก็ใช้ได้ ดำเนินนโยบายปิดข่าวได้รัดกุมมาก มีคนโทรมาบอกกริ๊งเดียวเมิงก็รู้กันหมด แล้วที่ผ่านมาไม่เห็นแม่มมีข่าวดีซักกะข่าวนึง ตั้งแต่แปลมานี่กรุแปลอะไรดีๆบ้างไหมเนี่ย? อยากบอกเหมือนกันว่าช่วยปิดกรุบ้างเหอะ ไม่ต้องบอกกรุทุกอย่างก็ได้ ปั๊มเสียบ้างล่ะ ซัพเพรสชั่นพูลระเบิดบ้างล่ะ ไฟไหม้บ้างล่ะ กำแพงเป็นรู 8 เมตรบ้างล่ะ นี่เมิงปิดกรุแล้วเหรอเนี่ย?? แล้วระเบิดนิวเคลียร์มันคงปิดกันมิดหรอก อิดอกเห็ดนั่นน่ะ ทำยังกับจุดประทัดเล่นหลังบ้าน จะได้ไม่รู้

อย่างไรก็ตาม คนไทยติดภาพ นิวเคลียร์ = ระเบิดนิวเคลียร์ การมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ = เสี่ยงกับการที่มันจะระเบิดนิวเคลียร์ จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ระเบิดเป็นระเบิดนิวเคลียร์นะเอ็ง ไอ้ที่มันจะเลวร้ายสุดก็คือมันจะ Meltdown แล้วจะทำให้พื้นที่แถวนั้นจำนวนกี่กิโลเมตรโดยรอบกลายเป็นพื้นที่รกร้าง อาศัยไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ คนที่เคยอาศัยอยู่ตรงนั้นจะเดือดร้อน แล้วแน่นอนมันก็จะมีสารกัมมันตภาพรังสีแผ่ซ่าน แต่มันก็จะลดความเข้มข้นลงตามระยะทางและเวลา (ซึ่งก็แล้วแต่สารอย่างที่บอก) ดังนั้น วิธีที่จะรับมือกับมันก็คือ หนีมัน... หนีมันไปไกล ๆ ซึ่งที่ไทยเนี่ย มันก็ไกลอยู่แล้ว ถ้าเมิงไม่ได้จะมาตั้งรกรากที่ฟุคุชิม่า ก็ไม่ต้องกลัวอะไร แล้วเอ็งก็ไม่ได้เป็นชนชาติที่กินปลาดิบเป็นอาหารเช้า ไม่ต้องกลัวไปหรอกว่าจะมีสารอะไรในของกินน่ะตอนนี้ บางคนบอกปลาบางตัวมันอาจจะว่ายมาถึงแล้ว มันว่ายมาราธอนโอลิมปิคเร็วกว่าเมฆสีทองอีกนะนั่นน่ะ

ส่วนเรื่องระวังฝนระวังอะไร ก็เป็นเรื่องถูกต้องนะ สำหรับคนที่อยู่ใกล้ๆอย่างคนในจังหวัดฟุกุชิม่า คนไทยจะไปกลัวทำไม? นักข่าวจะถามนักวิชาการเรื่อยๆว่าคนที่อยู่แถวนั้นจะทำตัวยังไง นักวิชาการก็บอกว่า 1. ก็เอาผ้าปิดปาก 2. ออกไปไหนกลับมาก็อาบน้ำ 3. อย่าไปกินของที่อาจจะมีกัมมันตภาพรังสี (คืออย่าไปเก็บของตกแถวนั้นกิน) แต่สื่อไทยเหมือนจะแปลว่ารัฐบาลเตือนคนทั้งประเทศ

สภาพการณ์ตอนนี้เนี่ย เครื่อง 1 กับเครื่อง 3 ค่อนข้างจะเย็นตัวลงเยอะและเสถียรแล้ว เครื่อง 2 ก็อย่างที่รู้ ตรงซัพเพรสชั่นพูลเสียหายอยู่ ก็มีสารรั่วอยู่นั่นแหละ ต้องขึ้นอยู่กับว่ามันรั่วออกมาได้แค่ไหนและยังไง คือตอนนี้ต้องเน้นปั๊มน้ำทะเลใส่เป็นอันดับแรกให้แกนปฏิกรณ์เย็นตัว ส่วนเครื่อง 4 เช้านี้พบว่ามีไฟไหม้อีก น่าจะเป็นที่เดียวกับเมื่อวาน ก็กำลังดับไฟอยู่ เป็นไงต่อไปตามใน Facebook ละกัน

