ความคิดเห็นที่ 1 โอ ผมเริ่มสงสัยว่า ยังมีหลายคน ไม่รู้จัก P/E, P/B นะนี่ P/E => Price / EPS ราคาปิด / กำไรสุทธิต่อหุ้น หาข้อมูลได้จาก link ข้างล่างนะครับ ตัวอย่าง ของ BLS http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=BLS&language=th&country=TH จากคุณ : Starfish เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 00:51:41

ความคิดเห็นที่ 2 นอกจากเรื่องตัวเลขต่างๆ ที่ "ดูดี" เป็นบางครั้งบางคราว (ของบางบริษัทแล้ว) สิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญคือ "ความสม่ำเสมอ" ของการดำเนินกิจการ คือ สามารถคาดหวังได้ว่าผลการดำเนินงานจะดีตลอด และเติบโตไปเรื่อยๆ แม้ว่าบางครั้ง บางปี จะย่อหย่อนบ้าง แต่ขอให้ในระยะยาวแล้ว เติบโตต่อไป นักลงทุนชั้นเลิศของโลก ชอบแบบนี้ครับ ขอให้ลงทุนด้วยความสนุก มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบความสำเร็จร่ำรวยๆ (จะได้ทำบุญ กุศล ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปครับ) http://www.muegao.blogspot.com ความรู้เกี่ยวกับหุ้น การเงิน การลงทุน แบบภาษาชาวบ้าน โดย มือเก่าหัดขับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 00:57:47

ความคิดเห็นที่ 3 @ คุณ Starfish ขอบคุณครับ  แปลออกอยู่ครับ แต่ไม่เข้าใจความหมายน่ะครับ @ คุณ  มือเก่าหัดขับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : PercyJackson เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 01:08:20

ความคิดเห็นที่ 4 ตกลงมันเป็นตัวเลขที่คิดวันปิดบุ๊คใช่ไหมครับ จากคุณ : PercyJackson เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 01:10:45

ความคิดเห็นที่ 5 คำตอบคือ เปลี่ยนทุกวันตามราคาหุ้น..ใช่ครับ และเปลี่ยนทุกไตรมาสด้วย ตามผลการดำเนินงานในแต่ละไตรมาส อนึ่ง PE ratio ตัวนี้ ในแต่ละสำนักอาจคำนวณได้ค่าแตกต่างกัน ตามวิธิการคำนวณ > Trailing PE คือ เอา Earning 4 ไตรมาส ย้อนหลังมาคำนวณ เช่น เช่น ที่เดือน พย. เอาผลประกอบการ 3 ไตรมาสในปี 10 รวมกับผลประกอบการไตรมาส 4 ของปี 09 > Normalized PE คือ การเอา earning ในปีปัจจุบันมาปรับให้เป็นเต็มปี เช่น ที่เดือน พย. เอาผลประกอบการ 3 ไตรมาส มาคูณ 4 หาร 3 เพื่อปรับเป็น 1 ปี > Forward PE คือ การคาดล่วงหน้าว่าในไตรมาสถัดๆ ไป จนครบปีจะมีกำไรเท่าไร เช่น ที่เดือน พย. เอาผลประกอบการ 3 ไตรมาส รวมกับกำไรที่คาดว่าจะมี มาเป็นกำไร อีกประการหนึ่งคือ จำนวนหุ้น ที่มีด้วยเพราะต้องเผื่อพวก Warrant หรือ ESOP ที่อาจใช้สิทธิ์แปลงสภาพในแต่ละระยะเวลา ในความเห็นผม..ค่าที่แสดงใน set.or.th นั้นมีเพื่ออ้างอิงว่า มีการเปลี่ยนแปลงของราคาและกำไรอย่างไรในช่วง 3-4 ปีที่ผ่าน จึงกำหนดจุดอ้างอิง ณ.วันเดียวกันของปี..เพราะราคาที่แกว่งไปมาทั้งปี กำไรที่เพิ่มลดในแต่ละไตรมาส ไม่เท่ากัน จึงกำหนดวันอ้างอิงไว้. แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 54 01:51:19 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 54 01:17:20 จากคุณ : Proxity เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 01:16:57

ความคิดเห็นที่ 6 P - เปลี่ยนทุกวันที่ตลาดเปิดทำการ E - เปลี่ยนทุกครั้งที่ประกาศผลประกอบการ จากคุณ : netaddict เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 02:35:51

ความคิดเห็นที่ 7 ค่า PE ดูแค่ประมาณการเท่านั้น บวกลบหรือแตกต่างกันเพียงเล็กๆน้อยๆ ไม่ควรยึดเป็นสาระสำคัญ แบบสินค้าชั่งกิโลขาย... ยังมีขาดๆเกินๆเป็นขีดเลยนะครับ แถมโกงได้อีก จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 06:47:13

ความคิดเห็นที่ 8 ยินดีครับคุณ จขกท. อีกอย่างสั้นๆ ที่อยากจะเสริมคือ P/E เป็นการวัดความถูกแพง (อย่างหยาบๆ) ของหุ้น แต่ ไม่ได้วัดความสามารถในการประกอบการของบริษัทครับ ความสามารถในการประกอบการของบริษัท มีอีกหลายตัวที่ต้องวัด ว่ากันคร่าวๆ เช่น ROA, ROE, D/E, Profit Margin, Net profit margin, บรรดาอัตราส่วนหมุนเวียน ต่างๆ และอีกมาก บังเอิญผมกำลังเขียนเรื่องนี้ทะยอยลงในบล็อกอยู่พอดี ลองติดตามอ่านเรื่องๆ นะครับ จะลงไปเรื่อยๆ หลายวันหน่อยครับ กว่าจะจบ เพราะว่ามันยาวจ้ะ Blog Update! - ความรู้เกี่ยวกับหุ้น ความรู้เรื่องการลงทุน วันนี้คุยเรื่อง "อัตราส่วนต่างๆ ที่บอกถึงประสิทธิภาพของบริษัท (Efficiency Ratios)" ครับ เข้าบล็อกแล้วคลิ๊กที่ "การลงทุนโดยพิจารณามูลค่า - การวิเคราะห์เชิงปริมาณ" ทางด้านขวามือ เข้าหน้านั้นแล้ว เลื่อนลงด้านล่างครับ http://www.muegao.blogspot.com ความรู้เกี่ยวกับหุ้น การเงิน การลงทุน แบบภาษาชาวบ้าน โดย มือเก่าหัดขับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 07:47:48

ความคิดเห็นที่ 9 หุ้น A      p/e    =    5.8 หมายถึง    ถ้าอยากได้กำไร   1 บาท ต้องหาเงินมาซื้อ   5.8 บาท หุ้น B      p/e    =    23.9 หมายถึง    ถ้าอยากได้กำไร   1 บาท ต้องหาเงินมาซื้อ   23.9 บาท เอาไว้ดูคร่าว ๆ ว่าถ้ามีเงิน 100 บาท จะซื้อหุ้นตัวไหนดีให้มีกำไรมากสุด จะเห็นว่าถ้าซื้อหุ้น A 100 บาท อาจจะมีกำไรประมาณ 16 บาท แต่ถ้าซื้อหุ้น B 100 บาท อาจจะมีกำไรประมาณ 4 บาท เอาไว้พิจารณาเบื้องต้น เท่านั้นต้องดูตัวอื่น ๆ ด้วยว่าสนับสนุนกันหรือเปล่า จากคุณ : totobest เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 08:10:11

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกคนมากครับ เข้าใจกว่าอ่านหนังสือเยอะเลยครับ :) จากคุณ : PercyJackson เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 09:11:09