ความเลวร้ายก็ อืมม์... เครื่อง 1 แท่งเชื้อเพลิงเสียหาย 70% เครื่องสอง 33% ซึ่งก็อย่างที่คาดแหละว่าน่าจะเกินตอนทรีไมล์ เพราะทรีไมล์เนี่ยประมาณ 45% ก็ตรงกับที่รัฐบาลบอก ว่าร้ายแรงแหละ แต่ไม่เท่าเชอโนบิล ไม่เห็นมันโกหกตรงไหน อยู่ระหว่างเชอโนบิลกับทรีไมล์... ถ้าไม่เลวร้ายไปกว่านี้นะ เพราะตอนนี้ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ แต่จะพูดอีกครั้ง มันไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของไทยที่จะต้องตกใจกันขนาดนั้นหรอก ฟุคุชิม่ามันไม่ได้อยู่ติดกับนนทบุรี

ปัญหาหนักตอนนี้น่าจะเป็นการทำงานที่น่าลำบากและรันทดของสตาฟ เพราะคนที่ทำก็เป็นลุง ๆ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแค่ไม่กี่คน (ที่อาบรังสี 1 ล้านไมโครซีเวิร์ตไปด้วย วิดน้ำไปด้วย) ถึงจะใส่ชุดกันรังสี แต่คนทำงานมันต้องใช้มือน่ะ แล้วเพื่อให้มีความเสียหายน้อยที่สุด ก็ต้องใช้คนน้อยที่สุด (และลุงๆพวกนี้เป็นระดับหัวหน้า ที่ไม่ยอมสั่งให้ลูกน้องมาเสี่ยงตายแทนได้) ไฟก็ไม่มี พลังงานก็ไม่มี ปั๊มก็เสียเกือบหมด ทำงานยากมาก ๆ แต่ทุกคนเชียร์อยู่...

สรุปว่าคนในตัวเมืองไม่ว่าจะเป็นโตเกียว ไซทามะ อิบารากิอะไรตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องอพยพหรือกังวลอะไรแต่อย่างใด (นักวิชาการบอกนะ) ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ทุกเมืองวัดกันทุกวันอยู่แล้ว ใครคิดมากก็เข้าไปดูในโฮมเพจของเมืองของจังหวัดตัวเองดู หรือดูของตัวเมืองฟุกุชิม่าก็ได้ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 70 กิโล ปัญหาในตัวเมืองตอนนี้คือของขาดตลาดเพราะคนซื้อสะสมกัน แต่จังหวัดอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรนะ โอซาก้าก็ยังมีของขายอยู่ การตัดไฟเป็นกรุ๊ปๆก็ยังมีอยู่ มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ต้องเช็คทุกวันนะ

ทีนี้... ข่าวร้ายอีกข่าวนึง (อย่าเพิ่งเป็นลมกันไปซะก่อน) คือเมื่อวานตอนกลางคืน เกิดแผ่นดินไหวที่ชิสุโอกะ ประมาณ 6 ริกเตอร์ (โอซาก้าก็ไหวด้วย) ซึ่งอาจจะเป็นแผ่นดินไหวเพื่อที่จะปรับแผ่นดินให้บาล้านซ์ หรืออาจจะเป็นการเตือนแผ่นดินไหวในแถบโทไกที่เคยคาดการณ์กันเอาไว้ว่าโอกาสจะเกิดจะมีแผ่นดินไหวใหญ่แถบโทไกภายใน 30 ปีนี้มีประมาณ 80 กว่า % แถวชูบุและคันไซเองก็มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่หลายที่เหมือนกัน เมื่อวานนี้ตอนแผ่นดินไหวก็มีการตรวจสอบกันทันที (หลายที่เตรียมรับมือไว้แล้วตั้งแต่ตอนทราบเหตุการณ์ที่ฟุกุชิม่า) ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด ไม่มีอะไรต้องกังวล

มีแต่ข่าวร้าย เอาข่าวดีไปซักข่าว คือโรงงานสองของฟุกุชิม่า (มันยังมีโรงงานสองอยู่นะเคอะอย่าลืม) ทั้ง 6 เครื่องตอนนี้เย็นตัวลงอย่างเสถียรแล้ว ทางด้านการกู้ภัยก็ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะผ่านไปไหลายวันแล้ว ก็ยังพบคนที่ลี้ภัยรอดชีวิตอยู่เรื่อย ๆ ญาติและคนรู้จักบางคนก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง บางคนก็ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก และบางคน... ก็พบกันในสภาพที่ไม่ได้พูดคุยหรือกอดรับความอบอุ่นจากกันได้อีก คนที่เจ้าหน้าที่พบเจอว่ายังมีชีวิตอยู่ส่วนใหญ่ แต่ละคนจะพูดคำเดียวกันว่า เค้าไม่เป็นไร... ให้ไปดูคนอื่น คนแก่ ๆ ที่เจ้าหน้าที่ไปช่วย ก็จะก้มหัวบอกเจ้าหน้าที่ว่า... ขอโทษนะ ที่ทำให้เดือดร้อนลำบาก เวลาคนมาตามหาและเจอกันในที่ลี้ภัย คนที่เหลือ จะปรบมือให้

ที่ลี้ภัยจุดต่าง ๆ (มันเยอะมาก เพราะแต่ละหมู่บ้านเค้าจะมีที่ลี้ภัยของตัวเองเป็นตามโรงยิมโรงเรียนหรือสถานที่ราชการ) ขาดแคลนทุกอย่างทั้งน้ำ ไฟ แก้ส อาหาร ผ้าห่ม และต้องต่อสู้กับความหนาวมาก แต่ก็ไม่ใช่เอาข้าวสารไปให้แล้วจะทำอะไรได้ เพราะมันไม่สามารถจะประกอบอาหารได้ บริษัทที่บริจาคจะทำเป็นพวกขนมญี่ปุ่นที่อยู่ได้นาน กินได้อร่อยแม้จะเย็น มีแป้งและน้ำตาลซึ่งเป็นพลังงาน ส่วนที่ที่ประกอบอาหารได้ก็จะเป็นพวกข้าวปั้นพวกอะไร ในความเป็นจริงก็ยังมีการค้นพบคนที่หนีตายไปติดตามที่ต่างๆอยู่เรื่อย ๆ แม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว หน่วยกู้ภัยและจิเอไต ก็พยายามทำหน้าที่กันต่อไปค่ะ

ป.ล. ใครที่กลัวก็แนะนำให้กลับไทยไปดีกว่าค่ะ เพราะมันไมไ่ด้เป็นอันตรายจากรังสีอะไรหรอก แต่จะเป็นอันตรายจากจิตใจตัวเอง ถ้าความกลัวมันครอบงำแล้ว มันก็ไม่มีความสุขหรอก ตัวเลขตอนนี้มันทำร้ายเราไมได้ ที่ทำร้ายเราคือความกังวลของเราเอง ดังนั้นไปไกล ๆ อยู่ในที่ที่ใจเราจะปลอดภัยดีกว่า แต่โบว์ก็อยู่นี่แหละ

By Hayashi Kisara In Japan...

แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 54 23:05:26

แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 54 19:12:52

จากคุณ : ซาไปรส์
เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 19:03:59

-----------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 138

http://www3.nhk.or.jp/daily/english/16_45.html

รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยัน ประชาชนในระยะ 20-30 km นั้นจะไม่ได้รับอันตรายจากสารรังสี

------------
ไอเดียใหม่ ตอนนี้ทางกองกำลังป้องกันตนเอง(ทหาร)ได้เอารดฉีดน้ำระดมฉีดเตาปฏิกรณ์ เพื่อทำให้อุณหภูมิลดลง

จากคุณ : Maki Roll
เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 20:03:38
ความคิดเห็นที่ 146

http://www3.nhk.or.jp/daily/english/16_34.html

เกาหลีใต้จัดโบริคเอซิค 53 ตัน (สารที่ใช้การผสมสารหล่อเย็นของเตาปฎิกรณ์) ไปให้ญี่ปุ่นแบบเร่งด่วน

จากคุณ : Maki Roll
เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 20:19:09

------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 153

.. เตา 3 คาดว่าไม่น่าเสียหายรุนแรงอย่างที่คาดกัน เป็นข่าวดีครับ

ความคิดเห็นที่ 161

Spent-fuel storage pools at all reactors -- Cooling functions lost, water temperature or level unobservable at reactors Nos. 1-4, no water poured into pools.

ยังมีปัญหาที่ถังเก็บกากกัมมันตภาพรังสี ต้องใช้วิธีฉีีดน้ำเข้าไป ระบบปั๊มพังหมด

http://english.kyodonews.jp/news/japan_nuclear_crisis/

Spent fuel pool
http://en.wikipedia.org/wiki/Spent_fuel_pool

จากคุณ : tzu149
เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:30:28

----------------------------------
ความคิดเห็นที่ 178

อุบัติเหตุครั้งนี้ ถูกจัดให้อยู่ในระดับ6เเล้วค่ะ
ประมาณรังสีเเถวบ้านโอซาก้า เพิ่มจากปกติเล็กน้อย
ในวันปกติรังสีที่วัดได้สูงสุด0.051mSv เเต่เมื่อวานนี้วัดได้.061mSv

จากคุณ : Hana*
เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 06:51:00

------------------------------
ความคิดเห็นที่ 180

ตราบใดที่ containment vessel ไม่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง อย่างเพิ่งตื่นตะหนกเกินเหตุเลยครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

จากคุณ : f_iceberg
เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 07:20:12

-------------------------------
ความคิดเห็นที่ 185

ข่าวร้ายมาเยอะ ข่าวดีกันบ้างน่ะครับ

http://www3.nhk.or.jp/daily/english/17_02.html

TEPCO แจ้งว่าวันนี้(พฤ)จะทำการต่อสายไฟจากโรงไฟฟ้าของบริษัทเข้าตรงไปที่โรงไฟฟ้าที่เกิดเหต เพื่อใช้ในระบบทำความเย็น ตามกำหนดการคาดจะแล้วเสร็จเมื่อวาน (พุธ) แต่ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัตงานได้เนื่องจากปริมาณรังสีที่รั่วไหลมีค่าสูงเกินกำหนด

หวังว่าจะสำเร็จ

จากคุณ : Maki Roll
เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:35:42

ความคิดเห็นที่ 187

http://www3.nhk.or.jp/daily/english/17_18.html

ตอนนี้ทางรัฐบาล ได้สั่งให้ทางกองกำลังป้องกันตนเอง (SDF, ทหาร) เข้าจัดการเองแล้ว

โดยเริ่มจากการใช้เฮลิคอปเตอร์ CH-47 โปรยน้ำลงมา และใช้รถฉีดน้ำแรงสูงเข้าร่วมด้วยอีกทาง

จากคุณ : Maki Roll
เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:38:49

----------------------------------

ความคิดเห็นที่ 204

เวบวัดรังสีแบบเรียลไทม์
ปกติ 10 ~ 200nGy / h
ค่าตอนนี้ 38-49 nGy/h

http://www.aris.pref.kyoto.jp/map_00.html

ปริมาณของรังสีทางการแพทย์มีหน่วยเป็น Gray (Gy) โดย 1 Gy เท่ากับ 100 rad (เครื่องถ่าย X-ray ปอดจะแพร่รังสี น้อยกว่า 1/4 rad ต่อครั้ง)

ถ้าผู้ป่วยได้รับรังสีมากกว่า 100 Gy จะเสียชีวิตทุกรายภายใน 24-48 ชม.
ถ้า น้อยกว่านั้น เช่น 5-12 Gy จะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน, ท้องเสีย ขาดน้ำรุนแรง อาจเกิดลำไส้ตาย และทะลุได้ อาจมีผื่นลอกตามตัว, เนื้อตาย และเป็นหมันถาวร
ส่วนขนาดที่น้อยลงเช่น 2-8 Gy จะกดการทำงานของไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำลง เกล็ดเลือดต่ำ ซีดได้

ขนาด ที่ทำให้เสียชีวิตได้ (Lethal dose : LD) คิดเป็นค่า LD50/60 (หมายความว่าปริมาณรังสีที่ทำให้คนปกติเสียชีวิต 50 ใน 100 คนภายใน 60 วัน) ประมาณเท่ากับ 325 rad หรือ 3.25 Gy ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10340038/X10340038.html

จากคุณ : tzu149
เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:48:28

จากคุณ : 007-s

เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:47:37